13 แค่คุณแวะมา
เสียงเปิดประตูทำให้คนที่กำลังเก็บกวาดห้องครัวอยู่รีบเช็ดมือก่อนจะเดินออกมาต้อนรับด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจ
“คุณมาจริงๆ ด้วย”
“ฉันบอกจะมาก็ต้องมาสิ นี่ของที่เธอฝากซื้อ”
“ขอบคุณนะคะ คุณทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้วยังใจดีซื้อของมาให้เมล่อนอีก”
“ฉันทำให้ขนาดนี้แล้วมีอะไรตอบแทนไหม”
“มีสิคะ เมล่อนทำกับข้าวเผื่อคุณด้วยค่ะ”
“ฉันไม่ได้หมายถึงกับข้าว” เขารวบคนที่ยืนหน้าระรื่นเข้ามากอดแล้วหอมแก้มเธอเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยว
“แล้วหมายถึงอะไร” วรรษมนดึงเนกไทเขาออกพลางมองด้วยสายตาหวานเชื่อม เธอรู้ว่าเขาต้องการ
“เธอก็รู้ว่าฉันต้องการอะไรจากเธอ”
“รู้ค่ะ เมล่อนว่าเอาไว้อีกสองวันนะคะ”
“ตั้งสองวันเลยเหรอ ฉันไม่เคยต้องรออะไรนานๆ แบบนี้มาก่อน” เขาแกล้งทำเป็นโมโหแต่ที่จริงก็รู้ว่าเธอยังไม่พร้อม แล้วที่แวะมาหาวันนี้ก็ไม่ได้ต้องการเรื่องอย่างว่าเขาแค่อยากมาดูให้เห็นกับตาว่าเธอยังอยู่ที่คอนโดจริงๆ
“เมล่อนรู้ว่ามันนาน แต่คุณก็ต้องเข้าใจเมล่อนด้วยนะคะ เมล่อนเป็นผู้หญิงแล้วผู้หญิงทุกคนก็ต้องเป็นวันนั้นของเดือน แต่ถ้าคุณจะโกรธเมล่อนเพราะเรื่องธรรมชาติพวกนี้เมล่อนก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไรคุณหรอกนะคะ คุณเอาของมาให้แล้วจะกลับเลยก็ได้ค่ะ คงมีอีกหลายคนที่พร้อมสำหรับคุณ” วรรษมนพูดด้วยอารมณ์น้อยใจ หญิงสาวเดินกลับมายังห้องครัวจากนั้นก็เอาคื่นช่ายออกมาล้างและหันก่อนจะใส่ลงไปในหม้อต้มจืดโดยไม่สนใจคนที่เดินตามมานั่งในห้องครัว
“พอได้ของแล้วเธอก็ไล่ฉันกลับเลยเหรอ”
“เปล่าไล่สักหน่อย”
“ถ้าเปล่าก็รีบตักข้าวมาเถอะฉันหิวแล้ว นี่เธอทำเองหมดเลยเหรอ”
“ค่ะ พอเมล่อนรู้ว่าคุณจะมาก็เลยทำผัดผักเพิ่มให้อีกอย่าง แต่ไม่รู้จะอร่อยไหม เมล่อนทำกับข้าวไม่ค่อยเก่งหรอกค่ะ ทำเป็นแค่ไม่กี่อย่าง”
“อร่อยดีนะ แต่ผัดเผ็ดไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่” เขาออกความคิดเห็นหลังจากที่ชิมอาหารครบทั้งสามอย่าง
“เมล่อนกลัวคุณจะเผ็ดก็เลยไม่ได้ใส่พริกเยอะค่ะ”
“ขอบใจนะที่นึกถึง อันที่จริงฉันก็กินเผ็ดได้นะแต่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะกินทีไรเหงื่อออกเต็มตัวทุกที”
“คุณชอบกินอะไรที่สุดค่ะ เมล่อนจะได้หัดทำ” หญิงสาวถามอย่างเอาใจ การที่เธอมาอยู่ที่มันน่าเบื่อมากแต่ถ้าหากในแต่ละวันได้ทำอะไรให้เขาบ้างก็คงดีไม่น้อย
“ฉันกินได้ทุกอย่างแหละ ขอแค่อย่ารสจัดมากก็พอ”
“แพ้อาหารทะเลไหมคะ”
“ไม่นะ”
“เดี๋ยววันต่อไปเมล่อนจะทำเมนูอาหารทะเล คุณจะกลับมากินไหมคะ”
“ฉันคงไม่ได้กลับทุกวันหรอกนะ บางวันก็ต้องทำงานจนดึก แต่ถ้าวันไหนจะมาค้างด้วยฉันจะโทรบอกดีไหมล่ะ”
“ค่ะ” วรรษมนไม่กล้าเรื่องมากเท่าไหร่เพราะแค่วันนี้เขามาทานข้าวเย็นด้วยเธอก็ดีใจมากแล้ว หญิงสาวนั่งทานอาหารอย่างมีความสุข ยิ่งเห็นว่าเขาทานข้าวจนเกลี้ยงจานหัวใจของเธอก็พองโตคับอก
“จานชามพวกนี้เดี๋ยวเรียกให้ป้าแม่บ้านมาล้างนะ เธอทำกับข้าวแล้วไม่ต้องล้างจานหรอก”
“ถ้าเมล่อนไม่ล้างจานเมล่อนขอนวดให้คุณได้ไหมคะ คุณทำงานมาเหนื่อยจะได้ผ่อนคลาย”
“เธอหายดีแล้วแน่นะ ถ้าปวดท้องก็ไม่ต้องทำหรอก”
“หายดีแล้วค่ะ”
“ขอบใจนะเดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อนเธอตามไปนวดในห้องได้ไหมล่ะ”
“ได้ค่ะ เมล่อนก็จะไปอาบน้ำเหมือนกัน”
“อาบด้วยกันไหม”
“ไม่ดีกว่าค่ะ”
วรรษมนเข้ามาที่ห้องนอนของออสตินจากนั้นก็เดินไปยังห้องแต่งตัวเตรียมชุดนอนออกมาแขวนไว้ให้เขาแล้วตัวเองก็กลับมานั่งรอเขาอยู่บนโซฟาตัวโตซึ่งตั้งอยู่มุมของห้องนอนใหญ่ เธอมองออกไปด้านนอกหน้าต่างเห็นรถรากำลังวิ่งกันขวักไขว่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลานี้ก็คงเป็นเวลาที่เธอเริ่มงานที่ผับ
“อุ๊ย!..” หญิงสาวตกใจที่จู่ๆ ก็ถูกเขาอุ้มขึ้นมานั่งตัก
“ใจลอยไปถึงไหนฉันเรียกเธอตั้งหลายครั้ง กำลังคิดอะไรอยู่ล่ะ” ออสตินกดจมูกไปบนแก้มเนียนเบาๆ กลิ่นกายของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกสดชื่น
“เมล่อนกำลังคิดว่าถ้าวันนี้เมล่อนไม่มาอยู่ที่นี่ป่านนี้ก็คงกำลังเริ่มงานที่ผับ”
“อยากกลับไปทำงานอีกเหรอ”
“อยากสิคะ งานดีเงินดี แต่เมเล่อนยังไม่ไปตอนนี้หรอกค่ะ รอให้เมล่อนใช้หนี้คุณหมดก่อน”
“ถ้าเกิดเธอใช้หนี้หมดแล้ว แต่ฉันไม่ยอมให้เธอไปทำงานล่ะ เธอจะทำยังไง”
“คุณออสตินก็ต้องมีเหตุผลที่ดีพอว่าเพราะอะไรถึงไม่ยอมให้เมล่อนกลับไปทำงาน คุณก็รู้ว่าถ้าไม่ทำงานบ้านก็คงจะถูกยึด นั่นเป็นสมบัติของพ่อนะคะ เมล่อนไม่อยากให้ธนาคารยืดไปหรอก”
“เธอยังต้องผ่อนอีกเยอะไหม”
“ไม่เยอะหรอกค่ะ ไม่กี่ปีก็หมดแล้ว”
“ให้ฉันช่วยจ่ายให้ไหม แล้วเธอก็มาใช้หนี้ที่ฉัน ฉันไม่คิดดอกเบี้ยนะ”
“หนี้เก่าก็สองแสนแล้วนะคะแล้วยังจะให้เป็นหนี้เพิ่มอีก”
“ถ้าเธออยู่กับฉันครบหนึ่งปี ฉันจะยกหนี้ทั้งหมดให้เลยเอาไหมล่ะ แล้วระหว่างนี้ก็จะให้เงินเดือนด้วย”
“เมล่อนดีใจที่คุณยื่นข้อเสนอมาแบบนี้ แต่เมล่อนขอปฏิเสธค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“เมล่อนอยากอยู่เหมือนคนไร้ค่าหรอกนะคะ งานก็ไม่ทำได้แต่แบมือขอเงินคุณ”
“เธอนี่แปลกดีนะ มีแค่คนอยากอยู่แบบสบายๆ”
“ก็เมล่อนไม่ชอบอยู่คนเดียวนี่คะ”
“แล้วถ้าฉันจะมาค้างที่นี่กับเธอทุกวัน ตอนกลางวันเธอสามารถออกไปไหนก็ได้ ไปเที่ยวไปซื้อของหรือไปหาเพื่อนแบบอิสระล่ะเธอจะยอมอยู่ที่นี่ไหม”
“ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่ให้เมล่อนเหงา”
“ฉันสัญญา แต่ถ้าวันไหนฉันต้องทำงานกลับดึกเธอก็ต้องเข้าใจฉันบ้าง ตกลงไหมล่ะ”
“คุณออสตินคะ เมล่อนขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหมคะ” วรรษมนทำเสียงหวานประจบ
“ขออะไร”
“เมล่อนอยากไปเรียนทำขนมค่ะ ในห้องคุณมีอุปกรณ์ทำขนมครบเลยนะคะ เมล่อนอยากไปเรียนจะได้มาทำขนมให้คุณและเผื่ออนาคตเมล่อนไม่มีงานทำจะได้เปิดร้านขนม”
“ได้สิ เธอไปหาที่เรียนเองเลย เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่ทุกครั้งที่ไปเรียนต้องให้คนของฉันขับรถไปส่งนะ”
“คุณไม่ไว้ใจเมล่อนเหรอคะ” หางเสียงสะบัดเพราะคิดว่าเขาทำแบบนั้นเพราะไม่ไว้ใจ
“น้อยใจอีกแล้ว เธอนี่ขี้น้อยใจจริงๆ นะที่ฉันให้คนคอยรับส่งก็เพาะฉันเป็นห่วง”
“คุณห่วงเมล่อนเหรอคะ”
“ตอนนี้เธอผู้หญิงของฉัน ฉันก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา”
“ขอบคุณค่ะ เมล่อนไม่เคยเจอใครน่ารักและใจดีเท่าคุณเลย หันหลังมาค่ะเดี๋ยวเมล่อนจะนวดให้สุดฝีมือเลยนะคะ”