๑.๓ กรงสวาทมาเฟีย
ฟ้าลดาถอนหายใจอย่างหนักอึ้ง คนที่เป็นสาเหตุการทะเลาะระหว่างไบรอันกับริชาร์ดพ่อของเขาก็คือตัวเธอนั่นละ เธอเป็นลูกสาวบุญธรรมของครอบ ครัวเคลย์ตัน หลังจากที่พ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมกันตอนที่เธออายุสิบสามขวบ ครอบตัวเคลย์ตันก็รับเธอมาอุปการะโดยที่ทั้งไรอัลกับไบรอันซึ่งเป็นลูกชายของครอบครัวเคลย์ตันต่างก็ไม่มีใครแสดงท่าทีรังเกียจเธอ ตรงกันข้ามกลับเอ็นดูมากด้วยซ้ำไป แต่การเอ็นดูของไบรอันไม่ใช่การเอ็นดูแบบพี่น้อง ยิ่งเธอโตเป็นสาว เขาก็ยิ่งแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าคิดกับเธอแบบชู้สาวจนแอบพาเธอไปจดทะเบียนสมรส เมื่อริชาร์ดรู้เข้าก็บังคับให้ไบรอันหย่าเพราะเห็นว่าฟ้าลดายังเด็กเกินไป ทั้งสองจึงทะเลาะกันอย่างรุนแรง จากนั้นไบรอันก็แยกตัวออกมาสร้างอาณาจักรของเขาด้วยตัวเอง แต่เขาก็ยังไม่ยอมหย่ากับฟ้าลดา
“แต่แม่อยากให้คุณไป ท่านคิดถึงคุณมากนะคะ”
“ก็คงจะมีแต่แม่คนเดียว” ประโยคนั้นเหมือนประชดคนตรงหน้าไปด้วย
“พี่ไรอัลก็ด้วย”
“หมอนั่นน่าจะดีใจที่ผมไม่กลับ” น้ำเสียงของไบรอันเต็มไปด้วยการเยาะหยัน เขารู้ดีพอๆ กับฟ้าลดานั่นละว่าไรอัลก็รู้สึกกับฟ้าลดาไม่ต่างจากเขา เพียงแต่พี่ชายของเขาเก็บอาการได้ดีกว่าเท่านั้นเอง
“ตกลงคุณจะไปไหม”
“ถ้าไปก็เห็นเองนั่นแหละ” ไบรอันยักไหล่น้อยๆ
ฟ้าลดาถลึงตาใส่หลังจากที่เขาพูดประโยคนั้นจบ เวลาที่คนหน้าตายยียวนนี่มันน่าโมโหกว่าคนปกติหลายเท่านัก แต่เธอก็ไม่รู้จะจัดการกับความยียวนของเขายังไง จึงได้สะกดอารมณ์เอาไว้ให้ดีที่สุด
“แล้วจะให้ฉันบอกแม่ว่ายังไง”
“บอกตามที่ผมบอก” เขาตอบเรียบๆ ก่อนจะหันมาไล่ต้อนเธอบ้าง “สมัครงานที่ไหนหรือยัง”
“สมัครไว้สองสามแห่ง” ฟ้าลดาตอบอย่างไม่เต็มใจเพราะไม่อยากให้เขาเข้ามาก้าวก่ายเรื่องนี้
“ที่บีเอเคด้วยหรือเปล่า” ไบรอันถามทั้งๆ ที่รู้ว่าฟ้าลดาไม่ได้ยื่นใบสมัครที่บริษัทของเขา
“เปล่า...”
“ทำไม” ชายหนุ่มหรี่ตาลงแคบๆ
“ไม่ถนัดด้านนี้ คุณก็รู้นี่ว่าฉันจบด้านชีวเคมี” สาวน้อยตอบโต้เขาไปบ้างเมื่อรู้สึกว่าไบรอันกำลังจะบังคับให้เธอมาทำงานกับเขา
“เรียนเก่งไม่ใช่เหรอ แค่เรื่องปรับตัวและเรียนรู้งานของที่นี่ก็ไม่น่าจะมี ปัญหาอะไรนี่”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ชอบใช้เส้น” ฟ้าลดายืนกรานเสียงแข็ง
“แค่มาเขียนใบสมัคร ที่เหลือจะให้ฝ่ายบุคคลสัมภาษณ์และให้เขาพิจารณาตามความสามารถของคุณ แบบนี้โอเคไหม”
“ฉัน...”
“แลกกับการไปงานเลี้ยงวันเกิดของพ่อ” ไบรอันยื่นข้อเสนอที่ทำให้ความลังเลของฟ้าลดาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวในทันที
“คุณเล่นไม่แฟร์นี่” เธอตัดพ้อด้วยใบหน้าง้ำงอ
“ไม่เคยบอกว่าตัวเองแฟร์สักที” คนได้เปรียบยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
“ขอคิดดูก่อน” ฟ้าลดาตอบอย่างเดียวกับที่เขาตอบเธอเมื่อหลายนาทีก่อน แต่ดูมั่นใจน้อยกว่าตอนที่ไบรอันพูด นั่นเป็นอีกครั้งที่ฟ้าลดาต้องยอมรับว่าการควบคุมอารมณ์และชั้นเชิงการต่อรองของเธอยังห่างกับผู้ชายตรงหน้าหลายขุมนัก
“มีธุระต่อที่ไหนอีกหรือเปล่า” ไบรอันถามขึ้นทำลายความเงียบเมื่อฟ้าลดาเงียบไปหลายอึดใจ
“ไม่มีค่ะ” เธอส่ายหน้าน้อยๆ แล้วเหลือบมองเขา “ทำไมเหรอคะ”
“ผมกำลังจะไปรัสเซีย ไปด้วยกันไหม”
“ไปทำงานหรือเปล่า”
“เปล่า...เดนิคอฟเชิญไปร่วมงานแข่งเอฟวัน”
“อ้อ...งานแข่งเอฟวันแหล่งชุมนุมของสาวสวยด้วยละสิ” ฟ้าลดาไม่รู้ตัวว่าน้ำเสียงของตัวเองเจือไว้ด้วยการประชดประชันตอนที่บอกว่างานแข่งฟอร์มูลาวันเป็นการรวมตัวกันของเหล่าบรรดาสาวๆ ก็เธอไม่อยากไปขัดความสุขของเขานี่
“ถ้าหึงก็ไปด้วยกันสิ”
“เปล่าหึง... เชิญคุณตามสบายเถอะ ฉันต้องกลับไปบอกแม่เรื่องคำตอบของคุณ” สาวน้อยลุกขึ้นและหยิบเอากระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นคล้องไหล่
“จะกลับแล้วเหรอ” ไบรอันขยับลุกตามจึงกลายเป็นว่าสองคนยืนเผชิญ หน้ากัน มีเพียงแค่โต๊ะเล็กๆ กั้นไว้เท่านั้น
“ค่ะ”
“ขับรถอะไรมา”
“รถของฉันเองค่ะ”
“คันไหน” คนถามถามเสียงเข้มขึ้นเมื่อเธอตอบกำกวม
“คันเก่า” ฟ้าลดาตอบเบาๆ รู้อยู่แล้วว่า ถ้าเธอบอกว่าคันไหนไบรอันจะต้องไม่พอใจ แม้เขาจะย้ายออกมาและตัดขาดกับคนทั้งบ้าน แต่เขาก็ยังใส่ใจเธอเสมอ วันเกิดทุกๆ ปี เขาจะส่งของขวัญไปให้ และปีล่าสุดเขาก็ซื้อรถให้เธอ แต่ฟ้าลดาแทบจะไม่ขับเพราะเธอต้องการประท้วงเขากลายๆ ว่าสิ่งของเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการจากเขาเลยสักนิด
“ใจคอไม่คิดจะแตะของที่ผมซื้อให้สักชิ้นเลยใช่ไหม” เขาจ้องใบหน้าหวานใสนั้นเขม็ง
“คุณก็รู้ว่าฉันไม่ต้องการของพวกนั้น” สาวน้อยตอบโต้เขาอย่างไม่เต็ม เสียงนักเมื่อเห็นแววตาที่เจือไว้ด้วยความผิดหวัง
“แล้วอยากได้อะไรล่ะ”
“ฉันอยากให้คุณกลับไปหาครอบครัว”
ไบรอันถอนหายใจออกมา ยกมือขึ้นจับหัวไหล่กลมกลึงแล้วดึงรั้งเธอเข้ามาใกล้ ก่อนจะก้มลงกระซิบประโยคที่เหมือนผลักความหนักใจมาให้ฟ้าลดาแทน
“ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ ไม่ใช่ผม ถ้ายังไม่พร้อมจะตัดสินใจก็อย่ามาเรียกร้อง”