ตอนที่ : 03 เข้ากันได้ดี
เวลาผ่านไป
"คุณพ่อกลับมาแล้ว" น้องไคเรนรีบวิ่งออกไป ลูกพีชเธอก็รีบวิ่งตามไปด้วยเพราะกลัวว่าเจ้านายตัวน้อยของเธอจะเกิดอุบัติเหตุ
"คุณพ่อครับ"
"ครับผม มาอุ้มหน่อยซิตัวแสบ"
ลูกพีชเธอวิ่งตามออกมาก็พบว่าน้องไคเรนถูกผู้ชายตัวสูงหน้าฝรั่งคนนึงอุ้มอยู่ เธอเดาว่าน่าจะเป็นคุณพ่อของแก
"คนนี้ชื่อพี่พีชครับคุณพ่อ เป็นเพื่อนใหม่ของผมเอง" เด็กน้อยแนะนำเพื่อนที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นานให้กับผู้เป็นพ่อได้รู้จัก ทำให้เขากับเธอสบตากันพอดี
"อ๋อครับ"
"สวัสดีค่ะ" เธอยกมือไหว้คนตรงหน้าอย่างก็กล้าๆ กลัวๆ
"อืม...ถ้าอย่างนั้นพ่อไปอาบน้ำก่อนนะครับ"
"ครับคุณพ่อ"
ชายหนุ่มเดินผ่านลูกพีชไป ความเย็นชาและมาดขรึมทำให้เธอไม่แม้แต่จะกล้าสบตากับเขา
เธอได้แต่คิดในใจว่าเป็นแบบนี้นี่เองลูกชายของเขาถึงได้เป็นเด็กที่เก็บกดมากขนาดนี้
พ่อเป็นแบบไหนลูกก็เป็นแบบนั้น เพราะพ่อไม่ค่อยพูดไม่ค่อยแสดงออกลูกก็เลยกลัว
"พี่พีชครับ รออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับผมขึ้นไปหาคุณพ่อก่อน"
"ครับน้องไคเรน"
ลูกพีชยืนมองเจ้านายตัวน้อยวิ่งขึ้นบันไดตามพ่อของตัวเองไป ด้านหลังของเธอมีชายชุดดำยืนอยู่อีกสองคน น่าจะเป็นลูกน้องของผู้ชายที่เป็นพ่อของน้องไคเรน
ผ่านไปสักพัก
หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองขึ้นมาดูเวลา จนได้รู้ว่าตอนนี้ถึงเวลาเลิกงานแล้วและเธอก็ต้องรีบกลับบ้าน เดี๋ยวยายจะเป็นห่วงเอา
"พี่พีชครับพี่พีช!" เสียงเด็กน้อยตะโกนตามหลังมา ขณะที่ลูกพีชกำลังเดินออกไปที่หน้าบ้านเพื่อที่จะเดินกลับไปบ้านของตัวเอง
"ครับ? วิ่งมาทำไมครับเนี่ยเดี๋ยวก็ล้มหรอก"
"คุณพ่ออยากคุยกับพี่พีชครับ"
"หือ?? อยากคุยกับพี่"
"ครับ"
หญิงสาวขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะเดินตามหลังเด็กชายตัวน้อยที่วิ่งมาตามเธอกลับเข้าไปในบ้าน โดยหารู้ไม่ว่าชายหนุ่มยืนมองดูเธอจากระเบียงชั้นสองด้านบน
ไม่นานก็เดินขึ้นมาถึงยังชั้นสองที่เป็นห้องทำงานของมาเฟียหนุ่ม
"เข้าไปเลยครับพี่พีช คุณพ่อไม่ดุหรอกคุณพ่อใจดี"
"ครับ" ถึงจะบอกอย่างนั้นก็เถอะแต่สิ่งที่เธอสัมผัสได้ก็คือความเย็นชาจากตัวของเขา ดูเป็นผู้ชายที่เข้าถึงยากเดาไม่ออกเลยจริงๆ ว่าคิดที่จะทำอะไร
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เข้ามา" สิ้นสุดเสียงเคาะประตูก็มีเสียงเย็นยะเยือกจากด้านในเล็ดลอดออกมา
มือเล็กเลื่อนไปผลักประตูแล้วเดินเข้าไปภายในห้องแอร์ที่แสนจะเย็นเฉียบ
"เธอใช่มั้ยที่อรชาเป็นคนแนะนำมาให้ฉัน?"
"ใช่ค่ะ เจ๊อรเป็นคนแนะนำให้พีชมาทำงานนี้เองค่ะ"
"ชื่ออะไร?"
"ชื่อลูกพีชค่ะ"
"อายุ?"
"22ค่ะ"
"แล้วรู้กฎของบ้านหลังนี้หรือยัง"
"รู้แล้วค่ะป้าแม่บ้านเป็นคนบอก"
"เคยมีพี่เลี้ยงมาอยู่กับลูกชายของฉันหลายคน แต่ก็ไม่มีใครอยู่กับลูกชายของฉันได้เลย ส่วนใหญ่ก็บอกว่าลูกชายของฉันดื้อ"
"ค่ะ"
"แล้วทำไมเธอถึงเข้ากับน้องไคเรนได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน?"
"การจะเลี้ยงเด็กต้องเข้าใจความรู้สึกของเด็กด้วยค่ะ เรามีหน้าที่รับฟังเด็กอยากพูดอะไรก็ให้แกพูดออกมา เด็กอยากทำอะไรก็ให้แกทำเพราะมันเป็นพัฒนาการของแกค่ะ"
"เธอกำลังพูดถึงอะไร?"
"น้องไคเรนบอกกับพีชว่าคุณห้ามแกวาดรูป และก็ห้ามทุกคนในบ้านหลังนี้เอารูปวาดเข้ามาด้วย"
"แล้ว?"
"เรื่องอื่นพีชคงไม่รู้อะไรมากมาย แต่การเลี้ยงเด็กคุณต้องปล่อยให้แกได้มีพัฒนาการของตัวเอง การวาดรูปก็เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้พัฒนาการของเด็กดีขึ้น"
"เธอเป็นคนแรกที่กล้าพูดกับฉันขนาดนี้"
"พีชก็แค่พูดตามสิ่งที่มันควรจะเป็นค่ะ อย่างอื่นคุณห้ามได้ เรื่องแบบนี้ถ้าคุณไปห้ามก็เหมือนตัดโอกาสของเด็กไปทำให้แกมีพัฒนาการด้อยกว่าเด็กคนอื่นๆ ตัวอย่างก็มีให้เห็นนะคะคุณบอกว่าพี่เลี้ยงคนก่อนๆ ของน้องไคเรนไม่มีใครอยู่ได้เลยเพราะว่าแกดื้อ ส่วนนึงมันก็มาจากสิ่งที่คุณห้ามและตั้งกฎมากมาย เด็กแค่นี้เขายังไม่รู้เรื่องอะไรหรอกค่ะอยากไปตั้งกฎให้แกเลย แกอยากจะทำอะไรก็ปล่อยแกไป ให้แกเรียนรู้ด้วยตัวของแกเองแบบนี้น่าจะดีกว่า"
"เธอพูดมากับฉันตรงๆ เลยดีกว่าฉันไม่ชอบคนอ้อมค้อม"
"วันนี้พีชเพิ่งมาทำงานเป็นวันแรก ยังไม่รู้จักอะไรมากมาย แต่สิ่งแรกที่พีชสัมผัสได้คือน้องไคเรนดูเป็นคนเก็บกด" เธอไม่ได้สัมผัสถึงความดื้อความซนของเด็กคนนี้เลย ถ้าลองเปิดใจมองดูดีๆ จะรู้ว่าน้องไคเรนไม่ได้ต้องการโหยหาของรอบกาย เพียงแต่เธอโหยหาความรักความใส่ใจของคนในครอบครัวมากกว่า
"ลูกของฉันฉันเลี้ยงแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เธอมีหน้าที่ทำอะไรก็ทำไปเถอะ กฎทุกอย่างที่นี่ยังอยู่เหมือนเดิม และถ้าใครทำอะไรที่ฝ่าฝืนกฎของที่นี่จะต้องถูกไล่ออกสถานเดียว"
"ค่ะ รับทราบค่ะ"
"พรุ่งนี้เธอก็มาดูแลลูกชายของฉันเหมือนเดิม และถ้าเธอจะนอนที่นี่ก็บอกแม่บ้านเอา พวกเขาจะได้เตรียมห้องนอนให้กับเธอ"
"ไม่เป็นไรค่ะ พีชต้องกลับบ้านไปดูแลยายเหมือนกัน ขอบคุณมากๆ นะคะ"
"อืม ไปเถอะ"
"สวัสดีค่ะ"
ลูกพีชเดินออกมาจากห้องทำงานของมาเฟียหนุ่ม ก่อนจะรีบเดินลงไปแล้วสาวเท้ายาวๆ เดินออกไปจากบ้าน
เธอเป็นคนแรกที่กล้าปฏิเสธเขา พี่เลี้ยงของลูกชายเขาแต่ละคนล้วนแต่มาพักอยู่ที่นี่กันทั้งนั้น ส่วนใหญ่ก็รักความสบายเพราะที่นี่เป็นบ้านหลังใหญ่ มีแม่บ้านคอยทำความสะอาดให้มีข้าวให้กินครบ 3 มื้อมีที่นอนให้นอนไม่ต่างอะไรจากคุณหนู
เธอแปลกที่กล้าต่อล้อต่อเถียงหรือแม้กระทั่งยกสิ่งที่เขาเกลียดมากที่สุดขึ้นมาพูดกับเขา ในขณะที่คนรอบข้างไม่มีใครกล้าแม้แต่จะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา
เหตุผลหนึ่งคือเธออาจจะไม่รู้ว่าเขาเกลียดภาพวาดมาก เพราะแม่แท้ๆ ของน้องไคเรนชอบวาดรูปมาก และทุกรูปภาพที่วาดขึ้นมาก็มักจะเอามาใส่กรอบแล้วแขวนไว้เต็มบ้าน
หลังจากที่เธอคลอดลูกเธอก็หนีออกจากโรงพยาบาลทิ้งลูกไว้อยู่คนเดียวจนกว่าเขาจะมาเจอก็เย็นแล้ว สิ่งนี้มันทำให้เขาเกลียดทุกอย่างที่เป็นของผู้หญิงคนนั้น เขาเลี้ยงลูกมาคนเดียวโดยตลอด และก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีทางให้ผู้หญิงคนนั้นมาเอาลูกของเขาไปได้