11 รักอิสระ
“เย็นนี้คุณจะกลับมาค้างที่นี่ไหมคะ” วรรษมนถามออสตินระหว่างที่กำลังทานอาหารเช้าด้วยกัน เพราะวันนี้เขาต้องออกไปทำงานหลังจากที่อยู่กับเธอตลอดทั้งวันหยุด
“ฉันก็ไม่แน่ใจ” ช่วงนี้งานเขาค่อนข้างยุ่งเพราะกำลังก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่
“แต่เมล่อนไม่อยากอยู่คนเดียวเลย ถ้าคุณไม่กลับเมล่อนขอกลับไปอยู่ที่บ้านได้ไหมคะ”
“ไม่ได้นะ ฉันว่าที่นั่นมันอันตรายในซอยก็เปลี่ยวมาก”
“แต่เมล่อนก็อยู่มาตั้งนานแล้วไม่เห็นมีอันตรายอะไรเลยนี่คะ”
“เธออยากจะกลับไปอยู่ที่บ้านเพราะเหงาจริงๆ หรือเพราะคิดจะออกไปเจอคนอื่นกันแน่” แม้จะรู้ว่าวรรษมนไม่เคยมีใครมาก่อนแต่ออสตินก็ยังอดระแวงไม่ได้
“ก็แล้วแต่คุณจะคิดเลยค่ะ เมล่อนขอตัวไปกินยาแล้วนอนพักนะคะ” วรรษมนรู้สึกว่าตนเองจะเอาแต่ใจเกินไปแต่มันก็ช่วยไม่ได้เพราะช่วงที่เป็นรอบเดือนแบบนี้อารมณ์ของเธอก็จะขึ้นๆ ลงอยู่ตลอด
ออสตินนั่งทำงานตั้งแต่เช้าจนบ่าย ชายหนุ่มไม่ค่อยมีสมาธิทำงานเท่าไหร่เพราะเอาแต่คิดถึงวรรษมนแต่จะโทรศัพท์ไปหาก็กลัวว่าหญิงสาวจะได้ใจและเขาจะควบคุมอยาก ที่ผ่านมาผู้หญิงของเขาจะอยู่ในพื้นที่ของตัวเองไม่เคยมีใครมาก้าวก่ายหรือขอให้เขาทำอะไรให้ เพราะสิ่งที่พวกเธอต้องการก็คือเงินเท่านั้น เมื่อเขาให้แล้วพวกเธอก็จะไม่มาวุ่นวาย
“บอสครับ บ่ายนี้บอสมีประชุมออนไลน์กับโรงแรมและกาสิโนแถบสามเหลี่ยมทองคำนะครับ”
“อือ แล้วเอกสารล่ะทำไมยังไม่มีใครสรุปมาให้อีก” ปกติแล้วก่อนประชุมทุกครั้งเลขาของเขาจะต้องส่งสรุปประเด็นต่างๆ ที่จะเข้าประชุมส่งมาในอีเมลแต่วันนี้เขายังไม่เห็นเลยสักไฟล์
“เดี๋ยวคุณรวีก็คงส่งให้ครับบอส”
“นายลองออกไปถามหน่อยสิเควินว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าปกติแล้วเธอจะไม่ทำงานช้าแบบนี้”
“ผมว่ารออีกเดี๋ยวเธอก็คงส่งให้เองครับบอส เราอย่าไปเร่งเธอเลย”
“ทำไมฉันรู้สึกว่าวันนี่นายไม่ค่อยอยากจะคุยกับรวีนะ ทะเลาะกันเหรอ” ออสตินถามอย่างตรงประเด็นเพราะเขารู้ว่าผู้ช่วยของตนกับเลขาหน้าห้องกำลังคบหากันอยู่
“ไม่หรอกครับ แต่ช่วงนี้อารมณ์เธอจะขึ้นๆ ลงๆ และหงุดหงิดง่ายครับ ผมเลยไม่อยากจะเข้าใกล้เท่าไหร่”
“เธอเป็นอะไรหรือมีปัญหาที่บ้าน ฉันพอจะช่วยอะไรได้ไหม”
“รวีไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ เธอก็เป็นแบบนี้ทุกเดือนเวลาเป็นประจำเดือน บอสไม่เคยคบใครแบบจริงจังก็คงไม่รู้ ผู้หญิงเวลาเป็นรอบเดือนเธอจะเอาใจยากขี้หงุดหงิด”
“มันขนาดนั้นเลยเหรอ นายคงเบื่อแย่ถ้าต้องเจอแบบนี้ทุกเดือน”
“ไม่นะครับ ถ้าเรารักใครจริงๆ เราก็จะยอมเขาได้ทุกอย่าง มันไม่ได้เลวร้ายอะไรก็แค่ตามใจเธอไม่ขัดใจ คอยอยู่ใกล้เผื่อเธออยากได้อะไรแค่นั้นเองครับ อ้อ แล้วถ้าช่วงที่เธอเป็นไข้ตอนมีรอบเดือนก็จะหนักหน่อยเพราะเธอแทบไม่อยากให้เราห่างเลย ผมว่าผู้หญิงก็คล้ายลูกแมวนั่นแหละครับชอบมาคลอเคลียใกล้ๆ”
“นายนี่เชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิงดีนะ”
“อย่าเรียกว่าเชี่ยวชาญเลยครับบอส ผมก็แค่ใส่ใจคนที่ผมรัก ถ้าบอสเจอคนที่บอสรักบอสก็จะเข้าใจใส่ใจและยอมเธอได้ทุกอย่าง”
“ฉันว่าคงยาก ผู้หญิงสำหรับฉันเธอก็คือของเล่น”
“บอสไม่คิดมีครอบครัวจริงๆ เหรอครับ”
“ก็แน่สิ ฉันมันพวกเบื่อง่าย ขืนแต่งงานแล้วมีเมียแล้วต้องนอนกับคนเดิมซ้ำๆ มันไม่สนุกเอาเสียเลย”
“ผมว่าบอสคงสนุกได้ไม่นานหรอกครับ”
“ทำไม”
“ก็แม่ของบอสกำลังหาผู้หญิงให้”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันว่าฉันคุยเรื่องนี้กับแม่แล้วนะ”
“บอสคุยเรื่องนี้กับนายหญิงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ล่ะครับ”
“ก็นานแล้วนะ น่าจะสองปีได้”
“ตอนนั้นนายหญิงคงยังไม่คิดเรื่องนี้ แต่ช่วงหลังมานี่เพื่อนของนายหญิงแต่ละคนก็มีหลานๆ มาอวดก็เลยอยากจะอุ้มหลานบ้าง ดันเต้บอกว่าตอนนี้นายหญิงกำลังรวบรวมข้อมูลของผู้หญิงที่น่าสนใจให้ท่านเลือกอยู่นะครับ” ดันเต้ที่เควินพูดถึงก็คือผู้ช่วยของบิดาที่ทำงานมานานและเป็นคนที่ทั้งบิดาและมารดาไว้ใจเผลอๆ ท่านทั้งสองคนจะไว้ใจแล้วฟังความคิดเห็นของดันเต้มากกว่าลูกแท้ๆ อย่างเขาเสียอีก
“เฮ้อ...” ออสตินถอนหายใจเพราะรู้ว่าบิดามารดาคาดหวังกับเขามาก แต่เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะมีครอบครัว
อีกอย่างก็ยังไม่ผู้หญิงคนไหนที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว่าอยากจะสร้างครอบครัวกับเธอ เขายังรักสนุกและอยากใช่ชีวิตอย่างมีอิสระ
“ผมว่าครั้งนี้ท่านเอาจริงนะครับ”
“ก็เรื่องของท่านสิ ฉันไม่เอาด้วยหรอก การมีครอบครัวมันขาดอิสระ ฉันไม่มีทางเอาตัวเองเข้าไปในบ่วงหรอก”
“ผมเข้าใครครับ แต่ก่อนผมก็คิดเหมือนบอสนั่นแหละครับแต่คุณรวีทำให้ผมเข้าใจคำว่าครอบครัวมากขึ้น บอสลองนึกถึงเวลาที่บอสเหนื่อยๆ หรือมีเรื่องไม่สบายใจที่คุยให้ใครฟังไม่ได้ แต่มีคนคนหนึ่งที่พร้อมจะรับฟังโดยไม่ตัดสินว่าสิ่งที่เราทำถูกหรือผิด ผมว่ามันดีมากเลยนะ”
“ฉันว่านายกำลังหลงเลขาของฉันมากๆ เลยนะเควิน”
“ครับผมน่ะทั้งรักทั้งหลงเลยแหละ นี่เราก็กำลังวางแผนจะแต่งงานกันนะครับ ผมอยากมีลูกกับเธอแล้ว” เควินยิ้มเมื่อนึกถึงภาพตัวเองและครัวที่กำลังจะสร้างกับปานรวี
“ฉันดีใจด้วยนะ จะแต่งเมื่อไหร่ก็บอก เรื่องค่าใช้จ่ายฉันรับผิดชอบเอง”
“ขอบคุณครับ แต่เราคงไม่แต่งใหญ่โตหรอก”
“ทำไมล่ะ นายกลัวฉันไม่มีตังจ่ายหรือไง”
“เปล่า เราก็แค่อยากให้งานของเรามีแต่คนที่รู้จักจริงๆ รวีว่ามันอบอุ่นดี ถ้านายอยากจ่ายก็เก็บไว้ให้ลูกของเราดีกว่าครับ”
“ยังไม่ทันแต่งคิดถึงลูกแล้วเหรอ”
“ครับ ผมอยากมีลูกเลยแต่รวีเขาขอเวลาก่อน น่าจะสักปีเพราะถ้ามีลูกเมื่อไหร่ผมจะให้เธอลาออก”
“ไม่ได้นะ ฉันจะหาเลขาเก่งๆ แบบนี้ได้ยังไง”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณรวีเธอบอกว่าถ้าจะลาออกก็จะหาคนใหม่มาแทนแล้วจะฝึกให้เก่งๆ เลยครับ”
“ฉันชักไม่อยากให้นายกับเธอแต่งงานกันแล้วสิ” ออสตินไม่อยากได้เลขาคนใหม่เพราะตอนนี้ปานรวีทำงานได้ถูกใจเขามากที่สุด
“เสียใจครับ ต่อให้บอสจะห้ามหรือจะไล่ผมออก ยังไงผมกับเธอก็จะแต่งงานกันครับ”
ออสตินส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจเพราะตั้งแต่รู้จักเควินมาเขาไม่เคยเห็นว่าชายหนุ่มจะจริงจังและวางอนาคตแบบนี้มาก่อน
“ฉันยอมให้รวีลาออกได้นะ แต่นายคงไม่ลาออกอีกคนใช่ไหม”
“ไม่หรอกครับถ้าผมลาออกอีกคนแล้วจะเอาอะไรกินกันล่ะ”
“ก็ยังดีที่ไม่ลาออกทั้งคู่” ออสตินคงไม่ยอมแน่ๆ หากเควินแล้วปานรวีจะลาออกพร้อมๆ กัน
ออสตินประชุมจนถึงค่ำโดยที่ไม่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเลย เขาปิดเสียงแจ้งเตือนเอาไว้ พอหญิงขึ้นมาดูก็เห็นข้อความจากวรรษมนที่ส่งมาตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้ว
‘เย็นนี้คุณจะกลับมาไหมคะ’
‘คุณไม่อ่านแสดงว่าคงกำลังยุ่งอยู่ เมล่อนคงไม่รบกวนใช่ไหมคะ ตั้งใจทำงานนะคะ สู้ๆ ค่ะ’
ถัดจากข้อความก็เป็นสติ๊กเกอร์ผู้หญิงชูมือสองนิ้วและสติ๊กเกอร์ผู้หญิงส่งหัวใจ ออสตินหัวเราะเพราะเขาไม่เคยมีใครส่งอะไรแบบนี้มาให้ เขามองโทรศัพท์อีกพักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจกดโทรออก