ตอนที่ 4
ทุกวันตอนหลังเลิกงาน ในระหว่างที่คนรอต่อแถวขึ้นมอเตอร์ไซค์กันยาวเหยียด บางครั้งฉันยอมให้คนอื่นแซงไปก่อน แอบนับจังหวะให้คิวฉันตรงกับพี่เดชพอดิบพอดี เพียงเพื่อจะซึมซับไออุ่นจากแผ่นหลังกว้างให้หัวใจกระชุ่มกระชวยเมื่อหมดวันทำงานอันน่าเบื่อหน่าย
ระหว่างที่นั่งซ้อนอยู่ทางด้านหลัง ฉันแอบลุ้นให้เจอหลุมเจอบ่อ ชอบให้เขาเบครบ่อยๆ เบรกถี่ๆ… อิอิ เพื่อจะเกาะบ้าง กอดบ้าง ใครจะรู้ว่ากลิ่นเหงื่อกลิ่นกายของผู้ชายใช้แรงงานอย่างพี่เดช นั้นสามารถกระตุ้นหัวใจนังมาลีให้กระชุ่มกระช่วยขึ้นมาได้
มีหลายๆ ครั้งที่ฉันกลับมาถึงห้องด้วยหัวใจเต้นแรง ทิ้งตัวลงนอนทั้งเนื้อตัวบิดเร่ากับความวาบหวิวอันประหลาดล้ำ คว้าเอาหมอนข้างมากอดรัดแล้วจินตนาการว่าเป็นพี่เดช… อิอิ แกเสร็จฉันบ่อยๆ ในความฝัน
บางทีระหว่างฉันกับพี่เดชอาจจะไม่ถึงขั้นรัก เขาไม่เคยบอกรักฉันเลยสักคำ แต่ท่าทางก็เปิดไมตรีที่จะคบหา
ฉันชอบเขาเข้าอย่างจัง พี่เดชอาจจะคิดแค่ว่าฉันเป็นลูกค้าคนหนึ่งที่เรียกใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างของเขาบ่อยๆ แต่ฉันก็แอบรักเขาเข้าแล้ว ด้วยเหตุนี้นี่เองกระมัง ที่ทำให้ฉันไม่คิดจะไปหาผัวฝรั่งมังค่าตามคำคะยั้นคะยอของคนนั้นคนนี้ บอกตรงๆ ว่าบางครั้งฉันก็เบื่อที่จะใช้ชีวิตไปตามความเห็นของคนอื่น
“เจอกันกี่โมงจ๊ะ… เอาเป็นว่าฉันรอพี่ตรงหอนาฬิกานะจ๊ะ ฉันซื้อเสื้อมาฝากพี่ด้วย”
ฉันกรอกเสียงหวานไปสู่ปลายสาย หารู้ไม่ว่าหัวใจกำลังจะแหลกสลายกับอีกประโยคที่กรอกมาตามสาย
“เอ่อ… พี่เปลี่ยนใจ ไม่ไปแล้ว”
เหมือนฟ้าผ่าแทรกเข้ามาในโทรศัพท์ทั้งที่ไม่มีเค้าลางของเมฆฝน ประโยคอำมหิตของพี่เดชสร้างความผิดหวังให้กับฉันเป็นอย่างมาก
“อะไรกัน… ก็ไหนพี่สัญญาแล้ว”
ฉันท้วงเสียงสั่นเครือ โทรศัพท์แทบหลุดออกจากมือ
“เราลองห่างกันสักพักนะ… พี่ยอมรับว่ายังรู้สึกสับสนที่จะคบกันเป็นจริงเป็นจัง ตอนนี้พี่ยังไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง”
แม้เขาจะเอ่ยถ้อยคำทำร้ายจิตใจ แต่ฉันก็ชอบในความเป็นลูกผู้ชายของเขา นึกขอบคุณในความตรงไปตรงมาของเขาที่ช่วยให้ฉันเตรียมทำใจรับความผิดหวังตั้งแต่เนิ่นๆ
‘ห่างกันสักพัก’ ฉันทบทวนถ้อยคำโหดร้ายอยู่ในใจ
อนิจจา! ความจริงฉันกับพี่เดชยังคบกันไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ การที่เขามาตัดสัมพันธ์ง่ายๆ หรืออาจจะเป็นเพราะว่า…
“เพราะอะไรพี่เดช… พี่มีคนใหม่ใช่ไหม หรือพี่โกรธฉันตอนวันวาเลนไทน์”
ความคับข้องใจทำให้ฉันคาดเดาไปเองต่างๆ นานา บางทีอาจจะเป็นผลมาจากคืนวาเลนไทน์ก็ได้ คืนที่เขาพาฉันไปที่ห้องเช่าของเขา หลังจากพี่เดชดื่มเบียร์จนเมา จากที่เคยเป็นสุภาพบุรุษ เขาก็เปลี่ยนไปเป็นอีกคนที่ฉันไม่เคยรู้จัก คืนนั้นเขาพยายามกอดจูบเล้าโลมขอร่วมรัก แต่ฉันไม่ยอม
ถ้าถามว่า ‘อยากมั้ย’ ฉันยอมรับอย่างไม่อายว่าอยากนะ ความจริงอายุขนาดนี้มันก็ถึงเวลาของฉัน แต่พอเอาเข้าจริงๆ… จิตใจกลับไม่กล้าพอ เพราะมันเป็นครั้งแรกของฉัน
สุดท้ายพี่เดชก็ทำท่าว่าจะใช้กำลังปลุกปล้ำ เห็นดังนั้นลูกสาวเจ้าของค่ายมวยเก่าอย่างนังมาลีก็จัดไทยไฟท์ให้ชุดใหญ่
ฉันยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้หญิงแก่นกะโหลกเอาเรื่อง ตอนวัยรุ่นกระโดกกระเดกมาก แต่เรียนพละได้เกรดสี่ตลอด หมัดมวยก็เคยฝึกฝน ทั้งที่ไม่ใช่วิสัยของผู้หญิงเลยสักนิด
คืนนั้นเล่นเอาพี่เดชงอมพระราม ฉันกลับมาบ้านพร้อมกับพรหมจารีย์ที่ไม่ยอมให้ใครทำลายง่ายๆ ทั้งที่โอกาสมาถึง
“มันยังไงกัน… พี่เดชจ๋า”
ฉันถามด้วยน้ำเสียงซึ่งอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เผื่อเขาจะเปลี่ยนใจลืมคำพูดเมื่อครู่
“เอาเป็นว่าพี่ยังไม่อยากพูดอะไรตอนนี้… พี่ เอ่อ พี่มีแฟนอยู่แล้ว”
หัวใจฉันยับเยินซ้ำลงไปอีก
เสียงกระด้างของพี่เดชบอกให้รู้ว่ารำคาญอย่างเห็นได้ชัด ฝากถ้อยคำเชือดเฉือนใจเอาไว้แล้วก็ตัดสายทิ้งไปอย่างสิ้นเยื่อขาดใย ราวกับฉันเป็นกรวดทรายไร้ค่า ปล่อยให้ฉันซบหน้าร้องไห้กับฝ่ามือตัวเองอยู่นานสองนาน
‘บ้าฉิบ… ’ ฉันสบถด่าลมๆ แล้งๆ สูดหายใจแล้วเดินไปที่หน้าต่างห้องนอนด้วยสองขาซึ่งอ่อนล้าโรยแรง รู้สึกปวดแปลบเหมือนเท้าทั้งสองข้างจะก้าวไม่ออก
ฉันพยายามทอดสายตาแลเลยออกไปทางนอกหน้าต่าง เชิดหน้ามองดาวดาวไปเรื่อยเปื่อย เหมือนรู้ว่าก้มหน้าแล้วน้ำตาจะไหล