ตอนที่1 จุดเริ่มต้น
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน
รถตู้คันหรูสีดำสนิทเลี้ยวเข้ามาจอดที่บ้านอิริยะไพบูรณ์ ดวงตากลมโตที่มองออกมาจากกระจกดำหนาอย่างตกตะลึงเพราะที่แห่งนี้มันใหญ่เหมือนพระราชวังไม่มีผิด บ้านสี่ชั้นที่ประดับประดาไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงทั้งหลัง บริเวณรอบ ๆ มีต้นไม้หนาทึบปกปิดไม่ให้คนภายนอกมองเห็นเข้ามาด้านใน บริวารที่พอเห็นรถตู้เลี้ยวเข้ามาจอดก็ต่างรีบพากันมายืนอย่างระเบียบเรียบร้อย รอยยิ้มอ่อนหวานของผู้หญิงวัยกลางคนมองมาที่เด็กน้อยตัวเล็กด้วยความเอ็นดู
“หนูตะวันต่อไปหนูต้องอยู่ที่นี่คอยดูแลปรนนิบัติพี่เขาให้ดีนะลูก”น้ำเสียงไพเราะบอกเด็กน้อยวัยสิบขวบที่รีบพยักหน้า เธอไม่เข้าใจมากนักแต่ก็ไม่อยากปฏิเสธเพราะกว่าจะมีวันนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย เธอเฝ้าใฝ่ฝันมาตลอดว่าจะมีพ่อกับแม่บุญธรรม จนในที่สุดก็มีพวกเขาสองสามีภรรยาที่รับอุปการะเธอมา
ทันทีที่รถหยุดนิ่งมีชายฉกรรจ์ใส่สูทสีดำมาเปิดประตูให้พร้อมก้มศีรษะ ท่านมานพผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ก้าวเท้าลงพร้อมหันมายิ้มให้กับตะวันฉายอย่างเอ็นดู เขายื่นมือให้เธอจับ เด็กน้อยตาใสจับมือชายชราอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินลงมาจากรถตู้ สายตาบริวารนับสิบคนจ้องมองมาที่เด็กน้อยอย่างสงสัย
“ต่อไปหนูตะวันฉายจะมาเป็นคนในครอบครัวของฉัน ปฏิบัติต่อเธอเหมือนทำกับฉัน อีกอย่างเด็กผู้หญิงคนนี้ในวันข้างหน้าจะมาเป็น
คุณผู้หญิงคนใหม่ของอิริยะไพบูรณ์!” สิ้นเสียงน่าเกรงขาม ทุกคนต่างคำนับรับคำสั่ง ท่านมานพและคุณหญิงรุจีต่างพาเด็กน้อยเข้ามาในบ้านพร้อมพาเธอดูรอบ ๆ บ้าน
“ชอบที่นี่ไหมจ๊ะ หนูตะวัน” น้ำเสียงหญิงวัยกลางคนถามเด็กน้อย เธอพยักหน้าตอบอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ พร้อมรอยยิ้ม
“เอาละ แม่จะให้ป้าอ่อนพาหนูไปพักผ่อน ตอนเย็นค่อยลงมาทานอาหาร แม่อยากจะแนะนำพี่พายุให้หนูรู้จัก”
พี่อย่างนั้นหรือ เด็กน้อยพยักหน้าอย่างสนใจ เธอไม่เคยมีพี่มาก่อนพอได้ยินอย่างนี้ก็ยิ้มมีความสุขขึ้นมา
ป้าอ่อนแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของที่นี่พาเด็กน้อยขึ้นมาบนห้องนอนฝั่งซ้าย ภายในตกแต่งไปด้วยตุ๊กตาหมีเต็มไปหมด สีห้องนอนชมพูทั่วห้องจนทำให้ตะวันฉายตกตะลึงไปอีกครั้ง
“ชอบไหมหนู คุณหญิงตั้งใจเลือกเพื่อหนูเลยนะ”
“ชอบค่ะ ขอบคุณนะคะป้า”
“ไม่เป็นไร อยู่ที่นี่ก็ทำตัวตามสบาย อย่าขัดคำสั่งคุณพายุนะ เธอไม่ชอบ”
หญิงสาวทำหน้าสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ตกเย็นของวันป้าอ่อนพาตะวันฉายลงมาข้างล่าง เธอเดินเข้ามาก่อนจะชะงักนิ่งเมื่อเห็นสายตาของเด็กผู้ชายจ้องมองเธออย่างไม่เป็นมิตร
“เด็กคนนี่หรือครับที่พ่อกับแม่ไปรับมา”
“ใช่จ้ะพายุ น้องชื่อตะวันฉาย น่ารักใช่ไหมล่ะ”
“หึ หน้าตาน่าเกลียดมากกว่า” เสียงเด็กชายวัยสิบเจ็ดปี เขาเข้าสู่วัยรุ่นหน้าตาดุดันจนตะวันฉายทำตัวไม่ถูก
คุณหญิงรุจีทำหน้าไม่ถูก เธอรู้ดีว่าลูกชายเธอนิสัยอย่างไร หัวดื้อเอาแต่ใจเป็นเพราะคุณตาตามใจมาตั้งแต่เด็ก ถึงวันนี้คุณตาของเขาจะสิ้นชีพไปแล้วแต่ความทระนงตัวของพายุภัคก็ยังคงอยู่
“หนูตะวันมาทานข้าวมาลูก นี่พี่พายุ”
เด็กน้อยยกมือไหว้ชายตรงหน้า แต่เขาไม่แม้แต่จะมองมาด้วยช้ำ
ผ่านไปหลายปี
หญิงสาวที่เติบโตเป็นสาวสวยวัยแรกแย้มจนทำให้ใคร ๆ ต่างมองมาที่หล่อนด้วยความเอ็นดู ตลอดเวลาที่เธออยู่ที่บ้านหลังนี้ตะวันฉายรู้ดีว่าเป็นใครมาจากที่ไหน เธอไม่ทะนงตนว่าเป็นลูกอีกคนของคุณหญิงรุจี
เด็กสาวช่วยป้าอ่อนทำงานในครัวถึงบางครั้งที่ถูกคุณหญิงรุจีดุก็ตาม แต่เธอต้องการที่จะตอบแทนผู้มีพระคุณ ตะวันฉายได้เรียนต่อชั้นปริญญาตรีในสาขาการจัดการ ตอนนี้เธออายุยี่สิบเอ็ดปีแล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะเรียบจบ ที่ผ่านมาหญิงสาวพยายามที่จะไม่พบหน้าชายหนุ่มเพราะรู้ดีว่าพายุภัคเกลียดขี้หน้าเธอตั้งแต่เล็กจนโต เขาชอบแกล้งเธอสารพัด ทั้งคำพูดดูถูกเธอมากมาย แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่เธอจะตอบโต้ชายหนุ่มกลับ จนวันนั้นมาถึงวันที่ตะวันฉายไม่เคยลืมตลอดชีวิต
กลางดึกคืนหนึ่ง คืนนั้นทั้งท่านมานพและคุณหญิงรุจีไปงานการกุศลเหลือเพียงแม่บ้านและตะวันฉาย ทุกคนต่างเข้านอนกันหมดรวมทั้งเธอด้วย
กึก!
เสียงประตูห้องนอนชั้นสองของตะวันฉายถูกไขเข้ามาภายในห้องที่มืดสนิทมีเพียงเเสงรำไรจากภายนอกสาดส่องเข้ามา เสียงฝีเท้าหนาค่อย ๆ เดินมาหยุดตรงที่เตียงนอน ใบหน้าคมสันได้รูปก้มมองหญิงสาวตรงหน้าพินิจพิเคราะห์อย่างสบายใจ กลิ่นน้ำสีอำพันแรงจนตะวันฉายรับรู้ได้ เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาก่อนจะตกใจเมื่อมีมือหนามาปิดปากเธอไว้แน่น
“จะแหกปากทำไมวะ หนวกหู!” เขาร้องดุก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟตรงหัวเตียง ตะวันฉายมองชายตรงหน้าอย่างหวาดกลัว
“คุณพายุเข้ามาห้องตะวันทำไมคะ”
“นี่บ้านฉัน ทำไมเข้ามาไม่ได้หรือ” เขาพูดออกมาอย่างหัวเสีย
“นี่คุณไปดื่มมาหรือคะ มีอะไรให้ตะวันรับใช้หรือเปล่าคะ”
“ถามมากจริงรำคาญ” เขาดูหงุดหงิดกว่าทุกวัน ถ้าวันนี้พายุภัคไม่ได้ไปดื่มกับเพื่อนคงไม่เป็นแบบนี้ เพราะคำพูดของพวกผู้ชายเหล่านั้นทำให้เขาแทบคลั่ง
'เด็กในบ้านไอ้พายุยิ่งนับวันยิ่งสวย นมเป็นนม กูเห็นแล้วยังอยากเลย'
'เอ่อนั่นดิ คนอะไรน่าปู้ยี้ปู้ยำ เฮ้ย! พายุ น้องตะวันฉายนี้มีแฟน
รึยังวะ'
'ใช่ ถ้าไม่มีมาแนะนำให้กูหน่อย ไม่แน่นะกูอาจจะยกย่องเป็นเมียออกนอกหน้าก็ได้'
'ได้หรือวะ เด็กกำพร้าอย่างยัยนั่นมีดีแค่บนเตียงไม่คู่ควรออกสังคมกับเราหรอก' พายุไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจเขามันโกรธจนมือไม้สั่น
มือหนายกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นมาก่อนกระดกเข้าปากจนหมด สีหน้าเพื่อน ๆ สามสี่คนมองมาทางเดียวกัน พอเห็นเขาทำหน้าไม่พอใจทุกคนก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก
“ไงไปให้ท่าผู้ชายไม่เลือกหน้า เสียเเรงที่คุณแม่ฉันเอ็นดูเธอ เธอมันเลี้ยงไม่เชื่อง!”
“ตะวันไม่เข้าใจว่า คุณพูดเรื่องอะไร”
“หึ แกล้งโง่รึไงตะวันฉาย! ดี ไม่เข้าใจฉันจะทำให้เธอเข้าใจเอง” เขาพูดจบก็หันมาผลักหญิงสาวล้มตัวนอนลงบนเตียง สีหน้าตกใจของ
หญิงสาวแสดงออกมาอย่างชัดเจน
สภาพตอนนี้ที่ร่างกายกำยำของพายุภัคทาบทับเธอไว้ก่อนจะจ้องมองใบหน้าหญิงสาวอย่างละเอียด ใช่ เธอเป็นผู้หญิงของเขา ตั้งแต่วันที่เธอก้าวเท้าเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ มีแค่เขาเท่านั้นที่ครอบครองเธอได้ สีหน้าหญิงสาวมองชายหนุ่มอย่างหวาดกลัว
เขาค่อย ๆ โน้มตัวลงก่อนจะสัมผัสลิ้มลองรสหวานจากซอกคอระหงของเธอ กลิ่นหอมในกายเธอลอยขึ้นมามันยิ่งทำให้เลือดในกายเขาพุ่งขึ้น
"หอม! หืม!" เสียงแหบในลำคอของพายุภัคผุดขึ้นมาอย่างหลงใหลในร่างกายนี้ ตะวันฉายร้องไห้ออกมา เธอกลัว กลัวทุกอย่าง เธอพอเข้าใจอยู่บ้างที่คุณหญิงรุจีอยากให้เธอแต่งงานกับเขา แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เธอไม่ต้องการ
“ฮึก คุณพายุอย่าทำอะไรตะวันเลยนะคะ ตะวันกลัว!” เธอเริ่มทนการกระทำรุ่มร่ามของเขาไม่ได้
พายุภัคชะงักก่อนจะเงยหน้ามามองตะวันฉายอย่างไม่พอใจที่เธอขัดความสุขเขา
“ทำไม จะเก็บไว้ให้ใคร!” เสียงทรงอำนาจถามจนตะวันฉายสะดุ้ง“เธอปฏิเสธฉันอย่างนั้นหรือตะวัน” เขาถามเธออีกครั้ง
ครั้งนี้หญิงสาวไม่กล้าแม้จะตอบโต้อะไรออกมาเพราะรู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธชายหนุ่ม
“เงียบ? ใบ้แดกรึไง ตะวันฉายหน้าที่ของเธอคืออะไรฮะ!”
“ตะ ตะวันขอโทษค่ะ!” เธอเอ่ยเสียงสั่น มันก็จริงที่เธอควรจะสำนึกไว้เสมอว่า ตัวเองมีหน้าที่อะไร การที่เธอได้มาอยู่ในครอบครัวนี้ ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ได้เรียน ได้ในสิ่งที่คุณหญิงรุจีมอบให้ มันถึงเวลาแล้วสินะที่เธอจะต้องตอบแทนเขา
“ตะวันยอมแล้วค่ะ ยอมทุกอย่าง” เธอพูดพร้อมน้ำตาไหลอาบแก้ม รอยยิ้มพอใจของพายุภัคเผยให้เห็น ชายหนุ่มมองใบหน้าหญิงสาวก่อนจะเอื้อมมือไปปาดน้ำตาเธออย่างลวก ๆ
“ดี เธอต้องทำให้ฉันมีความสุข” เขาพูดจบก็ประกบริมฝีปาก
อวบอิ่มของหญิงสาวอย่างรุนแรง ลิ้นสากตวัดหาน้ำหวานจากโพรงปากหญิงสาว มืออีกข้างยกขึ้นมาจับหน้าอกของตะวันฉาย มันช่างซ่อนรูปจนเขาตกใจให้กับความคับแน่นของมัน มือหนาของพายุภัคค่อย ๆ ปลดกระดุมชุดนอนบางของตะวันฉายช้า ๆ ไม่นานนักเนินอกอวบก็เปิดเผยสู่สายตาของชายหนุ่มเขามองพร้อมกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ มือบางของตะวันฉายกำแน่น เธอทั้งอายทั้งกลัวทุก ๆ อารมณ์มันเกิดขึ้นจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัว
จ๊วบ จ๊วบ! เสียงดูดเลียยอดปทุมถันดังออกมา ตอนนี้ร่างกายของตะวันฉายกระสับกระส่ายอย่างบอกไม่ถูก เปลือกตาบางรีบหลับลงเธอไม่อยากจะเห็นการกระทำของชายบนร่าง พายุภัคทั้งกัดทั้งขบยอดหัวปทุม
สีอมชมพูของตะวันฉาย
“เธอสวยกว่าที่ฉันคิดไว้มากเลยนะตะวันฉาย สวยจนฉันทนไม่ไหวแล้ว” พายุภัคลุกขึ้นก่อนจะเอื้อมมือมาปลดเข็มขัดหนังแท้ราคาแพงอย่างเร่งรีบ แววตายังจ้องมองตะวันฉายไม่ลดละ
หญิงสาวลืมตามองเห็นเขาลุกออกไปจากกาย แววตาตกใจกว่าเดิมเมื่อสิ่งที่เธอเห็นมันอุจาดตาเป็นที่สุด ตะวันฉายรีบหันหน้าหนี มันใหญ่จนเธอหวั่นกลัว มือบางดึงผ้าห่มมาปิดบังกาย พร้อมเท้าขยับหนีเขา
“อายหรือที่เห็นมัน เธอควรจะต้องชินนะเพราะต้องเห็นมันอีกนาน”
“...!” เธอทำหน้าตกใจพร้อมหลบสายตาเขา
“ไม่เอาน่า ผู้ชายเวลาต้องการมันก็เป็นแบบนี้แหละ” มือหนาของพายุจับข้อเท้าบางพร้อมดึงเธอกลับมา เมื่อเห็นว่าเธอจะไม่ยอมง่าย ๆ
"ว้าย!" เธอกลัวจนร้องลั่นออกมาเมื่อพายุภัคจับขาเรียวสวยแยกออกพร้อมตั้งขึ้นก่อนจะแทรกกลางนั่งอยู่ตรงนั้น สายตาสำรวจกลีบเกสรแรกแย้ม พร้อมนิ้วอุ่นลูบวนไปมา แม้ใจที่ปฏิเสธการกระทำของชายหนุ่ม แต่ร่างกายของเธอกลับตอบสนองเขาอย่างดี
“อย่าพยายามสู้กับธรรมชาติ เพราะยังไงเธอก็ต้านทานมันไม่ได้หรอกตะวันฉาย” เขาพูดจบพร้อมจับท่อนกายลำใหญ่ถูไปมาแล้วดันเข้าไปลึกสุด
“กึก ฮึก ตะวันเจ็บ คุณพายุพอเถอะ ตะวันไม่ไหว”
เขารู้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกของหญิงสาวแต่ความต้องการของเขามันทำให้พลั้งกระแทกไปสุดลำจนลืมนึกถึงคนตัวเล็กว่าจะเจ็บแค่ไหน
ตะวันฉายร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด ตรงบริเวณนั้นมีเลือดติดออกมา
“จุ๊ จุ๊ ไม่เจ็บแล้ว ฉันจะทำเบา ๆ” เขาขยับแก่นกายช้า ๆ ตามใจหญิงสาวพร้อมก้มจูบหน้าผากหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
“ดีขึ้นไหม” เธอไม่ตอบได้แต่พยักหน้า พอเห็นอย่างนั้น…
ตั้บ ตั้บ ตั้บ! เสียงเนื้อกระทบดังขึ้นมาเมื่อพายุภัคเห็นว่าเธอปรับตัวได้แล้ว
“อ๊ะ เธอเเน่นจนฉันทรมานนะ ตะวันฉาย!” เขาทำหน้าเจ็บเมื่อหญิงสาวบีบรัดแก่นกายของเขา
มือทั้งสองข้างบีบคั้นดอกบัวตูมเต็มไม้เต็มมือทั้งสองไปมา พร้อมเปลี่ยนไปจูบดูดเลียมันอย่างสนุกสนาน เขากระแทกเร็วขึ้น ๆ จนใบหน้าเหยเกของคนใต้ร่างแสดงออกมา เธอต้องทน! ทนเท่านั้น
“โอ้ว! มันคxย ชะมัด!” เขาพูดออกมาพร้อมปล่อยน้ำสีขาวขุ่นใส่เต็มท้องน้อยของตะวันฉาย เธอเจ็บไปทั่วร่างกายเมื่อเขาดึงแก่นกายออก พายุไปหยิบผ้ามาเช็ดคาบบริเวณท้องน้อยเธอออกอย่างเงียบ ๆ ด้วยสีหน้าเย็นชา
ตะวันฉายมองร่างหนาที่ตอนนี้ลุกขึ้นตรงไปห้องน้ำเสมือนว่าในห้องนี้เป็นห้องนอนของเขาเสียเอง
ซ่า! เสียงเปิดน้ำดังออกมา หญิงสาวที่นอนเปลือยเปล่าค่อย ๆ ลุกขึ้น ก่อนจะทรุดลงไปเพราะเจ็บระบมไปทั่วร่างจนหยดน้ำตาใสไหลออกมาอีกครั้ง มือบางเอื้อมไปหยิบผ้าขนหนูมานุ่ง นั่งรอชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำ สีหน้าคมเข้มเดินออกมาโชว์สัดส่วนทุกอย่างจนเป็นเธอเองที่หันหน้าหนี เขาไม่อายใครจริง ๆ ที่แก้ผ้าโชว์อย่างนั้น
“พรุ่งนี้มีเรียนไหม” เขาถามเสียงเรียบนิ่งขึ้นมา
“ไม่ค่ะ พรุ่งนี้วันอาทิตย์” เธอตอบไปที ถ้าไม่ตอบมีหวังพายุภัคโมโหขึ้นมามันจะแย่ไปกว่านี้
“งั้นก็ดี เพราะคืนนี้ไม่จบแค่นี้แน่”
ตะวันฉายมองกลับมาอย่างไม่พอใจ อะไรกันแค่นี้เธอก็เจ็บจะตายอยู่แล้วเขายังจะทำแบบนี้กับเธออีก