คนโง่เท่านั้นแหละ
"ท่างป้อ ท่างป้อตึ่ง ท่างป้อตึ่งเย็วๆ" ลู่จิวปลุกพ่อให้ตื่นขึ้นมาในเช้าของวันใหม่ ที่อากาศไม่หนาวมากนัก แล้วร่างกายของเขาก็มีเรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่เมื่อวานท้องอิ่ม แล้วก็ได้กินยาแก้ไข้ไปแล้ว
"อื้อ...หืออ ลู่จิว เจ้าปลุกพ่อทำไม" ชัดลืมตาขึ้นมาด้วยความงง แต่เขาก็รู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ร่างกายของเขาดูมีเรี่ยวแรงขึ้น หลังจากที่เขาแบ่งซาลาเปาที่เหลือคนละครึ่งลูกกินกับลู่จิว แล้วเขาก็กินยาคล้ายกับยาลูกกลอนนั้นไปอีกสองเม็ดก่อนนอน เมื่อวานไม่มีใครมาหาเขาเลยนอกจากหนิงหลง ซึ่งเขาก็คิดว่าเป็นการดี ที่เขาจะได้มีเวลาฟื้นฟูสภาพของร่างกายให้แข็งแรงขึ้นกว่านี้
"ท่างป้อ ข้าหิว ข้ากิงก้าว ท่างป้อข้ากิงก้าวแย้ว ข้ากิงอีก" ลู่จิวบอกกับพ่อด้วยนํ้าเสียงที่สดใส เพราะเขาคิดว่าเขาจะได้กินของอร่อยอย่างเมื่อวานนี้อีก
"ลู่จิว รออีกสักครู่นะลูก เจ้ามานอนต่ออีกสักหน่อยไหม ถึงตื่นขึ้นมาเราก็ไม่มีอะไรทำ" ชัดบอกกับเด็กน้อย อย่างไม่รู้ว่าจะทำยังไง เขาคิดว่าการนอน กับการเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด จะช่วยทำให้ลดความหิวได้
"ม่ายนองนะ ข้าม่ายนอง ท่างป้อ ข้ากิงก้าว ท่างป้อ ข้ากิงก้าวแย้ว ข้าม่ายนองแย้ว" ลู่จิวบอกกับพ่อด้วยนํ้าเสียงที่ออดอ้อน
"เดี๋ยวพ่อขอเข้าห้องนํ้าก่อนได้หรือไม่" ชัดบอกกับเด็กน้อย จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้อยากจะใช้ห้องนํ้าหรอก แต่เขาไม่รู้จะทำให้ลู่จิวลืมความหิวได้ยังไง เพราะว่าลู่จิวเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ และถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เขาก็ไม่อยากจะใช้ห้องนํ้าเลย เพราะว่าห้องนํ้าที่ว่า ใช้ทำธุระได้ก็จริง แต่ไม่มีนํ้าราด มันเป็นห้องนํ้าหลุมสมัยเก่า ที่ไม่ได้ใช้นํ้า และมันเหม็นมาก จนเขาไม่อยากเปิดประตูเข้าไปดมกลิ่นของมันเลย
"ม่าย ท่างป้อข้า..."
"เข่อซิง...อาการของเจ้าดูดีขึ้นแล้วหนิ วันนี้เจ้าคงจะออกไปช่วยงานคนอื่นได้แล้วนะ" พ่อบ้านหยุนเดินเข้ามาในห้องใต้ดิน ก่อนที่เขาจะมองเข่อซิงไปทั่วทั้งตัวอย่างพิจารณา
"ได้สิ ถึงร่างกายของข้าจะยังไม่หายดีนัก ข้าก็ทำงานให้พ่อบ้านหยุนได้ แต่พ่อบ้านหยุนจะให้ข้าทำงานแลกกับอะไรเล่า ข้าว อาหาร นํ้า แต่ถ้าท่านจะให้ข้าทำงานให้ โดยที่ไม่ให้สิ่งใดตอบแทน ข้าไม่ทำให้หรอกนะ ข้าทำงานที่นี่ก็เพื่อแลกกับ..."
"เข่อซิง!! เจ้าจะเนรคุณ..."
"หรือว่าพ่อบ้านหยุนทำงานที่นี่ โดยที่ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนเช่นนั้นรึ หรือว่าทำงานเพื่อแลกกับที่อยู่อาศัย หรือว่าอาหารเท่านั้น เงินทองท่านก็ไม่ได้เอาหรอกรึท่าน หรือยังไง อย่ามาอ้างคำว่าบุญคุณ ที่อยู่ตรงนี้ ข้าควรที่จะนึกถึงบุญคุณอย่างนั้นรึ เมื่อวานข้าวสักเม็ดนํ้าสักหยด ท่านก็ยังไม่ให้ใครเอามาให้ข้ากินเลย อย่ามาเรียกร้องให้ข้าทำงาน เพื่อตอบแทนบุญคุณ พ่อบ้าน..."
"เข่อซิง!! เจ้าเอาความคิดที่เลวทรามตํ่าช้าเช่นนี้มาจาก..."
"คนโง่เท่านั้นแหละที่คิดไม่ได้ ไหนเล่า...ท่านลองบอกกับข้ามาสิ ท่านจะให้ข้าทำงานแลกกับอะไร แล้วอีกอย่าง...ข้าก็จะไม่อยู่ที่ห้องใต้ดินนี่อีกแล้วนะ ถ้าท่านให้ที่อยู่ที่ดีกว่านี้กับข้าไม่ได้ ข้าก็จะลาออกไปหางานที่บ้านอื่นทำ แล้วข้าก็จะไปบอกกับทุกบ้านเลย ว่าข้าโดนพ่อบ้านหยุนรังแกมา" ชัดพูดขัดขึ้นโดยที่ไม่ยอมให้พ่อบ้านหยุนได้พูดจบก่อน
"เข่อซิง!! เจ้า..."
"ว่าไงเล่า ท่านคิดได้รึยัง ว่าท่านจะให้อะไรเป็นการตอบแทนข้า ถ้าข้าทำงานให้" ชัดอมยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นพ่อบ้านหยุนโมโหจนสั่นไปทั้งตัว
"ท่างป้อ ข้ากิงก้าวแย้ว..."
"ลู่จิว เราออกไปจากที่นี่กันเถอะ" ชัดไม่พูดเปล่า เขาจูงมือของลู่จิว พาเดินผ่านทางด้านหน้าของพ่อบ้านหยุน ออกไปจากห้องใต้ดิน โดยที่ไม่มองหน้าของพ่อบ้านหยุนเลย
"เข่อซิง!! เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ ใครเป็นคนอนุญาตให้เจ้าออก..."
"แล้วทำไมข้าต้องรอให้ใครอนุญาตด้วยเล่า" ชัดหันกลับไปตอบพ่อบ้านหยุน หลังจากที่เขาเดินพ้นออกมาจากประตูห้องใต้ดินได้แล้ว
"เจ้ามีความผิด..."
"ความผิดที่ใครเป็นคนตัดสินเล่า เจ้าของบ้าน หรือว่าพ่อบ้านหยุน" ชัดเอามือกระแทกประตูห้องใต้ดินปิด ก่อนที่เขาจะเดินจูงมือของลู่จิวออกมาจากตรงนั้นทันทีที่เขาพูดจบ ในขณะที่พ่อบ้านหยุนยืนอ้าปากค้างอยู่ เหมือนกับคิดไม่ถึง ว่าจะมาเจอในสิ่งที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน ไม่มีทาสรับใช้คนไหน กล้าพูดกับเขาอย่างที่เข่อซิงพูดเลย และที่ผ่านมา เข่อซิงไม่เคยพูดหรือว่ามีท่าทาง ที่ถ่อยกับเขาแบบนี้มาก่อน
"มีใคร...มีใครอยู่ตรงนั้นบ้าง" พ่อบ้านหยุนเรียกคนของตัวเองให้มาช่วย เมื่อสติของเขากลับคืนมาแล้ว
"พ่อบ้านหยุนขอรับ..."
"เปิดประตูให้ข้าสิ เจ้าจะมายืนหน้าโง่อยู่ทำไมเล่า แล้วทำไมไม่จับตัวของเข่อซิงเอาไว้" พ่อบ้านหยุนตะคอกใส่หน้าของเจียวหั่วด้วยความโมโห
"ก็...ก็พ่อบ้านหยุนเป็นคนปล่อยเข่อซิง..."
"ใครบอกเจ้า...เจียวหั่ว!!" พ่อบ้านหยุนกัดฟันถามเจียวหั่วเสียงสั่น และไม่ได้สั่นแค่เสียง เขาโมโหจนสั่นไปทั้งตัว
"เข่อซิงบอกว่าพ่อบ้านหยุนใจดี ให้เข่อซิงไปกินข้าวในครัวได้ขอรับ" เจียวหั่วมองพ่อบ้านหยุนด้วยสายตาที่หวาดกลัว เพราะว่าตอนนี้ หน้าของพ่อบ้านหยุนแดงกํ่าแถมยังมีเส้นเลือดปูดออกมาอีกด้วย
"เข่อ...ซิง ฮึม...ม" พ่อบ้านหยุนหลับตาลงแล้วกำมือแน่นด้วยความโมโห เขายืนนิ่งอยู่สักพัก เพื่อระงับความโมโหของตัวเองเอาไว้ให้ได้ ก่อนที่เขาจะทำอะไร เพื่อที่จะทำให้เข่อซิงโดนลงโทษในสิ่งที่ทำลงไปเมื่อกี้ เข่อซิงกล้ามากที่ปิดประตูห้องใต้ดินขังเขาเอาไว้
...
"เข่อซิง!! เจ้าเข้ามาในครัว..."
"หนิงหลง เจ้าหาข้าวให้ข้ากับลู่จิวกินได้หรือไม่ พ่อบ้านหยุนใจดี ให้ข้ามาหาอะไรกินในครัว แล้วค่อยไปทำงานช่วยคนอื่น" ชัดบอกกับหนิงหลงหน้าตาเฉย เขาไม่ได้โกหกใคร เพราะว่าเขาก็ถามพ่อบ้านหยุนแล้ว ว่าจะแลกกับอะไร ถ้าเขาทำงานให้ แต่พ่อบ้านหยุนคิดช้าไม่ทันใจเขา เขาก็เลยคิดให้แทนแค่นั้นเอง
"ได้สิ รอสักครู่ อ่ะนี่ซาลาเปากับนํ้า ลู่จิวกินลองท้องไปก่อนนะ เดี๋ยวข้าจะเอาข้าวกับอาหารอื่นๆมาให้กิน" หนิงหลงยกซาลาเปามาให้ลู่จิวทั้งจานด้วยความตื่นเต้นดีใจ ที่สองพ่อลูกได้ออกมาจากห้องใต้ดินสะที
"โอ้ว...ท่างป้อ ข้าได้ อุ๊บ!!"
"กินเถอะลู่จิว เจ้าอย่าพูดตอนที่กำลังกิน เดี๋ยวจะติดคอของเจ้าได้" ชัดยัดซาลาเปาเข้าปากของลู่จิว เพราะเขากลัวว่าลู่จิวจะพูดเรื่องซาลาเปาเมื่อวาน แล้วจะทำให้หนิงหลงเดือดร้อนเอา ซึ่งตัวเขาเองก็หยิบซาลาเปาขึ้นมากินเหมือนกัน จะเรียกว่ากินก็ไม่ใช่สะทีเดียว เรียกว่ายัดซาลาเปาทั้งลูกเข้าปากเลยดีกว่า เพราะว่าเขาต้องทำเวลา ก่อนที่พ่อบ้านหยุนจะให้ใครมาตามเขากลับไปอีก
"อ่ะนี่ข้าวกับอาหาร เดี๋ยวข้าจะเอายามาทาให้เจ้านะเข่อซิง เจ้าดูดีขึ้นมากเลยนะ" หนิงหลงพูดพร้อมกับมองเข่อซิงไปด้วยอย่างพิจารณา
"เป็นเพราะเจ้า ทำให้อาการของข้าดีขึ้นเช่นนี้ หนิงหลง...ข้าต้องขอบคุณเจ้ามาก" ชัดก้มหัวให้หนิงหลงเป็นการขอบคุณ ก่อนที่เขาจะหยิบชามข้าวขึ้นมาเตรียมที่จะกิน
"เข่อซิง...พ่อบ้านหยุนให้ข้ามาตามเจ้าไปหาที่ห้องโถง คุณหนูอี้เฉินมีเรื่องจะคุย..."
"ได้สิ ข้าต้องไปอยู่แล้ว แต่ข้าขอกินข้าวกินยาก่อนนะ ไม่งั้นเดี๋ยวข้าจะไม่มีแรงทำงาน จริงไหมพวกท่าน" ชัดพูดพร้อมกับหันไปขอความเห็นจากคนงานทุกคน ที่ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองอยู่อย่างตั้งใจ ทุกคนมองหน้ากันไปมาด้วยความงง ที่เข่อซิงกล้าพูดอะไรอย่างนี้กับเจียวหั่ว คนสนิทของพ่อบ้านหยุน
"เข่อซิง...นี่เจ้ากล้าขัดคำสั่งของพ่อบ้านหยุน..."
"ใครบอกกับเจ้าเล่า นี่ข้าก็ทำตามคำสั่งของพ่อบ้านหยุนนะ" ชัดพูดไปยัดข้าวเข้าปากไป เพราะเขาไม่รู้ว่า หลังจากนี้เขาจะได้กินข้าวอีกเมื่อไหร่ โอกาสแบบนี้ มันคงไม่มีมาบ่อยๆหรอก
"เจ้า!!..."
"เจียวหั่ว ถ้าเจ้าอยากจะให้ข้ารีบไปเร็วๆ เจ้าก็เงียบปากได้แล้ว ข้าจะได้รีบกิน ลู่จิว...เจ้าอิ่มแล้วรึ" ชัดหันไปถามเด็กน้อย ที่เหมือนจะกินข้าวอิ่มแล้ว เขาแกล้งทำเป็นไม่สนใจเจียวหั่ว ที่เดินหน้าตั้งออกไป เหมือนกับจะรีบไปฟ้องพ่อบ้านหยุนอย่างนั้นแหละ
"เข่อซิง ทำไมเจ้าไม่รีบไปตามคำสั่งของพ่อบ้านหยุนเล่า เจ้ารู้ไหม ถ้าคุณหนูอี้เฉินมารอเจ้า อะไรจะเกิดขึ้น" หนิงหลงบอกกับเข่อซิงด้วยนํ้าเสียงที่เป็นกังวล
"ไปตอนนี้หรือว่ารออีกหน่อย ข้าก็โดนอยู่ดี สู้ข้ากินข้าวให้อิ่มแล้วค่อยไปไม่ดีกว่ารึ อย่างน้อยข้าก็ได้กินข้าวอิ่ม ข้าขอบคุณท่านมากสำหรับข้าวแล้วก็ยา ข้ากับลู่จิวจะไม่ลืมบุญคุณของเจ้าเลย ลู่จิว เราไปกันเถอะ" ชัดเอ่ยขอบคุณหนิงหลง ก่อนที่เขาจะดื่มนํ้าแล้วค่อยๆลุกขึ้นยืน เขาอุ้มลู่จิวมาแบกใส่หลังแล้วเอาผ้าห่มเก่าๆ ที่ติดตัวเขามาด้วยตั้งแต่ที่อยู่ห้องใต้ดิน มาซ้อนตูดของลู่จิวเอาไว้ เพื่อไม่ให้ลู่จิวร่วงจากหลังของเขาได้
"ท่างป้อ ข้าขี่ม้าแย้ว ท่างป้อ ข้าขี่...ขี่นี่ๆ ฮึฮึ" ลู่จิวพูดพร้อมกับจับที่คอของพ่อไปด้วย เพราะว่าเขาอยากจะขี่ที่คอของพ่อ
"จุ๊ๆ ลู่จิว...เจ้าเงียบๆก่อน" ชัดบอกกับลู่จิว เมื่อเขาเหลือบไปเห็นพ่อบ้านหยุน กำลังเดินนำเจียวหั่วมาทางห้องครัวที่เขาอยู่
"เข่อซิง!! เจ้าจงใจขัดคำสั่งของข้า เจ้า..."
"พ่อบ้านหยุน ท่านใจเย็นก่อนได้หรือไม่ สิ่งใดที่ทำให้ท่านคิดว่าข้าขัดคำสั่งของท่านเช่นนั้นรึ" ชัดเดินเข้าไปหาพ่อบ้านหยุนช้าๆ โดยที่ไม่ยอมหลบสายตาของพ่อบ้านหยุนเลยสักนิด
"เข่อซิง...เจ้าเดินเข้ามาหาข้าทำไม เจ้า...เอ่อ...ถอยไปนะ" พ่อบ้านหยุนสั่งเข่อซิงเสียงเข้มออกดุ แต่ขาของเขาก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว เพราะว่าสายตาของเข่อซิงมันนิ่ง จนเขารู้สึกกลัวแปลกๆ