2 ช่วยเหลือ
“หนูอยากกลับเมืองไทยค่ะ คุณพาหนูกลับเมืองไทยได้ไหมคะ” วรรษมนคิดว่าถ้ายังอยู่ที่นี่สักวันพวกนั้นต้องตามเธอเจอแน่ๆ
“ได้สิ แค่นี้ใช่ไหม”
“สำหรับหนูต้องการแค่นี้ แต่หนูอยากพาเพื่อนหนูกลับด้วย”
“เพื่อนเธออยากกลับหรือเธอคิดแทนเพื่อนว่าอยากกลับ”
“ก็เรามาด้วยกัน”
“นั่นไม่ใช่คำตอบนะ เอาล่ะบอกชื่อของเพื่อนเธอมาสิฉันจะให้คนไปสืบให้ถ้าเขาอยากกลับฉันจะหาทางช่วยแต่ถ้าเขาไม่อยากกลับนั่นก็อีกเรื่อง”
“เพื่อนหนูชื่อแพรพลอยค่ะ ชื่อเล่นว่าพลอย”
“เดี๋ยวฉันจะจัดการให้”
“ขอบคุณค่ะ หนูไม่คิดเลยว่าจะมาเจอคนใจดีอย่างคุณ”
“ฉันไม่ใช่คนใจดีอะไรหรอกนะ แต่ที่ช่วยเพราะไม่ชอบการบังคับ”
“แล้วคุณจะพาหนูกลับเมืองไทยยังไงคะ หนูไม่มีพาสปอร์ต” หญิงสาวเป็นกังวลเพราะกลัวไปถึงด่านแล้วจะถูกให้กลับมาอีกเพราะตอนที่มาเธอแจ้งว่ามาทำงานที่กาสิโน
“มันก็มีวิธีอยู่”
“คุณออสตินคะ คือหนูกลัว”
“กลัวอะไร”
“หนูคงไม่หนีเสือปะจระเข้ใช่ไหม คุณคงไม่ใช่พวกเดียวกับมาเฟียเจ้าของกาสิโนนั่นใช่ไหมคะ”
“หน้าฉันเหมือนพวกมาเฟียเหรอ” เขาถามพลางมองหน้าหญิงสาวไปด้วย
“ไม่ค่ะ หน้าคุณเหมือนพวกนายแบบมากกว่า”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกังวลหรอก เดี๋ยวฉันจะพาเธอกลับเองแล้วบ้านเธออยู่ที่ไหนล่ะ”
“กรุงเทพค่ะ”
“จะให้ฉันไปส่งที่บ้านเลยไหม”
“ไม่ค่ะ พาหนูไปที่โรงแรมก่อน”
“ไปโรงแรม นี่คงไม่ได้หมายความว่าจะเอาตัวเข้าแลกเพราะฉันช่วยเรื่องนี้ใช่ไหม”
“หนูไม่เคยคิดเรื่องแบบนั้นเลย หนูก็แต่อยากถามพี่สาวให้รู้เรื่องค่ะ เพราะคนพวกนั้นบอกว่าพี่สาวของหนูเป็นคนบอกว่าหนูอยากมาทำงานบริการ”
“เขาคงไม่ทำแบบนั้นกับน้องสาวตัวเองหรอก”
“มันก็ไม่แน่นะคะ เพราะเรื่องไปทำงานที่กาสิโนเขาเป็นคนเสนอ เพราะเดิมทีหนูแค่สมัครมาทำงานพาทไทม์ที่โรงแรม”
“โรงแรมที่พูดถึงนี่ชื่อโรงแรมอะไร”
“โรงแรมXXX ค่ะ”
“ฉันรู้จักโรงแรมนั้นดี และไม่มีทางที่ทางโรงแรมจะหลอกให้ใครไปทำงานแบบนั้น”
“คุณเอาอะไรมามั่นใจล่ะคะ”
“ก็ฉันเป็นเจ้าของที่นั่น”
“คุณ...” วรรษมนถอยหลังติดเบาะเพราะรู้แล้วว่าตอนนี้ตนเองกำลังหนีเสือปะจระเข้
“กลัวเหรอ”
“จอดรถให้หนูลงเดี๋ยวนี้เลยนะ หนูไม่น่าโง่เลยเห็นท่าทางคุณดูดีก็นึกว่าจะเป็นคนดี ที่ไหนได้คุณมันก็พวกค้ามนุษย์ คุณคงกลั้นหัวเราะแทบแย่ใช่ไหมตอนที่ฟังหนูเล่าเรื่องให้ฟัง คอยดูนะถ้าหนูหนีไปได้หนูจะแจ้งความแล้วจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”
“ฉันไม่ได้หัวเราะ ฉันก็แค่แปลกใจ”
“คุณจะแปลกใจทำไมในเมื่อมันเป็นธุรกิจของคุณ”
“ฉันยอมรับนะว่าฉันเป็นเจ้าของกาสิโนกับโรงแรม แต่เรื่องบังคับผู้หญิงมาฉันเพิ่งรู้”
“อย่ามาแก้ตัวเลยค่ะ”
“ฉันพูดจริงๆ นะ ผู้หญิงทุกคนที่ไปทำงานที่นั่นจะไปเพราะความสมัครใจกันทั้งนั้น ฉันไม่เคยต้องบังคับหรือหลอกใครไปเลย”
“หนูไม่เชื่อหรอกค่ะ”
“แล้วเธอเห็นใครที่นั่นถูกบังคับไหมล่ะ” เขาถามด้วยความมั่นใจเพราะที่ผ่านมามีแต่คนเต็มใจไปทำงานด้วยกันทั้งนั้น
“หนูเพิ่งไปไม่กี่วันเองเลยไม่ได้คุยกับคนอื่น แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นค่ะ ประเด็นมันก็คือคุณจะพาหนูกลับไปที่นั่นอีกไหมคะ”
“คนอย่างฉันพูดคำไหนก็คำนั้น”
“ขอบคุณนะคะที่ยังมีมนุษยธรรมอยู่ แล้วเพื่อนหนูล่ะคะ”
“ฉันไม่รู้ว่าเพื่อนเธอเต็มใจทำงานที่นั่นไหม”
“ไม่แน่นอนยังไงพลอยก็ไม่มีทางเต็มใจไปทำงานแบบนั้นเด็ดขาด คุณต้องช่วยเพื่อนหนูนะคะ”
“ฉันจะลองถามดูนะแต่ไม่รับปาก”
“ไหนคุณสัญญาว่าจะช่วยหนูกับเพื่อน ยังไม่ทันไรคุณก็ผิดสัญญาแล้ว”
“ฉันบอกว่าจะลองถามดูไม่ได้บอกว่าไม่ช่วย ถ้าถามแล้วเพื่อนเธอไม่ยอมกลับก็ถือว่าหมดหน้าที่ของฉัน”
“ถามตอนนี้เลยได้ไหมคะ จะได้ไปรับมาพร้อมกัน”
“เธอนี่เรื่องมากจริงๆ นะ”
“นะคะคุณออสตินหนูรู้คุณเป็นผู้ใหญ่ใจดี” วรรษมนอ้อนอย่างประจบ
ออสตินส่ายหน้าก่อนจะต่อสายไปยังผู้จัดการกาสิโน รอสักพักใหญ่แพรพลอยก็ถูกตามมาให้คุยกับวรรษมน
“พลอย”
“นี่เมล่อนอยู่ที่ไหน เขาตามหาตัวให้วุ่นเลย”
“เราหนีออกมาแล้ว เดี๋ยวเราจะไปรับพลอยนะ รีบหนีออกมาจากที่นั่นเถอะ”
“ทำไมต้องหนีละ ที่นี่เงินดีจะตาย”
“พลอย แต่ที่เราคุยกันคือมาทำงานในกาสิโนนะไม่ได้มาขายตัว พลอยรู้ไหมเมื่อกี้พวกนั้นมันบังคับให้เราไปรับแขกแต่เราหนีออกมาได้”
“พลอยรู้”
“รู้ว่ายังไง”
“ก็รู้ว่าทุกคนก็ต้องทำงานแบบนั้น”
“พลอยรู้ก่อนที่จะมา หรือเพราะเขาบังคับให้พลอยพูด”
“รู้สิ แม่เราได้เงินไปจากเขาแล้วหนึ่งแสนแลกกับเราต้องมาทำงานที่นี่”
“อะไรนะ หนึ่งแสนเหรอ”
“ใช่หนึ่งแสน เมล่อนไม่รู้เหรอ”
“เราไม่เคยรู้แล้วเราก็ไม่เคยได้เงินหนึ่งแสนนั้นด้วย”
“แม่เรากับพี่สาวของเมล่อนรับเงินมาพร้อมกันเราก็นึกว่าเมล่อนรู้แล้วว่าต้องมาทำงานอะไรเพราะเห็นเมล่อนเข้าไปขัดผิว”
“เราไม่เคยรู้เลย แล้วพลอยจะเอายังไงต่อเรากลับเมืองไทยกันเถอะเงินหนึ่งแสนเดี๋ยวเราช่วยกันหามาคืนเข้าก็ได้”
“จะหาที่ไหนล่ะ ของเราแค่หนึ่งแสนนะ แต่พี่เมย์เอาไปสองแสนแล้วถ้าเมล่อนหนีไปแบบนี้พวกนั้นก็คงไปตามเอาเงินคืน”
“สองแสนเหรอ ถึงว่าล่ะ พี่เมย์ถึงใจดีพาเราไปเข้าสปาพาไปซื้อเสื้อผ้า ไม่รู้ล่ะยังไงเราก็จะต้องหาเงินมาคืน เราไม่ยอมไปทำงานแบบนั้น”
“เมล่อน พลอยรู้ว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องดี แต่เราเลือกแล้ว เราอยากทำงานเก็บเงิน”
“พลอย แต่เรายังเรียนไม่จบนะ”
“ใช่ เพราะเรายังเรียนไม่จบแล้วจะไปหางานอะไรได้ล่ะ พลอยตั้งใจแล้วว่าจะทำงานที่นี่พอเปิดเทอมก็น่าจะมีเงินเยอะอยู่”
“พลอยคิดดูดีๆ นะ”
“เราคิดดีแล้วล่ะ แค่นี้ก่อนนะเราต้องไปทำงานต่อ เมล่อนล่ะหนีไปกับใคร”
“มีคนใจดีพาหนีมา”
“ระวังตัวด้วยนะ หนีเขาออกไปแบบนั้นพลอยกลัวว่าพวกเขาจะแค้นแล้วตามไปจับมา”
“เรื่องอะไรจะยอมล่ะ ถ้าอยากจะเอาเงินคืนก็ไปเอาที่เมย์สิ”
“คงยากแล้ว”
“หมายถึงอะไร”
“เราได้ยินพี่เมย์พูดว่าถ้าส่งเมล่อนมาถึงกาสิโนพวกเขาสองคนก็จะย้ายออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น”
“ให้มันได้อย่างนี้สิ ทั้งน้าทั้งพี่ไม่น่าเกิดมาร่วมโลกกันเลย” วรรษมนโมโหจนตัวสั่นเพราะไม่คิดว่าคนที่อยู่ร่วมบ้านกันมาหลายปีจะทำแบบนี้ได้