บทที่ 5
นารินดาเกิดอาการประหม่า เมื่อเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องของผู้ชายที่เธอหลงรักมาตั้งแต่แรกรุ่น ในตอนแรกหญิงสาวตั้งใจจะมาหานิโคลัสทันทีที่เดินหนีจากเอ็มม่าและบิดาได้แล้ว แต่พอคิดว่าตนเองเพิ่งเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย เนื้อตัวเหนียวเหนอะหนะ แถมเสื้อผ้ายังยับยู่ยี่ จึงเปลี่ยนใจอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ประทินโฉมเพื่อให้ตนเองนั้นดูดีที่สุดในสายตาของนิโคลัส
ก๊อก...ก๊อก...
มือเล็กยกขึ้นเคาะประตูห้องเบาๆ ระหว่างรอให้ผู้เป็นเจ้าของห้องมาเปิดให้ ก็ก้มลงมองตัวเองอีกครั้ง ว่าดูงดงามมากพอที่จะทำให้นิโคลัสใจอ่อนยอมรักเธอได้หรือยัง
นิโคลัสกำลังออกกำลังกายด้วยการโหนบาร์เดียวอยู่ในห้องนอนของตนเอง พอได้ยินเสียงเคาะประตูห้องก็กระโดดลงพื้น เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาซับใบหน้าคมเข้มเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ และด้วยคิดว่าคนที่มาเคาะประตูห้องคงเป็นลุงของตนเอง จึงเดินไปยังประตูโดยไม่ได้หยิบเสื้อมาสวมใส่ คงมีแค่เพียงกางเกงขาสั้นแนบเนื้อใส่ติดกายแค่เพียงตัวเดียวเท่านั้น
“มีอะไรจะมาบัญชาผมอีกครับลุงไม...”
นิโคลัสเอ่ยถามขณะเอื้อมมือไปเปิดประตูห้อง คิดว่าคงเป็นลุงของตนเองที่มาตามให้ไปเป็นบอร์ดี้การ์ดของนารินดา จึงเอ่ยถามพร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่พอเงยหน้าเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าคมเข้มแปรเปลี่ยนเป็นถมึงทึง พร้อมกับสบถลั่นห้อง
“บ้าชะมัด! มาทำไม กลับไปซะนารินดา!”
ไม่ได้สบถเพราะความไม่พอใจเท่านั้น มือใหญ่ยังกระแทกประตูปิดตามเดิม แต่นารินดาก็ไวกว่า เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะต้องเจอปฏิกิริยาต่อต้านจากนิโคลัส พออีกฝ่ายทำท่าจะปิดประตูกลับคืน ก็รีบเอื้อมมือมาจับประตูไว้ แล้วแทรกกายเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีค่ะ นิค”
นารินดาคลี่ยิ้มหวาน ทักทายนิโคลัสอย่างสนิทสนม ดวงตากลมโตทอดมองเรือนกายล่ำสัน มีเม็ดเหงื่อเกาะพราวไปทั่วมัดกล้ามด้วยแววตาชื่นชม หิวกระหายอย่างไม่คิดปิดบัง พอหลุบสายตามองตรงกลางแก่นกายของนิโคลัส ซึ่งกายแข็งขึงดุนดันกางเกงออกกำลังกาย เผยให้เห็นความใหญ่โตของเรือนกายอย่างชัดเจน ก็กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ตวัดปลายลิ้นสีชมพูเลียไล้ทั่วเรียวปากของตนเอง
“นิค...นาเดียคิดถึงคุณ”
นารินดาบอกเสียงกระเส่า หลังจากเงยหน้าขึ้นมองสบตากับดวงตาคมกริบ ที่จ้องมองกลับในแววตาตรงกันข้าม แต่กระนั้นเธอก็ไม่สนใจ
“ออกไปจากห้องของผมเดี๋ยวนี้ นาเดีย”
นิโคลัสกัดฟันดังกรอดๆ ตะโกนสั่งเสียงห้วนจัด ขว้างผ้าขนหนูทิ้งเต็มแรง จนแทบโดนใบหน้าของนารินดา จากนั้นก็รีบคว้าเสื้อคอกลมสีขาว กับกางเกงขายาวมาสวมใส่ เพื่อไม่ให้ตนเองต้องตกเป็นอาหารตาอันหิวโหยของนารินดาไปมากกว่านี้
นารินดาเต็มไปด้วยความเสียดาย เมื่อนิโคลัสหยิบเสื้อและกางเกงมาปกปิดเรือนกายของเขา หญิงสาวไม่สนใจการออกปากไล่ของอีกฝ่าย ร่างเล็กดาหน้าเดินเข้าหานิโคลัสอย่างไม่มียางอาย
“ฉันไม่ออกไปไหนทั้งนั้น ฉันคิดถึงคุณมาก รู้ไหม นิค”
“ออกไปนาเดีย อย่าให้ผมต้องจับคุณโยนออกไปจากห้องของผม”
เมื่อนารินดาเป็นฝ่ายดาหน้าเดินเข้าหา นิโคลัสซึ่งเป็นผู้ชายแท้ๆ กลับหวาดกลัวต้องเดินหนีผู้หญิงที่กระหายรักอย่างนารินดา
นารินดาไม่อาจปิดบังความต้องการของตนเองที่มีต่อชายผู้นี้ได้ เธอหลงรักและต้องการนิโคลัสมานานแล้ว รักมากจนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ผู้ชายคนนี้มา ไม่ว่าจะถูกอีกฝ่ายตะโกนไล่ จ้องมองด้วยแววตารังเกียจมากเพียงใด ก็ยังคงรักนิโคลัสเสมอ
“อย่าไล่นาเดียสิคะ นาเดียคิดถึงคุณ นาเดียเรียนจบแล้ว และวันนี้นาเดียมาทวงสัญญาจากคุณด้วย”
“สัญญาอะไร”
นิโคลัสถามเสียงห้วน ยังคงเดินหนีนารินดาไปเรื่อยๆ ไม่ยอมให้ตนเองต้องตกเป็นอาหารอันแสนโอชะของหญิงสาว
ให้ตายเถอะ! เกิดมาไม่เคยถูกผู้หญิงไล่ล่า และไม่เคยต้องเดินหนีผู้หญิงเหมือนที่กำลังทำอยู่กับนารินดา สี่ปีผ่านไป นารินดายังคงน่ากลัวสำหรับเขาไม่มีเปลี่ยน
แม้รู้สึกโกรธที่นิโคลัสเผยความชิงชังให้เห็น แถมยังเดินหนีราวกับเห็นเธอเป็นสัตว์ที่น่ารังเกียจ แต่นารินดาก็ไม่ละความพยายาม ยังคงเดินต้อนนิโคลัสต่อ
“คุณแกล้งลืมใช่ไหมคะ นิค แกล้งลืมสัญญาที่คุณให้ไว้กับฉัน”
“ผมไม่ได้ลืม แต่จำได้ว่าผมไม่เคยให้สัญญากับคุณ”
“นิค...อย่าทำแบบนี้สิคะ คุณก็รู้ว่านาเดียรักคุณ”
นารินดาวิงวอนอย่างไม่อาย ยอมเป็นผู้หญิงหน้าด้าน เพื่อให้ได้มาซึ่งคนที่เธอหลงรัก
ในขณะนารินดาบอกว่ารัก นิโคลัสกลับยิ้มเยาะ แล้วเค้นเสียงตอบโดยไม่ลังเล
“แต่ผมเกลียดคุณ”
“นิโคลัส...ได้โปรดอย่าทำให้นาเดียเสียใจเพราะคำพูดของคุณ”
“คุณจะเสียใจหรือไม่ มันเป็นเรื่องของคุณ ผมไม่สนใจ เพราะนี่มันคือความรู้สึกของผม ที่มีกับคุณมานานแล้ว นาเดีย”
“แต่...คุณสัญญากับนาเดียแล้วนี่คะ ถ้าหากนาเดียเรียนจบ และไม่กลับประเทศไทยเลยตลอดทั้งสี่ปี คุณจะยอมให้นาเดียเป็นเมียของคุณ”
นารินดาทวงถามถึงคำสัญญาที่อีกฝ่ายลั่นไว้ กล้าพูดคำว่า เมีย ออกมาโดยไม่กระดากปาก กล้าเป็นฝ่ายรุก รบเร้านิโคลัส โดยไม่สนใจว่าใครจะพูดว่าเธอเป็นผู้หญิงร่านสวาท
นิโคลัสยิ้มเยาะตรงมุมปาก จ้องมองนารินดาด้วยแววตาชิงชัง ก่อนจะเค้นเสียงให้หญิงสาวต้องน้ำตาตกใน
“ผู้หญิงดีๆ เขาไม่เข้ามาหาผู้ชายถึงในห้อง ผู้หญิงที่สมควรแก่การยกย่องเป็นเมีย เป็นแม่ของลูก ไม่ควรเผยความหิวกระหายในตัวผู้ชายเหมือนที่คุณกำลังทำอยู่”
“แต่นาเดียรักคุณ”
“ถามตัวคุณก่อนนาเดีย ว่าคุณรักผม หรือหลงผมกันแน่”
“รัก นาเดียรักคุณ ได้ยินไหมนิค นาเดียรักคุณ” นารินดาตะโกนบอกลั่น โกรธนิโคลัสจวนเจียนคลั่ง ที่อีกฝ่ายไม่เคยปักใจเชื่อว่าเธอรักเขา
“ฮึ! ปากคุณตะโกนบอกป่าวๆ ว่าคุณรักผม ถามจริงๆ เถอะ ไปอยู่อังกฤษนานถึงสี่ปี ผู้หญิงที่ไม่มียางอายเหมือนคุณ หิ้วผู้ชายเข้าห้องกี่คนแล้ว”
นิโคลัสเยาะหยันทั้งสีหน้าและแววตา ทว่าเท่านี้ยังไม่พอ คนที่ปากจัดอย่างบอร์ดี้การ์ดผู้นี้ ก็เค้นเสียงเหยียดหยามนารินดาต่อ
“ถ้าคุณนับไม่หวาดไม่ไหว ให้ผมช่วยนับไหม นาเดีย สิบ ยี่สิบ หรือเป็นร้อย ที่คุณหิ้วเข้าไปสนองความใคร่ของคุณ”
“นิโคลัส! ฉันไม่เคยมีใคร”
นารินดาเค้นเสียงตอบคนตรงหน้าด้วยความเสียใจ ทำไมนิโคลัสไม่เชื่อว่าเธอรักเขา หญิงสาวรู้ใจตัวเองดีว่านี่คือความรัก ไม่ใช่ความลุ่มหลงเหมือนที่นิโคลัสพูดมา และเพราะรักนิโคลัสมาก เธอจึงไม่เคยมองผู้ชายคนไหนนอกจากเขา และไม่เคยทำเหมือนที่อีกฝ่ายพูดมา
“จะให้ผมเชื่อดีไหมนาเดียว่าคุณไม่ได้หิ้วผู้ชายไปบำบัดความใคร่”
นิโคลัสเหน็บแนม ดวงตาคมกริบจ้องมองนารินดาตั้งแต่หัวจรดเท้า ทว่าหาได้มองด้วยแววแห่งรัก หรือเต็มไปด้วยไฟปรารถนาไม่! แต่ดวงตาคู่นี้จ้องมองด้วยความขยะแขยง พร้อมกับเค้นเสียงเยาะหยันอย่างไม่ไว้หน้า
“อย่าคิดว่าผมจะรับคุณเป็นเมีย บอกตามตรงว่าผมกระเดือกคุณไม่ลง ไม่รู้ว่าป่านนี้คุณจะเน่าเฟะมากเพียงใด ทางที่ดีคุณกลับไปหาพวกผู้ชายคนเก่าๆ ของคุณจะดีกว่า คุณหนูนาเดีย”
แม้จะเจ็บปวดกับคำเยาะหยันของนิโคลัส แต่นารินดาก็ยังเค้นเสียงตอบแก้ไขความเข้าใจผิดของอีกฝ่าย
“ฉันไม่เคยมีใคร ได้ยินไหม นิค ตอนอยู่ในอังกฤษ ฉันตั้งใจเรียน เพื่อให้จบตามเวลาที่คุณกำหนดไว้ ฉันไม่กลับประเทศไทย เพราะมันเป็นคำสั่งของคุณ และในวันนี้ฉันเรียนจบแล้ว ได้ใบปริญญามาแล้ว ฉันต้องการให้คุณทำตามสัญญาที่พูดไว้กับฉัน”
“ผมไม่ได้สัญญาอะไรไว้กับคุณ” นิโคลัสย้ำเสียงห้วน
“นิโคลัส ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะลืมสัญญา คุณเป็นลูกผู้ชาย คุณต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับฉันสิ”
นารินดาพยายามทุกวิธีทาง เพื่อให้นิโคลัสนึกถึงและยอมทำตามสัจจะวาจาที่ได้ลั่นไว้
“กลับไปซะนาเดีย อย่ามายุ่งกับผม...ผมเอือมและรำคาญคุณเต็มทน”
นิโคลัสเค้นเสียงออกปากไล่ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่นารินดาก็ยังทำตัวเป็นผู้หญิงไร้ยางอายเดินไล่ เดินต้อนนิโคลัสไปเรื่อยๆ
“ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าคุณจะยอมทำตามสัญญา ยอมรับฉันเป็นเมียของคุณ”
“นอกจากจะรับคุณเป็นเมียไม่ลงแล้ว ผมไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องตัวคุณ บอกตามตรงว่าผมสะอิดสะเอียนเนื้อตัวของผู้หญิงอย่างคุณ ที่คงผ่านผู้ชายทั้งไทย ทั้งเทศมาเป็นร้อย”
“นิโคลัส...ได้โปรดเชื่อว่าฉันไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทั้งนั้น”
นารินดาวิงวอนทั้งสีหน้าและแววตา เดินเข้าหาร่างกายล่ำสันของนิโคลัสไปเรื่อยๆ จนอีกฝ่ายเดินไปจนมุมในที่สุด
“ผมเชื่อไม่ลงว่าคุณยังสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่”
นิโคลัสเอ่ยเสียงเยาะ และคำพูดของเขาก็เป็นการเปิดทางให้นารินดาเสนอตัวให้เขาอีกครั้ง
“ถ้ายังงั้นคุณก็พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองสิคะ คุณจะได้รู้ว่าฉันพูดจริงไม่ได้โกหกคุณ”
ไม่ได้เอ่ยบอกเพียงถ้อยคำเท่านั้น เมื่อเห็นว่านิโคลัสเดินไปติดอยู่ตรงมุมห้องก้าวหนีไปทางไหนไม่ได้แล้ว ก็รีบเดินเข้าไปประชิดหยุดยืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย พร้อมกับทอดสะพานแกมท้าทายนิโคลัสไปในคราวเดียวกัน
“พิสูจน์สิคะนิค พิสูจน์ว่าฉันยังบริสุทธิ์ พิสูจน์ว่าฉันไม่เคยนอนกับผู้ชายคนไหนมาก่อน หรือว่าคุณเป็นพวกดีแต่ปาก ไม่กล้าทำตามที่ฉันพูดไป”
“ไม่มีประโยชน์หรอกนาเดีย ต่อให้คุณท้าทายผมมากแค่ไหน ผมก็ไม่หลงกลของคุณ”
นิโคลัสนึกเจ็บใจตัวเอง ที่มัวแต่เค้นเสียงถากถางนารินดาจนไม่รู้ตัวว่าตนเองเดินมาอยู่ตรงมุมห้อง ขยับหนีไปไหนไม่ได้ อีกทั้งยังรู้สึกหวาดกลัวกับท่าทีของนารินดาที่เผยให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าอยากได้เขาเป็นสามีจนตัวสั่น