4 รุกเก่ง !
ฉันงัวเงียเดินลงมาจากคอนโด สภาพนี้ขับรถไม่ไหวแน่
ฉันยอมเพราะไม่อยากให้งานมีปัญหา ชาลส์เป็นคนไข้ของฉัน แล้วตอนนี้เขาก็กำลังดื้อไม่ยอมกินยา ไม่ยอมให้พยาบาลวัดไข้ แล้วก็ไม่ยอมให้หมอธีตรวจ ฉันขยับแว่นหนาที่ใส่ให้เข้าที่แล้วมองหาลุงยาม ไม่มีใครอยู่เลยสักคน
เอี๊ยด!
สักพักก็มีรถตู้สีดำจอดหน้าประตูแล้วก็มีชายชุดดำเดินลงมาเปิดประตูผายมือเชิญให้ฉันขึ้นรถ มีอยู่คนเดียวที่ทำแบบนี้
"เชิญครับคุณหมอ "
"เฮ้อ เจ้านายของพวกพี่ดื้อมากเลยรู้มั้ยคะ " ขอบ่นหน่อยเถอะ!
"รู้ครับ มีคุณหมอคนเดียวเท่านั้นที่กำราบเจ้านายได้ ไปเถอะครับ " ฉันชี้ตัวเองอย่างงงๆ แล้วก้าวขึ้นรถ ขณะที่นั่งอยู่บนรถฉันก็สัปหงกไปหลายรอบ ฉันควรได้พักแต่ก็ไม่ได้พักอย่างใจหวังเพราะมีคนไข้ดื้อด้านหนึ่งอัตรารออยู่
พอถึงโรงพยาบาลฉันก็รีบขึ้นมาบนห้องพิเศษวีไอพี หน้าห้องมีคนยืนเฝ้าเยอะแยะเต็มไปหมด นี่มันโรงพยาบาลนะไม่ใช่บ่อนทำไมต้องขนลูกน้องมาเยอะแยะขนาดนี้ ฉันเดินแบกหน้าโทรมๆ เข้ามาในห้อง ข้าวต้ม ยา แก้วน้ำ ยังไม่มีอะไรยุบสักอย่าง ส่วนคนป่วยนอนชิลล์กดรีโมททีวีเปลี่ยนช่องไปมาไม่รู้สึกทุกข์ร้อนใดๆ
ฉันจะตายก่อนแล้วรู้มั้ย!
ฉันถอนหายใจเป็นอันดับแรกพร้อมกับเข็นโต๊ะอาหารเช้าไปที่เตียง ฉันขี้เกียจพูดเพราะไม่ชอบคนดื้อ!
"คุณหมอ "
"อ้าปาก " ฉันตักข้าวต้มคำโตจ่อไปที่ปาก เขาชั่งใจแล้วมองช้อนข้าวแวบหนึ่งก่อนจะอ้าปากรับ ทั้งเย็นแล้วก็ชืดชอบแบบนี้หรอ?
" เคี้ยวเร็วๆ จะหมดเวลากินยาหลังอาหารมื้อเช้าแล้ว " ฉันอยากตีเขาจริงๆ เล่นดูอารมณ์ฉันบ้างรึเปล่า ยิ่งดุ เขาก็ยิ่งยิ้ม ได้โปรดสังเกตสภาพฉันตอนนี้ด้วย คอนแทกต์เลนส์ไม่ได้ใส่เพราะรีบเลยต้องหยิบแว่นหนาๆ มาใส่แทน หน้าไม่ได้แต่ง ปกติก็เขียนแค่คิ้วแล้วตามด้วยลิปกลอส แต่วันนี้ไม่มีอะไรติดหน้ามาเลยสักอย่างเพราะรีบ!
"เป็นห่วงชาลส์ใช่มั้ย "
"เป็นห่วงหมอธีต่างหากที่โชคร้ายเจอคนไข้เรื่องมากอย่างชาลส์ "
"เป็นห่วงทำไม? อิงชาเป็นหมอเจ้าของเคสก็ต้องดูแลชาลส์สิ " มันก็ถูก แต่ฉันเป็นแค่หมอ มีหน้าที่ตรวจ วินิจฉัย ประเมินอาการ ไม่ได้มีหน้าที่ป้อนข้าวป้อนน้ำกรอกยาคนไข้แบบนี้ ถ้าฉันไม่กลัวหมอธีโดนข่มขู่ฉันคงไม่รีบแจ้นมาขนาดนี้หรอก
มาเฟียบ้าอำนาจ! คนของเขามีอยู่ทุกที่ ทุกมุมของโรงพยาบาล คนไข้ หมอ พยาบาลแตกตื่นกันหมดแล้วเคยรับรู้อะไรบ้างมั้ยถามจริง!
"อย่าเอาแต่ใจมากได้มั้ย อิงชาเหนื่อยนะ รู้มั้ยว่าเมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอน " นอกจากนอนไม่หลับ ฉันก็ระแวงสะดุ้งตื่นเกือบทุกชั่วโมงเพื่อวัดไข้แล้วก็เช็ดตัวให้เขา จนทำให้ตัวเองปวดหัวตุบๆ ตาจะปิดอยู่นี่ไง
"รู้สิ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย ชาลส์จะอยู่ยังไง? ชาลส์รักใครไม่ได้อีกแล้ว นะครับ " ฉันกลอกตาแล้วถอนหายใจอีกครั้ง! รู้สึกดีนะ ฉันก็อยากตะโกนใส่หน้าเขาเหมือนกันว่าฉันก็รักใครไม่ได้อีกแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขา มันยาวนาน แค่มองตาก็รู้ใจ ฉันรักเขามาก ทั้งรักแล้วก็หลง ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ฟูมฟายร้องไห้เป็นคนบ้าตั้งแต่บอกเลิกเขาหรอก
แต่แปลก พอเห็นหน้าชาลส์ ฉันก็หยุดร้อง ไม่ฟูมฟายไม่คิดมาก ดวงของฉันคงหยุดและจบที่ผู้ชายคนนี้ แต่เมื่อไหร่ละ เมื่อไหร่ที่เขาจะยอมหยุดที่ฉันสักที
" หยุดพูดมากแล้วกินข้าวให้หมดจะได้กินยา "
"อิงชา "
"ไม่รู้ละ บอกเลิกไปแล้ว ง้อเอง " ฉันทำแก้มป่องแล้ววางถ้วยข้าวต้มลงก่อนจะหยิบแก้วยาและน้ำเปล่ายื่นให้เขา เขารับมันไปแล้วยิ้มอย่างมีความสุข คนบ้า!
"พรุ่งนี้แต่งงานกันเลยดีมั้ย ชาลส์จะโทรบอกมามี๊กับแดดดี๊ให้มาสู่ขออิงชา " ปากกาในมือล่วงลงพื้น ฉันรีบก้มเก็บมันขึ้นมาแล้วเหน็บลงกระเป๋าเหมือนเดิม อะไรกัน อยู่ๆ มาชวนแต่งงาน ฉันรู้ว่าเขาทำได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!
มาม๊าองศากับลุงเดเนียลกำลังมีความสุขกับการเดินทางเที่ยวรอบโลกด้วยกันสองต่อสอง ชาลส์คิดอะไรของเขา เห็นฉันเอาจริงขึ้นมาก็งัดมุขแต่งงานออกมาสู้! แล้วสิบเอ็ดปีที่ผ่านมามัวทำอะไรอยู่ อ้างงานอีกสิ!
" ไม่แต่ง "
"แล้วก็บ่นว่าอยากมีลูก " รออีกสักปีจะเป็นไรไป รอมาตั้งสิบกว่าปียังรอได้เลย
"ง้อได้แค่นี้เองหรอ ขอแต่งงานไม่ใช่ทุกอย่างหรอกนะ มันหมดช่วงเวลานั้นไปแล้ว " ฉันปรับอารมณ์แทบไม่ทันพูดถึงเรื่องนี้ทีไรก็น้อยใจขึ้นมาทุกทีเลย
ฉันมองเพื่อนๆ แต่งงานมีครอบครัวมีลูกจนชินชา ผู้ชายมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาจีบฉันอยู่บ่อยครั้ง แต่ฉันเลือกที่จะเมินใส่ บางคนเอาฉันไปนินทาหาว่าหยิ่ง บางคนก็ว่าฉันเล่นตัว ฉันทำก็เพราะรอชาลส์ รอจนเริ่มหมดหวัง จนตอนนี้ไม่อยากรอไม่อยากอดทนอะไรอีกแล้ว
"ถ้าอย่างนั้น ลาพักร้อนที่จะถึงไปเที่ยวกันนะ "
ตุบ!
ฉันทำที่วัดไข้หลุดมือหล่นพื้นอีกรอบ! เขารู้ได้ยังไงว่าฉันลาพักร้อนเอาไว้ มากเกินไปแล้วนะ เกินหน้าเกินตาไปแล้ว! ชีวิตฉันมีอะไรอีกบ้างที่เขาไม่รู้และสืบได้อีก?
"ตั้งเจ็ดวัน ต้องมีอะไรดีทำให้อิงชาประทับใจบ้างล่ะ " เขาพูดไปอมยิ้มไป หน้าฉันตอนนี้คือชามาก หมดกันทริปจิบไวน์ให้เมาแล้วนอนของฉัน
ฉันขอปาป๊ากับมาม๊าเอาไว้แล้วเรื่องไปเที่ยววันลาพักร้อน ทุกคนรับรู้และอนุญาต แต่ทุกคนยังไม่รู้ว่าชาลส์จะไปกับฉันด้วยและยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชาลส์กลับมา
อาการป่วยของชาลส์ดีขึ้นตามลำดับ เหลือแค่อาการไอ กับเจ็บคอเท่านั้น
"อิงชาอยากพักผ่อน ถ้าชาลส์ยังเอาแต่ใจแบบนี้อิงชาไม่ให้ไปด้วยหรอก " ฉันเก็บปรอทวัดไข้ขึ้นมาแล้วเสียบไปที่ใต้รักแร้ของเขา ไม่นานเสียงตี๊ดๆ ก็ดังบอกอุณหภูมิ
"ไม่เอาแต่ใจหรอก สัญญา "
"ไม่มีไข้แล้วนะ " ฉันเก็บปรอทไว้ที่เดิมแล้วหยิบชาร์ตคนไข้ขึ้นมาจดข้อมูลลงไป
"แต่จะเอาอิงชาแค่คนเดียว "
ตุบ!!
ชาร์ตคนไข้ในมือล่วงลงพื้น ดังตุบ! ชาลส์ทำหน้าไม่สะทกสะท้านใดๆ แถมยังยิ้มกว้างแล้วส่งจุ๊บมาให้ฉันขนลุกอีกรอบ
"มือไม้อ่อนเลยหรอ ทริปนี้ต้องรื้อฟื้นกันหน่อยแล้ว " อยู่ๆ ฉันก็ขนลุก เหงื่อแตกพลั่กทำอะไรไม่ถูก ชาลส์ขยับตัวขึ้นมาแล้วมองหน้าฉัน สายตาของเขามันยั่วยวนแบบแปลกๆ หรือฉันคิดไปเอง ไม่สิ! เขากำลังอ่อยฉัน
"ชะ ชาลส์ทำอะไร "
"ไม่ไหวเดินมาใกล้ๆ ได้นะ "
อีชาลส์ อีบ้า!!!! ฉันอยากหยิบชาร์ตคนไข้ฟาดหน้ามาเฟียเหลือเกิน
"พอเลย พอเดี๋ยวนี้!! ถ้าทำอีก จะหาฟอร์มาลีนมาฉีดให้เดี๋ยวนี้แหละ"
"คิดว่ามีเข็มอยู่คนเดียวรึไง " ว้าย!! ฉันอยากดันเตียงเขาลงตึกให้รู้แล้วรู้รอด ต่อปากต่อคำ! หงุดหงิด ๆ คอยดูนะ ทริปนี้ฉันจะแก้แค้นเขาให้ได้! คอยดู
------