บทที่ 6 เงื่อนไขของการอยู่ร่วมกัน (2)

“ฉันไม่เล่นแบบนี้นะ” ดาราฉายบอกเสียงตระหนก

“แล้วฉันกำลังเล่นอยู่หรือไง” ส่วนแดนเนียลก็ย้อนถามเสียงเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนหญิงสาวตวาดแหวใส่อย่างเหลืออด ใบหน้าแดงก่ำโกรธกรุ่นจนน้ำตาคลอ

“คุณมันไม่มีเหตุผล!”

“ก็สมแล้วกับผู้หญิงดื้อด้านอย่างเธอ เด็กน้อย...ฉันแก่เกินกว่าที่จะมาเล่นวิ่งไล่จับกับเธอแล้วนะ สิบปีที่ผ่านมาก็มากพอให้เธอเล่นสนุกจนลืมไปแล้วว่าต้องทำอะไร” น้ำเสียงเย็นยะเยือกของเขาทำให้เธอหนาวสั่นไปถึงขั้วหัวใจ ยิ่งลมหายใจอุ่นร้อนรดรินตรงซอกคอ ความรู้สึกแปลกประหลาดเหมือนครั้งนั้นก็เริ่มหวนกลับมา

“คุณพูดจาไม่รู้เรื่อง”

“เธอรู้ดีว่ามันคือเรื่องอะไร” ไม่ว่าดาราฉายจะตอบโต้อะไรกลับไปก็มักถูกเสียงทุ้มต่ำเรียบเฉยโต้กลับมาทุกครั้ง แล้วยิ่งเธอเถียงกลับไปเท่าไรก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดบนร่างกายของเขา

“ดูท่าเราจะคุยกันไม่รู้เรื่องจริง ๆ แล้วสิ ดาราฉาย...ฉันจำได้ว่าก่อนจากไปได้ทิ้งข้อความเอาไว้ให้เธอรอ แต่เธอกลับไม่อยู่รอฉัน ความผิดที่ตัดสินใจโดยพลการ เธอคิดว่าควรจะได้รับโทษอย่างไร”

“ฉันไม่ผิด! คุณจะมาทำแบบนี้กับฉันไม่ได้”

“ถึงเวลาที่เธอต้องทำหน้าที่ของ ‘เมีย’ ได้แล้ว”

หลังจากที่เขาพูดจบ ร่างสูงก็จัดการถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกหมดทุกชิ้น บราเซียร์ค้างเติ่งอยู่ตรงข้อมือพร้อมกับชุดผ้าแพรที่ห้อยอยู่รวมกัน ดาราฉายพยายามดิ้นขัดขืนอีกฝ่ายแต่เมื่อสองมือถูกมัดรวมกันอยู่แบบนี้ก็ทำให้เธอทำอะไรไม่ถนัด เมื่อดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่หลุดเธอจึงหันมาต่อว่าเขาแทน

“ฉันไม่ใช่เมียคุณ! คนบ้า! ปล่อยนะ! หยุด!”

นอกจากอีกฝ่ายจะไม่หยุดตามเสียงร้องของเธอแล้ว มือหนาอุ่นจัดยังลากลงไปถอดชิ้นที่เหลืออีกสองชิ้น จนเรือนร่างเธอเปลือยเปล่าอวดโฉมต่อสายตาเขา ดวงตาคมกริบร้อนแรงแทบแผดเผาเธอให้มอดไหม้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะลากมันไปมองตรงไหนก็นำพาความเสียวซ่านมาสู่กายเธอ ดาราฉายหลับตาลงกัดริมฝีปากแน่นเพื่อระงับความต้องการที่แล่นริ้วมากระจุกยังจุดที่เขาจ้องมอง

กลีบกุหลาบงามฉ่ำหวานสั่นระริกล่อสายตาหิวกระหายจนแดนเนียลคิดอยากใช้ลิ้นปาดเลียแตะต้อง ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะยกมือแตะสะโพกกลมมนโน้มใบหน้าลงจูบเข้าที่ปานแดงตรงก้นของเธอ เมื่อถูกสัมผัสอย่างอ่อนโยน ดาราฉายก็คลายความตึงเครียดลง เธอลืมตาขึ้น ก่อนจะเอี้ยวหน้ากลับไปมองเป็นเวลาเดียวกับที่เขาเงยหน้าขึ้นสบสายตากับเธอ

“ลืมดิ้นแล้วเหรอ”

“ใครบอก ฉันแค่ลืมขยับต่างหาก” เธอรีบสวนกลับก่อนที่เขาจะได้ใจแต่เขากลับคลี่ยิ้มออกมาคล้ายขบขัน น้ำเสียงของเขาไพเราะน่าฟัง แหบพร่าปนเซ็กซี่จนใจชักเริ่มหวั่นไหวขึ้นมา

“เอาไว้ขยับใต้ร่างฉันแล้วกัน”

“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น!” เธอสวนกลับเสียงหลงเมื่อเขาเอาแต่ตีความหมายของเธอผิด ๆ เมื่อไรเขาจะเลิกเข้าข้างตัวเองสักที!

“พูดมากน่ารำคาญ เก็บปากไว้ครางดีกว่านะเด็กน้อย”

แดนเนียลไม่คิดสนใจหญิงสาวอีกเคลื่อนตัวไปประกบซ้อนอยู่ข้างหลัง มือหนาเอื้อมมากอบกุมเต้าอวบใหญ่พลางเคล้นคลึงหนักเบาสลับกัน นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้คีบเข้าที่ยอดถันหยอกเย้าแผ่วเบา แต่กลับทำเอาเจ้าของร่างสะดุ้งเฮือกตัวสั่นหลุดเสียงครางหวานออกมา สัมผัสร้อนชื้นตรงแผ่นหลังบ่งบอกว่าเขากำลังลิ้มเลียอย่างหลงใหล ผิวเนื้อเนียนนุ่มมือกับกลิ่นกายหอมกรุ่นที่โชยมากำลังมอมเมาสติของเขาให้กระเจิดกระเจิงพลุ่งพล่าน แววตาดิ่งลึกสู่ห้วงปรารถนาอันลุกโชน

ชายหนุ่มพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังเนียนละเอียด ก่อนจะเคลื่อนลงสู่สะโพกผายกลมกลึงใช้ริมฝีปากหนาจูบฟัดก้อนเนื้อเต็มตึงทั้งสองข้างอย่างเมามันโดยที่สองมือไม่ว่างเว้นจากการปลุกเร้าหญิงสาว นิ้วเรียวยาวสอดลึกเข้าสู่โพรงเนื้อนุ่มรับรู้ถึงแรงบีบรัดและดูดกลืนอย่างแน่นหนาจนอดจินตนาการว่าถ้าเป็นสัดส่วนอลังการของเขาจะให้ความรู้สึกดีแค่ไหน

“อึก อ๊ะ!”

“ฉันก็รู้สึกไม่ต่างจากเธอ”

ดาราฉายไม่รู้ว่านี่คือการปลอบหรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ มันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย หญิงสาวขยับสะโพกรับจังหวะกับการขยับนิ้วของเขาอย่างลืมตัว ดวงตาหลับพริ้มซึมซาบความรู้สึกรัญจวนที่เขาจุดประกายร่ายบนร่างเธอ อดยอมรับไม่ได้ว่ารู้สึกดีแค่ไหนที่ถูกเขาทำแบบนี้ เมื่อเข้าใกล้เขตสวรรค์เธอกลับต้องพบกับการทอดทิ้งอย่างเย็นชาของอีกฝ่าย ร่างเพรียวขยับสะโพกไปด้านหลังติดตามนิ้วร้อนที่ขยับหนีห่างเรื่อย ๆ จนเมื่อเธอขยับหนีออกมาบ้างเขากลับตามมาสอดลึกแทรกท่อนเนื้อร้อนระอุเข้าสู่เส้นทางรักของเธออย่างรวดเร็ว!

ใครจะคิดว่าครั้งที่สองจะยังคงเจ็บจนเธอส่งเสียงร้องออกมาทั้งน้ำตา ดาราฉายตัวสั่นไปทั้งร่างพยายามขยับตัวหนีเขาอย่างเจ็บปวด หากแต่มือหยาบกระด้างกลับจับตรึงสะโพกเธอไว้แน่นบดอัดลำกายหนาเข้ามาประชิดรุกรานกุหลาบช่องามอย่างไร้ปรานี น้ำตาเธอไหลเป็นทาง ก่อนจะซ่านเสียว เมื่อความรู้สึกเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นกระสัน ความต้องการลึกลับตีตื้นขึ้นมาจนอัดอั้น ไม่รู้จะพูดบอกเขาอย่างไรดี

ราวกับล่วงรู้ความคิดของเธอ ชายหนุ่มจึงจัดการสาวสะโพกถี่ยิบจ้วงโจนเข้าสู่กายสาวหนักหน่วง ร่างเพรียวสั่นคลอนไปตามแรงคนด้านหลัง ก่อนสองเต้าอวบใหญ่จะถูกตะปบบีบเคล้นเต็มสองมือ ริมฝีปากเผยอค้างสั่นระริกเปล่งเสียงครางแทบขาดใจ ร่างของเธอถูกจับนั่งบนตักแกร่งซ่อนทับบนความแกร่งร้อนประดุจเปลวไฟพร้อมกับมือหนาที่ยกชันขาของเธอออกตั้งฉากอ้าออกด้วยท่วงท่าน่าอาย แต่ตอนนี้เธอกลับไม่คิดสนใจห้ามปรามเขา ปล่อยให้เขาจับร่างเธอไปมาได้ตามอำเภอใจ แผ่นหลังพิงเข้ากับแผงอกกำยำ ความเข้มแข็งของเขาทำให้เธอดูตัวเล็กบอบบางลงทันตา

“ก้มดูสิ...ตอนที่ฉันอยู่ในตัวเธอ มันให้ความรู้สึกดีแค่ไหน” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบบอก เป็นเหตุให้ดวงตาคู่สวยหวานเยิ้มก้มลงมองเบื้องล่างก็ถึงกับหน้าแดงก่ำกับภาพที่ได้เห็น นิ้วมือแกร่งคีบเข้าที่ยอดถันดึงเล่นอย่างพอใจกับความดีดเด้งสู้มือ รอยยิ้มอ่อนโยนพลันปรากฏขึ้นแต่น่าเสียดายที่เพียงแวบเดียวก็เลือนหายไป

“อื้อ อ๊ะ คุณ...” เธออยากจะบอกเหลือเกินว่าเปลี่ยนท่าได้ไหม ท่านี้มันน่าอายเกินไปแล้ว! แต่คนที่อยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาสกำลังถูกไฟราคะโหมไหม้ก็ไม่คิดฟังเธอ เขาล้มตัวนอนลงด้านข้างพร้อมกับลากเธอให้ลงตามไปด้วย

แดนเนียลสอดแขนเข้าใต้ข้อพับยกเรียวขาสวยให้เปิดขึ้นรับตัวตนแข็งกร้าวของเขาแนบแน่น สะโพกสอบบดอัดลำรักเข้าออกสุดทาง ย้ำจังหวะสอดลึกตีตรา บอกสถานะของหญิงสาวให้เธอรับรู้

“ชอบไหม ฉันยังมีอีกหลายท่านะ เด็กน้อย” ไม่ต้องหันไปมองเธอก็เห็นรอยยิ้มชั่วร้ายของเขา ดาราฉายพยายามถอยร่างหนีแต่ก็ถูกเขาจับพลิกหงายพร้อมกับร่างสูงกำยำที่พลิกขึ้นมาอยู่ด้านบน

“คุณแกล้งฉัน”