บท
ตั้งค่า

งั้นข้าก็จะบอกกับเจ้า

"คุณหนูขอรับ ชุดที่สั่งตัดจากเมืองไถเป่ยมาถึงแล้วขอรับ เจียวหั่ว...เจ้ายกหีบนั่นเอามาวางไว้ตรงนี้" พ่อบ้านหยุนชี้บอกกับเจียวหั่วว่าให้เอาไปวางไว้ตรงไหน อย่างรู้ใจคุณหนูอี้เฉินของเขามากที่สุด

"เร็วทันใจข้าจริง พ่อบ้านหยุน ท่านให้ใครไปตามซีห่าวกับจางลี่ ให้มาช่วยข้าลองชุดทีสิ" อี้เฉินบอกกับพ่อบ้านหยุนอย่างอารมณ์ดี ที่ชุดมาทันใจของเธอ ชุดที่เธอสั่งตัดมาใส่ในวันที่ดูตัวของเธอ ซึ่งจะมาถึงในอีกสองวันข้างหน้านี้ เธอสั่งตัดชุดจากเมืองไถเป่ย ที่อยู่ห่างจากเมืองหย่งอานที่เธออยู่ ห่างออกไปไกลกันมาก เดินทางด้วยม้าใช้เวลาถึงสองวัน แต่เธอก็สั่งตัดชุดจากเมืองนี้ เพราะว่าเมืองไถเป่ย มีชื่อเสียงในเรื่องของการตัดชุดให้กับสาวงาม แล้วก็ตัดชุดให้กับลูกสาวของผู้ที่มันอันจะกินทั้งหลาย และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่ตัดชุดจากเมืองนี้มาตลอดเช่นกัน

"ขอรับคุณหนู" พ่อบ้านหยุนหันไปส่งสัญญาณให้กับเจียวหั่ว

"ขอรับพ่อบ้านหยุน" เจียวหั่วก้มหน้ารับคำอย่างรู้งาน ก่อนที่เขาจะรีบไปทำตามคำสั่ง และหลังจากนั้น ความวุ่นวายก็เกิดขึ้น เพราะว่าทุกคนต้องวุ่นวาย กับการเตรียมงานใหญ่ของคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเจิ้ง ถึงจะเป็นแค่งานดูตัว แต่คุณหนูใหญ่ก็ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ รวมทั้งนายใหญ่ของบ้านตระกูลเจิ้งด้วย เพราะว่าคู่หมายที่จะมาดูตัวของคุณหนูใหญ่ มาจากตระกูลหลี่ และเป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลี่ ที่หลายคนในเมืองแห่งนี้และอีกหลายๆเมือง ต้องการที่อยากจะได้คนที่มาจากตระกูลหลี่ มาร่วมกับตระกูลของตัวเอง เพราะว่าตระกูลหลี่ เป็นตระกูลที่เก่าแก่และรํ่ารวยเงินทอง บวกกับทั้งคุณชายใหญ่รูปงามจนผู้คนเอาไปรํ่าลือกัน และน้อยคนนักที่จะเคยเห็นหน้าของคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลี่ เพราะว่าคุณชายใหญ่ทำงานหนัก เป็นหัวเรือใหญ่ให้กับตระกูล ความขยันบวกกับความฉลาดนี้ ทำให้ใครๆก็อยากได้เอามาเป็นลูกเขย คนที่เคยเห็นหน้าของคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลี่ ส่วนมากจะเป็นพวกที่เป็นคู่ค้ากันเท่านั้น

...

"เฮ้อ...อ" ชัดถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่อย เขาค่อยๆเดินไปรอบๆห้องใต้ดินอย่างเชื่องช้า ด้วยสภาพร่างกายของเขายังบอบซํ้าจากการถูกเฆี่ยนตีอยู่ เขาเดินเพื่อจะสำรวจดู ว่าจะมีทางไหนให้เขาหนีออกไปจากที่นี่ได้บ้าง ร่างกายของเขายังไม่ดีขึ้นเลยสักนิด เพราะว่าตั้งแต่เขาฟื้นขึ้นมา เขาได้กินข้าวไปแค่ครั้งเดียว แล้วก็เป็นข้าวที่คลุกดินด้วย ในขณะที่ลู่จิวนอนหายใจรวยรินอย่างคนที่หมดแรงอยู่ ทั้งอากาศที่หนาวเหน็บ แล้วก็ทั้งหิวข้าวจนไม่มีแรงขยับตัว วันนี้ยังไม่มีใครเข้ามาหาเขาเลยสักคน ข้าวกับนํ้าก็ยังไม่ตกถึงท้องเลย

"เข่อซิง เข่อซิง ข้าอยู่ทางนี้เข่อซิง" หนิงหลงเรียกเข่อซิงพร้อมกับกวักมือเรียกไปด้วย แต่เข่อซิงก็ไม่หันมามองเขาเลย

"หือ...เข่อซิง? ใครวะ อ๋อ...ชื่อใหม่ของเรานี่หว่า" ชัดหันไปมองที่มาของเสียง ก่อนที่เขาจะค่อยๆเดินไปหา สายตาของเขาเพ่งมองอยู่นาน กว่าเขาจะเห็นมือของใครสักคนอยู่ที่ผนังด้านบนสุดของห้องใต้ดิน ที่น่าจะมีเอาไว้ให้อากาศถ่ายเทได้

"เร็วๆสิ เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าเรียกรึไง" หนิงหลงถามด้วยนํ้าเสียงที่หงุดหงิด เพราะว่าเขาก็ต้องรีบไปจากที่นี่ ก่อนที่จะมีใครมาเห็นเขา แล้วเอาไปฟ้องพ่อบ้านหยุน

"ข้าลุกขึ้นเดินได้ ข้าก็ถือว่าข้าเก่งมากแล้วนะ" ชัดมองค้อนหนิงหลงไปทีหนึ่ง ที่เร่งเขา ทั้งที่ก็รู้ว่าตอนนี้สภาพของเขา เหมือนกับศพที่เดินได้ ถึงจะไม่มีกระจกให้เขาส่อง แต่มองด้วยตาเปล่า เขาก็พอที่จะเดาสภาพของตัวเองได้

"นี่ซาลาเปากับนํ้าแล้วก็ยา รีบรับไป ก่อนที่จะมีคนมาเจอข้า" หนิงหลงไม่พูดเปล่า เขาโยนของที่ว่าลงไปบนกองฟาง เพราะว่าเขาไม่มีเวลาแล้ว ถ้าจะรอให้เข่อซิงเดินมาถึง เพราะกว่าที่เข่อซิงจะเดินได้แต่ละก้าว เหมือนกับนับหนึ่งให้ถึงหนึ่งร้อยก่อนอย่างนั้นแหละ ถึงจะยกขาขึ้นมาได้แต่ละก้าว

"ท่านช่วยบอกข้าได้หรือไม่ ว่าใครเป็นคนที่ทำให้ข้าเป็นเช่นนี้" ชัดถามด้วยความโมโห เพราะว่าเขายกขาขึ้นก้าวไปไม่ได้ ถึงได้ ก็กลั้นใจยกจนสุดความสามารถ อย่าให้เขาหายนะ เขาจะจัดการเรียงตัวเลย

"เข่อซิง!! นี่เจ้าโดนเฆี่ยนจนความจำเสื่อมไปแล้วรึ งั้นข้าก็จะบอกกับเจ้า" หนิงหลงมองซ้ายมองขวาอย่างระวัง เพราะว่าในขณะนี้ คนงานทุกคน กำลังช่วยกันทำความสะอาดบ้านทั้งหลังอยู่ เขามาที่นี่ได้และมีอาหารมาให้เข่อซิง เพราะว่าวันนี้เป็นเวรที่เขาทำอาหาร และที่เขายอมบอกกับเข่อซิง เพราะว่าเขาสงสารลู่จิวหลานของเขาเอง เมียของเข่อซิงเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา แต่คนในบ้านหลังนี้ไม่มีใครรู้ นอกจากเข่อซิง และเขาจะให้ใครรู้ไม่ได้ เพราะว่าเขาอาจจะโดนฆ่าปิดปากก็ได้ และที่เขายอมบอกเรื่องที่ใครทำร้ายเข่อซิง เพราะเขารู้สึกว่าแววตาของเข่อซิงดูเปลี่ยนไป ไม่ได้อ่อนแอยอมพ่อบ้านหยุนไปสะทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อน

"ข้าจำอะไรไม่ได้เลย รีบบอกมาเถอะ" ชัดพูดพร้อมกับค่อยๆนั่งลงไปบนกองฟาง ตรงที่มีอาหารกับนํ้าที่หนิงหลงโยนลงมาให้เขา เขาคิดว่าเขาคลานเอาน่าจะเร็วกว่าเดิน

"พ่อบ้านหยุนเป็นคนสั่งให้ลงโทษเจ้า โดยที่อ้างว่าคุณหนูอี้เฉินเป็นคนสั่ง ส่วนเมียของเจ้าตกเลือดตาย เพราะว่าถูกคุณหนูอี้เฉินใช้งานอย่างหนักจนคลอดก่อนกำหนด ก็เลยทำให้ตกเลือดตาย ข้าไปแล้วนะ เดี๋ยวจะมีคนสงสัย" หนิงหลงรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว เพราะว่าเขาเห็นเหมือนมีใครสักคนเดินมาทางนี้

"นี่มันเรื่องอะไรวะเนี่ย" ชัดพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่เขาจะคลานเข่าเข้าไปหาลู่จิว ถึงจะช้าหน่อยแต่ก็ดีกว่าเดินแน่นอน

ชัดคลานไปถึงลู่จิวได้ เขาก็อุ้มลู่จิวให้มานั่งบนตักของเขา ก่อนที่เขาจะให้ลู่จิวกินนํ้าทีละหน่อย แล้วเขาก็กินตาม เพราะว่าร่างกายของเขาขาดนํ้าตั้งแต่เขาฟื้นขึ้นมาแล้ว

"ท่างป้อ ข้าหน๊าว" ลู่จิวเหลือบตาขึ้นไปมองหน้าของผู้เป็นพ่อเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหลับตาลงไปใหม่อีกครั้ง อย่างคนที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

"ลู่จิว เจ้าค่อยๆเคี้ยวนะ" ชัดบิซาลาเปาเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่เขาจะป้อนเข้าปากของลู่จิว

"อีก ท่างป้อ ข้ากิงอีก อย่อย ท่างป้ออย่อยม๊ากเยย" ลู่จิวได้กินซาลาเปาคำแรก เขาลืมตาตื่นด้วยความตกใจ เพราะนี่เป็นอาหารมื้อแรก ที่เขาได้กินอร่อยที่สุด

"เดี๋ยวพ่อป้อน ค่อยๆเคี้ยว ค่อยๆกลืน ไม่มีใครแย่งเจ้ากินหรอก" ชัดบอกกับเด็กน้อยด้วยความสงสาร ทำไมเด็กน้อยคนนี้ ถึงได้ลำบากขนาดนี้นะ แม่ของเด็กน้อยทำงานหนักจนคลอดก่อนกำหนด แล้วตกเลือดตายอย่างนั้นเหรอ ทำไมคุณหนูของพ่อบ้านหยุนถึงได้ใจร้ายขนาดนี้ พวกเขาเคยมีเรื่องบาดหมางใจกันมาก่อนรึเปล่า เขาเองก็ไม่รู้ได้ แต่ที่ผ่านมาเขาพอยอมรับได้ เพราะว่าเขาไม่รู้เรื่องด้วย แล้วมันก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แต่นี่เด็ก ซึ่งไม่มีแรงกำลัง ที่จะไปทำร้ายผู้ใหญ่อย่างพ่อบ้านหยุน แล้วก็คุณหนูอี้เฉินได้แน่นอน เขาจะต้องปกป้องเด็กน้อยคนนี้ให้รอดพ้นจากบ้านหลังนี้ให้ได้

"ท่างป้อ ท่างป้อกิงจิ ข้าอิ่มแย้ว ข้าม่ายกิงแย้ว" ลู่จิวปัดมือของพ่อออก ไม่ยอมให้พ่อป้อนเขาอีก เพราะว่าตอนนี้เขาอิ่มจนกินเข้าไปอีกไม่ได้แล้ว

"ทำไมล่ะ เจ้าอิ่มแล้วรึลู่จิว ยังเหลือซาลาเปาอีกตั้งสองลูก" ชัดถามพร้อมกับมองไปที่รูปร่างของลู่จิว ทำให้เขาพอที่จะเข้าใจได้ ว่าลู่จิวเคยกินในปริมาณที่ไม่เยอะ ทำให้กระเพาะอาหารของเด็กน้อยรับได้ในปริมาณที่ตัวเองเคยกินมาเท่านั้น

"ท่างป้อกิง ท่างป้อกิงเยย เดี๋ยวข้าป้องท่างป้อเอง" ลู่จิวลุกขึ้นยืน ก่อนที่เขาจะหยิบซาลาเปา ที่อยู่ในห่อผ้าเก่าๆมาป้อนพ่อตามที่พูดไปด้วย

"นี่ยาแก้ไข้ ยาแก้อักแสบ ยาใช้ทาภายนอก มียาพวกนี้ด้วยเหรอเนี่ย ถึงรูปร่างมันจะแปลกๆ คล้ายๆกับยาลูกกลอนที่เขาเคยเห็นเลย แต่ก็ดีกว่าไม่มียากินนะ เอ๊ะ...นี่เราอ่านภาษาของเขาได้ด้วยเหรอเนี่ย เจ๋งจริงๆว่ะ" ชัดบ่นพึมพำเบาๆคนเดียว ในขณะที่เขากำลังเคี้ยวซาลาเปาที่ลู่จิวป้อนเขา สายตาก็อ่านฉลากยาที่อยู่ในห่อกระดาษเก่าๆไปด้วย

"ท่างป้อกิง ท่างป้อกิงเยย" ลู่จิวพูดพร้อมกับจะป้อนซาลาเปาลูกสุดท้ายที่เหลือให้กับพ่ออีก

"พ่ออิ่มแล้วเหมือนกัน เราเก็บเอาไว้กินตอนที่หิวดีไหม" ชัดบอกกับเด็กน้อย ทั้งที่ซาลาเปาลูกเดียว ไม่ทำให้เขาอิ่มได้หรอก แต่เขาจะเก็บเอาไว้ให้เด็กน้อยกินมื้อเย็น ชัดเก็บซาลาเปาเอาไว้ในห่อผ้าเก่าๆเหมือนเดิม ก่อนที่เขาจะเอาฟางมาทับปิดเอาไว้ เพื่อไม่ให้ใครมาเห็นเข้า

"ท่างป้อ..."

"ลู่จิว กินยาแก้ไข้ก่อน เจ้ามีไข้" ชัดบอกกับลู่จิวพร้อมกับป้อนยาเม็ด ที่มีรูปร่างคล้ายยาลูกกลอน เข้าไปในปากของลู่จิวครึ่งเม็ดอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ลู่จิวทันได้ตั้งตัว เพราะเขารู้ว่ายามันขมจนติดลิ้นเลยทีเดียว ที่เขารู้ เพราะว่าเขาได้กินก่อนลู่จิวไปแล้วสองเม็ด เขาให้ลู่จิวกินแค่ครึ่งเม็ด เพราะเขาคิดว่ายาของที่นี่แรงใช้ได้เลย แรงที่ว่าคืมขม มันขมติดลิ้นยังไม่หายเลย ขนาดว่าดื่มนํ้าตามเข้าไปแล้ว

"อี้..." ลู่จิวสั่นหัวพร้อมกับพ่นนํ้าลายออกมา หลังจากที่ยาละลายในปากของเขาแล้ว ถึงพ่อจะให้เขาดื่มนํ้าตามเข้าไปแล้วก็เถอะ แต่มันก็ขมปี๋อยู่ดี

"ลู่จิว เจ้าช่วยพ่อทายานี้ที่หลังของพ่อได้หรือไม่ นี่นะ...ทาตามแผลตรงนี้นะ" ชัดบอกกับเด็กน้อย พร้อมกับทำให้ดูไปด้วย ว่าต้องทายายังไง

"ขอรับท่างป้อ ข้าจะทายาห่ายท่างป้อเอง ฮึฮึ" ลู่จิวรีบพยักหน้ารับคำด้วยความดีใจ ที่เขาจะได้ทำอะไรอย่างที่ไม่เคยทำบ้าง จากนั้นสองพ่อลูกก็ช่วยกันทายาไปทั่วทั้งตัวจนเสร็จ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel