ตอนที่ 4
ตอนที่ 4
… 2 ปีต่อมา…
ค่ายทหารของแคว้นเฉิน
ข้าเริ่มใช้ชีวิตที่ค่ายทหารของแคว้นเฉินมาได้ 2 ปี ชีวิตแต่ละวันก็ฝึกอยู่ในค่ายทหารฝึกทหารใหม่ที่เข้ามาประจำการข้ามีหน้าที่ควบคุมและดูแลทหารใหม่ทั้งหลาย และคิดวางแผนการรบวันนี้ก็อีกเช่นเคยเป็นวันที่ทางค่ายทหารต้องการคนที่จะไปร่วมรบในศึกครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้จำนวนมาก ข้าจึงได้รับมอบหมายให้มาคัดเลือกนายทหารคนใหม่จำนวนสามพันนายเพราะยังขาดอีกแค่สามพันเท่านั้นขอคนที่สมัครใจทำสัญญาหากเสียชีวิตในสงครามทางครอบครัวก็จะได้เงินช่วยเหลือหลังจากนายทหารตายไป
"ท่านรองแม่ทัพมีทหารมาเพิ่มอีกห้าร้อยนายขอรับ ท่านรองแม่ทัพจะไปดูหรือไม่"
"เช่นนั้นก็ดี ข้าจะไปเดียวนี้"
"เรียนท่านรองแม่ทัพปีกขวานี้คือทหารที่จะเข้าร่วมรบในครั้งนี้จำนวนห้าร้อยนายขอรับ"
ข้าเดินเข้าไปตรวจดูนายทหารใหม่แต่ละคนที่ยืนเรียงแถวอยู่ ดูท่าแต่ละนายแล้วล้วนเป็นลูกหลานของขุนนางและผู้มีอันจะกินทั้งหลายอยากให้บุตรชายของตนมีหน้าที่การงานที่ดีในกองทัพสินะ
"นี่นะหรอท่านรองแม่ทัพหญิงคนที่สอง ดูรูปร่างแล้วเหมือนกับสตรีที่ออกเรือแล้วนางจะไปสู้บุรุษร่างสูงใหญ่กำยำได้อย่างไรช่างน่าขันยิ่งนัก กลับไปให้นมลูกอยู่ที่บ้านเสียเถอะเจ้าจะออกมารบกับบุรุษทำไม"
"เหตุใดเจ้าจึงพูดจาสามหาวเยี่ยงนั้นท่านรองแม่ทัพเป็นถึงผู้ที่ออกรบห้าวหาญไม่เกรงกลัวศัตรูเมื่อ 1 ปีที่แล้วท่านแม่ทัพด้วยกอบกู้ดินแดนทางตอนใต้ของแคว้นของเรา กำลังพลเพียงแค่หนึ่งพันนายเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะท่านรองแม่ทัพพวกเจ้าจะมีโอกาสได้ไปยืนพูดจาจาบจ้วงดูหมิ่นท่านรองแม่ทัพได้อย่างนี้หรือ พวกเจ้าก็เป็นแค่ลูกท่านหลานเธอลูกผู้ดีทั้งหลายที่มาเข้ากองทัพเพื่อความสนุกเพียงเท่านั้นถ้าพวกเจ้าไม่รีบขออภัยท่านรองแม่ทัพพวกเจ้าก็กลับไปเสีย"
"พวกเจ้าพอได้แล้วส่วนนายทหารทั้งห้าร้อยนายฟังข้าทางนี้ พวกเจ้าคงสงสัยในตัวของข้าสินะ ใช่ตัวข้านี้เคยแต่งงานออกเรือนมาแล้วถ้าเป็นเพียงสตรีหม้ายที่หย่าร้างกับสามีโดยไม่ได้ทำผลงานใดๆก่อนหน้าที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นรองแม่ทัพแต่ข้านี้ ที่ดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพมาถึง 2 ปีข้าได้ออกรบปราบปรามผู้รุกรานที่จะต้องการเอาแคว้นของเราไปครอบครองตัวข้านี้เสียสละแม้กระทั่งการอยู่กับครอบครัว ไม่ได้กลับบ้านไปไหว้บิดามารดาพี่น้องทั้งหลายข้าไม่เคยได้กลับบ้าน แต่ข้าก็มีครอบครัวที่อบอุ่นอย่างกองทัพคอยอยู่เคียงข้างข้า แต่พวกท่านเล่าที่เข้ามาอยู่ภายใต้กองทัพทหารของข้าเพราะเหตุใดกัน พวกเจ้าเข้ามาเพื่ออันใดเจ้ารู้ความหมายของคำที่พวกเจ้าเข้ามาหรือไม่"
"หรือพวกเจ้าเข้ามาเพื่อให้ผู้คนรู้ว่าพวกเจ้าเข้าร่วมกองทัพให้เป็นหน้าเป็นตาแก่วงศ์ตระกูลเพียงเท่านั้น ถ้าพวกเจ้าคิดเพียงเท่านั้นพวกเจ้าก็กลับไปเสียเถอะ ที่นี่ต้องการผู้ที่จะมาร่วมรบด้วยใจจริงผู้ที่ไม่กลัวแม้แต่ความตาย ผู้ที่ยอมเสียสละความรักทั้งครอบครัวเพื่อมาสู้รบเพื่อแคว้นของเรา ถ้าพวกเจ้าไม่มีในข้อใดข้อหนึ่งก็จงกลับบ้านไปเสียบัดเดี๋ยวนี้ ข้าไม่ได้โทษพวกเจ้าถ้าพวกเจ้ากล้าเดินออกไปข้าก็ไม่ติดสินนินทาเจ้าแม้แต่คำเดียว ข้าไม่เคยที่จะดุด่าใครทั้งสิ้นเชิญพวกเจ้าตัดสินใจ ถ้าพวกเจ้าอยากอยู่ต่อก็จงยืนอยู่ที่นี่แต่ผู้ใดรู้ว่าตนเองไม่สามารถที่จะเดินต่อไปได้ก็ออกไปจากค่ายแห่งนี้ไป"
นายทหารทั้งหลายต่างเงียบเสียงอยู่สักครู่แต่ก็ไม่มีนายทหารผู้ใดก้าวเดินออกไปเลยแม้แต่คนเดียวข้าจึงมอบป้ายให้แก่ทุกคนแล้วแต่อาการนัดหมายเวลาการฝึกซ้อมของแต่ละวันให้กับนายทหารใหม่ทั้งสามพันห้าร้อยนายได้รับรู้ ตอนนี้หลังจากจบจากตรวจสอบและรับนายทหารคนใหม่แล้วข้าจึงควบม้ากลับจวนของตนเองที่บิดาและพี่น้องรอข้าอยู่ ข้าควบม้ามาถึงจวนแล้ว แต่ที่บ้านกลับเงียบกริบข้านึกสงสัยจึงลงจากหมาและเดินเข้าไปในตัวบ้านมีเพียงท่านพ่อบ้านที่สั่งการข้ารับใช้ทำงานอยู่ข้าจึงเดินเข้าไปถามท่านพ่อบ้านทันที
"ท่านพ่อบ้านเหตุใดจวนของเราถึงเงียบเช่นนี้"
"คารวะคุณหนูท่านเพิ่งกลับมาจากกองทัพท่านคงยังไม่รู้ ที่จวนของเราเงียบเหงาเช่นนี้เพราะคุณชายน้อยได้ออกเรือนไปกับองค์รัชทายาทของโครยอแล้วขอรับ ที่นี่จึงเงียบเหงาไปบ้างคุณหนูอย่าได้ถือสาเลย"
"ท่านพี่ออกเรือนแล้วเหตุไฉนไม่มีผู้ใดส่งข่าวบอกข้าเลยแม้แต่คนเดียว แล้วท่านพี่ออกเดือนได้อย่างไรแล้วองค์ชายที่ว่าไม่สิองค์รัชทายาทที่ว่านั้นคือใคร"
"เป็นคุณชายฮันโซวอน ที่เคยตามตื้อคุณชายน้อยตั้งแต่คุณชายอายุ 13 ขอรับตอนนี้คุณชายน้อยหลังจากดูใจกับคุณชายฮันโซวอนจึงตัดสินใจออกเรือนกับคุณชายเอ่อ… องค์รัชทายาทฮันโซวอนขอรับ"
"ท่านไม่คิดจะแจ้งข่าวให้ข้าทราบเลยหรือท่านพ่อบ้านหรือท่านไม่เห็นใครอยู่ในสายตาของท่านแล้ว"
"ไม่ใช่นะขอรับเป็นคุณชายน้อยที่ขอให้ตัวข้านี้ไม่ให้บอกคุณหนูขอรับ เพราะว่าคุณหนูยุ่งกับงานกองทัพก็เลยไม่อยากให้การออกเรือนครั้งนี้ ทำให้คุณหนูต้องกังวลขอรับ"
"แล้วท่านพี่ก็ไปอยู่กับพี่เขยเลยหรือ"
"ขอรับ คุณหนูกลับมาเหนื่อยๆคุณหนูเข้ามาก่อนสิขอรับ เด็กๆไปเตรียมน้ำชามาให้คุณหนูเสียเดี๋ยวน รอเดี๋ยวนะขอรับคุณหนูถ้าให้บ่าวรับใช้ไปเอาน้ำชามาให้คุณหนู"
"ท่านพ่อล่ะอยู่ที่ไหนกันพ่อบ้าน"
"อยู่ที่ห้องหนังสือขอรับ"
"งั้นก็ดีข้าจะไปหาท่านพ่อนะ"
"ขอรับ"
ท่านพ่อที่ห้องหนังสือเห็นท่านพ่อที่สู้ผอมลงไปเยอะกว่าเมื่อ 2 ปีก่อนกำลังนั่งเขียนบันทึกอยู่ท่านพ่อที่มีใบหน้าเรียวงดงามบัดนี้กับซูบผอมลงจนข้ารู้สึกเสียใจยิ่งนักท่านพ่อท่านคงเสียใจที่ท่านพี่ออกเดินไปสินะ แล้วก็เสียใจที่ข้าไม่กลับมาเยี่ยมเยียนท่านตั้ง 2 ปี ลูกคนนี้ช่างอกตัญญูเสียยิ่งนักลูกชั่วเช่นข้าเป็นผู้ไม่ได้ความอย่างยิ่ง
"คารวะท่านพ่อลูกช่างอกตัญญูไม่กลับเรือนถึง 2 ปี ขออภัยท่านพ่อที่รอคอยลูกลูกมาขอรับการลงโทษจากท่านพ่อเจ้าค่ะ"
"เจ้ากลับมาแล้วสินะลูกพ่อ พ่อคิดถึงเจ้านะเจ้ามาเหนื่อยๆมาทานข้าวกับพ่อดีกว่านี่คือการลงโทษด้วยการที่เจ้าต้องมานั่งทานข้าวกับพ่อ"
"เจ้าค่ะท่านพ่อ ได้ข่าวมาว่าท่านพี่ออกเรือนมาได้ 2 ปี แล้วหลังจากที่ข้าไปอยู่กองทัพท่านพ่ออยู่ผู้เดียวคงเหงาแย่เลยสินะเจ้าคะ"
"พ่อก็เหงาอยู่แต่ก่อนพ่อมีเจ้าทั้งสองคอยอยู่กับพ่อ แต่พอเจ้าทั้งสองคนนึงออกเรือนคนนึงออกรบพ่อก็เหงา แต่เพื่อชาติบ้านเมืองพ่อไม่ได้ว่าอะไร พ่อคนนี่จะเก็บความเหงานี้ไว้ในใจให้ลึกที่สุด เพื่อไม่ให้เจ้าต้องลำบากใจทั้งสองคน"
"ท่านพ่อลูกนี้ขออภัยท่านพ่อ ลูกนั้นเป็นเด็กกตัญญูจริงๆ ท่านพ่อวันนี้ลูกจะทำอาหารให้ท่านพ่อทานดีไหมเจ้าคะ ท่านพ่อชอบอะไรรู้จะทำให้เฉพาะทางทั้งหมดเลย"
"ดีจริงๆที่เจ้ากลับมาพ่อเบื่ออาหารฝีมือพ่อครัวของจวนเราแย่แล้ว555+"
"งั้นลูกจะทำอาหารให้ท่านพ่อทานะเจ้า"
ข้าทำอาหารให้ท่านพ่อเสร็จ ข้ากับท่านพ่อก็ร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน ท่านพ่อที่มีรอยยิ้มขึ้นเยอะกว่าแต่ก่อน ท่านพ่อส่งยิ้มมาให้ข้า ท่านพ่อคงจะเหงามากจริงๆ ถึงได้มีสีหน้าที่เศร้าหมองถึงเพียงนี้ ใจของข้ากลับรู้สึกผิดในทันทีทันพอของข้าต้องเป็นเช่นนี้ก็เพราะตัวของข้าเองไม่เคยคิดเลยว่าท่านพ่อของข้าจะเป็นถึงเพียงนี้หากเสร็จศึกสงครามแล้ว ข้าจะกลับมาดูแลท่านพ่อให้ดีที่สุด
"อี้หลิงเจ้าจะไปรบอีกครั้งเมื่อใดเล่า"
"อีก 2 เดือนเจ้าค่ะท่านพ่ออีก 2 เดือนข้าก็จะออกรบไม่รู้ว่าจะกลับมาตอนใดแต่ก่อนที่จะถึง 2 เดือนข้างหน้าถ้าจะคอยดูแลปรนนิบัติท่านอย่างบุตรที่มีต่อบิดา"
"ปากหวานเสียจริงอี้หลิง อยู่กับพ่อตลอด 2 เดือนนี้ก็แล้วกันนะ"
"เจ้าค่ะท่านพ่อ"
"เจ้ามีคนรู้ใจบ้างหรือยัง ณตอนนี้"
"ไม่มีเจ้าค่ะลูกไม่คิดที่จะมีคนรู้ใจอีกและไม่คิดที่จะแต่งงานมีครอบครัวอีกครั้งลูกอยากอยู่อย่างนี้ตลอดไปเจ้าค่ะ"
"เจ้าชอบใครสักคนเจ้าก็คงจะเปลี่ยนใจเองพ่อไม่ห้ามเจ้าหรอกนะ ถ้าคนผู้นั้นชอบเจ้าและไม่ติฉินเรื่องที่เจ้าเคยแต่งงานและหย่าร้างมาแล้วและยอมรับในสิ่งที่เจ้าเป็นได้พ่อก็ยินดีที่จะมอบเจ้าให้เขา"
"เจ้าค่ะท่านพ่อ"
นี้คือในรอบหลายปีที่ข้าเริ่มเดินเที่ยวตลาดซื้อของแต่งตัว เพื่อที่จะไปชมงานในคืนนี้เป็นงานเลี้ยงที่จะมีแต่ขุนนางทั้งหลายเข้ามาร่วมในงานในคืนนี้ด้วย ข้ามากับสาวใช้ประจำกายก่อนที่ข้ายังไม่ได้เข้ากองทัพก็มีนางคอยดูแลเสมอ และในคืนนี้ข้าก็ต้องแต่งกายให้ดูสวยงามเพื่อที่จะเข้าร่วมชมงานเลี้ยง ในคืนนี้จะมีสกุลไป๋สกุลไป่เข้าร่วมงานด้วยจึงทำให้ข้าต้องเตรียมตัวไปอย่างดี คงจะได้ปะทะฝีปากสักคำไม่ได้พบกันเสียนาน