บท
ตั้งค่า

ความจริง ฤา ความฝัน

ณ.ที่ว่าการมือปราบแห่งต้าหมิง

" หัวหน้า ...ท่านหัวหน้าขอรับ "

มือปราบหนุ่มทักไปยังคนผู้หนึ่งซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียง ไม่นาน คนผู้นั้นเมื่อแว่วได้ยินเสียงเรียกชื่อตน จึงค่อยๆลืมตาและพยุงตัวลุกขึ้นมาแม้ว่ายังอยู่ในอาการมึนงงอยู่ก็ตาม

" ที่นี่ ....ที่นี่ ที่ไหน โอ้ย !! ปวดหัว ตอนนี้ข้าอยู่ที่ไหนกันนี่..."

" จวนว่าการมือปราบไงขอรับ หัวหน้าไป้ท่านจดจำสิ่งใดได้รึไม่ขอรับ "

มือปราบหนุ่มถามกลับไป ที่แท้ผู้ป่วยที่เพิ่งฟื้นคือ หัวหน้ามือปราบไป้หลงแห่งต้าหมิงนั่นเอง หลังปรับสถาพร่างกายอยู่ครู่หนึ่งไป้หลงค่อยนึกทบทวนความจำ ว่าตนและเจียงสงมือปราบคนสนิทกำลังเดินทางกลับจากการไปสืบราชการลับ แต่ระหว่างทางกลับถูกยอดฝีมือลึกลับขั้นแปดลอบทำร้าย เจียงสงสละชีพรับลูกธนูแทนตนสิ้นชีพคาหลังม้า ตนเองถูกยอดฝีมือผู้นั้นซัดใส่หนึ่งฝ่ามือ ทั้งตนและร่างไร้วิญญาณของเจียงสงตกลงสู่แม่น้ำจากนั้นวิญญาณออกจากร่างเดินทางสู่ยมโลก ความจำตามลำดับค่อยๆกลับคืนมาแม้เหตุการณ์ในนรกจะพร่ามัวกึ่งฝันกึ่งจริง จึงถามไปยังมือปราบหนุ่มว่าตนกลับมาที่นี่ได้เช่นไร

มือปราบหนุ่มผู้ดูแลเล่าย้อนให้ไป้หลงฟัง คืนนั้นราชองครักษ์เสื้อแพรไปรอรับทั้งสองยังอีกฝั่งของแม่น้ำตามที่ได้นัดหมาย แต่ทว่า เลยเวลานัดมามากจึงเป็นห่วงข้ามไปอีกฝั่งเพื่อค้นหา ค้นหาอยู่นานจนรุ่งสางจึงพบร่างหัวหน้าไป้และคนสนิทเจียงสงนอนสลบที่ริมแม่น้ำ ห่างจากจุดนัดไปสามลี้ จากนั้นองค์รักษ์เสื้อแพรจึงนำตัวไป้หลงและเจียงสงมารักษายังจวนมือปราบแห่งนี้  เมื่อความทราบถึงฮ่องเต้จึงได้ส่งหมอหลวงมาทำการรักษาทั้งสอง

" หืม รักษาข้า ...เดี๋ยวนะ เจียงสงเสี่ยงเอาตัวรับลูกธนูแทนข้าสิ้นชีพบนหลังม้าข้าเห็นกับตา เจ้าว่าไรนะ หมอหลวงรักษาเจียงสงซึ่งตายแล้วได้ด้วยหรือ...."

ไป้หลงสอบถามลูกน้องตนอย่างร้อนใจด้วยต้องการทราบอาการของลูกน้องคนสนิทซึ่งตนอยู่ในเหตุการณ์ย่อมรู้ดี

" ตามที่ท่านหมอหลวงตรวจอาการมือปราบเจียง ใช่อยู่ขอรับที่อาการค่อนข้างสาหัส ตอนมาถึงจวนนี่ก็อาการหายใจรวยรินดีที่องครักษ์เสื้อแพรพลังวัตรกล้าแข็งจึงถ่ายทอดลมปราณคุ้มครองชีพจรถึงได้ยื้อชีวิตจนถึงมือท่านหมอหลวงขอรับ "

ไป้หลงนึกตรึกตรองไปมาอย่างเหลือเชื่อ ว่าที่ผ่านมาตนฝันไปรึนี่ แต่ตอนอยู่ในนรกตนได้ยินมากับตัวว่า หวังตี้อ๋องมีบัญชาให้หวังเฉินผู้เป็นบุตรชายแห่งประมุขนรกภูมิแฝงตัวมาในร่างเจียงสงเพื่อปฎิบัติภาระสำคัญ ครั้นจะถามมือปราบผู้นี้เห็นทีไม่ได้เรื่องเผลอๆอาจหาว่าตนเสียสติ จึงได้แต่ครุ่นคิดในใจ ก่อนจะถามกลับไปว่า

" อ่อ แล้วตอนนี้เจียงสงฟื้นแล้วรึไม่ "

" อ่อ...มือปราบเจียงฟื้นก่อนท่านสามวันแล้วขอรับ "

" ห๊า...ฟื้นก่อนข้าสามวัน ข้าอาการหนักกว่าเจียงสงหรอกรึนี่ ตกลงข้าสลบไปกี่วัน"

" สิบวันขอรับ ท่านหัวหน้า..."

" สิบวัน...... สิบวันเชียวหรือ แล้วนอกจากข้ากับเจียงสง องครักษ์เสื้อแพรได้ช่วยเหลือผู้ใดอีกรึไม่...."

ไป้หลงนึกขึ้นได้ว่าตอนอยู่ในแดนนรก ตน หวังเฉิน ยังมีชายหนุ่มปริศนาที่ตนและเจียงสงช่วยขึ้นมาจากแม่น้ำโลกวิญญาณ หากเหตุการณ์นั้นมิใช่ความฝัน นอกจากตนและเจียงสง ก็น่าจะมีชายหนุ่มผู้นี้รวมอยู่ด้วย ถึงเป็นหลักฐานยืนยันว่านั่นมิใช่ความฝัน

มือปราบหนุ่มทำท่าจะตอบคำถามผู้เป็นหัวหน้า แต่มีเสียงเรียกจากผู้มาใหม่ดังขัดจังหวะขึ้น

" ท่านหัวหน้าฟื้นแล้วหรือ ขอรับ ..."

ผู้มามิใช่ใคร เจียงสง มือปราบคนสนิทนั่นเองเมื่อเจียงสงเดินเข้ามามือปราบผู้ดูแลจึงขอตัวไปทำหน้าที่ของตน

    

   ไป้หลงพิจารณาคนตรงหน้า ไม่ว่ายังไงนี่คือ เจียงสงคนสนิทของตนที่ใช้ร่างรับลูกธนูสิ้นใจตายบนหลังมา วิญญาณออกจากร่างท่องแดนนรกภูมิด้วยกัน 

    " เจ้า  ....เจ้าคือ หวังเฉิน รึ....!! " 

 ไป้หลงถามออกไปด้วยความไม่แน่ใจ 

  " หวังเฉิน....  หวังเฉินคือ ผู้ใดรึขอรับ "

เจียงสงถามกลับมายังผู้ซึ่งเพิ่งฟื้นจากสลบมาร่วมสิบวันเต็มๆ ด้วยท่าทาง การพูดจา และแววตา ยิ่งบอกว่านี่คือ เจียงสง มิใช่ หวังเฉิน น้องรองของตน รึ เรื่องราวในแดนนรกภูมิ เป็นตนที่ฝันไปเอง คิดถึงตรงนี้ ไป้หลงได้แต่ทอดถอนใจ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เจ็ดวัน ร่วมฝึกวรยุทธด้วยกัน แม้มิใช่พี่น้องแท้ๆ แต่ก็รู้สึกผูกพันธ์ 

ไป้หลงครุ่นคิดได้ไม่นาน มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา 

     " พี่รองๆ มือปราบเมื่อกี้บอกแก่ข้า พี่ใหญ่ ฟื้นแล้วหรือ...." 

     ผู้มามิใช่ใครเฟิงอิงนั่นเอง วิ่งตะโกนร้องถามออกมา ในมือทั้งสอง มือหนึ่งโอบไหสุรา อีกมือถือห่อกับแกล้ม 

     หวังเฉินในร่างเจียงสงปิดตาแน่น มิอาจคาดเดาผลที่ตามมาด้วยตนคิดจะล้อพี่ใหญ่ตนเล่นเมื่อฟื้นขึ้นมา แต่เจ้าเฟิงอิงน้องเล็กจอมซื่อบื่อกลับทำเสียเรื่องซ่ะได้  ค่อยๆลืมตามองไปที่ ผู้เป็นพี่ใหญ่ของตน บัดนี้ใบหน้าเคร่งเครียด ชี้มายังหว้งเฉินน้องชายคนรองบุตรแห่งราชันต์นรกภูมิตัวแสบ มิน่าถึงถูกลงโทษอยู่บ่อยครั้งเป็นเพราะเหตุนี้เอง พญายมราชยังเอาไม่อยู่ ตนจะเหลือรึ ยังน้องคนเล็กที่ไม่ทราบที่มา มิรู้ว่าข้างหน้าจะเป็นเช่นไรนับว่าหนักใจอยู่มิใช่น้อย

   " ข้าสลบไปสิบวันเต็มๆไฉนเจียงสงผู้บาดเจ็บมากกว่าข้าถึงฟื้นก่อน "

   ไป้หลงถามด้วยมีเหตุที่น่าสงสัยบางประการ

 " อ่อ...จริงๆท่านน่าจะฟื้นพร้อมๆกับพวกเรานี่แหล่ะ แต่พี่รองให้ความเห็นว่า ท่านน่าจะพักผ่อนต่ออีกหน่อย จึงสะกดให้ท่านหลับต่อ ไปอีกสามวัน " 

   เฟิงอิงพาซื่อแจ้งบอกต่อพี่ใหญ่ตน หวังเฉินถึงกับคอตก ที่หยุดคนปากไวเช่นเฟิงอิงไว้ไม่ทัน ไม่ต้องบอกว่าไป้หลงจะมีอาการเช่นไร

ไป้หลงจึงสอบถามเฟิงอิงต่อหลังจากฟื้นแจ้งต่อเหล่ามือปราบว่าตนเป็นใคร เฟิงอิงจะตอบกลับไปว่า เรื่องนี้มิต้องเป็นห่วงหวังเฉินแจ้งต่อทุกคนว่าข้าเป็นมือปราบที่ถูกส่งไปแฝงตัวเป็นสายให้แก่พวกท่านแต่โดนจับได้จึงถูกพวกท่านพาหนีมาพร้อมกัน ไป้หลงได้ยินเรื่องราวนับว่าหวังเฉินแก้ไขสถานการณ์ไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ ทว่า...เฟิงอิงยังไม่จบข้อมูลอยู่แค่นั้นกลับบอกต่อไป้หลงไปอีกว่า ในสามวันนี้ได้พี่รองตนพาไปเปิดหูเปิดตายังสถานที่ต่างๆโดยเฉพาะ หอยูงทองอันลือลั่น เฟิงอิงพูดถึงตอนนี้หวังเฉินซึ่งแอบสะกิดมาตลอด แต่ไม่ทันการ รีบตรงเข้ามาบีบคอเฟิงอิงผู้เป็นน้องเล็กเพื่อให้หยุดสาธยาย 

   " ดี ดีจริงๆ ....เจ้ารองเจ้าทำดีมาก" 

ผิดคาดที่ไป้หลงเอ่ยประโยคนี้ออกมา หวังเฉินรีบคลายมือที่กำลังบีบคอเฟิงอิงถลาจะเข้าไปหาไป้หลง แต่ ... ไม่ทันได้ถึงตัว ไป้หลงร้องสั่งเสียงดัง 

 " ทั้งสองคุกเข่า  ......"

สิ้นคำ ทั้งหวังเฉินและเฟิงอิงคุกเข่าแทบไม่ทัน

" เจ้าสะกดข้าให้หลับ ดูเป็นการหวังดีเพื่อให้ข้าได้พักผ่อน ข้อนี้ข้าพอให้อภัย แต่เจ้ากับเฟิงอิงแต่งกายในด้วยเครื่องแบบมือปราบทั้งยังพากันไปยังสถานที่อโคจร ทำให้เสียภาพลักษณ์ของหน่วยงาน ซ้ำอยู่ภายในจวนมือปราบยังโอบไหสุราเดินว่อนไปมา อย่าลืมอีกสถานะหนึ่งเจ้าคือเจียงสงคนสนิทข้า ระเบียบวินัยหย่อนยานจะให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเคารพได้เยี่ยงไร ในสถานที่ทำงาน ยกเว้นความเป็นพี่น้อง มีแต่ กฎระบียบข้อบังคับผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ต้องปฎิบัติอย่างเคร่งครัด หวังเฉิน เจ้าเป็นถึงมือปราบแห่งแดนนรกภูมิ อย่าบอกนะไม่รู้เรื่องระเบียบเหล่านี้ เฟิงอิงข้ารู้เจ้ามิใช่คนโง่ คนซื่อ อย่างที่เจ้าแสดง แท้จริงเจ้าฉลาดเป็นกรดเพียงแต่เก็บซ่อนงำไว้ จงใช้ไหวพริบความเจ้าปัญญาของเจ้าในทางที่ถูก 

 ดังนั้นข้าจำต้องลงโทษพวกเจ้าเพื่อให้หลาบจำและมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง หวังเฉิน ไม่สิ ...เจียงสง นับแต่นี้ เจ้าลาดตระเวณยามค่ำเป็นหน้าที่ของเจ้า ห้ามเถลไถลและห้ามใช้พลังแห่งยมฑูตกับมนุษย์โดยเด็ดขาด ส่วนเจ้าเฟิงอิงนับแต่นี้ตำแหน่งเจ้าเป็นเพียงมือปราบฝึกหัด หากได้รับการฝึกและผ่านการทดสอบถึงเลื่อนขึ้นเป็นมือปราบขั้นที่หนึ่งได้ "  

     " ขอรับ....หัวหน้า"

ทั้งคู่รับทราบในคำสั่ง ไป้หลงมองมายังคนทั้งคู่ ภาระกิจเบื้องหน้านี้ใหญ่หลวงนัก ไหนจะในฐานะหน้ามือปราบแห่งต้าหมิง ไหนจะต้องในฐานะพี่ใหญ่ ดูแล หนึ่งบุตรแห่งราชันย์นรกภูมิ หนึ่งบุรุษผู้ซึ่งไร้ที่มา งานนี้สาหัสสากรรจ์เป็นแน่ 

%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%

ตอนหน้า สองพี่น้องต่างมิติ จะสร้างปัญหาอะไรให้แก่ผู้เป็นพี่ใหญ่

  โปรดติดตามตอนต่อไป  ขอบคุณครับ

  

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel