ตอนที่ 3 ใจมันวาบหวิว (กุหลาบทะเลทราย)
ตอนที่ 3 ใจมันวาบหวิว
เมื่อชายหนุ่มทานเสร็จหญิงสาวจึงเข้าไปชวนเขาเดินเล่นเพื่อย่อยอาหาร แต่ชายหนุ่มก็ดื้อดึงเช่นเคย
“ไปเดินเล่นกันหน่อยไหมคะจะได้ย่อยอาหารไปด้วย”
“ไม่หละ ฉันจะขึ้นไปพักผ่อน” ชายหนุ่มเดินหนี หญิงสาวจึงดึงแขนเขาเอาไว้
“บอกว่าไม่ชอบไง ไป”นาธานสะบัดแขนอย่างแรงจนหญิงสาวเซล้มลงไปกองกับพื้น
“เป็นไงบ้างครับคุณจุ” คัสซิมรีบเข้ามาช่วยพยุงหญิงสาวลุกขึ้น
“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” หญิงสาวลุกขึ้นปัดเสื้อผ้าแล้วก้าวเข้ามายืนประจันหน้ากับชายหนุ่มอีกครั้ง
“คุณมันดื้อจริงๆเลยคุณนาธาน สมแล้วที่ถูกทิ้ง” หญิงสาวพูดออกไปแล้วก็ต้องเสียใจเธอไม่น่าพูดจี้ใจดำของเขาเลย
“หยุดนะ เธอไม่มีสิทธิ์มาด่าฉัน ยัยผู้หญิงปากร้ายไป ออกไปจากบ้านฉัน ไป เธอมันก็แค่ผู้หญิงที่ผู้ชายเขาไม่ต้องการ คัสซิมลากผู้หญิงคนนี้ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ไป...โอ๊ย! ปวด ปวดหัว” ชายหนุ่มทรุดลงนั่งกับพื้นและเอามือกุมที่ศีรษะ
“ผมว่าพานายขึ้นข้างบนเถอะครับ” คัสซิมเข้ามาช่วยพยุงชายหนุ่มแต่เวลาอาการปวดกำเริบมันรุนแรงจนเขาไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลยจึงยากที่จะพาชายหนุ่มขึ้นไปข้างบนในเวลานี้
“ใจเย็นๆนะคะ อย่าคิด อย่านึกอะไรปล่อยตามสบายนะคะ” หญิงสาวรีบเข้ามาประคองเขาเอาไว้
“อย่ามายุ่ง ฉันบอกแล้วไงว่าไปให้พ้น โอ๊ย!ปวด ปวด” นาธานผลักตัวหญิงสาวออก
จุฑาพรรีบลุกขึ้นและเข้ามานั่งลงตรงข้ามกับชายหนุ่มและดึงศีรษะของชายหนุ่มเข้ามาซบตรงอกและใช้มือนวดเบาๆที่บริเวณต้นคอ
“ใจเย็นนะคะ ทำใจสบายๆอย่าคิดอะไรสูดลมหายใจเข้าลึกๆและปล่อยออกมาช้าๆ”หญิงสาวบอกและชายหนุ่มก็ทำตามแต่โดยดีเพราะอาการปวดมันทำให้เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อระงับมันและสิ่งที่หญิงสาวทำมันก็ช่วยให้เขาหายปวดลงได้ คัสซิมยืนมองอยู่ห่างๆและเมื่อเห็นนายของตนเองสงบลงจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก นาธานหลับตานิ่งรู้สึกผ่อนคลายกับสัมผัสที่แผ่วเบาของหญิงสาวจนลืมว่าเขาโกรธและไล่เธอเมื่อครู่นี้
“เป็นไงบ้างคะรู้สึกดีขึ้นไหมคะ” หญิงสาวถามเมื่อเห็นอาการดิ้นเมื่อครู่สงบนิ่งลง
นาธานลืมตาขึ้นช้าๆและรู้สึกถึงไออุ่นในร่างกายของอีกฝ่ายเขาจึงรีบผละออกห่าง
“คัสซิมพาฉันขึ้นไปบนห้องเดี๋ยวนี้”ชายหนุ่มสั่งเสียงแข็ง
“ครับนาย” ชายหนุ่มรีบเข้ามาพยุงนายหนุ่มแล้วพาขึ้นไปบนห้อง หญิงสาวมองท่าทีรังเกียจในตัวเธอของเขาอย่างเจ็บช้ำ ครั้งหนึ่งเธอเคยถูกผู้ชายทิ้งด้วยเพราะว่าเธอจนไม่มีเกียรติ ไม่คู่ควรกับเขา แล้วมาครั้งนี้ก็ถูกรังเกียจแบบไม่มีเหตุผลแต่เธอเป็นพยาบาลเป็นนางฟ้าสีขาวตามที่ชาวบ้านเรียกขานเธอจะยอมแพ้เพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว เธอต้องแยกให้ออก หญิงสาวกระพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยดน้ำตาให้กลับเข้าไปอีกครั้ง
“ทานยาแก้ปวดด้วยนะคะจะได้ดีขึ้น” หญิงสาวบอกและวางยาบนมือของชายหนุ่มแต่อีกฝ่ายกลับชักมือหนี
“คุณจะโกรธจะเกลียดดิฉันก็ได้แต่ต้องทานยาและดูแลตัวเองด้วยนะคะจะได้หายเร็วๆดิฉันจะได้กลับบ้านเร็วๆคุณก็จะได้ไม่ต้องมาทนผู้หญิงบ้าแบบฉันอีก” หญิงสาวจับมือเขาขึ้นมาและวางยาลงไปอีกครั้ง
“ทานยาแล้วนอนพักผ่อนนะคะฝากด้วยนะคะคุณคัสซิม” หญิงสาวยิ้มให้เพื่อนร่วมงาน
เมื่อต้องอยู่คนเดียวจุฑาพรก็อดคิดถึงความรักครั้งเก่าของเธอไม่ได้ เธอรักหมอรัฐภูมิมากและคบกันมานานเป็นแรมปี จนทุกคนในโรงพยาบาลต่างก็มั่นใจว่าทั้งคู่จะต้องได้แต่งงานกันเร็วๆนี้แน่นอนแต่เรื่องมันกลับพลิกล็อคเมื่อนายแพทย์หนุ่มมาแจกการ์ดและชื่อเจ้าสาวไม่ใช่จุฑาพร เธอแทบล้มทั้งยืนถ้าไม่ได้เพื่อนช่วยประคองเอาไว้ เธอเข้าไปถามเขาและคำตอบที่ได้มันช่างทิ่มแทงใจเธอเหลือเกิน
“ผมต้องแต่งงานตามที่แม่ผมเห็นสมควร”
“แล้วคุณไม่ได้รักจุเลยหรือคะ” หญิงสาวถามพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลลงมา
“รักสิครับจุ ผมรักจุคนเดียว ถึงผมจะแต่งกับเขาใจผมก็มีแต่จุเท่านั้น”
“คุณก็ไปบอกแม่คุณสิคะว่าไม่ต้องการแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นแต่ต้องการแต่งงานกับจุ”
“ผมทำไม่ได้หรอกแม่ผมเป็นถึงคุณหญิง ท่านจะเสียหน้า” ชายหนุ่มอธิบาย
“ถ้าเกิดว่าจุเป็นคนรวยแม่คุณคงไม่รังเกียจใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด
“คือว่าผม..เอ่อ ผม..”
“จุเข้าใจแล้วค่ะ จุขอให้คุณมีความสุขนะคะ” หญิงสาวอวยพรให้เขาและวิ่งออกมาอย่างไม่รู้ทิศทางจนมาหยุดที่หน้าห้องพักของตนเอง เธอปิดประตูขังตัวเองร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลและหญิงสาวก็นึกถึงคำพูดของมารดาที่เคยสอนเอาไว้ว่าไม่มีใครรักเราเท่ากับตัวของเราเอง เสียใจได้แต่อย่าเสียสติ เธอจึงลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
“คุณพยาบาลคะ คุณพยาบาล” เสียงสาวใช้เคาะประตูเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน
“มีอะไรจ๊ะ” หญิงสาวเดินมาเปิดประตูให้
“นายค่ะ นายอาละวาดอีกแล้วค่ะ”
“จริงหรือ ไปเร็ว” หญิงสาวรีบวิ่งมาที่ห้องของชายหนุ่มทันที เธอเห็นนาธานกำลังคว้างปาข้าวของที่อยู่ใกล้ๆมืออย่างไร้ทิศทาง
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณคัสซิม” หญิงสาวหันมาถามผู้ช่วยหนุ่ม
“คุณซาน่าโทรมาหาและบอกว่าเธอจะแต่งงาน นายก็เลยเป็นแบบนี้ผมเกรงว่าจะปวดหัวขึ้นมาอีก”และยังไม่ทันที่จะสิ้นเสียงของชายหนุ่มอีกฝ่ายก็ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
“โอ๊ย ปวดหัว ปวดจนจะระเบิดอยู่แล้ว คัสซิมเอายามาที” นาธานนอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง หญิงสาวรีบเข้าไปดูทันที
“อยู่นิ่งๆค่ะ นอนลงและหลับตาดิฉันจะช่วยนวดให้นะคะ” หญิงสาวกดชายหนุ่มให้อยู่นิ่งๆแต่เขาดิ้นด้วยความปวดจึงทำให้หญิงสาวล้มลุกไปด้วยกันกับเขา
“คุณคัสซิมโทรเรียกหมอมาด่วนเลยค่ะ” หญิงสาวหันมาสั่งอีกครั้ง
“อยู่เฉยๆสิคะดิฉันจะนวดให้”หญิงสาวบอกเสียงอ่อนโยน
“ผมปวด โอ๊ย!”
“งั้นซบหน้าลงตรงนี้นะคะแล้วทำอย่างที่ดิฉันบอกอย่างเมื่อตอนเช้าแล้วคุณจะดีขึ้น” หญิงสาวให้เขานอนซบลงกับอกและนวดเบาที่ต้นคอและขมับทั้งสองข้าง ชายหนุ่มจึงค่อยๆสงบลงและนิ่งไป
“เดี๋ยวคุณหมอก็มาแล้วนะครับ” คัสซิมบอกหญิงสาว เธอจึงค่อยๆวางศีรษะของเขาลงกับหมอนและจะลงไปจากเตียงเขาก็คว้าข้อมือเธอเอาไว้
“อย่าเพิ่งไปได้ไหมอยู่กับฉันก่อน” น้ำเสียงเขาสั่นเครือ หญิงสาวหันไปมองหน้ากับคัสซิมและนั่งลงอีกครั้ง
“ขอหนุนตักเธอได้หรือเปล่า” นาธานไม่รอคำอนุญาตเขาขยับขึ้นมานอนหนุนตักหญิงสาว จุฑาพรได้แต่อ้าปากค้างแต่ก็ปล่อยให้ชายหนุ่มนอนหลับบนตักของเธอ คัสซิมถอยออกไปจากห้องเงียบๆ หญิงสาวได้มีโอกาสพิจารณาชายหนุ่มใกล้ๆเวลาที่เขาหลับดูอ่อนวัยน่ารักเหมือนหนุ่มน้อยธรรมดาแต่เมื่อตื่นราวกับคนละคนทีเดียว หญิงสาวลูบผมดำขลับของเขาอย่างเบามือ
“เป็นไงบ้างคัสซิม นาธานหายปวดหัวหรือยัง” จาค๊อบหมอประจำตัวและเพื่อนสนิทของนาธานถามด้วยความกังวลใจ
“หายแล้วครับตอนนี้คุณจุกำลังดูแลอยู่ครับ”
“ใครกัน หรือว่าพยาบาลคนใหม่”
“ครับเพิ่งมาเมื่อวานนี้ครับแต่กำราบนายเสียอยู่หมัดเลยนะครับเก่งจริงๆ” ชายหนุ่มกล่าวชม
“ฉันอยากเห็นหน้าเสียแล้วสิ”
“สวยมากเลยนะครับ นิสัยดีด้วยนะครับ”
“เราขึ้นไปดูกันดีกว่า” จาค๊อบเอ่ยชวน
สองหนุ่มจึงพากันเดินขึ้นมาที่ห้องของนาธานและเห็นชายหนุ่มกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนตักของหญิงสาว เพียงครั้งแรกที่จาค๊อบเห็นหญิงสาวก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก จุฑาพรวางศีรษะของชายหนุ่มลงกับหมอนและลงมาจากเตียงของเขา
“ผมเป็นเพื่อนและเป็นหมอประจำตัวของนาธานนะครับยินดีที่ได้รู้จักครับ” ชายหนุ่มยิ้มให้
“เช่นกันค่ะ ดิฉันจุฑาพรค่ะพยาบาลวิชาชีพจากเมืองไทยค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้เขาอย่างงดงามพร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“สาวไทยสวยอย่างคุณทุกคนเลยหรือเปล่าครับ” จาค๊อบเอ่ยชม
หญิงสาวยิ้มเขินๆให้ “ทุกคนมั้งคะ เอ่อดิฉันเพิ่งให้ทานยาแก้ปวดไปเขาเพิ่งหลับไปเมื่อครู่”
“เราลงไปคุยด้านล่างกันดีกว่านะครับปล่อยให้เจ้าหมอนี่มันนอนพักผ่อนไปก่อน” เขาเสนอแนะ
“ก็ดีค่ะ” หญิงสาวจึงเดินนำหน้าหนุ่มทั้งสองลงไปก่อน
คัสซิมเล่าเรื่องที่ซาน่ากำลังจะแต่งงานกับดาราฮอลลีวู้ดให้กับจาค๊อบฟัง ชายหนุ่มขบกรามแน่น
“ผู้หญิงเลวๆแบบนั้นมันเห็นแก่เงินพอนาธานตาบอดมันก็ทิ้งไปเกาะคนใหม่เลวที่สุด” ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างหยาบคายโดยลืมไปว่ามีผู้หญิงนั่งอยู่ที่นี่ด้วยอีกคน
“ขอโทษด้วยนะครับผมลืมไปว่าคุณก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“เพื่อนผมกับแม่ดาราดังนั่นรักชอบกันมานานเกือบปีจนนาธานมาประสบอุบัติเหตุตาบอดแต่เป็นเพียงชั่วคราวนะครับหล่อนก็ไม่เคยมาดูแล มีแวะมาแค่สองครั้งแล้วก็รีบกลับ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเพื่อนผมจะได้ไม่ต้องมาตกนรกทีหลังเพราะความหลายใจของผู้หญิงคนนั้น” เขาถอนใจเหมือนโล่งอก
“แล้วการรักษาดวงตาหละคะ” หญิงสาวถาม
“เพราะได้รับการกระแทกอย่างแรงจนทำให้จอประสาทตาบอบช้ำคงต้องใช้เวลาและใช้แสงช่วยกระตุ้นแต่ที่ผ่านมาเพื่อนผมมันไม่ยอมเอาอะไรเลยแล้วยิ่งมารู้ว่าคนรักแต่งงานแบบนี้ด้วยผมหละกลัวจริงๆเลยว่ามันคงไม่คิดจะรักษาตัวเองอีกแล้ว”
“เรื่องนั้นเอาไว้ดิฉันจัดการเองนะคะ” หญิงสาวยิ้ม
“เห็นคัสซิมบอกว่าคุณมาแค่วันเดียวก็ทำให้เสือเชื่องเป็นลูกแมวได้แล้ว ผมเชื่อว่าคุณทำได้ เดี๋ยวผมขอตัวขึ้นไปดูอาการมันก่อนนะครับ” ชายหนุ่มบอกและเดินกลับไปบนห้องของเพื่อนรักเพื่อตรวจอาการของชายหนุ่ม
“อ้าว ตื่นแล้วหรือไอ้เสือ” จาค๊อบมองหน้าเพื่อนที่เศร้าสร้อยลงอย่างสงสาร
“นายมาตั้งแต่เมื่อไร”
“เมื่อครู่นี้เอง ขอฉันดูตาแกหน่อย” จาค๊อบหยิบไฟฉายขนาดเล็กขึ้นมาส่องดวงตาของชายหนุ่ม
“พรุ่งนี้แกไปตรวจที่โรงพยาบาลดีกว่าเพราะเครื่องมือมีพร้อมกว่าฉันจะจองคิวให้”
“ไม่ ฉันไม่อยากเห็นอะไรอีกแล้วปล่อยฉันไว้แบบนี้ดีกว่าเพื่อน ถ้ารักกันจริง” นาธานเมินหน้าไปทางอื่น จาค๊อบนิ่งเงียบไม่รู้ว่าจะปลอบเพื่อนรักอย่างไรดี เขาคงจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพยาบาลสาวดีกว่า
“ฉันเป็นห่วงนายนะเพื่อน นายยังมีฉันอยู่เราเป็นเพื่อนกันจำไว้” จาค๊อบตบไหล่เพื่อนรักเบาๆก่อนจะเดินออกไปอย่างเงียบๆ
“เป็นไงบ้างคะ” หญิงสาวถามเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายไม่สู้ดีนัก
“เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ เขาไม่ยอมรักษา ผมยกให้เป็นหน้าที่ของคุณนะครับจะทำยังไงก็ได้ให้เขาไปโรงพยาบาล ตอนนี้ที่บริษัทก็ต้องการให้มันกลับเข้าไปสะสางงานด่วนเหมือนกัน” ชายหนุ่มบอกและขอตัวกลับไปทำงานต่อเพราะคนไข้ยังรออยู่อีกเยอะ
“ผมขอตัวนะครับ”
“โชคดีนะคะ”
“ขอบคุณครับแล้วเจอกันใหม่”
เมื่อจาค๊อบกลับไปแล้วหญิงสาวจึงเดินขึ้นมาดูชายหนุ่มอีกครั้งเห็นเขานั่งเหม่อลอยใบหน้าดุเคร่งเครียดจนน่ากลัว เธอจึงปล่อยให้เขาได้ใช้ความคิดคนเดียวเงียบๆสักพัก