บทที่5 เริ่มออกลาย
หลังจากส่งผู้เป็นพ่อขึ้นรถเสร็จเรียบร้อยแล้วหงส์ฟ้าก็เดินกลับเข้ามาในคฤหาสน์อีกครั้งพร้อมกับคนอื่น ๆ เธอเดินมาหย่อนสะโพกนั่งบนโซฟาในห้องรับแขกเงียบ ๆ ถึงแม้ใบหน้าของเธอจะเรียบนิ่งดูเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ภายในใจกลับรู้สึกห่อเหี่ยวไม่น้อยเมื่อผู้เป็นพ่อกลับไปกว่าจะปรับตัวให้คุ้นชินกับการไม่มีพ่อแม่อยู่ข้างกายได้คงใช้เวลาหลายวัน
"หนูหงส์จะกลับไปพักที่คอนโดเลยไหม หรือจะอยู่ทานข้าวกับป้าก่อนจ๊ะ" หงส์ฟ้าระบายยิ้มอ่อน ๆ เมื่อฟานี่พูดขึ้น ก่อนเปล่งเสียงตอบอย่างอ่อนหวาน "หนูว่าจะกลับไปพักเลยค่ะคุณป้ารู้สึกปวดหัวนิดหน่อย"
"จ้ะ" ฟานี่พยักหน้าแล้วหันไปเอ่ยกับบุตรชายต่อ "งั้นริวไปส่งน้องที่คอนโดหน่อย"
ใบหน้าหวานถึงกับขมวดคิ้วชนกันเป็นปมเมื่อสิ้นเสียงพูดฟานี่ ดวงตากลมโตปรายมองร่างสูงตรงหน้าอย่างไม่ชอบใจนักจากการที่เขาจับจ้องเธอก่อนหน้านี้ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาต้องมีอะไรในใจแน่ ๆ อยากจะขอเปลี่ยนให้ลูกน้องเขาไปส่งแทนแต่ก็ทำได้แค่คิด
"หนูไปก่อนนะคะคุณป้า สวัสดีค่ะ" เธอกล่าวลาฟานี่อย่างนบน้อมแล้วลุกเดินตามร่างสูงที่เดินออกไปขึ้นรถก่อนหน้านี้อย่างเร่งรีบ
ลมหายใจถูกพ่นออกจากจมูกโด่งเบา ๆ ก่อนมือเรียวจะเปิดประตูรถหรูแล้วก้าวขึ้นไปนั่งเคียงคู่มาเฟียหนุ่มบนเบาะด้านหลังโดยมีลูกน้องของเขาเป็นคนขับรถ ดวงตากลมโตปรายมองร่างสูงข้างๆ แวบหนึ่งก่อนเสมองออกไปนอกกระจกรถ
ภายในรถถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่สร้างความอึดอัดให้หงส์ฟ้าไม่น้อย ใบหน้าหวานเอียวกลับมามองร่างสูงอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่ากำลังโดนจับจ้องอยู่ และทันทีที่หันกลับมาก็พบว่าเขาจับจ้องเธออยู่จริง ๆ
คิ้วสวยขมวดชนกันเป็นปมดวงตากลมโตมองสบดวงตาคมกริบอย่างไม่เข้าใจ ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง แววตาดุดันคู่นั้นเธอไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเจ้าของคิดอะไรอยู่กันแน่ และไม่ปล่อยให้ตัวเองได้ขัดข้องใจนาน ๆ ตัดสินใจถามออกไปทันที "พี่เซริวมีอะไรกับหงส์หรือเปล่าคะทำไมมองหงส์แปลก ๆ ตั้งแต่ที่คฤหาสน์แล้ว"
"ไม่มีอะไร" มาเฟียหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบขณะที่สายตายังจับจ้องดวงหน้าหวานอยู่
"ก็เห็น ๆ อยู่ว่าพี่มองหงส์จะบอกว่าไม่มีอะไรได้ยังไงคะ" คนฟังสวนกลับทันควันจับจ้องใบหน้าคมคายด้วยแววตาไม่พอใจก็เห็น ๆ อยู่ว่าเขามองขนาดเธอพูดแบบนี้แล้วเขาก็ยังไม่เลิกมองอีก
"..."
"หงส์พูดกับพี่อยู่นะไม่ได้ยินเหรอ" เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มอีกครั้งแต่กลับดัง และแข็งกว่าก่อนหน้านี้บ่งบอกได้ว่าเธอเริ่มรู้สึกไม่โอเคที่ร่างสูงนิ่งเงียบไม่ตอบคำถามของเธอ
"อย่าขึ้นเสียงกับฉัน ฉันไม่ใช่พ่อแม่ของเธอที่จะยอมให้เด็กนิสัยไม่ดีอย่างเธอมาขึ้นเสียงใส่" แววตาราบเรียบแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวในทันตาเมื่อสิ้นเสียงพูดของร่างอรชร น้ำเสียงเย็นยะเยือกที่เปล่งออกจากริมฝีปากหนาบ่งบอกได้ว่าเขาไม่ชอบใจเอามาก ๆ ที่เธอขึ้นเสียงใส่ไม่ให้ความเคารพทั้งที่เขาอายุมากกว่าหลายปี
"ถ้าหงส์นิสัยไม่ดีพี่ก็นิสัยไม่ดีเหมือนกันนั่นแหละไม่มีมารยาทมาจ้องหน้าหงส์ทำไม แถมยังลามปรามถึงป๊ากับม๊าหงส์อีก"
"มาวันแรกก็เริ่มออกลายแล้วสินะ"
"ออกลายอะไรพี่พูดให้ดี ๆ นะ"
"อย่ามาขึ้นเสียง อย่าใส่อารมณ์กับฉัน" ร่างสูงใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อร่างอรชรตะเบ็งเสียงใส่ดังลั่น ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าหวานเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อแต่ดูเหมือนคนถูกจับจ้องจะไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย
"แล้วจะทำไมคะ" ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างถือดี ริมฝีปากเอิบอิ่มเผยอพูดท้าทายไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวกับท่าทางดุดันเกรี้ยวกราดของร่างสูงสักนิดใช่ว่าเธอจะไม่เคารพเขาแต่ดูคำพูด และการกระทำของเขาสิมันน่านับถือเสียที่ไหน
"อย่าท้าทาย อย่าทำให้ฉันเหลืออดหงส์ฟ้า"
"ถ้าหงส์ท้าทายแล้วพี่จะทำอะไรหงส์ดะ..." เสียงห้วนหายไปในลำคอเมื่อจู่ ๆ รถก็หักหลบกระทันหันเพราะมีรถขับปาดหน้าทำให้ตัวเธอเสียหลักเซถลาเข้าปะทะอีกคนอย่างแรง
"โอ๊ยย!" แรงปะทะทำให้ร่างอรชรรู้สึกเจ็บไม่น้อยใบหน้าหวานเหยเกออกมาอย่างห้ามไม่ได้
"แม่งเอ๊ย! เจ็บชะมัด" คำหยาบถูกพ่นออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มอย่างหัวเสีย ก่อนเธอจะได้สติรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในวงแขนแกร่งของร่างสูง ใบหน้าหวานที่แนบอยู่กับอกแกร่งขมวดยุ่งเหยิงด้วยความอาย
เธอลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยว ๆ ลงลำคออึกใหญ่ค่อย ๆ แหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าคมคายช้า ๆ ก็พบว่าเขากำลังจับจ้องเธออยู่ ดวงตากลมโตกลอกกลิ้งไปมาอย่างเสียอาการรีบผละตัวออกจากวงแขนแกร่ง แต่เธอผละตัวได้เพียงนิดเดียวเท่านั้นก็โดนแขนแกร่งออกแรงกดจนตัวเธอแนบชิดกับเขาอีกครั้งจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
มาเฟียหนุ่มจับจ้องใบหน้าหวานที่อยู่ระดับหน้าอกด้วยแววตาดุดัน ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น "ฉันทำอะไรได้มากกว่าที่เธอคิด อย่าคิดว่าเป็นลูกคุณลุงแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไร"
"นี่พี่ขู่หงส์เหรอ"
"ลองดูไหมล่ะ" สิ้นเสียงทุ้มริมฝีปากเอิบอิ่มก็เม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรงแววตา และน้ำเสียงของเขายืนยันได้ว่าเขาจะทำจริง ๆ อย่างที่พูดหากเธอยังท้าทายไม่เลิกตอนนี้เธอกำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบคงต้องสงบปากสงบคำไว้ก่อน
ดวงตากลมโตมองสบดวงตาคมกริบเขม็งนานนับนาทีพยายามข่มความขุ่นเคืองใจเอาไว้แล้วใช้มือดันอกกว้างให้ออกห่าง "ปล่อยหงส์นะ!"
"หึ" มาเฟียหนุ่มมองร่างอรชรที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนเค้นหัวเคราะในลำคออย่างเย้ยหยันผู้หญิงก็คือผู้หญิงจะสู้ผู้ชายตัวโตกว่าได้อย่างไรยังไงก็เสียเปรียบวันยังค่ำ เขาปล่อยให้ร่างอรชรดีดดิ้นอยู่อย่างนั้นจนเธอเริ่มอ่อนแรงจึงยอมคล้ายพันธนาการออก
ร่างอรชรรีบขยับตัวไปนั่งชิดประตูรถอีกฝั่งทันทีที่ได้รับอิสระ ก่อนตวัดสายตามองร่างสูงด้วยความคับแค้นใจเธอจะต้องหาวิธีเอาคืนเขาให้ได้คอยดู
จากนั้นภายในรถก็ถูกความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งจนมาถึงคอนโดหรูย่านใจกลางเมือง