Ch.1 Tanaka Cougars
[Cougars]
ผมชื่อว่าคูการ์ อายุตอนนี้ก็ เกือบ 30 ปีแล้ว ชื่อเต็มๆของผมคือ ทานากะ คูการ์ เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น - อังกฤษ แม่ของผมเกิดที่อังกฤษแต่ก็เป็นลูกเสี้ยว คุณพ่อของผมเป็นคนญี่ปุ่นโดยแท้แถมยังเป็นมาเฟียอีกด้วย มีธุรกิจด้านมืดหลายแบบหลายอย่าง และก็มีหลายสาขาผมจึงได้รับการสืบทอดในการทำงานนี้จากพ่อของผมพ่อสอนว่าเราจะเก่งกับใครก็ได้แต่เราอยากเก่งกับเมียของตนเอง เพราะเมียเกิดมาพร้อมกับคำว่านักรบที่จะฆ่าฟันเราให้ตายได้โดยดาบเดียวและอย่าหาเรื่องตายโดยไม่สมควร นี่คือสิ่งที่พ่อของผมพร่ำสอนมาโดยตลอดว่าอย่า เก่งกับเมียเด็ดขาดจงเป็นทาสเมียซึ่งผมก็ซึมซับเอาความคิดของคุณพ่อที่สั่งสอนมาเก็บไว้ในใจมาโดยตลอด
ตัวของผมมีแฟนชื่อว่า ซายูริ เป็นนางแบบสาวสวยมากความสามารถเราคบกันได้เกือบ 2 ปีแล้ว เราสองคนถือว่าอีกไม่นานก็จะแต่งงานกันแล้ว แต่เราไม่เคยที่จะอยู่อาศัยบ้านเดียวกันแต่ถามว่าเรื่องระหว่างชายหญิงที่พึงกระทำผมได้ทำแบบนั้นเหมือนผู้ชายคนอื่นไหมซึ่งผมตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าใช่ครับผมมีอะไรกับแฟนสาวของผม อย่างที่ผู้ชายพึงกระทำกับแฟน ในครั้งนี้ผมได้มีโอกาสมาที่ประเทศไทย เพราะต้องการมาทำธุรกิจที่นี่พ่อของผมมีสาขาที่ประเทศไทย ผมจึงได้รับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้มาทำงานที่นี่และเป็นหัวหน้าของพวกเขาซึ่งผมก็เห็นว่ามันเป็นเรื่องดีในการที่จะทำอะไรใหม่ๆบ้างผมจึงตอบรับและมาทำงานที่นี่งานแรกที่ผมได้มาทำ ก็คือการเปิดบ่อนคาสิโนแห่งใหม่ ที่อยู่ใจกลางเมือง เพราะผมเคยเรียนอยู่ที่นี่มาก่อนและคุ้นเคยกับประเทศไทยจึงได้รับหน้าที่นี้ แล้วผมก็ภาคภูมิใจที่ผมได้กลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง
ผมมางานเลี้ยงเปิดตัวแบรนด์สินค้าโดยที่ผมก็ร่วมหุ้นที่นั่นด้วยแต่เพราะความไม่ระวังของผมจึงทำให้ผมโดนคนชั่ววางยา ผมรีบหนีเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจะคลายความต้องการลงบ้างและผมก็บังเอิญได้เจอกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง สุดท้ายผมก็อดใจไม่ไหวลากเด็กคนนั้น ไปนอนด้วยหรือเรียกง่ายๆว่าข่มขืนเด็กคนนั้นทำให้ผมรู้สึกแย่แต่ในตอนนั้นผมขาดสติยั้งคิดจึงทำได้เพียงแค่มอบเงินเอาไว้ให้เด็กคนนี้ได้ใช้จ่ายก่อนจะจากไป ผมเองก็รู้สึกผิดที่ทำตนแบบนั้น แต่ผมกับเขาอยู่คนละโลกกันเกินไปอีกอย่างเขาก็เป็นผู้ชายไม่สามารถตั้งท้องได้ผมจึงวางใจที่จะไม่ทำให้ใครพลาดท้องผมเลยจากมาโดยไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำอีก
“เจ้านายครับ”
“ว่าไง”
“เด็กคนนั้นอยู่ที่โรงแรม 2 วันก่อนจะออกจากโรงแรมครับ น่าจะอาการหนักพอตัวเดินขาถ่างเลยครับเจ้านาย”
“ขับรถตามไปดูมั้ยว่าเขากลับบ้านอย่างปลอดภัยหรือเปล่า”
“ครับ ผมขับตามไปเข้าเดินเข้าบ้านกึ่งเก่ากึ่งใหม่ครับ พอผมเห็นว่าเขาไปถึงบ้านอย่างปลอดภัยผมเลยกลับมารายงานเจ้านายครับ”
“อืมดีแล้วล่ะ นายกลับไปทำงานเถอะ”
“ครับ”
“เดี๋ยวก่อน”
“ครับเจ้านาย”
“ตอนที่นายไปบอกเด็กคนนั้นเขาเรียกร้องอะไรมั้ย”
“ไม่ครับ แค่พยักหน้าแล้วปิดประตูใส่ผมครับ”
“อืม เข้าใจแล้วนายไปเถอะฉันจะนอนพักหน่อย”
“ครับ”
เป็นไปได้ไงที่เด็กคนนั้นไม่เรียกร้องอะไรเลย ผมไม่เข้าใจว่าเด็กที่มาทำงานหาเงินที่โรงแรม ไม่ต้องการเรียกร้องเงินเพิ่มเลยสักนิด แปลกคนจริงๆ
“คิดอะไรหรอคะ คูการ์”
“เปล่าครับ แล้วซายูริมานานแล้วหรอครับ”
“เมื่อกี้ค่ะ แต่คุณไม่สนใจฉันเลย”
“ขอโทษนะ แค่ผมคิดเรื่องงานเยอะไปหน่อยเท่านั้นเอง”
“ไม่โกรธหรอกค่ะ แล้วนี้เราจะไปทานอาหารเย็นกันเลยมั้ยคะ เดี๋ยวรถติด”
“ไปกันครับ”
ผมพาแฟนสาวไปทานอาหารที่ร้านอาหารหรู เพราะผมรู้ว่าถ้าผมพาไปในที่ ต่ำกว่า 5 ดาว เธอจะไม่พอใจเพราะชีวิตของเธอไม่เคยได้ลิ้มรสอาหารข้างทางเลยสักครั้งจึงไม่แปลกที่เธอจะเลือกในที่รู้ๆ ส่วนตัวผมนะรอไม่ค่อยชอบมาทานอาหารในร้านหรูสักเท่าไหร่ เพราะมันดูเป็น ระเบียบมากเกินไปผมไม่ค่อยชอบ
“คูการ์ คุณคิดอะไรอีกแล้วหรอคะ”
“เปล่าครับผมแค่คิดไปเรื่อยเปื่อยสั่งอาหารเสร็จแล้วหรอ”
“ใช่ค่ะ แล้วคุณล่ะจะทานอะไร”
“งั้นเอาคอหมูพริกไทยดำ ปีกไก่ไวน์แดง สเต็กเนื้อ เอาสลัดมาด้วยแค่นี้ล่ะครับ”
“รอสักครู่นะคะ”
พนักงานพูดจบก็จากไปในทันที รอไม่ถึง 20 นาทีอาหารที่สั่งมาก็มาเรียงรายอยู่บนโต๊ะอาหารแล้วเรียบร้อยเราต่างคนก็ต่างทานอาหารไปโดยไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเกิดขึ้นเลย สักคำเดียวเธอสั่งอาหารมา 2-3 อย่างแต่ก็ทานนิดเดียวทำให้เหลือเยอะมากกว่ากินเสียอีกจนตัวของผมรู้สึกเสียดายขึ้นมาทันทีเงินก็ไม่ใช่หามาได้ง่ายๆ แถมยังต้องมากินทิ้งกินขว้างแบบนี้อีก ในตอนที่ผมมาเรียนที่ประเทศไทยผมใช้เงินฟุ่มเฟือยมากแต่เพื่อนของผมที่อยู่ประเทศไทยก็สอนให้ผมรู้จักการใช้เงิน แต่ตอนนี้เพื่อนคนนั้นกลับกลายเป็นคู่อริของผมไปซะแล้วทั้งๆที่ผมคิดว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีของผมแต่ไม่รู้เพราะอะไรอยู่ๆเขาก็เกลียดผมขึ้นมาแล้วเราทั้งสองคนก็กลายเป็นศัตรูกันหลังจากนั้นผมก็กลับประเทศญี่ปุ่นหลังจากเรียนจบไป เราก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีกเลย
“คูการ์คุณเหม่ออีกแล้วนะคะ ไม่อยากมาทานอาหารกับฉันหรอคะ”
“ไม่ใช่นะ แค่คิด”
“คิดเรื่องงาน คุณควรวางงานลงก่อนนะคะ เพราะฉันอยากมาทานอาหารและใช้เวลาร่วมกันกับคุณนะคะ”
“ผมขอโทษ คุณทานอาหารเสร็จแล้วใช่มั้ย ผมจะไปส่งคุณที่คอนโดนะครับ”
“คุณไม่กลับกับฉัน”
“ผมต้องไปทำงานต่อคาสิโนที่เปิดใหม่ต้องเข้าไปดูแล้วหน่อย”
“ชีวิตคุณมีแต่งานหรือไง เอาแต่ทำงานไม่เคยสนใจฉันเลย”
“ผมทำงานหนักก็เพื่อเราสองคนนะซายูริ คุณต้องเข้าใจผมด้วยนะ”
“ตามใจคุณเถอะค่ะ ฉันจะห้ามคุณได้ยังไงในเมื่อมันคืองานที่คุณรัก คุณไม่ต้องไปส่งหรอกค่ะฉันจะกลับเอง”
“ไม่ได้มันอันตราย”
“งั้นให้บอดี้การ์ดคุณไปส่งฉันก็ได้คุณจะได้ไปทำงานของคุณ”
“เอางั้นหรอ”
“ค่ะ”
“ผมตามใจคุณ”
“ค่ะ”
ผมรู้ว่าเธอโกรธผมที่ผมเอาแต่ทำงานแต่ผมก็ทำงานหนักเพื่อเขาเหมือนกัน ต่อให้ถูกด่าถูกว่ายังไงก็ตามผมก็ต้องทำงานเพื่อหาเงินและเก็บเงินเอาไว้ดูแลครอบครัว ในอนาคตเพราะเราไม่อาจที่จะทำงานแบบนี้ได้ตลอดไป ถึงต้องเก็บเงินเอาไว้มากๆเพื่อที่จะเอาไว้ใช้ในยามแก่ตัวลงไป ต่อให้เธอไม่เห็นด้วยกับผมแต่สิ่งที่ผมทำทั้งหมดเพื่อตัวของพวกเราเอง
ผมให้ลูกน้องไปส่งแฟนสาวของผมและผมก็กลับมาทำงานของตนเองวันนี้ได้ข่าวว่าฟีฟ่า จะเข้ามาที่คาสิโนของเขาก็อยากไปเห็นหน้าเพื่อนเก่าตัวเองบ้างผมเลยขับรถไปยังคาสิโนของฟีฟ่าแทนที่จะเป็นคาสิโนตัวเอง
“ขอดูบัตรประชาชนด้วย”
“หน้าฉันเด็กขนาดนั้นเลยหรือไง ถึงต้องขอดูบัตรประชาชน”
“มันเป็นกฏ ทุกคนต้องปฏิบัติตามใครอายุไม่ถึงก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปในผับของเราได้”
“งั้นหรอ ก็เอาไปดูสิ”
ผมจึงดึงบัตรประชาชนออกไปให้ยามหน้าผับดู เขาก็พยักหน้าให้ผมเข้าไปในผับได้ในผับแห่งนี้ เบื้องหน้าเป็นผับที่ให้วัยรุ่นวัยทำงานตื่นกินกันที่นี่แต่ชั้นใต้ดินเป็นคาสิโนขนาดใหญ่ ถามว่าทำไมถึงไม่มีตำรวจมาค้นเลยเพราะเงินหนาและหนักพอที่จะปิดปากตำรวจได้จึงไม่แปลกที่ว่าคาสิโนจะใหญ่มากขนาดนี้
“ฉันต้องการพบเจ้านายของพวกนาย”
“คุณไม่มีสิทธิ์ได้พบกับเจ้านายของพวกเรา”
“จะมีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์ก็ไปบอกเขาว่าเพื่อนเก่าอยากพบหน้าเดี๋ยวเขาจะเรียกฉันเข้าไปเอง”
“งั้นรออยู่ตรงนี้ก็แล้วกัน”
“ได้ฉันไม่เดินหนีไปไหนหรอก”
รอเพียงไม่นานบอดี้การ์ดคนเดิมที่นำทางผมก็พาผมไปยังห้องพักที่อยู่ชั้นบน เกือบได้เจอกับเพื่อนเก่าของผมที่กำลังนั่งกินขนมทางดื่มเหล้าไปด้วยอย่างสบายอารมณ์แถมบนโต๊ะยังมีบัญชีต่างๆที่วางเกลื่อนกลาดไอ้นี่เป็นคนไม่รอบคอบมาตลอดแต่เป็นคนที่ประหยัดเงินเก่งมากคนนึงและใช้เงินเป็นไม่แปลกใจว่าทำธุรกิจอะไรก็รุ่งเรือง และแข็งแกร่งขนาดนี้
ผมเดินเข้าไปมันก็ยังนั่งกินขนมอย่างสบายอารมณ์อยู่ผมจึงเดินเข้าไปแย่งถุงขนมของมันมาและนั่งกินอย่างกวนบาทามัน ทำให้มันอารมณ์เสียขึ้นมาได้นำว่าผมทำสำเร็จแล้ว
“ไอ้เหี้ย อย่าแย่งขนมกู”
“ขนมห่อไม่กี่บาทแย่งไม่ได้หรือไง”
“มาทำเหี้ยอะไร”
“แค่อยากเห็นน่ามึงเท่านั้น”
“แต่ก็ไม่อยากเจอมึงสักหน่อย”
“มึงใจดำจังวะ”
“ไปไกลๆกูไอ้คูการ์ อย่ามากวนตีนแถวนี้”
“ก็แค่คิดถึงมึงเลยมา”
“กูกับมึงไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”
“แค่อยากมาเท่านั้นเอง”
“ไปสิงที่อื่นไปไอ้สัมภเวสี”
“ไอ้สัส”
“สัสพ่อง ถอยไปไกลๆกูจะทำงาน ถ้าจะมากวนตีนกูก็กลับไป”
“อย่าห้าวมากมึงอ่ะ ตัวเท่าลูกหมายังจะมาทำตัวซ่าอีกถามจริงลูกน้องมึงเนี่ยกลัวมึงบ้างมั้ยเวลามึงดุพวกมัน”
“มันใช่เรื่องของมึงหรือไง”
“ก็แค่ถาม”
“รำคาญชิบหาย”
“เออๆ เห็นหน้ามึงและได้กวนตีนมึงกูก็สบายใจแล้วไปล่ะ”
“ไปตายไหนก็ไป”
ฟีฟ่าโยนขนมใส่ผมเป็นเชิงไล่ผมออกไปจากห้องพักมัน อย่างที่ผมบอกผมแค่คิดถึงอยากมาหามันเฉยๆต่อให้มันจะเกลียดผมมากก็ตามแต่เวลาเราพูดคุยกันก็ไม่ได้มีโมเม้นที่จะยกปืนขึ้นมายิงกันเหมือนอย่างในนิยายหรือละคร แค่ด่ากันพอหอมปากหอมคอก่อนจะแยกย้ายกันเท่านั้นเองไม่ถึงกับฆ่าแกงกันหรอกแต่ถ้าขัดผลประโยชน์กันอาจจะมีการวางมวยกันก็ได้
ในช่วงสายของวันต่อมาวันนี้ผมพาแฟนสาวมาช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แฟนสาวของผมเลือกซื้อกระเป๋าเสื้อผ้ารองเท้ามากมายลองคู่นั้นคู่นี้เลือกใบนั้นใบนี้จนผมรู้สึกง่วงและอยากกลับบ้านไปนอนพักแต่ผมก็ทำแบบนั้นไม่ได้เพราะยังไงแฟนสาวของผมก็ต้องเป็นที่หนึ่งในตอนนี้แม้ว่าผมจะรู้สึกง่วงมากก็ตาม และผมต้องตาสว่างเมื่อผม กับเด็กคนนึงที่มองสบประสานสายตากันอย่างไม่รู้ตัว เด็กคนนั้นหน้าคุ้นมากและเมื่อเพ่งมองไปดีๆกลับพบว่า เด็กคนนั้นคือคนที่ผมนอนกับเขา เมื่อ 5 วันก่อนหน้านี้ และเขาก็จ้องหน้าผมตาแข็งมากเหมือนอยากจับบีบคอผมให้ตายในมือเดียว
[Fino]
“คุณ ผมขอคุยด้วยหน่อยสิ”
ผมพูดออกไปเมื่อผมสบสายตากับผู้ชายที่นอนกับผมในค่ำคืนนั้นเข้ายังจังเลยปากถามเขาอย่างตรงไปตรงมาเขาเองก็มีสีหน้าที่เรียบเฉยใส่ผมเหมือนเขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลยแตกต่างจากผมที่จ้องมองเขาเหมือนอยากจะบีบเขาให้ตายคามือ
“อืม”
เขาตอบผมแค่นั้นก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาคุยกับผมเขาดูเหมือนสงสัยในตัวของผมมากผมเองก็สงสัยในตัวของเขาก่อนจะพิจารณาเขาอย่างถี่ถ้วนว่าเขาเหมาะสมที่จะเป็นสามีของผมไหม แล้วผมก็คิดว่าเขาน่าจะเป็นสามีที่ดีของผมได้
“คุณกับผมคืนนั้นเรายังไม่ได้คุยกันและเคลียร์ปัญหาเรื่องนี้กันเลยคุณกลับทิ้งเงินสดเอาไว้ให้ผมผมไม่ต้องการหรอกนะแต่สิ่งที่ผมต้องการก็คือ ผมอยากให้คุณรับผิดชอบผม”
“นายเป็นผู้ชายฉันเป็นผู้ชายต่างฝ่ายต่างมีความสุขกัน นายจะมาเรียกร้องให้ฉันรับผิดชอบนายอย่างนั้นหรอ”
“แต่ผมไม่ได้ยินยอมที่จะนอนกับคุณ แต่ที่ผมต้องการให้คุณรับผิดชอบผม เพราะผมมีเหตุผลที่จะทำแบบนั้น”
“ฉันคงจะรับผิดชอบนายไม่ได้หรอกนะ”
“เพราะอะไร”
“ฉันมีแฟนแล้วฉันจะไม่ยุ่งกับคนอื่น ถ้าตอนนั้นฉันมีแฟนแต่เรื่องเมื่อคืนนั้นเป็นเพราะอุบัติเหตุความผิดพลาดของฉัน ที่ดึงนายเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ฉันเป็นฝ่ายผิดเอง ฉันขอโทษ แต่ฉันคงรับผิดชอบมาไม่ได้”
“ได้แล้วก็พูดง่ายนี่ แต่คนที่โดนมันไม่ได้ง่ายแบบนั้นน่ะสิผมต้องการให้คุณรับผิดชอบผม”
“ฉันก็บอกมันไปแล้วว่าฉันรับผิดชอบไม่ได้เพราะฉันมีแฟนแล้วและฉันก็รักแฟนของฉันมากมันมากเกินกว่าที่เราจะเข้าใจ”
“ผมไม่ยอมแพ้หรอกผมจะทำให้คุณยอมรับผิดชอบผมด้วยใจจริงให้ได้”
“มันคงไม่มีวันนั้น”
“ต้องมีสิเพราะผมจะทำให้มันเป็นวันนั้นจริงๆไว้เจอกันนะครับ”
“แล้วนายชื่ออะไร”
“ผมชื่อโน่แล้วคุณล่ะชื่ออะไร”
“คูการ์”
เขาพูดจบเขาก็เดินหนีจากผมไปซึ่งผมเองเมื่อรู้ชื่อของเขาก็เริ่มง่ายต่อการตามหาเขาแล้ว ผมให้คนไปสืบมาว่าเขาเป็นใครและผมก็รู้นะว่าเขาทำงานอะไร เขามีอาชีพที่คล้ายคลึงกันกับพี่ชายของผมซึ่งแน่นอนว่าพี่ชายของผมเป็นมาเฟียเขามีอาชีพคล้ายกันก็ต้องเป็นมาเฟียเหมือนกันน่าจะเรียกแบบนั้น แต่เบื้องหน้าของเขาก็เปิดธุรกิจโรงแรมและเขาก็มีการติดประกาศรับสมัครเลขาชั่วคราวให้กับคูการ์อีกด้วย ซึ่งก็ตรงจังหวะกับสิ่งที่ผมต้องการเลยผมจึงเข้าไปสมัครในว่าผมจะอายุแค่ 21 ปีก็ตาม
แต่ด้วยความสามารถของผมผมก็สามารถที่จะบอกแกว่าผมมีคุณสมบัติที่จะเป็นเลขาของเขาซึ่งแผนกบุคคลก็รับผมเข้าทำงานชั่วคราวโดยที่ผมจะต้องทดลองงาน 1 เดือนซึ่งผมก็โอเคแต่ตลอดหนึ่งเดือนที่ผมจะต้องทำงานก็จะมี เงินเดือนให้กับผมด้วยซึ่งราคาก็แพงมากเช่นเดียวกันผมเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องเงินทองสักเท่าไหร่เขาบอกยังไงก็เออออตามเขาไปเพราะสิ่งที่ผมต้องการก็คือได้ผู้ชายคนนี้มารับผิดชอบผมเท่านั้นเอง
“พี่ชื่อเดียร์จะมาฝึกงานให้นะว่าแต่ละวันน้อโน่จะทำอะไรบ้าง”
“ครับพี่เดียร์”
“หน้าที่หลักๆของน้องโน่ก็คือการจัดตารางงานให้กับเจ้านายของเราโดยที่น้องโน่จะได้รับการแจ้งงานจากพี่นะคะ แล้วก็จัดตารางงานให้กับเจ้านาย”
“ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับพี่เดียร์”
“ถามมาได้เลยอันไหนตอบได้พี่ก็จะตอบนะ”
“ครับ พอดีผมอยากทราบว่าทำไมถึงจ้างแค่เลขาชั้วคราวล่ะครับ”
“อ้อ เรื่องนี้พี่บอกได้เพราะว่าแฟนของเจ้านายเขาขี้หึง ใครสวยกว่าไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือเลขาแม้แต่เชฟก็ห้ามสวยกว่า เจ้านายก็ตามใจแฟนมาก เลยเปลี่ยนเลขาบ่อยมาก ก็อย่างที่บอกว่าทดลองงาน 1 เดือนถ้าขัดหูขัดตาแฟนเจ้านายก็โดนไล่ออกแต่ก็มีเงินเดือนให้เพื่อเป็นการปลอบใจน่ะ”
“อย่างนี้ไม่เปลืองแย่หรอครับ”
“ก็ต้องสิ้นเปลืองน่ะสิ เดือนปลอบใจเป็นแสนบริษัทเราก็เปิดมาได้แค่ 1 ปีเองจะเอาอะไรไปเสียเงินรายเดือนขนาดนั้นแต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายก็ได้ตามนั้น แต่เจ้านายพี่ดีมากติดตรงที่ตามใจแฟนมากเกินไปจนทำตัวเหมือนเจ้าหญิง ก็แค่นางแบบที่กำลังดังเท่านั้น”
“อย่างนี้นี่เอง”
“เอาล่ะพี่บ่นให้น้องโน่ฟังจนหูชาแน่เลย มาต่อที่งานน้องโน่ต่อนะคะ ทุกวันเจ้านายจะเข้ามาที่บริษัทเพื่อเซ็นเอกสารและตรวจโรงแรมแต่ละสาขาทุก 5 วันซึ่งงานตรวจโรงแรมพี่พึ่งไปกับเจ้านายเฉพาะกิจไปเมื่อวานนี้เอง น้องโน่สบายใจได้ ทุกวันเจ้านายจะไม่ทานข้าวเช้ามาหน้าที่ของน้องโน่คือซื้ออาหารเช้า เที่ยง และเย็นมาให้เจ้านายด้วยนะคะ เงินที่จะซื้อพี่จะโอนเข้าไปให้เองไม่ต้องควักเนื้อตัวเองเจ้านายเขาให้พี่ไว้ เพราะเขารวยมากแต่ก็ไม่ฟุ่มเฟือย อาหารไม่ต้องหรูมากขอแค่อร่อยก็พอน้องโน่เข้าใจนะคะ”
“ผมต้องชงการแฟมั้ยครับ”
“การแฟไม่ต้องชงเอง แค่ไปซื้อใต้บริษัทแล้วบอกว่ากาแฟเจ้านาย ร้านกาแฟจะทำให้เลย”
“งานของผมมีเท่านี้หรอครับ”
“ใช่จ๊ะ มีเท่านี้แค่เตรียมเอกสาร จัดตารางการทำงาน ออกตรวจโรงแรม ซื้ออาหาร 3 มื้อ และก็ซื้อกาแฟแค่นี้เอง และไม่ต้องทำงานอะไรในบริษัทเลยสักอย่างยกเว้นเจ้านายจะสั่ง”
“อ้อ ครับงั้นที่ทำงานผม”
“เลขาส่วนตัวโต๊ะทำงานจะอยู่ในห้องทำงานของเจ้านาย นั้นแหละที่พี่บอกว่าเพราะอะไรแฟนเจ้านายถึงหึง”
ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมแฟนของคูการ์ ถึงต้องหวงเพราะความใจดีและไม่ได้คิดอะไรแบบนี้แทนโต๊ะทำงานของเลขาส่วนตัวยังอยู่ในห้องทำงานของตัวเองอีกแฟนสาวของเขาไม่ห่วงก็บ้าแล้วพี่จะสอนงานนู่นนี่นั่นให้ผมเรียบร้อยและพาผมไปที่โต๊ะทำงานวันนี้ดูเหมือนว่าเจ้านายของพวกเขาจะไม่เข้ามาทำงาน อาจจะเป็นเพราะพาแฟนสาวไปเที่ยวทุกที่นั่นที่นี่ก็ได้แต่วันนี้ที่เขาไม่เห็นผมก็ดีแล้วมันจะได้เซอร์ไพรส์ตอนที่เขาเห็นผมมาทำงานด้วยยังไงครับ
เข้าสู่วันที่ 2 ที่ผมมาทำงานวันนี้พี่เดียร์แจ้งมาว่าเจ้านายของเขาจะเข้ามาทำงานและจะมาดูหน้าเลขาคนใหม่ของเขาด้วย ซึ่งพี่เดียร์ก็ไม่ได้ส่งรูปของผมให้กับเจ้านายดูเพราะอยากเซอร์ไพรส์เจ้านายที่ได้เลขาเป็นผู้ชายครั้งแรกซึ่งเมื่อเขาเจอหน้าของผมถึงกับช๊อคตาค้างส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มหวานส่งให้กับเขาอย่างจริงใจ โดยที่ไม่ได้พูดจาอะไรอีกเลยเขาลากผมเข้ามาในห้องทำงานปิดประตูล็อคกลอนอย่างดีและจ้องมองหน้าผมอยู่สักพักอยากคิดอะไรอยู่ในหัวก่อนจะพูดขึ้นมาด้วย น้ำเสียงที่นิ่งจนรู้สึกขนลุกมากกว่าปกติ
“นายมาได้ยัง ใครพานายมา”
“มาสมัครเอง”
“นายอายุแค่ 21 ปีเองไม่ใช่หรือไง”
“ก็ใช่ไง 21 แล้วไงครับ ผมพูดได้ 5 ภาษา เขียนออกอ่านออกได้เรียนก็เก่ง ทำไมผมจะมาทำงานไม่ได้ล่ะครับ”
“นายเข้ามาวุ่นวายกับฉันทำไม”
“เพราะต้องการให้คุณรับผิดชอบผม”
“ไร้สาระ”
“คุณสิไรสาระ ผมจริงจังมากนะครับ”
“ฉันก็จริงจังนายกลับไปซะ”
“ไม่ครับ”