บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ผู้หวนคืน 2

จุดประสงค์ของเขาคือการแก้แค้นเอาคืนคนปลิ้นปล้อนเจ้าเล่ห์อย่างเหวินเยี่ยน แต่เมื่อไปถึงที่นั่นแล้วกลับพบว่าเจ้าคนน่ารังเกียจนั่นลงไปเผชิญด่านเคราะห์ในโลกมนุษย์ จุดมุ่งหมายของเขาจึงเปลี่ยนไป จากตอนแรกที่ตั้งใจจะมาท้าตีท้าต่อยกับเทพสงครามโดยไม่มีการนองเลือดของผู้อื่น แต่พอมาถึงกลับพบว่าคนที่อยากต่อยตีด้วยไม่อยู่ เวลานั้นคนที่ในใจเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธเช่นเขาย่อมทำอะไรไม่ได้นอกจากระบายอารมณ์

และสถานที่ระบายอารมณ์ของเขาก็จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกเหนือจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแห่งนี้

เมื่อเกินกว่าสามในสี่ของสรวงสวรรค์พังราบเป็นหน้ากลองแล้ว จอมมารลู่เสียนก็จากมาพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสะใจ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังทิ้งคำพูดท้าทายเอาไว้ให้เทียนจวินโมโหเล่นๆ ด้วย

“หากโกรธแค้นการกระทำของข้าในครั้งนี้ เช่นนั้นก็จงมาเอาคืนกับข้าเสียเถอะ เกินเป็นบุรุษอกสามศอก ไยต้องหลบอยู่หลังชายกระโปรงสตรีเฉกเช่นที่เทพสงครามของพวกเจ้าทำ เหวินเยี่ยนผู้นั้น บอกเขาด้วยว่าข้ารอเวลาชำระล้างความแค้นกับเขาอยู่”

ใจจริงลู่เสียนก็อยากจะตามลงไปยังโลกมนุษย์เพื่อจัดการคู่แค้นตนให้จบสิ้นไป แต่ติดที่ว่าเขาไม่ไร้ศักดิ์ศรีถึงเพียงนั้น ที่จะได้ฉวยโอกาสกำจัดศัตรูตอนที่อีกฝ่ายไร้ความสามารถจะต่อกรกับเขา

จอมมารกับมนุษย์ธรรมดาผู้หนึ่ง หากเขาเป็นผู้ชนะดูอย่างไรก็ไม่สมศักดิ์ศรีแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นร่างมนุษย์ของเทพสงครามแห่งแดนสวรรค์ก็ตาม

และเมื่อสิ่งที่อยากพูดก็พูดจบแล้ว แดนสวรรค์หรือก็ทำลายจนย่อยยับไปแล้ว สิ่งต่อมาที่ลู่เสียนทำก็คือการเดินทางกลับมายังแดนมารของตน รอคอยวันเวลาที่เหวินเยี่ยนจะกลับมาจากโลกมนุษย์ เชื่อเถอะว่าคนผู้นั้นเมื่อกลับมาถึงสวรรค์แล้วจะต้องดีใจจนน้ำตาไหลหลากเป็นแน่ ที่เห็นว่าเขาสามารถหวนคืนกลับมาได้ทั้งๆ ที่เขาควรจะสูญสลายไปนานแล้วนับตั้งแต่ถูกลอบสังหารในครั้งนั้น

“หึ!...คิดจะสังหารข้า หมายจะทำให้ข้าดับสูญเช่นนั้นรึ มันไม่ง่ายนักหรอก”

และทันทีที่กลับถึงแดนมารฉางเฮ่าผู้มีตำแหน่งเป็นองครักษ์คนสนิทของลู่เสียนก็ปรี่เข้ามาคุกเข่าอยู่ต่อหน้าชายหนุ่มทันที ในฐานะองครักษ์ผู้มีหน้าที่ปกป้องนายเหนือหัวฉางเฮ่าถือว่าได้กระทำความผิดครั้งใหญ่ เขาบกพร่องต่อหน้าที่เป็นเหตุให้มีคนลอบเข้าไปในสถานที่ที่ลู่เสียนใช้บำเพ็ญเพียรได้ นำมาซึ่งความสูญเสียร้ายแรงต่อแดนมาร

“นายท่าน! ข้าน้อยบกพร่องต่อหน้าที่มีโทษสมควรตาย ขอนายท่านได้ลงโทษข้าน้อยด้วยเถอะขอรับ!”

ลู่เสียนปรายตามองไปยังคนสนิทร่างใหญ่ที่ก้มหน้าคุกเข่าอยู่เบื้องล่าง ในบรรดาคนใกล้ชิดของเขา นอกจากผู้เป็นน้องชายแล้วก็มีแต่เจ้าหมอนี่เท่านั้นที่เขาพอจะเชื่อใจได้ หากฆ่าทิ้งแล้วเขาจะเหลือใครที่พอจะไว้ใจได้อีก

อีกอย่างเรื่องการบกพร่องต่อหน้าที่อะไรนั่นก็ใช่ว่าจะเป็นความผิดของฉางเฮ่าฝ่ายเดียว คนสนิทของเขาคนนี้ฝีมือการต่อสู้ไม่นับว่าด้อย ในแดนมารนอกจากเขาแล้วฉางเฮ่าก็ไม่เคยเป็นรองใคร ไม่แน่ว่าก่อนหน้าที่เขาจะถูกสตรีนางนั้นลอบสังหารอาจจะมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้วก็เป็นได้

“ฉางเฮ่า...เจ้าอยากตายหรือ?” ลู่เสียนเอ่ยถามน้ำเสียงเข้มข้นไม่มีเค้าลางของความล้อเล่นหรือถามไปส่งๆ

“เรียนนายท่าน ข้าน้อยบกพร่องต่อหน้าที่ถือว่ามีความผิดใหญ่หลวง สมควรได้รับโทษเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างขอรับ” คนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ก้มหน้าเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจังไม่แพ้กัน

“พูดได้ดี...เช่นนั้นก่อนที่เจ้าจะตายข้ามีงานให้เจ้าไปทำ หากทำสำเร็จข้าจะถือว่าเจ้าทำคุณไถ่โทษ แล้วจะละเว้นโทษตายให้”

“ขอบคุณนายท่านที่เมตตา ข้าน้อยจะทำตามที่นายท่านสั่งให้ดีที่สุดขอรับ!”

“ดี!...เช่นนั้นฉางเฮ่าเจ้าไปสืบมาว่าแท้จริงแล้วสตรีคนที่กล้าไปลอบสังหารข้าคนนั้นคือใคร”

ครั้นได้ยินคำสั่งแล้วคนที่คุกเข่าก้มหน้าอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่บนแท่นศิลาสูงเบื้องหน้าก่อนเอ่ยตอบ “เรียนนายท่าน เรื่องนี้ข้าน้อยได้ทำการสืบมาเรียบร้อยแล้วขอรับ”

“จริงหรือ? ...เช่นนั้นแล้วนางเป็นใคร?”

“นางคือเทพพฤกษามีนามว่าสุ่ยหลัน” คำตอบนี้ดังขึ้นจากปากของบุคคลผู้มาใหม่ที่เพิ่งเดินก้าวพ้นกรอบประตูเข้ามาในห้องที่ลู่เสียนกำลังพูดคุยกับฉางเฮ่าอยู่ “ยิ่งไปกว่านั้นคือนางยังเป็นคู่หมายเจ้าคนเจ้าเล่ห์เหวินเยี่ยนด้วย”

“...?” จอมมารหนุ่มเลิกคิ้ว...ที่แท้สตรีนางนั้นก็เป็นถึงเทพเซียนจากเผ่าพฤกษา ทั้งยังเป็นคู่หมายของเทพสงครามด้วยเช่นนั้นหรือ?

น่าสนุก...

“แล้วตอนนี้นางอยู่ที่ใด พวกเจ้าได้จับตัวนางมาขังไว้ยังแดนมารหรือไม่ หรือว่าฆ่านางไปแล้ว” ลู่เสียนเอ่ยถามจบบุคคลที่เข้ามาใหม่ก็ทรุดกายลงคุกเข่าอยู่ข้างกายฉางเฮ่าในทันที

“พวกเราไร้ความสามารถ ขอนายท่านได้โปรดลงโทษ”

“หมายความว่ายังไง?” ลู่เสียนเอ่ยถาม เวลานี้คิ้วเข้มของเขาขมวดเข้าหา ใบหน้าหล่อเหลานั้นฉายชัดถึงความไม่พอใจ “พวกเจ้าจับนางไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”

“นายท่าน ในตอนที่ท่านถูกหนามเซียนเหรินจ่างปักพรุนไปทั่วร่างและสลายหายไป เทพพฤกษาผู้นั้นก็อันตรธานหายไปพร้อมๆ กับท่านตั้งแต่ตอนนั้นขอรับ” ฉางเฮ่าเอ่ยขึ้นตอบ

เรียกได้ว่าเขาเป็นคนเดียวที่เห็นเหตุการณ์ในตอนนั้น ทว่าเพราะถูกวางยาบางอย่างทำให้ร่างกายของเขาไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้ นั่นจึงทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้เป็นนายได้ทันเวลา

“เจ้าว่าอะไรนะ? ...นางหายตัวไปเช่นนั้นรึ”

“ขอรับ หลังจากปล่อยหนามแหลมนับพันนับหมื่นใส่ร่างของนายท่านแล้วนางก็หายไปในทันที คาดว่าตอนนั้นนางคงไม่ทันเห็นด้วยซ้ำว่าผลลัพธ์ของการกระทำของตนเองเป็นเช่นไร แย่กว่านั้นคือขนาดว่าคนของเราไปตามหานางที่เผ่าพฤกษาก็ไม่พบ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel