บทที่ 4
เมื่อเดินทางมาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ ซึ่งตอนนี้บรรดาคนรับใช้ได้จัดสถานที่จัดงานเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว และกำลังยืนรอต้อนรับการกลับบ้านของคุณหนูนารินดา โดยพากันยืนรออยู่หน้าคฤหาสน์พร้อมกับบอร์ดี้การ์ดทุกๆ คน ด้วย นารินดากลับไม่ได้รู้สึกยินดีกับการรอต้อนรับของคนเหล่านี้
“พวกขี้ข้า พวกคนใช้”
นารินดาก้าวลงจากรถพร้อมกับยิ้มเหยียด เค้นเสียงเยาะ มองคนเหล่านี้ด้วยสายตารังเกียจ เมื่อเห็นบรรดาคนรับใช้กำลังยืนรอรับเธออยู่
“ขอต้อนรับคุณหนูกลับบ้านค่ะ”
เด็กรับใช้คนหนึ่งนำช่อดอกไม้มายื่นตรงหน้าคุณหนูคนสวย รอให้อีกฝ่ายรับไปถือไว้
นารินดาหลุบสายตามองด้วยความขยะแขยงกับดอกไม้ราคาถูกๆ แค่ไม่กี่พันบาท หญิงสาวไม่อยากยื่นมือไปรับดอกไม้มาถือไว้ และก็ทำตามที่คิดไว้จริงๆ หญิงสาวเดินผ่านหน้าคนรับใช้ ตรงไปหาเอ็มม่า คนรับใช้คนเดียวในบ้านที่เธอให้ความเคารพที่สุด พร้อมกับสวมกอดเอ็มม่าไว้แน่น
“เอ็มม่า นาเดียคิดถึงเอ็มม่าที่สุดเลยค่ะ”
เอ็มม่า คือคนที่เป็นแม่นมให้กับนารินดา เลี้ยงหญิงสาวมาตั้งแต่วินาทีแรกที่สูญเสียมารดาไป ได้สวมกอดร่างบางระหงของคุณหนูที่นางรักไว้แนบแน่น
“เอ็มม่าก็คิดถึงคุณหนูเหมือนกันค่ะ”
เอ็มม่าเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอันเต็มไปด้วยความรัก จากนั้นก็ดันตัวนารินดาออกเพียงเล็กน้อย ก่อนจะแสร้งต่อว่าต่อขานคนที่นางเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก
“คุณหนูน่าตีที่สุด ไปอยู่อังกฤษตั้งแต่สี่ปี ไม่ยอมกลับบ้านเลยแม้แต่ครั้งเดียว เอ็มม่ากับคุณพ่อคิดถึงคุณหนูมากรู้ไหมคะ”
นารินดามีสีหน้าถอดสีเล็กน้อยกับคำตำหนิของเอ็มม่า หญิงสาวกัดเม้มริมฝีปากไว้แน่น เพราะนิโคลัสไม่ใช่หรือ? ที่เอ่ยถากถางสบประมาท ทำให้เธอไม่สามารถกลับประเทศไทยได้ตลอดระยะเวลาสี่ปี นั่นก็เพราะว่าเธอต้องการให้อีกฝ่ายรู้ด้วยว่าเธอสามารถทำตามคำเยาะหยันของเขาได้
“นาเดียแค่เบื่อ ไม่อยากนั่งเครื่องบินนานๆ นาเดียก็เลยรอกลับบ้านทีเดียวตอนเรียนจบเลยนะคะเอ็มม่า”
นี่คือเหตุผลที่นารินดาใช้อ้างกับบิดาเรื่อยมา จนบิดาต้องเป็นฝ่ายมาเยี่ยมเธอในประเทศอังกฤษแทน แม้เธออยากกลับประเทศไทยใจจะขาด อยากเห็นหน้าของคนที่เยาะหยันถากถางเธอมากเพียงใด แต่ก็ต้องอดทนให้ถึงที่สุด เพราะนิโคลัสมีพันธะสัญญาที่จะต้องมอบให้กับเธอ หากเธอสามารถลบคำสบประมาทของเขาให้ได้
“คุณหนูเดินทางมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนก่อนไหมคะ”
เอ็มม่าเอ่ยถามพร้อมกับจับมือเล็กไว้ ทำท่าจะพาเดินเข้าไปในบ้าน แต่นารินดาขืนตัวไว้เสียก่อน
“นาเดียไม่เหนื่อยเท่าไรหรอกคะเอ็มม่า”
“แล้วคุณหนูหิวไหมคะ เอ็มม่าจะสั่งให้เด็กๆ จัดโต๊ะให้คุณหนูเดี๋ยวนี้เลย”
เพราะความรักและเป็นห่วงแท้ๆ ทำให้เอ็มม่าเซ้าซี้ไม่เลิก แถมยังจะพานารินดาเข้าไปในตัวบ้านให้ได้ และการรบเร้าของเอ็มม่าส่งให้นารินดาลืมตัว กระชากมือออกพร้อมกับตะโกนปฏิเสธลั่น
“ไม่! นาเดียไม่หิว! อย่ามายุ่งกับนาเดียได้ไหม”
กระชากมือออก พร้อมกับตวาดลั่นไปแล้ว นารินดาก็ต้องหน้าเสีย เมื่อเหลือบสายตามองสีหน้าของเอ็มม่า รวมทั้งบิดาของเธอ ซึ่งต่างก็ถอดสีซีดไปตามๆ กัน
“คุณหนู ทำไมถึงพูดกับเอ็มม่าแบบนี้ล่ะคะ”
“นาเดีย ขอโทษเอ็มม่าเดี๋ยวนี้”
เป็นครั้งแรกที่มิสเตอร์ฮาเวิร์ดกล้าออกคำสั่งกับลูกสาว นารินดาจะเสียมารยาทกับใครก็ได้ ยกเว้นเอ็มม่า คนที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เล็ก
“ก็เอ็มม่ามาเซ้าซี้นาเดียทำไม” นารินดาไม่ยอมทำตามคำสั่งของบิดาง่ายๆ
ผู้เป็นบิดาขึงตาจ้องมองลูกสาวด้วยแววโกรธจัด เค้นเสียงออกคำสั่งอีกครั้ง
“นาเดีย! ลูกต้องขอโทษเอ็มม่า ถ้าหนูไม่ทำ ก็อย่าหาว่าพ่อใจร้ายกับหนู”
“คุณท่านคะ อย่าดุคุณหนูเลยค่ะ เอ็มม่าผิดเอง ที่ไปเซ้าซี้คุณหนู”
เอ็มม่ายังคงรักและเข้าข้างคุณหนูของเธอเสมอ เพราะถูกเลี้ยงดูแบบยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม จากเอ็มม่าแถมยังถูกตามใจทุกอย่างจากผู้เป็นบิดา ส่งผลให้นารินดากลายเป็นเด็กที่ก้าวร้าวในบางครั้งบางคราว
พอได้ยินเสียงตัดพ้ออย่างสั่นเครือ อีกทั้งสีหน้ายังเผยความเสียใจให้เห็น นารินดาจึงรู้สึกตัว เอ่ยขอโทษเอ็มม่าด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ก็ได้ค่ะ นาเดียขอโทษก็ได้ นาเดียไม่ตั้งใจทำให้เอ็มม่าเสียใจ”
นารินดาหยุดพูดไปชั่วขณะ กัดเม้มริมฝีปากแน่นอย่างคนที่ถูกขัดใจ หญิงสาวหันไปมองหน้าบิดา ก่อนจะกระแทกเสียงพูดกับบิดา
“นาเดียขอโทษเอ็มม่าแล้ว คุณพ่อพอใจหรือยังคะ”
“นาเดียอย่าประชดพ่อ”
ผู้เป็นบิดาเค้นเสียงตำหนิลึกอยู่ในลำคอ เริ่มรู้สึกเสียใจ ที่ตนเองเลี้ยงดูลูกสาวมาอย่างผิดๆ ตั้งแต่ต้น
“นาเดียเหนื่อย ขอไปพักผ่อนก่อนนะคะ”
ไม่รอให้เอ็มม่าหรือผู้เป็นบิดาตอบรับ พอเอ่ยบอกเสร็จแล้ว นารินดาก็รีบเดินเร็วๆ ออกจากบริเวณดังกล่าว และขณะเดินผ่านหน้าไมเคิล ก็ฝืนยิ้มบางๆ ให้กับอีกฝ่าย ก่อนจะเดินเข้าในบ้านอย่างรวดเร็ว
ยิ่งได้เห็นใบหน้าของไมเคิล ซึ่งละม้ายคล้ายกันกับนิโคลัส ยิ่งทำให้นารินดาคิดถึงชายผู้นี้มากเท่านั้น เธออยากไปทวงสัญญากับนิโคลัสในทันทีที่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย แต่เพราะมีบรรดาคนรับใช้และบอร์ดี้การ์ดของบิดายืนหน้าสลอนรอรับอยู่ ทำให้เธอทำตามที่ต้องการไม่ได้สักที ซึ่งสร้างความหงุดหงิดใจให้กับเธอที่สุด
“รอก่อนนิโคลัส รออีกไม่กี่นาที ฉันจะไปทวงสัญญาจากคุณ”