มาลีเริงสวาท

40.0K · จบแล้ว
กาสะลอง
26
บท
26.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“ขอผมชมของคุณหน่อย” เขาเลื่อนตัวลงมาที่เอว มือใหญ่ลูบล้วงขึ้นมาตามหน้าขาตึงเต็ม แล้วกระชากกางเกงฉันลงไปกองอยู่ที่ต้นขา “อุ๊ย… ” ฉันสะดุ้ง พยายามจะดิ้น นึกในใจว่าจะเสียดินแดนให้ฝรั่งต่างชาติก็คราวนี้ “ไม่เอานะ… ฉันกลัว” ละล่ำละลักบอกไปตามตรงแล้วฉันก็ดิ้น แต่ก็พ่ายแพ้เรี่ยวแรงของเขา กางเกงถูกกระชากออกจากลายเท้าไปง่ายดาย ในเวลาเกือบจะไล่เลี่ยกันกางเกงในลายลูกไม้บางๆ ของฉันก็ปลิวออกไปจากปลายเท้า “อู้ววว… ” ลูคัสตาวาว รีบดันขาของฉันจนแบะอ้า ดันขึ้นไปขนานชิดลำตัว ตาวาวกับกลีบเนื้อสาวของฉันที่ปลิ้นทะลักน่าเลียอยู่ระหว่างง่ามขา ฉันรู้สึกกลัวเพราะไม่เคย แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าเอาวะ! ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกเสมอ ครั้นแล้วความไม่มั่นใจก็ทำให้ส่ายหน้าละล้าละลัง “ไม่นะ… ไม่… ” ฉันสะบัดใบหน้า เมื่อเห็นว่าลูคัสเลียริมฝีปากเหมือนกระหาย ทว่ายังไม่ทันพูดจบ เขาก็เกลือกใบหน้าหล่อเหลาลงมาที่หว่างขาแบะอ้าของฉัน “อู้ว… ” สัญชาตญาณทำให้ฉันพยายามจะหนีบหน้าขาเข้าหากัน จนหนีบศีรษะเขาเอาไว้แน่น แต่สุดท้ายก็อ่อนเปลี้ยลงไปอีก เมื่อเขาระดมจูบฟัด ปาดลิ้นเลียกินขึ้นๆ ลงๆ ตรงร่องสวาทอยู่นานเป็นครู่ จนกลีบเนื้อชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหล่อลื่น กลิ่นคาวสวาทคละคลุ้งมากระทบจมูกฉัน “ทั้งสวยทั้งหอม” เขาชมขณะงุดหน้าไม่ยอมเงย

นิยายปัจจุบันพลิกชีวิตแต่งงานสายฟ้าแลบนางเอกเก่งรักหวานๆรักแรกพบเศรษฐีโรงแรม/มหาลัย

ตอนที่ 1

“มาลีเริงสวาท”

(นวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น)

ผู้เขียน : สุดสวาท

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537

ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น

“มาลีเริงสวาท”

ผู้เขียน

สุดสวาท

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537

ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น

“ดำ”

ฉันเกลียดคำนี้เข้าไส้ ถ้อยคำอำมหิตที่หลายๆ คนใช้เรียกขานถึงความเป็น ‘ฉัน’

บางครั้งก็อดนึกโกรธคนที่บัญญัติคำนี้ขึ้นมาไม่ได้ พับผ่าสิ… ได้ยินทีไรรู้สึกเจ็บจี๊ดเหมือนโดนหนามระกำทิ่มตำใจทุกที ทำได้ฉันอยากยกเลิกคำนี้ ลบล้างออกไปจากพจนานุกรมให้สิ้นซาก

ทั้งที่ฉันมีชื่อสุดไพเราะว่า ‘มาลี’ แปลว่าดอกไม้ แม้ตอนเรียนเพื่อนๆ จะพากันล้อเลียนอย่างสนุกปากว่าชื่อฉันเหมือนน้ำผลไม้ก็เถอะ แต่ฉันก็ภาคภูมิใจเพราะมันเป็นชื่อที่แม่บังเกิดเกล้าเป็นคนตั้งให้

“ลูกพ่อก็ต้องดำแบบนี้แหละ… สำเนาไม่ผิดเพี้ยน ไม่ผิดพันธุกรรม ถ้าขืนออกมาขาวจั๊วละก็มีหวังแม่เอ็งโดนชาวบ้านนินทาว่าคบชู้อย่างแน่นอน”

พ่อพูดแล้วก็หัวเราะชอบใจ

ฉันไม่ขำด้วย นึกในใจว่าพ่อเป็นผู้ชายก็พูดได้ เหมือนลืมไปว่าฉันอยู่ในประเทศที่ผู้ชายให้ค่าของความขาวความดำต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ดำดีสีไม่ตกนี่แหละลูกสาวพ่อ”

พ่อพูดอีก เป็นคำพูดที่มักจะเอ่ยขึ้นแซวอย่างนึกขัน ทุกครั้งที่ได้ยินฉันบ่นถึงปมด้อยเรื่องผิวพรรณของตัวเอง เพราะพ่อเป็นผู้ชายผิวเข้ม พ่อดำแต่หล่อคมสมชายชาตรี นอกจากสีผิวฉันก็ยังได้ความคมขำมาจากพ่อนี่แหละ

“ถามอะไรหน่อยนะแม่”

ฉันเลียบๆ เคียงๆ เข้าไปใกล้มารดา เอามือเท้าคางทำสุ้มเสียงอยากรู้จนพ่อหันมาย่นหน้าผากสงสัยว่าฉันจะถามอะไรแม่

“เออ ถามมา อยากรู้อะไร… ”

แม่ตอบโดยไม่ได้หันมามองหน้าฉัน ในมือกำลังหั่นยอดฟักทอง ตั้งใจจะทำแกงส้มของโปรดของพ่อ ซึ่งเจ้าตัวอุตส่าห์ออกไปซื้อปลาช่อนในตลาดมาตั้งแต่เช้า รอเอาไว้ให้แม่โขลกน้ำแกงส้มในตอนเย็น

“ทำไมแม่ชอบพ่อล่ะ… พ่อตัวดำปี๋ แม่ไม่ชอบผู้ชายขาวๆ หรอกหรือ?”

คำถามที่ฉันถามแม่ทำเอาพ่อสะดุ้งโหยง

แม่ไม่ตอบ แต่ก้มหน้าหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ ได้ทีพ่อรีบตอบคำถามนั้นแทน

“ที่แม่เอ็งชอบคนดำอย่างพ่อ ก็เพราะว่าอย่างพ่อนี่แหละที่เค้าเรียกว่า ‘ดำฉ่ำสวาทโว้ย’ อิอิ”

พ่อตอบหน้าตาเฉย เรื่องทะลึ่งต้องยกให้แกเป็นที่หนึ่งในบ้าน รองลงมาก็ฉัน

“แม่… พ่อทะลึ่งอ่ะ”

ฉันฟาดเข้าที่ต้นแขนของพ่อเบาๆ รีบหันไปฟ้อง แต่แม่กลับก้มหน้าหัวเราะคิกคักชอบใจ แอบเห็นด้วยกับคำพูดของพ่อ ฉันนึกในใจว่าผัวเมียคู่นี้พอกัน

พ่อแกล้งลอยหน้าภาคภูมิใจ พ่นควันบุหรี่ลอยคว้างไปในอากาศตอนใกล้ค่ำอย่างอารมณ์ดี แสงแดดที่สาดลอดหน้าต่างเข้ามาทำให้เห็นว่าพ่อฉันผิวดำมากจริงๆ แต่ดูๆ ไปก็ค้มคร้ามสมชายชาตรี ความคมเข้มของพ่อนี่กะมังที่พิชิตใจผู้หญิงผิวขาวราวกับหยวกอย่างแม่

เรื่องผิวดำติดพ่อ บางครั้งฉันพยายามปลอบใจตัวเอง ด้วยการคิดไปในทางบวกว่าไม่เห็นเป็นไร ดำแล้วไง?

ยังไงก็ต้องขอบคุณสวรรค์ที่ไม่ใจร้ายใจดำจนเกินไป แม้จะได้ผิวดำชนิดที่ว่าไม่ผิดพันธุกรรมพ่อ แต่ก็ให้ทรวดทรงองค์เอวอะร้าอร่ามของแม่มาเต็มๆ โดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจคัพดีชนิดที่ว่าใครเห็นเป็นต้องเหลียวหลังกลับมามองแล้วมองอีก จนบางครั้งฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าความใหญ่โตนั้นคือปมเด่นหรือปมด้อยกันแน่

ฉันยอมรับว่าตอนเด็กๆ เรื่อง ‘สีผิว’ ฉันไม่ใคร่ใส่ใจนัก แต่พอเติบโตขึ้นเป็นสาวสะพรั่งเท่านั้นแหละ ทำให้ฉันเริ่มไม่มั่นใจในตัวเองเอาเสียเลย แต่ถ้าเรื่องสัดส่วนแล้วละก็ อิอิ… นังมาลีคนนี้ชูสองนิ้วสู้ตายค่ะ

อย่าหาว่าเว่อร์นะคะ เคยเห็น ฮัลลี่ เบอร์รี่ นางเอกผิวสีน้ำผึ้งดีกรีออสการ์ที่เคยเล่นเจมส์บอนด์ 007 ไหมคะ ภาคไหนไม่รู้แหละ หุ่นฉันเหมือนฮัลลี่ เบอร์ลี่ในฉากที่สวมชุดว่ายน้ำทูพีชสีส้มบรรเจิด ตอนเดินนวยนาดขึ้นมาจากทะเลยังไงยังงั้น

รูปพรรณสันฐานของฉันจัดอยู่ในประเภท ‘ตัวเล็กแต่นมใหญ่’ เสียอย่างเดียวก็เรื่อง ‘ดำ’ นี่แหละ ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นลงไปมาก