ตอนที่ 5 กลุ้มใจ
“เอ้าหยก มานั่งอะไรอยู่ตรงนี้ ยุงไม่กัดเอาเหรอ” ใบตองที่กลับมาจากข้างนอกพร้อมสามีในเวลาหนึ่งทุ่มเห็นน้องสาวนั่งอยู่โต๊ะมาหินอ่อนหน้าบ้านก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“พอดีหยกมานั่งย่อยอาหารนะคะ พี่ตองกลับเร็วนะคะเห็นพอบอกว่าจะกลับดึก”
“พอดีพี่ไม่สบายนะ พี่ชาติก็เลยพาพี่กลับมาก่อน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” เธอเดินมานั่งม้าหินอ่อนตรงกันข้าม ส่วนสุชาติเดินขึ้นบ้านไปก่อน
“ไม่มีอะไรคะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย วันนี้พ่อเข้านอนเร็วเพราะเข้าไร่เหนื่อยมาทั้งวันหนูเลยออกมานั่งเล่นคนเดียวค่ะ” ปกติหากเธออยากมานั่งเล่นก็จะชวนคนเป็นพ่อมาด้วย
“สีหน้าตอนนี้มันบอกว่าหยกกำลังคิดมากอยู่นะ” ใบตองรู้นิสัยของน้องดี ปกติใบหยกเป็นคนร่าเริงแจ่มใสหากมีอะไรในใจก็จะแสดงออกมาทางสีหน้า
“คือ...พี่ตอง...” เธอจ้องมองใบหน้าของพี่สาวแล้วน้ำตาคลอ “คือ..”
“มีอะไรก็พูดมาเถอะ จะได้ช่วยกันคิดไง” เธอพยักหน้าแล้วเอามือวางที่หลังมือของน้องสาว
“วันนี้พี่เสือคุยกับหยกเรื่อง...” เธอไม่รู้ว่าจะพูดให้พี่สาวฟังดีไหม หากแต่ทุกอย่างมันคับแน่นอยู่ที่อกไม่รู้ตอนนี้เธอต้องทำตัวเช่นไรเพื่อที่จะอยู่ในสถานะภรรยาที่ไม่ได้รับความรักจากเสือ
“เขาทำอะไรหยกบอกพี่มา พี่จะไปจัดการให้เอง” เธอได้ยินชื่อของเสือก็รู้แล้วว่าคงไม่ใช่เรื่องดีอะไร เพราะสีหน้าของน้องแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่ากำลังมีเรื่องกลุ้มใจ
“เขาไม่ได้ทำอะไรค่ะ ก็แค่...” เธอบอกสิ่งที่คุยกับเสือในวันนี้ “พี่ตอง...หยกไม่รู้ต้องทำตัวยังไงนะคะ”
“พูดแบบนี้ไม่แต่งยังดีกว่าไหม” เธอพูดแล้วอารมณ์ขึ้น ทำไมเสือถึงได้ต่างจากสุชาตินัก ทำไมไม่เหมือนสามีของเธอใบหยกจะได้มีความสุขในชีวิตแต่งงาน
“หยกต้องทำยังไงคะ ตอนนี้สับสนไปหมดแล้วค่ะ”
“หยกชอบเขาหรือเปล่า” ใบตองจ้องหน้าน้องสาว “ชอบใช่ไหม” ใบหยกพยักหน้าทำให้พี่สาวอย่างเธอส่ายหน้า
“ชอบนิดหน่อยค่ะ” อาจเป็นเพราะเสือเป็นผู้ชายคนแรกสำหรับทุกอย่าง
“พี่เข้าใจนะว่าเขาเป็นครั้งแรกทุกอย่างของหยก แต่หยกจะฝืนทนได้เหรอ พี่มีทางเลือกให้หยกสองทางเลือก” เธอบอกกับน้องสาวแล้วส่งสายตาจริงจังให้ใบหยกรับฟังสิ่งที่กำลังจะพูดต่อไปนี้
“ทางเลือกไหนเหรอคะ?”
“หนึ่งเลิกกันตอนนี้เลย หากเรารู้จุดจบก็ไม่จำเป็นจะต้องเดินต่อ เอาเวลาที่ต้องเสียไปหาคนที่ใช่ดีกว่าไหม ยังไงพ่อก็หัวสมัยใหม่วันนั้นก็แค่ทำไปเพราะไม่อยากให้หยกขายหน้าเท่านั้น”
“แล้วทางเลือกที่สองละคะ”
“ทางเลือกที่สองคือ...ถ้าชอบก็แค่ลุยเปลี่ยนใจเขาให้ได้ แต่ก็ต้องเสี่ยงหน่อยเพราะการเปลี่ยนใจคนมันยากยิ่งกว่าอะไร ทางเลือกนี้พี่ไม่ค่อยแนะนำนะ หยกคิดให้ดี ๆ ว่าจะเลือกทางไหนจะไปต่อหรือพอแค่นี้”
“ยากจังเลยนะคะ ไม่ว่าทางเลือกไหนหยกก็ไม่อยากเลือกสักทางเลยค่ะ ตอนนี้”
“งั้นก็จบกันไป เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่คุยกับพ่อให้ดีไหม พี่เชื่อว่าพ่อต้องเข้าใจ ยังไงก็ไม่ขายหน้าหรอกหยกลูกรักพ่ออยู่แล้ว”
“ใช่ไหมคะ” เธอยิ้มกว้าง “ขอหยกคิดดูก่อนนะคะ”
“ได้ ค่อย ๆ คิด ยังไงก็คิดถึงความรู้สึกตัวเอง อนาคตข้างหน้าด้วย อย่าเสียเวลาให้กับสิ่งที่ไม่เคยเห็นค่าของเรา” ใบตองให้กำลังใจน้อง “ที่จริงพี่ก็พูดกับพี่ชาตินะ แต่เขาก็บอกพี่ว่า...บางครั้งเพื่อนของเขาอาจเจอเนื้อคู่ก็ได้ พี่ก็แอบหวังว่าจะเป็นแบบนั้น แต่เท่าที่ฟังจากหยกพูดพี่หวังอะไรไม่ได้เลย”
“แต่ก่อนหนูก็คาดหวังนะคะ ได้ยินพี่เสือพูดวันนี้หยกก็...มันแน่นหน้าอกไปหมดเลยค่ะ”
“พี่เข้าใจ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปกลับไปคิดไตร่ตรองให้ดีว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับที่หยกตัดสินใจนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
หญิงสาวทั้งสองนั่งพูดคุยกันอยู่นานจึงแยกย้ายกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง ใบหยกเปิดประตูเข้ามาภายในห้องก็พบกับเสือที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงนอน เขาสวมใส่ชุดนอนเป็นที่เรียบร้อย
“ไปไหนมา ถ้าไม่กลับห้องว่าจะออกไปตามแล้ว”
“คุยกับพี่ตองอยู่ข้างล่างค่ะ พี่นอนก่อนเลยนะคะ” เธอพูดแล้วจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งให้เสือนั่งมองแผ่นหลังตาละห้อย
มีบางอย่างที่แปลกไปเขารับรู้ได้แต่ทำไมต้องใส่ใจ เสือไม่คิดอะไรให้ยุ่งยากนั่งเลื่อนโทรศัพท์หาสถานที่ท่องเที่ยวต่อ ได้เวลาหยุดหนึ่งอาทิตย์เขาก็อยากพักผ่อนให้เต็มที่นาน ๆ จะได้หยุดยาวแบบนี้สักครั้ง
“ส่งสถานที่ท่องเที่ยวไปในไลน์ให้แล้ว เลือกมาสิมะรืนจะได้ไปกัน” ทันทีที่เธอออกมาจากห้องน้ำเสือก็บอกให้เธอดูข้อความ
“ไปพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ”
“ไม่ได้หรอก ต้องอยู่หอให้ครบสามวัน”
ใบหยกมองหน้าของเสือ ไม่คิดว่าเขาเคร่งครัดเรื่องแบบนี้ด้วยหรือเป็นเพราะบิดาของเธอเป็นคนสั่ง แต่จะด้วยเหตุผลใดเธอก็ยอมรับทั้งนั้น บางครั้งนี้อาจเป็นบทสรุปของทุกอย่างหลังจากไปเที่ยวกลับมาเธออาจตัดสินใจได้
“ได้ค่ะ เดี๋ยวหยกดูตอนนี้เลยค่ะ” เธอเช็ดผมที่เปียกเดินมานั่งที่หน้ากระจกบานใหญ่มุมห้อง เปิดดูข้อความที่เสือส่งมาให้อย่างสนใจ เขาเลือกที่ท่องเที่ยวได้ดีมากทีเดียว
“ไปล่องเรือที่เกาะก็ดีเหมือนกันค่ะ เบื่อภูเขาไปดูน้ำทะเลบ้างก็ดีค่ะ” เธอเลือกสถานที่อย่างรวดเร็ว
“อืม เดี๋ยวพี่จัดการทุกอย่างเอง หยกเตรียมเก็บกระเป๋ารอได้เลย พรุ่งนี้พี่ขอเข้าไปเคลียร์เอกสารตอนเช้า หยกจะไปที่ร้านพร้อมกันไหมเดี๋ยวตอนบ่ายแวะไปรับ”
“พรุ่งนี้ไม่เข้าร้านค่ะ อยากนอนพักสักหน่อยค่ะ” เธอพูดโดยไม่หันไปมองหน้าของเขา
“เอาแบบนั้นก็ได้ งั้นพี่นอนก่อนนะ” เสือปิดโทรศัพท์ของตัวเองแล้วล้มตัวนอน เขามองไปที่ใบหยกจ้องเธออยู่นานสุดท้ายก็อดทนกับความเมื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันไม่ได้จึงหลับไปในที่สุด
หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจมองเขาผ่านกระจกเงาบานใหญ่ สุดท้ายเธอก็ทำได้เพียงปล่อยทุกอย่างให้ผ่านไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้ หวังว่าคำตอบที่จะได้รับมันจะส่งผลดีต่อใจของเธอบ้างหลังจากหนึ่งอาทิตย์
ในตอนเช้าเธอตื่นสายบนเตียงนอนจึงเหลือแค่เธอเท่านั้น ทิ้งเอาไว้เพียงรอยยับของผ้าปูเตียงนอน เสือไปโดยไม่บอกกล่าวเขาคงคิดว่าบอกเธอเมื่อคืนไปแล้วว่าจะออกไปทำงานให้เสร็จแล้วรีบกลับมาในช่วงบ่าย
“พี่ตองอยู่บ้านเหรอคะวันนี้” ใบหยกที่เดินมาที่ห้องครัวเพื่อหาอะไรทานในช่วงสายมองเห็นพี่สาวที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่บนโต๊ะ
“ไม่สบายนะ” ตอนนี้สีหน้าของใบตองไม่สู้ดีนัก
“พี่เป็นอะไรคะ ไปหาหมอหรือยังแล้วพี่เขยไปไหนคะ” เธอรู้สึกเป็นห่วงเดินเข้ามาใกล้เอามืออังไปที่หน้าผาก ตัวก็ไม่ร้อนแต่ทำไมหน้าถึงได้ซีดแบบนี้ “หยกว่าไปหาหมอดีกว่านะคะ”
“ขับรถไม่ไหว พี่ชาติไปไร่แต่เช้าแล้ว วันนี้ที่ฟาร์มมีลูกวัวคลอดลูกหลายตัวเลย”
“เดี๋ยวหยกพาไปเองค่ะ ยังไงพี่ตองไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ”
“ไม่ต้องรีบหรอกกินข้าวก่อนค่อยไปก็ได้ พี่ดีขึ้นมากแล้ว อาการเหมือนจะท้องเลยอยากกินแต่ของเปรี้ยวแต่พี่ยังไม่บอกพี่ชาติ” เธอไม่แน่ใจว่าตนเองท้องจริง ๆ หรือเปล่า
“ท้องเหรอคะ?” ใบหยกยิ้มกว้างดีใจที่จะได้อุ้มหลาน
“ยังไม่รู้ อย่าคาดหวังเลย ไปแต่งตัวก่อน กินข้าวไปเถอะเสร็จแล้วพี่จะเรียก”