บทที่ 12 เข้าทำงานที่ร้านของเตมินทร์
“พอดีว่าฉันต้องการหาเงินน่ะค่ะ ไปสมัครงานที่ไหนก็ยังไม่มีใครรับเลย ค่าห้องก็ต้องจ่ายสิ้นเดือนนี้แล้ว ฉันมาจากต่างจังหวัดน่ะค่ะ อันนี้เบอร์โทรฉันนะคะ ถ้าหากว่าที่นี่รับสมัครคนงานเมื่อไหร่ รบกวนพี่ช่วยโทรแจ้งฉันหน่อยได้ไหมคะ ฉันต้องการได้งานจริง ๆ ค่ะ” เธอยื่นกระดาษเบอร์โทรให้หญิงสาวมาดเข้มตรงหน้า ก่อนจะเบี่ยงตัวเดินจากมาด้วยท่าทางน่าสงสาร
“เดี๋ยวก่อน” เสียงเรียกของหญิงคนดังกล่าว ทำให้นาราหันใบหน้าสวยหวานกลับไป ก่อนอีกฝ่ายจะเดินเข้ามาจับจ้องมองนาราตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“หน้าตาสะสวยขนาดนี้ ไม่น่าหางานยากเลยนะ”
“แต่ฉันก็หางานมานานแล้วนะคะ ยังไม่มีที่ไหนรับเลย” นาราแสร้งทำคนน่าสงสาร ก่อนหญิงสาวจะขมวดคิ้วแปลกใจเล็กน้อย
“ไม่น่าเชื่อ” เธอพูดลอย ๆ ออกมา
“เชื่อเถอะค่ะ ขนาดฉันพยายามมาสมัครงานร้านนี้ตั้งหลายครั้ง พี่ยังปฏิเสธฉันเลย ร้านอื่น ๆ ก็เหมือนกัน” นาราพูดพลางตีหน้าเศร้า ก่อนหญิงสาวคนดังกล่าวจะถอนหายใจออกมาด้วยความเห็นใจ
“เอาล่ะ ถ้าเธออยากทำงานที่นี่จริง ๆ มันก็ได้อยู่แหละ”
“หมายความว่าพี่จะรับฉันเข้าทำงานเหรอคะ” หญิงสาวเผลอยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ก่อนอีกฝ่ายจะพยักหน้าเบา ๆ เพราะวาสนาเองเป็นเด็กบ้านนอก เข้ามาหางานทำในเมืองกรุง เพื่อส่งเงินกลับไปดูแลพ่อแม่ จึงเข้าใจหัวอกคนต่างจังหวัดดีว่าต้องดิ้นรนเราตัวรอดแค่ไหน
“ฉันชื่อวาสนา เรียกสั้น ๆ ว่าวาสก็ได้ เป็นคนดูแลพนักงานทั้งหมดของที่นี่ ส่วนเธอถ้าอยากทำงานจริง ๆ เริ่มงานวันนี้เลยก็ได้ พร้อมหรือเปล่า” วาสนาเลิกคิ้วถามเพื่อความแน่ใจ
“แต่ว่าฉันไม่มีชุด..” นาราค่อนข้างลังเล ก่อนวาสนาจะเดินเข้ามาตบบ่าหญิงสาวแล้วยิ้มออกมา
“ชุดพนักงานมีอยู่หลังร้านเต็มไปหมด ถ้าเธออยากทำงานจริง ๆ ก็เริ่มได้เลยวันนี้”
“ขอบคุณค่ะ” นารายิ้มกลับ พลางยกมือไหว้อีกฝ่ายทันทีด้วยความดีใจ ก่อนวาสนาจะพานาราเดินเข้าไปยังหลังร้าน ที่มีห้องลับปิดตายไว้มากมาย ดูเพียงด้านนอกคล้ายกับสถานบันเทิงธรรมดาทั่วไป แต่ด้านหลังกลับลึกลับซับซ้อนน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวเก็บคำถามต่าง ๆ ไว้ภายในใจ พร้อมสายตาสำรวจบริเวณรอบ ๆ ด้วยความตั้งใจ
“ที่นี่มีพนักเสิร์ฟงานทั้งหมดเกือบยี่สิบคน พี่จะไม่แนะนำให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการนะ เดี๋ยวเธอทำงานไปเรื่อย ๆ ก็จะค่อย ๆ รู้จักกันเองล่ะ อ่อ...แล้วทำงานที่นี่ห้ามทะเลาะกับเพื่อนร่วมงานเด็ดขาด คุณเตมินทร์ไม่ชอบ และถ้าใครมีปัญหาฉันจำเป็นต้องไล่ออกทันที” นาราตั้งใจฟังอย่างเงียบ ๆ ก่อนวาสนาจะหยุดเดินแล้วหันมายังหญิงสาวด้วยความแปลกใจ
“พี่วาสมีอะไรเหรอคะ ทำไมมองฉันแบบนั้น” นาราถามด้วยน้ำเสียงงุนงง
“ทำไมเธอไม่ถามฉันสักคำว่าคุณเตมินทร์เป็นใคร..เธอทำเหมือนรู้ว่าคุณเตมินทร์เป็นใครงั้นแหละ” สายตาของวาสนาพยายามจับผิดอีกฝ่าย ก่อนนาราจะได้สติแล้วยกมือขึ้นปฏิเสธในทันทีด้วยท่าทางประหม่า
“ฉันไม่รู้หรอกค่ะ ฉันจะรู้ได้ไงล่ะคะ แล้วคุณเตมินทร์เป็นใครเหรอคะ ฉันว่าจะถามพอดี” หญิงสาวแกล้งทำเป็นเดียงสา ก่อนวาสนาจะละสายตาจากเธอแล้วเดินนำไปยังห้องแต่งตัว
“คุณเตมินทร์เป็นเจ้าของร้านน่ะ จะว่าโหดก็โหด จะว่าใจดีก็ใจดี แต่เป็นคนที่เคร่งในกฎระเบียบเยอะมากเหมือนกัน อ่อ..ฉันอยากจะเตือนเธอเรื่องหนึ่ง อย่าไปเกาะแกะกับคุณเตมินทร์เด็ดขาด เขาไม่ค่อยสุงสิงกับพนักงานหญิงเท่าไหร่นัก หลายวันก่อนมีพนักงานหญิงคนหนึ่ง ทำท่าจะทอดสะพานให้ กลับโดนคุณเตมินทร์ตะเพิด จนออกจากห้องแทบไม่ทัน” นาราเก็บรายละเอียดทุกอย่างแล้วพยักหน้ารับทราบเป็นระยะ
“แล้วห้องพวกนั้นล่ะคะ คือห้องอะไร” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“ก็เป็นห้องไว้ใช้งานทั่วไปแหละ ไม่มีอะไรหรอก อ่อ...แล้วเธอจะพักที่นี่ด้วยหรือเปล่า” หญิงสาวได้ยินดังนั้นจึงขมวดคิ้วแปลกใจ
“ที่นี่มีห้องพักให้พนักงานด้วยเหรอคะ”
“มีสิ พนักงานส่วนใหญ่ของที่นี่ ก็มาจากต่างจังหวัดทั้งนั้นแหละ โซนนั้นเป็นโซนที่พักของพนักงาน ยังมีห้องว่างอยู่นะ เธอจะพักไหม” วาสนาพูดด้วยน้ำเสียงเมตตา ก่อนนาราจะนิ่งเงียบครู่หนึ่งอย่างใช้ความคิด
“อะ..เดี๋ยวเธอค่อยคิดละกัน ฉันว่าเธอรีบเปลี่ยนชุดเถอะ อีกไม่นานร้านก็จะเปิดแล้ว เรื่องระเบียบและการทำงาน เธอก็เรียนรู้เอาจากหน้างานไม่มีใครสอนกันหรอก ที่นี่ต่างคนต่างเอาตัวรอดทั้งนั้น” วาสนาพูดจบ จึงพาเธอเดินมายังห้องแต่งตัว ซึ่งมีพนักงานหลายคนกำลังแต่งตัวอยู่ สายตากลมของนารามองทุกคนอย่างเงียบ ๆ ก่อนเสียงของวาสนาจะทำให้หญิงสาวได้สติกลับมา
“อะ ชุดพนักงาน” วาสนายื่นส่งให้ พร้อมนาราจะเอื้อมไปรับมา แล้วจัดการเปลี่ยนชุดในทันที
