บท
ตั้งค่า

ตอนที่​ 3

ตอนที่​ 3

จวนสกุลมู่

ข้านั่งรถม้ากลับสู่สกุลมู่ที่เป็นสกุลเกิดของข้า พ่อบ้านใหญ่รีบมารอข้าที่หน้าจวน​ แม้ใบหน้าของพ่อบ้านใหญ่จะยิ้มยินดีที่ข้ากลับมา​ แต่ก็ยังเห็นน้ำตาของพ่อบ้านใหญ่อยู่เขาเลี้ยงดูข้ามาตั้งแต่เด็กย่อมต้องเสียใจที่ข้าโดนเช่นนี้ข้าเองก็ไม่สะดวกใจที่จะพูดอันใดได้อีกแล้วต่อแต่นี้ชีวิตของข้า​ ข้าจะลิขิตมันเอง

"คาราวะคุณหนู"

"ท่านพ่ออยู่ที่ไหนหรือท่านพ่อบ้านใหญ่"

"ห้องหนังสือขอรับคุณหนู เชิญท่านตามมาขอรับ"

"ข้าจากสกุลมู่ไปเป็นปี แต่ข้ายังจำทางเดินบ้านเกิดข้าได้​ ท่านพ่อนบ้านใหญ่ไม่ต้องห่วงข้าหรอก ตอนนี้ข้าหย่ากับสามีแล้วคงต้องอยู่ที่นี่นี่อีกนาน"

"คุณหนูพูดจริงๆหรือขอรับ"

"จริงๆข้าเขียนจดหมายมาใ้ท่านพ่อนานแล้วจนตอนนี้เก็เกือบเดือนแล้วข้าก็ขอพักใจที่นี้ก่อนแล้วค่อยกลับไปเข้ากองทัพอย่างที่ตั้งใจเอาไว้"

"แต่ท่านหมอมู่จะไม่ว่าอะไรหรือที่คุณหนูจเข้ากองทัพทหารน่ะขอรับ"

"ก็นี่แหละที่ข้าจะเข้าไปหาท่านพ่อ"

ข้าเดินเข้าไปที่ห้องหนังสือที่ท่านพ่อเขียนหนังสืออยู่ โดยมีแต่เทียบยามากมายวางเอาไว้ซึ่งข้าคิดว่าองค์ฮ่องเต้ทรงเรียกท่านพ่อเข้าเฝ้าแน่นอนแต่ท่านพ่อที่เกลียกชั่งฮ่องเต้นั้นไม่มีทางเข้าเฝ้าเด็ดขาดแม้อาจจะเสี่ยงด้วยการหัวขาดก็ตาม

"คาราวะท่านพ่อ"

"กลับมาถึงนานหรือยังอวี้หลิง"

"พึ่งกลับมาถึงเจ้าค่ะท่านพ่อสบายดีหรือไม่"

"พ่อคิดถึงเจ้าทุกวัน ตั้งแต่เจ้าแต่งออกไปพ่อนี้คิดถึงเจ้ามากพ่อไม่คิดเลยว่าบุตรสาวที่ข้าเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยตบตีแม้แต่น้อยกลับโดนครอบครัวสามีทำร้ายขนาดนี้พ่อเจ็บปวดเหลือเกิน"

"ท่านพ่อตอนนี้ลูกกลับมาแล้วนะเจ้าค่ะข้าพาหลานท่านกลับมาด้วยนะเจ้าค่ะ"

ข้าถือป้ายวิญญาณของบุตรข้ากลับมาด้วยแม้ในสายตาของคนสกุลไป่จะมองว่าบุตรที่ตายไปนั้นไร้ค่า​ แต่ข้ามองว่าบุตรข้าคือสิ่งที่มีค่ามากกว่าคนสกุลไป่รวมกันเสียอีก

"เจ้าพาหลานข้ากลับมาก็ดีแล้วตอนนี้เย็นมากแล้วเราไปทานข้าวกันก่อนเถอะอวี้หลางรอเจ้าอยู่นะ"

"เจ้าค่ะท่านพ่อ"

ข้าเดินมาถึงโต๊ะอาหารท่านพี่ของข้ายืนมองข้าด้วยน้ำตานองหน้า​ ข้าวิ่งเข้าไปกอดให้ท่านพี่เอาไว้อย่างแนบแน่นท่านพี่ก็ร้องไห้ตาม​ ข้าดีใจที่ได้เจอท่านพี่อีกครั้ง ท่านพี่ของข้ากอดข้าแล้วปลอบใจข้า​ ท่านพี่ส่งยิ้มหวานๆมาให้ข้าเสมอ​ แม้ในยามข้าหมดกำลังใจท่านพี่อวี้หลางก็จะเป็นกำลังใจให้แก่ข้าผู้นี้เสมอมา

"ท่านพี่ข้ากลับมาแล้ว"

"น้องพี่เจ้ากลับมาก็ดี"

"ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกินมาทานข้าวกันพี่เตรียมอาหารที่เจ้าชอบเอาไว้ด้วยนะ"

"ขอบคุณท่านพี่มากนะเจ้าค่ะ"

"เจ้าดูผอมไปมากนะคนพวกนั้นไม่ได้เอาใจใส่เจ้าเลยหรือ"

"ชั่งเถอะเจ้าค่ะท่านพี่ ตอนนี้น้องอยู่นี้แล้วๆท่านพี่ก็ดูแลน้องสิเจ้าค่ะ"

"เจ้าเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ งั้นเรามาทานอาหารเย็นกันเถอะ อาหารจะเย็นเสียก่อน"

หลังจากทานอาหารเสร็จ ข้าก็เล่าเรื่องที่ข้าจะไปเข้ากองทัพกับท่านอาหญิงจางหลิวอิงให้ท่านพ่อฟัง ท่านพ่อแต่เดิมไม่ชอบให้ข้าเข้าไปเป็นทหารแต่ครั้งนี้กลับยอมรับอย่างง่ายดาย​ ข้านั้นก็ดีใจที่ท่านพ่อยอมรับแล้ว​ ขอเพียงให้ได้ใช้ชีวิตที่ดีไหนเลยข้าจะไม่เอา​ ท่านพ่อคงคิดเช่นนั้นเหมือนกันกระมัง

"พี่ได้ยินจากข่าววงในมาว่าจะมีการขัดเลือกผู้มีความสามารถด้านบุ๋น บู๋เข้ามารับใช้ฝ่าบาทในอีกสองเดือนข้างหน้าด้วย​ ก่อนที่ท่านอาสะใภ้จางหลิวอิงจะกลายมาเป็นแม่ทัพปีกซ้ายก็ผ่านการคัดเลือกแบบนี้เหมือนกันเจ้าก็ลองไปทดสอบดู"

"เจ้าค่ะท่านพี่"

สองเดือนต่อมา

ข้าเข้ารับคัดเลือกเป็นข้างบุ๋นบู๋เลยตอนนี้ข้าวสารเข้ามาที่รอบที่สองของการคัดเลือกวันนี้คัดเลือกการต่อสู้ระยะประชิดล้มคู่ต่อสู้ให้ได้ทั้งหมด 100 คนถ้าใครยืนอยู่ได้เป็นคนสุดท้ายผู้นั้นก็จะเป็นคนชนะ

มีสตรีที่เข้าการคัดเลือกอยู่ 2 คนรวมถึงข้าด้วยเช่นกัน​ นอกนั้นก็เป็นบุรุษมากหน้าหลายตาร่วมถึงไป่หยินหยางที่มาเข้ารับคัดเลือกด้วยในครั้งนี้​ เขาไม่ได้มาคนเดียวยังพาครอบครัวที่น่าขนลุกและน่าเกลียดหน้าชังพวกนั้นมาเป็นกำลังใจอีกด้วย ฝั่งข้านั้นก็มีท่านพ่อ ท่านพี่ นั้นก็เพียงพอแล้ว

ไป่หยินหยางมองหน้าด้วยความหมายที่ยากจะบอกแก่ข้า แต่ข้าหาได้สนใจมันผู้นั้นไม่​ ข้าจะทำให้พวกคนสกุลไป่ กับสกุลไป๋ได้เห็นว่าข้าไม่ใช่หมูที่จะจูงไปไหนได้ง่ายอีกต่อไป​ การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นข้าได้ล้มคู่ต่อสู้มากมายนับไม่ถ้วนจนถึงคนสุดท้ายที่ข้าต้องล้มมันให้จงได้​ นั่นก็คืออดีตสามีของข้าผู้น่าชังนั้นเองคนผู้นี้เก่งไม่เบาแต่ครั้งนี้คงไม่รอดเป็นแน่

"ช้าก่อนพวกเจ้าสองคนเป็นสามี ภรรยากันไม่ใช่หรือ"

"ขออภัย และขออนุญาตทูลฝ่าบาท​ หม่อมฉันหย่าขาดจากอดีตสามีแล้วเพคะ"

"เป็นเช่นนั้นหรือ เจินก็หวังว่าเจ้าจะชนะและแข็งแกร่งเหมือนมารดาของเจ้านะมู่อวี้หลิง"

"ขอบพระทัยเพคะ"

การต่อสู้ระหว่างอดีตสามีและตัวข้าก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง​ แม้จะมองว่าอดีตสามีได้ฝึกยุทธมายาวนาน​ แต่ก็คงสู้ข้าไม่ได้เพราะเขามัวแต่รื่นเริงกับสตรีผู้เป็นภรรยาใหม่ของเขา​ และเขาก็ไม่ได้ฝึกฝนนักขัดเกลาตนเองอยู่เสมอ​ ข้าจึงคิดว่าควรฝึกฝีมืออีกมากและยิ่งมาสู้กับข้าผู้มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้​ ไม่มีทางที่จะชนะข้าได้และก็เป็นอย่างที่ข้าคิดในใจ​ อดีตสามีข้าโดนข้าเตะอย่างเลือดเย็นโดยไม่สามารถสู้ข้าได้เลยแม้แต่นิดเดียว​ ข้ามองใบหน้าของอดีตสามีแล้วจ้องมองด้วยสายตาที่ดูถูกอย่างยิ่ง​ อดีตสามีไม่เหมาะสมที่จะมายืนอยู่ตรงหน้าข้าเลยแม้แต่น้อย​ ข้าไม่รู้ว่าอดีตสามีนั้นคิดอย่างไรถึงเข้ามาสู้รบปรบมือขนาดนี้​ แต่ที่แน่ๆคือภรรยาของเขาก็คงเป็นคนบอกให้อดีตสามีเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ด้วยอย่างแน่นอน​ หาเรื่องเจ็บตัวโดยแท้หนอคนโง่เขลาให้สตรีจูงจมูก​จะมึปัญญา​ใดมาคิดเรื่องนี้ได้กันไม่มีทางเอาเสียหรอก

"ด่านแรกด้านสติปัญญาการวางแผนรบ มู่อวี้หลิงชนะ"

"ด่านที่สองการต่อสู้ระยะประชิดตัว มู่อวี้หลิงชนะ​"

"ด่านที่สามการยิงธนูระยะใกล้ ไกล มู่อวี้หลิงชนะ"

"จึงประกาศว่ามู่อวี้หลิงชนะการแข่งขันคัดเลือกในครั้งนี้ "

"มีราชโองการให้แต่งตั้งมู่อวี้หลิงเป็นรองแม่ทัพปีกขวา คอยดูแลและช่วยเหลือแม่ทัพปีกขวา และให้ผ้าใหมหนึ่งร้อยพับ ให้เงินหนึ่งหมื่นตำลึงทอง ให้ที่ดินหนึ่งพันไร่ จบราชโองการ"

"ขอบพระทัยฝ่าบาท ทรงอายุยืนหมื่นๆปี หมื่นๆปี"

ข้าที่กำลังจะกลับไปยังสกุลข้าก็เจอกับอดีตแม่สามีที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด​หมายจะทำร้ายข้า นางนั้นยกมือขึ้นมาหมายจะตบใบหน้าของข้า​ แต่ข้าคว้ามือของนางแล้วกำแน่นจนคนสกุลไป่กับไป๋ต่างพากันตกใจที่ข้าทำแบบนี้ในวัง

"เจ้านี้บังอาจยิ่งนัก!!"

"คนที่บังอาจคือภรรยาของท่าน ท่านผู้เฒ่าไป่ นางเดินเข้ามาหมายจะทำร้ายข้าคงจะลืมไปเสียแล้วว่าข้าไม่ใช่คนในครอบครัวนางพวกท่านคงลืมหมดสิ้นแล้วว่าข้าเอ่ยอะไรกับพวกท่านบ้าง"

"เจ้าจะทำร้ายท่านแม่ข้าไม่ได้นะ!!"

"ข้าบอกแล้วต่างคนต่างอยู่ แต่มารดาเข้ามายุ่งกับข้าก่อนถ้ายังไม่อยากตายตอนนี้ควรที่จะรู้ว่าสิ่งใดควรทำมิควรทำอย่าทำให้เด็กเช่นข้ามาถอนงอกท่านเลย"

"เจ้านี้ชั่งบังอาจสอนข้า เจ้าคงไม่ได้ตายดีแน่"

"ใช่คนเช่นข้ามันตายไปพร้อมกับบุตรของข้าแล้วพวกท่านอย่ามาก้าวก่ายชีวิตของข้าอีกไม่เช่นนั้นไม่ใช่แค่โดนด่าและบีบข้อมือเช่นนี้แน่ ข้าขอตัว"

"นังเด็กสารเลวเจ้ามันก็เลวเหมือนแม่ของเจ้าที่ตายไปสมควรที่นางถูกบิดาข้าตัดหัวนางออกมา!!!!"

"ไป๋อิงเย่ว!!!"

ข้ามองตาขวางด้วยความเกรี้ยวกราวด​ เดินเข้าไปกระชากนางออกจากวังก่อนที่จะกระชากผมนางลากตามพื้นออกไป​ ปากดีย่อมสมควรตายครั้งนี้หยามเหยียดข้า​ ข้าเองก็จะหยามเหยียดนางเช่นกัน​ คดีของท่านแม่ของข้านั้นถูกล้างมลทิน​ไปหมดแล้วกล้าเอ่ยต่อว่าเรื่องนี้ต่อหน้าข้าและคนมากมายนางย่อมจะทำให้ข้าโกรธแค้นนางมากขึ้น

"หยุดเดี๋ยวนี้นะมู่อวี้หลิง!!"

"หุบปากซะ!!!!"

ความโมโหเดือดดาลของข้าเริ่มปะทุขึ้นมาอย่างมากมายในตอนนี้สิ่งเดียวที่ข้าทำได้ในตอนนี้คือข้าอยากที่จะฆ่าไป๋อิงเย่วคนแรกในรอบหลายปี​ แต่การที่ลากนางออกมาก็ทำให้นางอับอายแทนก่อนจะเอาเรื่องเก่าหลังมาต่อว่านางให้อับอายไม่กล้าออกจากจวนมาเผยโฉม​ต่อหน้า​ใครได้​อีกต่อไป​

"เจ้าปล่อยนางเถอะนางตั้งครรภ์อยู่"

"เจ้าคงลืมไปแล้วว่านางไม่ใช่แม่ข้าเสียหน่อย เจ้าไม่รู้หรอแม่ข้าโดนมันผู้นั้นตัดหัวไปแล้ว​ ใยข้าจะปล่อยนางกัน​ แต่ดีหน่อยแม่ของนางก็โดนแม่ข้าตัดหัวเช่นกัน!​สันดานเมียน้อยมีสืบทอดจากแม่สู่ลูกได้จริงๆ!! แม่เป็นเมียน้อยผู้อื่น!​ นางก็วิ่งโล่มาเป็นเมียน้อยผู้อื่นเช่นกันทำเรื่องเลวทรามคิดว่าคนอื่นจะทำเหมือนตนหรือไรกัน!"

"เจ้าปล่อยข้านะ!!"

"ถ้าเจ้าทำอย่างนี้สิ่งที่เจ้าทำมามันต้องสูญเปล่าแน่นอน"

"เจ้าคงลืมไปแล้ว หลังเหตุการณ์นั้นที่ท่านแม่ข้าตายไปฝ่าบาทได้มอบป้ายอาญาสิทธิ์ให้แก่ท่านพ่อมู่หยาง​ ถ้าหากสกุลไป๋มารังแกจนพลาดพลั้งฆ่ากันจะไม่มีการเอาผิดใดๆได้​ หนี้แค้นจำต้องชำระ ถ้าเจ้าไม่อยากให้บุตรสาวคนโปรดนี้ตายให้นางกราบขอโทษข้าต่อหน้าทุกคนและขอโทษท่านแม่ของข้าที่ล้วงลับไปแล้วด้วย!!"

"ไม่!!!!!"

"ได้ เจ้ารู้มั้ยก่อนที่ข้าจะแต่งเข้ามานั้นข้าหักคอหมีด้วยมือเปล่ามาแล้วนับประสาอะไรกับมนุษย์โง่เช่นเจ้าอิงเย่ว!!!!"

"ข้า...ข้าขอโทษ ที่ล้วงเกินเจ้าแล้วก็มารดาของเจ้า ต่อไปข้าจะไม่พูดถึงมารดาเจ้าอีกข้าขอโทษปล่อยข้าไปเถอะนะ"

"นี้คือบทเรียนแรกของเจ้าถ้าต่อไปเจ้ากล่าวถึงมารดารข้าแบบวันนี้อีกข้าจะตัดหัวเจ้าเหมือนที่บิดาเจ้าตัดหัวมารดาข้าแน่!!!!!"

"อวี้หลิงสงบสติอารมณ์เสียเถิดเจ้าใจเย็นๆแล้วปล่อยนางกลับมาพี่จะพาเจ้ากลับบ้านเจ้าใจเย็นๆนะ"

"เจ้าค่ะท่านพี่"

ข้าเดินตามท่านพี่กลับจวนในใจข้ามีแต่ความแค้นที่รอวันชำระ​ มันผู้นั้นที่กระทำกับตัวข้า​ ลูกข้า​ มารดาข้า ข้าจะไม่ปล่อยมันเอาไว้แน่นอน​ ข้าจะทำให้มันตายทั้งเป็น​ พวกมันที่กระทำการดูถูกเหยียดหยามจะต้องจบชีวิตด้วยคำพูดของพวกมัน​ ข้าไม่อยากรังแกใครและไม่ต้องการให้ใครมารังแกข้า จิตใจของข้าไม่อาจแยกแยะได้ว่าในตอนนี้นอกจากครอบครัวของข้าแล้วจะมีผู้ใดดีกับข้าเยี่ยงครอบครัวอีกหรือไม่​ ตอนนี้ข้าได้เป็นรองแม่ทัพปีกขวาก็จะทำงานของข้าให้ดีที่สุด​ ถ้าข้าได้ออกรบข้าก็จะสู้ให้สุดใจทำเพื่อบ้านเมืองให้ดีที่สุด​ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้าปกป้องแคว้นนี้ให้จงได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel