บทที่ 3 ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ
“เฮ้อ! ” ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“ไม่ขำฉันเหรอลิลลี่” เมก้าแปลกใจปกติลิลลี่จะขำ แต่ทำไมวันนี้มาแปลก
“ไม่อ่ะ แต่ฉันจะช่วย ฉันมีแผนจะช่วยเธอ ว่าแต่จะกล้าไหม ถ้ากล้าเราก็กลับไปคุยกันที่คอนโดฉันดีกว่า”
“อะไรนะ! ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหมเนี่ย! บอกฉันทีสิว่าเธอจะช่วยฉันจริงๆ ลิลลี่”
“อืม! จะช่วยจริงๆ รับรองได้นายติโร่อะไรนั้นมานอนกกอดแน่ถ้ากล้าทำตามแผนฉัน” เพื่อนอยากได้ก็ต้องช่วยกันแล้วงานนี้
“น่ารักที่สุดเลยยัยลิลลี่สีทองของเมก้า จุ๊บ!” เมก้าเอ่ยชมเพื่อนพร้อมกับลุกเดินมาจุ๊บแก้มเพื่อนรักแล้วเดินกลับไปนั่งที่เดิม
“เอาอีกแล้วเมก้า ก่อนจะจุ๊บช่วยบอกก่อนได้ไหมฉันเขิน” ถึงจะโดนเมก้าจุ๊บบ่อย แต่ก็ยังเขินอยู่ดี
“แฮะๆ เขินไปได้ยัยลิลลี่ของเมก้า เมก้าว่าเรารีบกินข้าวแล้วไปคุยกันต่อที่คอนโดลิลลี่ดีกว่านะ” เอ่ยจบก็เรียกให้บริกรหนุ่มเอาเมนูอาหารของร้านมาให้ สั่งของโปรดของตัวเองและของลิลลี่มาทาน พอสั่งเสร็จไม่นานพนักงานของร้านก็ยกอาหารเข้ามาให้ เมก้าชอบทานข้าวผัดปู เพราะหญิงสาวมีแม่เป็นคนไทย แต่มาแต่งงานกับพ่อชาวฝรั่งเศส จึงได้มาอยู่ฝรั่งเศสตั้งแต่เด็ก ถึงจะไม่ได้กลับบ้านเกิดแม่แต่หญิงสาวก็พูดไทยได้ ส่วนลิลลี่นั้นชอบทานเมดิเตอเรเนียนคีช หรือคีช ( quiche) ซึ่งเป็นอาหารจานอบชนิดหนึ่งโดยมีส่วนประกอบหลักคือ ไข่ นม หรือ ครีม ถึงแม้ว่าคีชจะมีลักษณะคล้ายพายแต่คีชถูกจัดเป็นอาหารคาว โดยในคีชอาจมีส่วนประกอบอื่นเช่น เนื้อสัตว์ ผัก เนยแข็ง ถึงแม้ว่าคีชจะมีส่วนประกอบหลายอย่างคล้ายอาหารประเภทพาสตา แต่ไม่ถูกจัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของพาสตา
เมื่อพนักงานวางอาหารจานโปรดเรียบร้อยแล้วสองสาวงามก็ลงมือทานมื้อเที่ยงอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อทานอิ่มท้องเรียบร้อยแล้วเมก้าก็อาสาเป็นคนจ่ายค่าข้าววันนี้เอง หญิงสาวอยากเลี้ยงเพื่อนเลิฟอย่างลิลลี่ที่จะช่วยเอาชนะใจแอติโร่ พอจ่ายค่าอาหารเรียบร้อยสองสาวก็เดินออกไปนอนกร้านเพื่อจะไปยังคอนโดของลิลลี่ สองสาวขับรถคนละคันไปต่างคนต่างเอารถตนมา ไม่นานนักทั้งสองสาวก็มาถึงคอนโด
“ไหนลองว่ามาสิลิลลี่ ว่าแผนมีอะไรบ้าง” เมก้ามิรอช้า ในเมื่อตอนนี้ในใจนั้นร้อนรนเพียงไรกับเรื่องที่เพื่อนจะพูด
“ทำเป็นใจร้อนไปได้ยัยเมก้า”
“ก็เขาอยากรู้อ่ะ บอกมาเร็วๆ เถอะนะ ถ้าไม่บอกเขาจะทำตามแผนเขาเลยนะเพื่อนรัก”
“จ้า...เพื่อนรักของฉัน”
“รีบว่าแผนมาเร็วลิลลี่สีทองของเมก้า” เมก้าเร่งลิลลี่อีกครั้ง และครั้งนี้ก็ได้ผล เมื่อลิลลี่เริ่มเล่าแผนการของตัวเอง
“ถ้าอยากให้คนอย่างติโร่หันมาสนใจ ก็ต้องกล้าๆ หน่อยเมก้า แผนฉันมีอยู่ว่า แกจะต้องใช้มารยาหญิงที่มีอยู่ทั้งหมดหลอกล่อให้ติโร่หันมาติดบ่วงเล่ห์ หรือถ้ามันยากเย็นหนักก็ให้บอดี้การ์ดของเธอสะกดรอยตามติโร่ไปห่างๆ แล้วเมื่อสบโอกาสก็ให้บอดี้การ์ดดักทุบหัวเขาแล้วก็พาไปคอนโด ถ้าพากลับบ้านมีหวังพ่อแม่เมก้าได้รู้เรื่องแน่ ที่ฉันแนะนำแบบนี้เพราะเห็นว่ามันเป็นทางเดียวที่จะกระชากใจผู้เหย่อหยิ่งอย่างแอติโร่ได้ ส่วนเรื่องที่จะใช้มารยาหญิงเลิกเสียเถอะ ฉันเห็นใช้มาหลายปีแล้วกับเขา ผลมันก็ยังเป็นเหมือนเดิม เชื่อฉันเถอะ เหมือนอย่างนิยายรักอังกฤษที่ฉันเคยอ่านมา พระเอกไม่ชอบนางเอก พอได้เป็นผู้ชายคนแรกเท่านั้นแหละ หลงนางเอกจนโง่หัวไม่ขึ้นเลย ถ้าหากยอมเสียความสาว แต่มันก็คุ้มนะเพื่อให้ได้ใจแอติโร่มาไว้ในครอบครอง พอถึงเวลานั้นจะทำยังไงกับเขาก็ได้ เพราะยังไงแอติโร่ก็ไปไหนไม่รอดเชื่อฉันเมก้า แต่ว่าลิลลี่ก็ไม่อยากให้เมก้าทำตามแผนนี้เลย” ลิลลี่แนะนำเพื่อนแบบนี้ก็จริง แต่ในใจจริงนั้นไม่อยากให้เพื่อนทำตามสิ่งที่ตนพูดเลย เพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องเอาตัวเข้าแลก
“ฉันตกลงทำตามแผนนี้ มันท้าทายดี อีกอย่างถ้าหากวันใดที่ติโร่หลงรักฉันหัวปักหัวปำ วันนั้นแหละคือวันที่ฉันจะสลัดติโร่ทิ้งจากชีวิต ถึงจะรักเขา แต่ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าความรักของฉันแต่แรกก็อย่าหวังว่าฉันจะรักเขาอีกต่อไป ต่อไปนี้จะเป็นแค่เกมเท่านั้น เชื่อเถอะลิลลี่ เมก้าจะไม่มีทางแพ้ใจตัวเอง เกมนี้เราจะเป็นคนเริ่มและจบมันด้วยความเจ็บปวดของเขาเอง” เมก้ายิ่งอยากทำตามแผนเพื่อน ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้แอติโร่รู้ว่าความรักที่ถูกปฏิเสธมันเป็นเช่นไร และเมื่อวันนั้นมาถึงเขาจะได้รู้ว่าหล่อนเจ็บเช่นไรเมื่อโดนเขาปฏิเสธแบบแล้งน้ำใจ
“เมก้าเอาจริงเหรอ ฉันพูดไปแบบนั้นเพราะอยากให้แกคิดได้ว่าไม่ควรไปรักผู้ชายแบบนั้น”
“เอาจริง เริ่มแผนตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นคนคุมเกมเองลิลลี่ ไม่ต้องห่วง คนอย่างเมก้า สวย เริ่ดเชิ่ด หยิ่ง อวดดี ไม่มีใครเกิน มีหรือจะยอมคนอย่างติโร่ง่ายๆ ” หล่อนได้หมายมาดหมั้นไว้ในใจแล้ว
“เมก้าคนงามจะทำคนเดียวได้ยังไงถ้าไม่มีแม่ดอกลิลลี่สีทองคนนี้คอยช่วย หึ!” ไหนๆ เพื่อนจะเอาจริง ลิลลี่เลยจะช่วยเต็มที่ ถึงจะไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับแอติโร่และผู้ชายอีกคนที่หล่อนเกลียด ซึ่งก็คือ เอเดน ซิสเลอร์ คู่หมั้นหนุ่มของเธอนั้นเอง พอคิดมาถึงหน้าคู่หมั้นก็ทำให้อดคิดถึงเย็นจะถึงนี้ไม่ได้ ว่าครอบครัวเธอกับครอบครัวชายหนุ่มได้นัดกันไปทานข้าวที่ร้านอาหาร Clichy’s Tavern ซึ่งเป็นร้านที่มีความเป็นอิตาเลี่ยนได้ลงตัว ไม่ว่าจะบรรยากาศของร้าน อาหารในร้านก็อร่อย เหมาะสำหรับพาครอบครัวไปทาน
“ลิลลี่แกเป็นอะไรทำไมเงียบแปลกๆ มีอะไรบอกได้นะ”
“ปะ...เปล่าแค่วันนี้ฉันจะต้องกลับบ้าน เพื่อไปทานข้าวกับตระกูลซิสเลอร์ ไม่อยากไปแต่ก็ต้องไป เพราะแม่กับพ่อได้บัญชามาแล้ว ถ้าหากลิลลี่ไม่กลับบ้านไปวันนี้ลิลลี่จะไม่ได้มาพักที่คอนโด ถ้าแค่ไปทานข้าวกันเฉยๆ ก็ไม่ว่านะ แต่นี้อะไรไปคุยเรื่องงานแต่งงานฉันกับนายเอเดนนั้น เมก้าก็รู้ว่าลิลลี่เกลียดนายเอเดน ไม่ชอบหน้านายนั้นแค่ไหนอ่ะ”
ลิลลี่คิดแล้วก็หนักอกหนักใจที่จะต้องได้ไปปะทะคารมกับเอเดน เจอกันทีไหร่มีเรื่องให้ทะเลาะกันทุกที ก็จะไม่ให้มีได้ไง ชายหนุ่มนั้นชอบว่าเธอไม่มีปัญญาหาคนมาแต่งงานด้วยถึงได้ยอมให้พ่อแม่บังคับแบบนี้
“เฮ้อ! อย่าคิดมากเลยลิลลี่ มีอะไรให้เมก้าช่วยก็บอก จะว่าไปลิลลี่สีทองของเมก้าก็ดูเหมาะกับคุณเอเดนเขาเหมือนกันน๊า! หรือว่าเมก้าคิดไปเองน๊า!” พูดจริงจังในตอนแรก แต่ในช่วงท้ายหญิงสาวพูดจาหยอกเย้าลิลลี่ให้เขินอาย และมันก็ได้ผลเมื่อลิลลี่ม้วนอายใหญ่เลยเวลานี้
“บ้าเมก้าอ่ะ เหมาะกันที่ไหนอ่ะลิลลี่ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว เปลี่ยนเรื่องดีกว่า” ลิลลี่ไม่รู้จะทำยังไงเลยชวนเพื่อนเปลี่ยนเรื่อง
“ก็ได้จ้า เห็นว่าอายหน้าแดงเลยไม่อยากแกล้งน่ะ คิกๆ ”
เมก้าอยู่คุยกับเพื่อนไม่นานก็กลับไปโรงแรมของตนเพื่อเซ็นเอกสารตามที่เลขาสาวสวยของเธอโทรตาม โดยทิ้งให้ลิลลี่อยู่คอนโดคนเดียวตามลำพัง ใจจริงก็ไม่อยากไป แต่ในเมื่อตอนนี้หล่อนโตแล้ว เป็นถึงผู้บริหาร ไม่ใช่แค่พนักงานธรรมดา จึงจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบ แต่เวลาเห็นแอติโร่ หญิงสาวจะทำตัวเหมือนเด็กไม่มีความรับผิดชอบตามจีบผู้ชายไปวันๆ เพราะรักหลอกถึงตื้อทุกวันไม่มีเบื่อ