บทย่อ
นางเคยคิดว่าถ้าหากเพียรพยายามทุ่มเททั้งกายใจให้เขามากพอ คงมีสักวันหนึ่งที่บุรุษที่ตนรักจะหันกลับมารักนางตอบ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานวันเข้าถึงได้เข้าใจว่าสิ่งที่ตนทำลงไปหาได้มีความสำคัญต่อเขาแม้สักนิด กี่ปีแล้วกับการคอยไล่ตามไขว่คว้าความรักจากบุรุษที่มิได้มีใจให้ เขาเพียงเห็นความรักที่นางมอบให้เป็นเพียงสิ่งไร้ค่ายิ่งกว่าเศษดิน เช่นนั้นคงถึงเวลาแล้วที่นางควรพอเสียที...
บทนำ
"ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกขอตัวก่อนนะเจ้าคะ" เสียงใสเอ่ยบอกบิดาและมารดา พร้อมกับก้าวขาลงจากเรือนไปโดยไม่ได้รอให้ทั้งคู่อนุญาต
"ลูกสาวของพวกเรา นางรีบร้อนออกไปที่ใดรึ"
"เฮ้อ จะที่ใดได้ล่ะเจ้าคะ ถ้าไม่ใช่จวนตระกูลโจว" ฮูหยินเซียวตอบสามี หลังถอนหายใจอย่างระอา นี่ก็เกือบสองปีแล้วนับตั้งแต่บุตรสาวของนางได้พบกับรองแม่ทัพโจวหรือคุณชายเฟิ่งฉีที่แม่นางทั้งหลายเคยเรียกบุรุษรูปงามเช่นเขา ก่อนจะเข้ารับราชการในตำแหน่งรองแม่ทัพ
"ฮูหยิน เจ้าจะถอนใจไปไย หากม่านเหม่ยชอบพอรองแม่ทัพโจวมากถึงเพียงนี้พ่อแม่อย่างเราจะทำอันใดได้ นอกเสียจากคอยดูอยู่ห่าง ๆ"
"แต่ลูกเราเป็นสตรีนะเจ้าคะ มีแต่จะเสียหาย วัน ๆ นางเอาแต่วิ่งตามท่านรองแม่ทัพ แม่อย่างข้าเห็นแล้วก็อดทุกข์ใจไม่ได้"
"คอยดูอีกสักหน่อยเถิด หากรองแม่ทัพโจวมีใจให้ลูกสาวเราพอถึงตอนนั้นข้าจะออกหน้าขอเกี่ยวดองกับตระกูลโจวด้วยตัวเอง"
"แล้วถ้าหากท่านแม่ทัพไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกับนาง ท่านพี่จะทำเช่นไร"
"ข้าจะทำเช่นไรได้เล่า ถ้าเป็นดังที่เจ้าว่าก็ถือเสียว่าทั้งคู่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเคียงคู่กัน"
จวนตระกูลโจว
ม่านเหม่ยเดินยิ้มแฉ่งมาแต่ไกล ยามรู้ว่าคนที่ตนมาหาตอนนี้อยู่ที่จวน
"แม่นางเซียว มาหาท่านแม่ทัพหรือเจ้าคะ" สาวใช้ในเรือนชายหนุ่มทักขึ้น
"ท่านแม่ทัพอยู่ที่เรือนรึไม่" นางพยักหน้าถาม ก่อนจะถามประโยคถัดมาเพื่อความแน่ใจ
"เอ่อ คือ" สาวใช้มีอาการอึกอักอย่างเห็นได้ชัด นางจึงรู้ได้ทันทีว่าเขาอยู่ที่เรือนแน่นอน
"ช่างเถอะ เจ้าไปทำงานของเจ้าเถิด"
คล้อยหลังสาวใช้ผู้นั้น หญิงสาวมุ่งหน้าไปยังเรือนหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางจวนแทบจะทันที
"ท่านแม่ทัพ ไม่ได้พบกันเสียนาน สบายดีไหมเจ้าคะ"
"ข้าสบายดี"
"ตอนนี้ข้าย้ายมาอยู่ที่เมืองหลวงถาวรแล้ว พวกเราคงได้เจอกันบ่อยขึ้น"
"ยินดีกับเจ้าด้วย ในที่สุดใต้เท้าเยว่ก็ได้ย้ายกลับมาที่เมืองหลวง"
"ว่าแต่ท่านเถิด เหตุใดถึงได้กลายเป็นรองแม่ทัพได้ล่ะเจ้าคะ ทั้งที่เมื่อก่อนท่านเคยบอกว่าไม่อยากเข้ารับราชการ" เยว่อินถามบุรุษตรงหน้า
"ข้าเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว หากข้าไม่รับราชการแล้วผู้ใดกันจะรับหน้าที่นี้"
"ท่านรองแม่ทัพคงฝืนใจน่าดู"
"เลิกเรียกข้าว่าท่านรองแม่ทัพเสียที"
"แล้วจะให้ข้าเรียกว่าท่านว่าอะไรหรือ"
"เจ้าเรียกข้าเหมือนในอดีตเถิด"
"เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจแล้วนะเจ้าคะ ท่านพี่เฟิ่งฉี" นางบอกพร้อมกับฉีกยิ้มให้
ม่านเหม่ยมองเห็นภาพทั้งคู่พูดคุยกันอย่างสนิทสนมด้วยความน้อยอกน้อยใจ เพราะนางไม่เคยได้รับโอกาสนี้จากเขาแม้แต่ครั้งเดียว
"คุณหนู" ฝูเยี่ยนเอ่ยเรียกเจ้านายของตนราวกับจะปลอบใจ
"ข้าไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย ว่าแต่เจ้ารู้จักสตรีผู้นั้นหรือไม่"
"นางคือบุตรสาวคนโตของใต้เท้าเยว่ บ่าวได้ยินนายท่านพูดถึงเมื่อไม่นานมานี้ว่าตระกูลเยว่เพิ่งย้ายกลับมาที่เมืองหลวง"
"ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง"
"แม่นางเซียว มาหาท่านแม่ทัพหรือขอรับ" เป็นเหลียนอี้ที่เอ่ยทักก่อนผู้ใด
"ใช่"
"เช่นนั้นเชิญเข้าไปด้านในก่อนขอรับ"
"เหลียนอี้ ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วมิใช่รึว่าวันนี้ข้าไม่อยากพบผู้ใด" เฟิ่งฉีตำหนิบ่าวรับใช้คนสนิททันทีที่เห็นว่าผู้ใดมาหา
"ท่านรองแม่ทัพอย่าได้ตำหนิเหลียนอี้เลยเจ้าค่ะ เป็นเพราะข้าไม่รู้ว่าท่านไม่อยากพบแขกถึงได้มาหาท่านที่เรือน"
"ท่านพี่ นางเป็นใครหรือเจ้าคะ" เยว่อินถามพลางส่งยิ้มทักทาย
"จะเป็นใครได้เล่า นอกจากบุตรีของใต้เท้าเซียว" เขาเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนคนที่ได้ฟังถึงกับกำหมัดแน่น
"แม่นางเซียว ข้าชื่อเยว่อิน ข้ารู้สึกยินดียิ่งนักที่ได้พบท่านที่นี่"

