ตอนที่ 4 เธอคือแสงสว่าง (กุหลาบทะเลทราย)
ตอนที่ 4 เธอคือแสงสว่าง
วันนี้หญิงสาวตื่นแต่เช้าตรู่เข้าครัวทำข้าวต้มทรงเครื่องให้ชายหนุ่มทาน
“ทำอะไรคะหอมจังเลยค่ะ” โซยาเดินเข้ามาพร้อมกับถามขึ้น
“ทำข้าวต้มทรงเครื่องน่ะค่ะเป็นอาหารไทยๆนะคะ เรามักชอบทานกันในตอนเช้า ลองทานดูสิคะ จุทำไว้เยอะเลย เดี๋ยวจุยกขึ้นไปให้คุณนาธานก่อนนะคะ” หญิงสาวเดินถือถาดข้าวออกมาจากครัว
“คุณพยาบาลคนนี้เก่งจังเลยนะป้าทำให้นายสงบลงได้แถมยังทำอาหารเป็นอีกด้วยไม่เห็นเหมือนคนอื่นเลยเอาแต่แต่งตัวสวยและก็ชี้นิ้วใช้ยังกับเราเป็นคนรับใช้ของเขา” ฟาตามะทำหน้าพยักเห็นด้วยกับสิ่งที่อามิยะพูด
“ใช่ อามิยะพูดถูก”
“แล้วพวกเธอไม่มีอะไรทำกันหรือไงมานั่งวิจารณ์นายอยู่ได้ เดี๋ยวเถอะ” โซยาหันมาดุสองสาว
“แหมป้าก็ พวกเราแค่แสดงความคิดเห็นเฉยๆ ไปก็ได้” เด็กสาวบอกและพากันเดินออกมา
“ก๊อก ก๊อก” หญิงสาวเคาะประตูให้สัญญาณและเปิดเข้ามา เธอเห็นชายหนุ่มนั่งนิ่งเหมือนเมื่อวานเขาไม่ร้องทักเธอ ไม่อาละวาดจนหญิงสาวเองก็นึกกลัว
“ทานข้าวต้มนะคะดิฉันทำเองเป็นอาหารเช้าของคนไทย” หญิงสาวชวนเขาคุย แต่อีกฝ่ายไม่สนใจยังคงนั่งนิ่ง
“ถ้าคุณไม่ทานอะไรเลยเดี๋ยวจะไม่สบายนะคะ” หญิงสาวตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าและนำไปจ่อตรงปากให้ชายหนุ่ม
“เพล้ง” โอ๊ย!” หญิงสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บเพราะถ้วยข้าวต้มร้อนๆที่ชายหนุ่มสะบัดมือปัดออกจากตัวหกรดที่แขนของหญิงสาว
“อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันจะเป็นหรือตายมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย ออกไป!” หญิงสาวกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมาทั้งเจ็บ ทั้งเสียใจ
“ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าคุณจะหายดีต่อให้คุณไล่ฉันยังกับหมูกับหมาก็ตาม” หญิงสาวตวาดใส่บ้าง คัสซิมและโซยารีบวิ่งขึ้นมาดูเมื่อได้ยินเสียงของแตกและเสียงตวาดของชายหนุ่ม
“หน้าด้าน เธอมันหน้าด้านที่สุด”
“ฉันจะถือว่าเป็นคำชม”
“เธอ...เธอมันผู้หญิงบ้า บ้าที่สุด”
“ถึงฉันจะบ้าในสายตาของคุณแต่ก็ไม่คิดทำร้ายตัวเองเพียงเพราะคนรักหนีไปแต่งงานหรอก” ชายหนุ่มถึงกับสะอึกที่โดนตอกกลับมาอย่างเจ็บแสบ
“เธอออกไปได้แล้ว ไป” น้ำเสียงของเขาบอกถึงความโกรธและเกลียดอย่างรุนแรง
“คุณจุไปทำแผลก่อนดีกว่านะคะ” โซยาเดินเข้ามายกแขนที่มีรอยแดงขึ้นดู
“ไม่ค่ะจนกว่าฉันจะพูดให้นายของคุณเข้าใจ”
“แต่ผมว่ารีบไปทายาก่อนดีกว่าครับ” คัสซิมบอกด้วยสีหน้าเป็นห่วง แต่หญิงสาวส่ายหน้าและเดินเข้ามาใกล้กับชายหนุ่ม
“ฉันจะบอกอะไรให้นะคะคุณนาธาน เมื่อก่อนฉันก็เป็นเหมือนกับคุณถูกคนรักทรยศหนีไปแต่งงานกับผู้หญิงที่รวยกว่า ฉันร้องไห้จนไม่น้ำตาจะไหลและคิดฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ แต่เมื่อฉันคิดได้ว่าฉันจะทำร้ายตัวเองไปทำไมในเมื่อฉันยังมีคนที่รักฉันรออยู่ข้างหลังอีกตั้งหลายคน ทั้งเพื่อน พ่อ แม่และญาติๆของฉัน เขาต่างก็เป็นห่วงฉันและรักฉันมาก คนอื่นที่ไม่ใช่ตัวฉันเขายังรักฉันเลยแล้วทำไมเราจะต้องทำร้ายตัวเองด้วยหละคะ คุณต้องรักตัวเองคุณยังมีเพื่อนยังมีทุกคนที่นี่ที่เขาเป็นห่วงคุณและรักคุณ ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนฉลาดคงเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดได้ดี ขอบคุณที่ทนฟังดิฉันมาได้ตั้งนานนะคะ” หญิงสาวเดินจากไปแล้วโซยาเดินตามหญิงสาวออกมาปล่อยให้คัสซิมอยู่กับนายหนุ่ม
“นายครับ” คัสซิมเรียกเบาๆ
นาธานนั่งนิ่ง “ฉันคงทำให้พวกนายเป็นห่วงมากหละสิ จริงอย่างที่คุณพยาบาลเขาพูด ฉันไม่สมควรเสียใจกับผู้หญิงใจง่ายแบบนั้น นายออกไปก่อนฉันอยากอยู่คนเดียว เอ่อ..แล้วก็เขาเป็นอะไรมากหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามเมื่อนึกได้ว่าหญิงสาวโดนข้าวต้มร้อนหกใส่
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับทายาก็คงจะค่อยยังชั่วขึ้น”
นาธานพยักหน้ารับ เขาไม่คิดว่าเขาจะโดนผู้หญิงมาสั่งสอนเอาแบบนี้ แต่ข้อคิดที่หญิงสาวบอกมันก็จริงอย่างที่เธอพูด
นับจากวันนั้นมาชายหนุ่มก็ยอมทำตามที่หญิงสาวแนะนำ จนทุกคนในบ้านแปลกใจรวมถึงจาค๊อบด้วย เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนหนุ่มอย่างชัดเจน อารมณ์ดีขึ้น อาการปวดหัวลดลงแต่ที่มีเพิ่มมากขึ้นคือความรู้สึกที่จาค๊อบมีต่อหญิงสาว และความรู้สึกของจุฑาพรที่มีต่อนาธานความใกล้ชิดทำให้หญิงสาวหวั่นไหวต่อหนุ่มอาหรับคนนี้มากขึ้นทุกวัน
“คุณเก่งมากเลยนะครับ เพื่อนผมอาการดีขึ้นทุกวันแบบนี้มีหวังหายได้แน่นอน” จาค๊อบเอ่ยชมหญิงสาวต่อหน้านาธาน
“คุณชมจุทุกวันจนแทบไม่ต้องทานข้าวแล้วนะคะ” หญิงสาวหัวเราะชอบใจ
นาธานรู้สึกขัดใจเมื่อได้ยินเสียงหนุ่มสาวหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม
“นายจะมาตรวจอาการของฉันหรือจะมาคุยกับพยาบาลของฉันกันแน่” ชายหนุ่มอดเหน็บเพื่อนหนุ่มไม่ได้
“ทำเป็นน้อยใจไปได้วันนี้ฉันจะมาตรวจความพร้อมของนายด้วย อาทิตย์หน้านายจะต้องเอ็กซเรย์ อีกรอบแล้วทางโรงพยาบาลก็จะเอาผลเข้าประชุมกันว่าจะผ่าตัดให้นายแบบไหน”
“แล้วมันอันตรายมากหรือเปล่าคะ” หญิงสาวอดเป็นห่วงไม่ได้
“ก็ยังไม่ทราบนะครับว่าจะต้องใช้วิธีการแบบไหน ต้องรอฟังผลดูก่อน”
“เดี๋ยวดิฉันไปเอาของว่างมาให้ทานกันนะคะ” หญิงสาวบอกและลุกเดินหายเข้าไปในครัว
“ฉันอยากถามอะไรนายหน่อยได้ไหมเพื่อน” จาค๊อบกระซิบถาม
“อะไรของนายวะทำเหมือนเป็นความลับ” ชายหนุ่มถาม
“คือว่า นายคิดว่าคุณจุเขาเป็นยังไงบ้าง”
“เป็นยังไง มันคืออะไร ฉันไม่เข้าใจ”
“ฉันบอกตรงๆนะว่าฉันชอบคุณจุและคิดว่าจะขอเขาเป็นแฟน นายคิดว่าเขาจะยอมหรือเปล่า” นาธานนิ่งอึ้งเมื่อได้ยินคำสารภาพของเพื่อนหนุ่ม อารมณ์หงุดหงิดเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันไม่รู้ถ้านายอยากรู้นายก็ลองขอเขาดูสิ” น้ำเสียงแข็งกระด้างขึ้น
“นายหวงคุณจุหรือไงถึงทำเสียงแบบนี้” เพื่อนหนุ่มถามขึ้นเมื่อน้ำเสียงอีกฝ่ายผิดหูไป
“เปล่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาฉันไม่รู้ ถ้าเขารักนายชอบนายฉันก็ยินดีด้วย”
“แล้วนายไม่ชอบคุณจุแน่นะ”
“ไม่” จุฑาพรยืนนิ่งเมื่อแอบได้ยินคำพูดที่ชายหนุ่มพูดคุยกัน น้ำตาแห่งความน้อยใจเอ่อล้นขึ้นมา
“แน่นะ” จาค๊อบถามย้ำ
“แน่สิ คนอย่างฉันไม่สนใจผู้หญิงปากร้ายแบบนั้นหรอก” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ
“ก็ดี ฉันจะได้สบายใจว่าไม่มีคู่แข่ง”
จุฑาพรรีบปรับสีหน้าให้เป็นปรกติและเดินออกมาจากมุมบ้านพร้อมกับน้ำชาและขนมทานเล่น
“ขอบคุณมากนะครับ” จาค๊อบยิ้มให้ หญิงสาวจึงยิ้มตอบ
“ไม่เป็นไรค่ะ เอ่อเดี๋ยวดิฉันขอตัวก่อนนะคะ รู้สึกปวดหัวนิดหน่อย”
“เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ ผมตรวจให้เอาไหมครับ” ชายหนุ่มเสนอตัว
“ไม่ดีกว่าค่ะ ทานยาแล้วก็นอนพักเดี๋ยวก็หายค่ะ ขอตัวนะคะ” หญิงสาวบอกและหันหลังเดินออกมา
“ฉันก็อยากพักผ่อนเหมือนกัน ถ้านายต้องการอะไรเพิ่มก็บอกพวกเด็กๆได้เลย” ชายหนุ่มลุกขึ้น คัสซิมจึงรีบเข้ามาช่วยพยุง
“อ้าวแล้วฉันจะอยู่ทำไมหละ กลับบ้างดีกว่า” จาค๊อบเดินอมยิ้มออกไป
นาธานนั่งครุ่นคิดอยู่บนเตียง เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทุกครั้งที่จาค๊อบพูดคุยกับจุฑาพรทำไมเขาต้องไม่พอใจด้วย
“ได้เวลาทานยาแล้วค่ะ” หญิงสาวเดินเข้ามาพร้อมกับถาดยา
“เสียงสดใสดีนี่ ฉันอยากรู้นักว่าเธอทำยังไงถึงทำให้เพื่อนฉันหลงเธอได้จนมาขอคบกับเธอ” ชายหนุ่มอดพูดเหน็บไม่ได้
“คุณพูดอะไรของคุณ ฉันไม่เข้าใจ”
“จาค๊อบเขาบอกกับฉันว่าเขาชอบเธอ แล้วเธอหละจะว่ายังไง”
ความน้อยใจทำให้หญิงสาวตอบออกไปอย่างไม่คิด
“ก็ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ คุณจาค๊อบก็น่ารักดี หล่อแถมรวยอีกด้วยฉันก็คงจะตอบตกลง”
“นี่เธอคิดจะหลอกเพื่อนฉันหรือไง เลวที่สุด”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาด่าฉันนะคะ แต่ก็ช่างเถอะมันเป็นนิสัยของคุณอยู่แล้ว” หญิงสาวทำน้ำเสียงไม่สนใจและหยิบยาส่งให้กับเขาแทนที่เขาจะคว้ายากับดึงแขนหญิงสาวให้เซล้มลงไปบนหน้าอกของเขาและกอดเอวเธอเอาไว้แน่น
“ปากดีนัก ฉันอยากรู้นักว่าถ้าโดนแบบนี้แล้วจะยังปากดีอยู่หรือเปล่า” สิ้นคำพูดของชายหนุ่ม เขาก็บดริมฝีปากลงกับปากเรียวของหญิงสาว จุฑาพรทุบกำปั้นลงกับอกกว้างของเขาแต่อีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้านอะไรเลย รสจูบที่เร่าร้อนของเขาแทบทำให้หญิงสาวลืมทุกสิ่งทุกอย่างภาพทุกอย่างเบลอไปหมดก่อนที่ทุกอย่างจะเตลิดมากไปกว่านี้หญิงสาวก็ดึงสติกลับมาได้และรวบรวมกำลังทั้งหมดผลักเขาออกห่าง
“เพี้ยะ”
“คุณดูถูกฉันมากเกินไปแล้ว ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายแบบที่คุณคิด” หญิงสาวสะอื้นออกมาทำให้นาธานถึงกับหน้าเสีย
“ผมไม่ได้คิดแบบนั้น ผมขอโทษ”
“คุณพูดแบบนี้ทุกครั้งที่จูบผู้หญิงหรือไงคะ” จุฑาพรมองเขาอย่างน้อยใจ
“ไม่ใช่แบบนั้น คือว่าผม...”
“ฉันไม่ฟังอะไรจากคุณอีกแล้ว” หญิงสาวเช็ดน้ำตาก็เดินออกมาจากห้อง
ตั้งแต่วันที่ชายหนุ่มปล้ำจูบหญิงสาวจนมาถึงวันนี้ก็เกือบอาทิตย์แล้ว หญิงสาวก็ไม่ยอมเข้าใกล้เขาอีกเลย เธอจะจัดยาและให้คัสซิมเป็นคนเอามาให้กับเขาแทน นาธานรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก และเริ่มโมโหง่ายมากขึ้น
“คุณพยาบาลอยู่ที่ไหนคัสซิม” ชายหนุ่มถามขึ้น
“อยู่ในสวนกับคุณจาค๊อบครับ” ลูกน้องหนุ่มรายงาน
คำบอกของชายหนุ่มทำให้นาธานเดือดเหมือนกับน้ำร้อนในกาน้ำ
“นายต้องการอะไรครับ เดี๋ยวผมหาให้”
“ไม่ต้อง ออกไป!” เขาตวาดไล่ คัสซิมจึงต้องเดินออกมาอย่างไม่เต็มใจ