ทวงรัก 1 | เจอกันอีกครั้ง
“คุณฮันเตอร์ลองคิดดูสิครับ ถ้าได้บริษัทเจย์เคกรุ๊ปมา คุณฮันเตอร์มีแต่ได้กับได้เลยนะครับ”
“ตอนนี้นายทุนทุกคนต่างอยากได้เจย์เคกรุ๊ปมาครอบครองกันทั้งนั้น แค่มีข่าวลือปล่อยออกมา ว่าจะมีการประมูลซื้อบริษัทนี้ ก็เป็นที่น่าสนใจสำหรับนายทุนทุกคนแล้ว”
ฮันเตอร์ มาเฟียหนุ่มผู้ทรงอิทธิพล นั่งไขว่ห้างควงแก้วน้ำสีเหลืองอำพันไปมา ฟังในสิ่งที่คนตรงหน้ากำลังพูดถึงการประมูลบริษัท ‘เจย์เคกรุ๊ป’ เงียบๆ ก่อนจะยกแก้วน้ำเมาขึ้นมาดื่มอย่างใจเย็น
‘เจย์เคกรุ๊ป’ เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงพอสมควร แต่กลับมีเหตุการณ์ทำให้ไปต่อไม่ได้ จู่ๆ ผู้ถือหุ้นก็ต่างถอดหุ้นออกจากบริษัทนี้ ทว่าวงในรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
ประธานบริษัทสูงสุด ‘หัสดิน’ ประสบอุบัติเหตุบวกกับมีโรคแทรกซอน ทำให้ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนบริษัทอยู่ในการดูแลของ ‘ไทธัช’ ลูกติดของภรรยาใหม่ชื่อ ‘แพรมุก’ ชั่วคราว
หลังๆ ไทธัชทำตัวเสเพล ติดการพนันหนักจนถึงขั้นเอาบริษัทของที่บ้านไปเป็นหลักประกันกับนายทุนคนหนึ่ง เพราะอยากได้เงินมาเล่นการพนัน และนั่นคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้เจย์เคกรุ๊ปถูกนำมาประมูล
และในไม่ช้า บริษัทจะถูกประมูลขายให้นายทุนคนอื่น ที่มีเงินพร้อมซื้อไปครอบครอง…
“คุณฮันเตอร์ไม่สนใจประมูลเอาบริษัทนี้มาเป็นของตัวเองเหรอครับ”
“ทำไมคุณอินไม่ประมูลมาเองล่ะครับ” มาเฟียหนุ่มถามคนตรงหน้ากลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ถ้าผมมีเงินมากมายขนาดนั้น คงประมูลมาแล้ว”
“ทำไมถึงอยากให้ผมประมูลบริษัทนั้นมานักหนา”
“ผมอยากแก้แค้นนายทุนคนนึง ที่จะเข้าร่วมการประมูลบริษัทเจย์เคกรุ๊ป ผมไม่อยากให้มันได้ไป”
“หึ” มุมปากหยักเหยียดยิ้มไปด้านข้าง พร้อมกับส่งเสียงเบาๆ ในลำคอ ยกแก้วน้ำเมาในมือขึ้นดื่มอีกหนึ่งอึก
“ถ้าคุณฮันเตอร์ประมูลเจย์เคกรุ๊ปมาได้สำเร็จ มีแต่ได้กับได้นะครับ”
“นอกจากอยากแก้แค้นแล้ว ต้องการอะไรจากผมอีก”
คงไม่มีใครหวังดี หากไม่มีเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง…
“แค่คุณฮันเตอร์ช่วยคุยกับคุณนาธาน เปิดทางให้ผมได้เข้าไปลงทุนทำธุรกิจที่ไต้หวัน”
“หึ” คราวนี้เขาแสยะยิ้มเย้ยหยัน ‘นาธาน’ ที่อินพูดถึงคือพ่อของเขา ที่มีอิทธิพลอยู่ไต้หวัน นักลงทุนส่วนใหญ่เข้าหาเขาเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจทั้งนั้น
และเขาตัดปัญหาโดยการไม่คบค้าสมาคมกับคนพวกนี้
“คุณอินรู้ได้ยังไงว่าผมจะชนะการประมูลเจย์เคกรุ๊ป”
“ระดับคุณฮันเตอร์ ถ้าได้สนใจอะไรแล้ว ไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือตัวเองไปได้”
“ถ้าผมไม่เข้าร่วมการประมูลครั้งนี้ล่ะ”
“ลองดูไม่เสียหายนะครับ บริษัทนี้นักลงทุนอยากได้เยอะมาก คุณฮันเตอร์ก็น่าจะรู้ ว่าสองปีก่อนเป็นปีทองของเจย์เคกรุ๊ป แถมยังมีบริษัทลูกที่สิงคโปร์ ถ้าคุณฮันเตอร์ได้มา รับรองว่าไม่ขาดทุนแน่นอน”
“ผมจะลองเก็บไปคิดดู” ถ้าเขาได้ลงสนามการแข่งขันในครั้งนี้ แน่นอนว่าเขาต้องชนะเท่านั้น
ฮันเตอร์… ไม่เคยแพ้ใคร
มาเฟียหนุ่มเดินออกมาลานจอดรถ หลังจากนั่งดื่มและพูดคุยกับอินเสร็จ มือล้วงเข้ากระเป๋าหยิบกุญแจรถออกมา ทว่าเสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้นเสียก่อน
“ได้เรื่องยังไง”
(เจอกันหนอนบ่อนไส้แล้วครับนาย)
“เจอมันอยู่ไหน”
(ท่าเรือ กำลังหนีครับ ตอนนี้ผมจับพวกมันมารอนายที่ห้องดำ นายจะกลับมาจัดการเองหรือให้ผมลงมือเลยครับ)
“ฆ่ามันทิ้งให้หมด”
(ครับนาย)
เขาวางสายจากลูกน้องคนสนิท ก่อนจะเดินตรงไปยังรถหรูที่จอดไว้ในโซนVIP แต่ทว่า…
สองเท้าหยุดชะงักลง เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากมุมหนึ่งของลานจอดรถ ใบหน้ามองตามเสียงดังกล่าว หากแต่มันกลับหายไปเสียแล้ว ริมฝีปากหยักได้รูปแสยะยิ้มน่ากลัว หลังจากมองเห็นเศษเสี้ยวรองเท้าผู้หญิงตรงหลังเสาเล็กน้อย
“หึ พวกมือสมัครเล่น” เขาเลือกที่จะไม่เดินเข้าไป แม้รู้จุดประสงค์ของคนๆ นั้นก็ตาม เปิดประตูรถแล้วก้าวเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย
ไม่เสียเวลากับพวกอ่อนหัดแบบนั้นหรอก…
บรื้นน!
รถหรูขับออกไปจากลานจอดโซนVIP คนที่หลบอยู่หลังเสาขนาดใหญ่ค่อยๆ โผล่หน้าออกมา มือเรียวเล็กกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น แววตาคู่สวยฉายความรู้สึกบางอย่างออกมา
ความคิดถึง…
ริมฝีปากสีระเรื่อพลางเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่เธอมีโอกาสได้เจอเขาอีกครั้ง หลังจากทุกอย่างมันจบลงไปในวันนั้น
วันที่เขาบอกให้เธอลืมทุกอย่างรวมถึง… ความรู้สึกที่มีให้
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบใบหู ก่อนจะพูดกับปลายสายที่รออยู่
“เจอเขาแล้ว”
(อย่าลืมว่าเธอมีเวลาแค่สี่วัน ถ้าทำไม่ได้ เจย์เคกรุ๊ปก็ต้องถูกประมูลไป)
“เข้าใจแล้ว”