บท
ตั้งค่า

นางจะรู้สึกเช่นไร ไม่ใช่เรื่องของข้า

“ข้าเพียงคิดว่าตระกูลเยว่ร่ำรวยยิ่งนัก”

“ในเมืองหลวงนี้ไม่มีผู้ใดร่ำรวยเท่าตระกูลหยวนของฮูหยินแล้วล่ะเจ้าค่ะ ตระกูลเยว่ไม่อาจเทียบได้แน่นอน” สาวใช้กล่าวด้วยความมั่นใจ ยามเอ่ยถึงสกุลหยวนสกุลเดิมของฮูหยินเซียวที่เป็นมารดาคุณหนูของตน

“แม้ตระกูลเยว่ของเราไม่ได้ร่ำรวยที่สุด แต่ว่าไม่ได้ยากไร้ดั่งสามัญชน” เสียงฮูหยินเยว่แทรกขึ้นกลางบทสนทนา

“ขออภัยที่สาวใช้ของข้าเสียมารยาท” นางบอกสตรีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับมารดาด้วยความนอบน้อม

“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ ข้าย่อมรู้ดีเต็มอกว่าฐานะของตระกูลเราเทียบกับตระกูลหยวนของท่านไม่ได้”

“ฮูหยินเยว่ ท่านกล่าวเกินจริงไปแล้วเจ้าค่ะ อีกอย่างข้าไม่ใช่คนตระกูลหยวนแต่เป็นคนตระกูลเซียวเรื่องความร่ำรวยของตระกูลหยวน ข้าหาได้ล่วงรู้” ม่านเหม่ยตอบกลับ เมื่อแขกหลายคนเริ่มหันมาสนใจบทสนทนาของทั้งคู่

“เช่นนั้นเชิญแม่นางเซียวที่โถงจื่อรุ่ย” ไห่ไป๋หรงเอ่ยเชิญไปยังโถงจัดงานเลี้ยงทันทีเป็นการจบบทสนทนาเพียงเท่านี้

กระทั่งเวลาผ่านไปหนึ่งเค่องานเลี้ยงถึงได้เริ่มขึ้น พร้อมกับเสียงดนตรีดังระงมไปทั่วทั้งจวน

“คุณหนูเยว่อินมาแล้วเจ้าค่ะ” เสียงสาวใช้กล่าวรายงานเสียงดัง ชวนให้ทุกคนหันไปมองร่างหญิงงามสวยสง่าแต่งกายด้วยอาภรณ์สีม่วงเข้ม ตัวของนางเต็มไปด้วยเครื่องประดับราคาแพง พลันทำให้เกิดเสียงซุบซิบนินทาเป็นระลอก บางคนเอ่ยชื่นชม บางคนเกิดอาการริษยาอย่างปิดไม่มิด

“แม่นางเยว่ช่างดูงดงามน่าทนุถนอม ท่วงท่าของนางราวกับนางฟ้านางสวรรค์ก็มิปาน” คุณชายจากตระกูลหยางเอ่ยอย่างเลื่อนลอยราวกับคนไม่มีสติ ยามจ้องมองไปยังหญิงสาว

“ปกตินางก็งดงามอยู่แล้ว” โจวเฟิ่งฉีบอกกับชายหนุ่มวัยเดียวกัน แต่ไหนแต่ไรเยว่อินมีใบหน้างดงามทั้งยังเรียบร้อยอ่อนหวานราวกับผ้าพับไว้ มีบุรุษใดบ้างที่ไม่ชอบพอนาง

“ท่านรองแม่ทัพ มองแม่นางเยว่ตาค้างเลยนะขอรับ” คุณชายหยวนหมิงเอ่ยแซว เพราะบุรุษตรงหน้าไม่ได้มีท่าทีแตกต่างจากคุณชายหยางสักนิด

“ข้าคนเดียวเสียที่ไหน ทุกคนล้วนมองนางด้วยสายตาเช่นนั้น” เขาแก้ตัว

“แล้วท่านเอาญาติผู้น้องของข้าไว้ที่ใดกัน”

“จะเอาไว้ที่ใดเล่า นางก็อยู่ที่เดิมของนาง”

“ท่านช่างเย็นชายิ่งนัก ม่านเหม่ยได้ยินเข้าคงเสียใจแย่”

“นางจะรู้สึกเช่นไร ไม่ใช่เรื่องของข้า”

“ในเมื่อท่านพูดถึงเพียงนี้ เห็นทีจวนของรองแม่ทัพคงมีงานมงคลในเร็ววันแน่”

“ที่ท่านพูดหมายความเช่นไร”

“ท่านชอบพอแม่นางเยว่มิใช่หรือ ข้าดูจากสายตาท่านที่มองนางก็รู้แล้ว”

“คุณชายหยวน ท่านอย่าพูดเพ้อเจ้อ ประเดี๋ยวจะทำให้นางเสียหาย”

“เป็นห่วงเป็นใยนางเสียเหลือเกิน ข้าจะรอดูว่าในอนาคตสตรีที่ท่านแต่งเข้าจวนจะเป็นผู้ใดกันแน่”

“เช่นนั้นข้าคงต้องทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว เพราะข้ายังไม่คิดแต่งฮูหยินเข้าจวน”

“โบราณว่าเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้น ข้าว่าท่านระวังไว้หน่อยก็ดี หากผิดพลาดขึ้นมาได้แต่งกับสตรีอีกคนจะทำอย่างไร”

“...” โจวเฟิ่งฉีขี้คร้านจะตอบโต้กับชายหนุ่มตรงหน้าจึงได้เดินหนีไปอีกทาง

ทางฝั่งของโถงจื่อรุ่ยที่รวบรวมแขกสตรีทุกคนมาไว้ที่นี่ ทุกคนต่างคุยกันออกรสออกชาติราวกับว่ามิได้พานพบกันเสียนาน

“แม่นางเซียว ท่านกับแม่นางเยว่แต่งตัวต่างกันราวฟ้ากับดินเลยนะเจ้าคะ” แม่นางอีกคนเอ่ยขึ้น พลันทำให้ทุกคนที่ได้ยินคำกล่าวเมื่อครู่หันมามองนางเป็นตาเดียว

“จริงด้วย หรือว่าครอบครัวของนางถังแตก ทำให้แม้แต่เสื้อผ้าดี ๆ ยังไม่มีใส่ หากข้าเป็นนางข้าคงไม่กล้าก้าวเท้าออกจากจวนแน่”

“ข้าว่าไม่น่าเป็นดังที่เจ้าพูด เมื่อไม่นานมานี้สกุลเซียวเพิ่งได้กำไรก้อนโตจากการขายเกลือให้พระราชวังมิใช่หรือ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel