บทที่ 1 ผู้หวนคืน 3
“ตอนนั้นข้าแทบจะฆ่าล้างเผ่าพฤกษาเพื่อหาตัวนาง แต่น่าเสียดายที่เหวินเยี่ยนเข้ามาขวางทางเอาไว้เสียก่อน ไม่อย่างนั้นเผ่าพฤกษานั่นหากไม่สิ้นสูญก็คงตกมาอยู่ในความปกครองของแดนมารของเราแล้ว”
ลู่เสียนยกมือขึ้นลูบคางของตนเองเบาๆ เห็นทีว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรที่ซับซ้อนกว่าตาเห็น เวลานี้ไอ้คนเจ้าเล่ห์เหวินเยี่ยนลงไปเกิดยังโลกมนุษย์ แล้วก็ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นมันคนเดียวที่รู้ว่าเทพพฤกษาสุ่ยหลันผู้นั้นอยู่ที่ใด
ในเมื่อสตรีนางนั้นเป็นคู่หมายของเหวินเยี่ยน แน่นอนว่าบุรุษผู้นั้นย่อมไม่ปล่อยให้นางเป็นอะไรไปแน่แท้ ยิ่งไปกว่านั้นการที่คนของเผ่าพฤกษาจะกล้าลงมือกับจอมมารเช่นเขา ไม่แน่ว่าเบื้องหลังนั้นอาจจะมีเหวินเยี่ยนและแดนสวรรค์คอยบงการอยู่ โดยเฉพาะพวกเผ่ามังกรฟ้าและเผ่าหงส์น่าชังนั่น
“ข้าจะไปจัดการธุระบางอย่าง พวกเจ้าอยู่ที่นี่ดูแลทุกอย่างให้ดี”
“ขอรับ/ขอรับ”
“เจี้ยนสือ ในฐานะที่เจ้าเป็นน้องชายของข้า ตำแหน่งประมุขแห่งแดนมารนี้เจ้าก็รักษามันไว้ต่อไป” ลู่เสียนเอ่ยบอกกับคนที่คุกเข่าอยู่ข้างๆ ฉางเฮ่า
“ท่านพี่! เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้เล่าขอรับ ในเมื่อท่านเองก็กลับมาแล้ว ข้าไม่จำเป็นต้องรักษาการณ์ตำแหน่งประมุขแดนมารนี้ให้ท่านอีก ท่านพี่ ท่านทำแบบนี้ไม่ถูกต้องนะขอรับ”
เจี้ยนสือเอ่ยคำประท้วงยืดยาว แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยอยากได้ตำแหน่งประมุขแดนมาร ไม่เคยอยากเป็นผู้นำเผ่าอะไรทั้งนั้น ชีวิตนี้เขาต้องการเพียงแค่ยืนอยู่ข้างๆ พี่ชายและคอยช่วยงานต่างๆ เท่านั้น เรื่องมักใหญ่ใฝ่สูงอะไรนั่นเขาไม่เคยมีมันในหัวสักครั้ง แม้ลับหลังจะถูกด่าว่าโง่แต่เขาก็ไม่เคยใส่ใจ ชีวิตนี้เขาเทิดทูนพี่ชายแท้ๆ ของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
ลู่เสียนเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะประคองให้น้องชายลุกขึ้นยืนในระดับเดียวกันกับตน เจี้ยนสือเป็นน้องชายร่วมบิดามารดา ความซื่อสัตย์จริงใจของน้องชายคนนี้เขาเองก็รับรู้มาตลอดและนั่นก็เป็นเหตุผลที่เขาเลือกจะฝากตำแหน่งประมุขแดนมารนี้ไว้กับน้องชายคนนี้
อย่างน้อยๆ ถ้าเขาต้องสูญเสียมันไปก็ยังให้กับบุคคลผู้เป็นสายเลือดเดียวกันกับตนเอง
“เจี้ยนสือ เจ้าเองก็รู้ว่าพี่ชายเจ้าถูกหนามของต้นเซียนเหรินจ่างนับหมื่นทะลวงร่าง เวลานี้แม้จะสามารถประกอบกายหยาบกลับคืนมาเป็นตัวคนได้อย่างที่เห็น แต่แน่นอนว่าภายในยังไม่หายดีเท่าที่ควร ดังนั้นแล้วให้เจ้ารักษาตำแหน่งประมุขแดนมารไว้จึงเป็นเรื่องที่สมควรที่สุด”
“ท่านพี่ นี่หมายความว่าท่านยังบาดเจ็บหรือขอรับ?”
“ไม่ผิด แต่เรื่องนี้จะแพร่งพรายออกไปไม่ได้เด็ดขาด”
เจี้ยนสือพยักหน้ารับ “ข้าจะไปตามหมอ ทั่วทั้งแดนมารนี้มีหมอเก่งๆ อยู่มากมาย ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่มีใครรักษาท่านได้เลยสักคน ดังนั้นแล้วท่านพี่ ท่านพักรักษาตัวให้หายดีก่อนเถิด ส่วนธุระที่ท่านว่า หากมิใช่ความลับอันใดก็ให้ข้าไปจัดการแทนให้ก็ได้ แต่อย่างเอาตนเองไปเสี่ยงข้างนอกเลยขอรับ”
“ข้าจะไปตามหาเทพพฤกษาผู้นั้น”
“...”
“และต้องเป็นข้าคนเดียวเท่านั้นที่จะตามหานางพบ” เอ่ยจบแล้วใบหน้าของสตรีนางนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวของจอมมารหนุ่มทันที
เหวินเยี่ยนลงไปเกิดเป็นมนุษย์ ในขณะเดียวกันสตรีนางนั้น ไม่สิ เทพพฤกษาสุ่ยหลันก็ลงไปเกิดเป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน ไม่แน่ว่าพวกเขาสองคนอาจจะทำความผิดอะไรสักอย่างก็เป็นได้ถึงได้ถูกลงโทษให้ไปเผชิญด่านเคราะห์เช่นนั้น
ในเมื่อมีเรื่องสนุกๆ อย่างนี้แล้ว...ตัวเขาจะไม่ลงไปร่วมเล่นกับสองคนนั้นได้อย่างไร
อีกอย่าง...จอมมารหนุ่มเองก็ยังคงต้องหาคำตอบต่อไปว่าเหตุใด ร่างกายที่แตกสลายกระจุยกระจายไปแล้วทั่วทุกทิศของเขาจึงได้กลับมาประกอบกันขึ้นใหม่เพียงแค่เขาได้กลิ่นควันธูปและเลือดของเทพพฤกษาผู้นั้น ทั้งที่ในเวลานี้นางกำลังอยู่ในร่างของมนุษย์ธรรมดาแท้ๆ
หากไม่มีเหตุผลเหนือธรรมชาติอะไร ก็แสดงว่าเทพพฤกษาผู้นั้นมีพละกำลังที่แข็งแกร่งเหลือล้นเทพเซียนคนอื่นๆ ทั้งปวงแล้ว
เพราะแม้แต่เลือดในกายที่เป็นมนุษย์ธรรมดาของนางยังมีพลังฟื้นฟูมหาศาลได้เพียงนี้...แล้วหากนางอยู่ในร่างเทพเซียนเล่า ผู้ใดจะมาสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้กัน?
ยิ่งคิดว่าคนที่จะได้ครอบครองนางคือคู่อริของตนเองอย่างเทพสงครามเหวินเยี่ยน ใบหน้าหล่อเหลาของลู่เสียนก็อดที่จะบูดเบี้ยวขึ้นไม่ได้
ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้เหวินเยี่ยนได้ครอบครองนางเด็ดขาด ไม่มีทาง!