บทที่ 4 ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ
ฝ่ายแอติโร่หลังจากเมก้ากลับไปแล้วเขาก็โล่งใจ ตลอดเวลาที่มีหญิงสาวอยู่ด้วยเขามักจะชอบคิดอะไรแปลกๆ ทุกที ไม่รู้เป็นอะไรพักหลังๆ มานี้ถึงคิดถึงแต่หญิงสาว คงไม่ใช่เพราะเขาใจอ่อนปันใจให้หญิงสาวแล้วนะ เขาเป็นคนไม่มีหัวใจ จะรักใครได้ไง ในเมื่อเขาได้ตั้งมั่นแล้วว่าจะไม่รักใคร แต่มาวันนี้ เมก้าทำให้ขาเริ่มไม่มั่นใจแล้วสิ
ชายหนุ่มนั่งคิดไปคิดมาก็ตลกตัวเอง จะมารักชอบอะไรเมก้าจอมเว่อร์ เจ้าแม่ข่าวฉาวได้ จะว่าไปก็แปลก เขารู้ข่าวไม่ดีของหล่อนทุกเรื่องจะว่าติดตามข่าวของหญิงสาวก็ไม่เชิง ทำไมเขาถึงให้ความสำคัญกับเรื่องเมก้าด้วยก็ไม่รู้ อย่างวันก่อนหญิงสาวไม่เอาข้าวเช้ามาให้ตนก่อนไปทำงานที่โรงแรมของเธอ เขาก็รอเจ้าหล่อนมา แต่ก็เงียบ ทั้งๆ ทุกวันเมก้าจะแวะเอาข้าวเช้ามาส่งเขาตลอด แต่เขาทำเล่นตัวไม่ทานของเธอ แต่พอหญิงสาวกลับชายหนุ่มก็ทานทุกอย่างที่หญิงสาวเอามาให้ ทุกวันนี้เขาจะไม่ทานข้าวเช้ามาจากบ้าน เพราะรู้ดีว่าเมก้าจะเอาข้าวเช้ามาส่งตลอดทุกวัน อย่างวันนี้ก็เช่นกันหญิงสาวเอาข้าวเช้ามาให้
ปากด่าว่าหญิงสาวทุกวัน บอกว่าเกลียดเจ้าหล่อนทุกวัน แต่พักหลังๆ มามันเริ่มไม่ใช่แล้ว หัวใจที่เคยแข็งแกร่งดั่งหินผา จะมาพังเพราะยัยเมก้าจอมเว่อร์ได้ไง ไม่มีทางคนอย่างแอติโร่รักใครไม่เป็น จะไม่มีผู้หญิงคนไหนสำคัญกับเขานอกจากแม่กับน้องสาว ไม่มีๆ ไม่มีใครทั้งนั้นที่จะทำให้เขาอ่อนแอ
แอติโร่เป็นลูกชายคนโตและคนเดียวของตระกูล ชาร์ลอเวนิล เป็นทายาทเพียงคนเดียวสืบทอดธุรกิจของตระกูล เพราะตอนนี้พ่อของเขาได้มอบหมายทุกอย่างให้เขาดูแลหมดแล้ว ชายหนุ่มถูกสอนมาตังแต่เด็กว่าต้องเป็นคนเข้มแข็ง ไม่อ่อนแอ อ่อนไหวให้ใคร โดยเฉพาะเรื่องความรัก ห้ามรักใครง่ายเด็ดขาดโดยเฉพาะกับลูกสาวของคู่แข่งอย่างเมก้า ถ้าหากวันใดหัวใจของเขาอ่อนแอลง วันนั้นแหละจะเป็นวันที่ ชาร์ลอเวนิล กรุ๊ป จบลง เพราะความรักทำให้คนอ่อนแอได้เสมอไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ชายหนุ่มถูกแม่ของเขาพร่ำสอนแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต เขาจึงต้องเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจอย่างที่ใครๆ เห็นทุกวันนี้ แต่ใครจะรู้บ้างไหมว่าเขานั้นเหน็บหนาวเพียงไรบนเส้นทางสายนี้ จะมีก็แต่พ่อของเขาเท่านั้นรับรู้ความเหน็บหนาวของเขาในครั้งนี้ พ่อของเขาไม่เคยสนับสนุนคำสอนของแม่เขาที่เคยพร่ำสอนเลย แต่ก็อย่างว่าแหละคนเป็นสามีย่อมเชื่อฟังภรรยา และพ่อของแอติโร่ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ระหว่างคิดอะไรเพลินอยู่นั้นก็มีเสียงรบกวนดังขึ้นที่หน้าห้องทำงาน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ใคร? ” แอติโร่ดึงสติของตนกลับมาอยู่กับปัจจุบัน
“ฉันเองติโร่” ผู้มาใหม่ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาทั้งๆ เจ้าของห้องยังไม่เอ่ยปากอนุญาต
“มีอะไรเอเดนถึงได้พาหน้าหมั่นไส้ของนายมาหาฉันถึงนี้ได้ หึ! ” ก็เพื่อนรักมาหาทีไรมีแต่เรื่องมาให้เครียดตามปวดหัวตาม
“ไม่คิดว่าฉันจะมาหานายแบบไม่มีอะไรเลยนะ แต่ก็เอาเถอะ นายพูดถูกทุกอย่าง” เอเดน ซิสเลอร์ เอ่ยพร้อมกับเดินมาทิ้งตัวลงนั่งโซฟารับแขกในห้อง
แอติโร่เห็นเพื่อนทิ้งตัวลงนั่งก็ลุกเดินมาทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามเพื่อนบ้าง อยากรู้เหมือนกันว่าเพื่อนรักมาหาเขาวันนี้มีเรื่องทุกข์ใจอันใดอีกถึงได้ทำหน้าอมทุกข์แบบนี้ ไม่เหลือคราบของเอเดนขี้เก๊กเลย ยิ่งดูยิ่งตลก ก็ดูเอาเถอะ หน้ายังกับไปโดนปาขี้มา
“เฮ้อ! จะมีเรื่องอะไรที่ทำให้คนหล่อๆ อย่างเพื่อนนายทุกข์ใจได้ในขณะนี้นอกจากเรื่องแต่งงาน” ก็วันนี้แม่ของเขาบอกว่านัดทานข้าวกับตระกูลแม็ก เพื่อจะคุยเรื่องแต่งงานของเขากับยัยดอกลิลลี่เน่า เขาไม่อยากไป แต่แม่เขายื่นคำขาดแล้วถ้าเขาไม่ไปแม่เขาจะเร่งงานแต่งงานมาเป็นปลายเดือนหน้า เขาจึงต้องยอมไปทานข้าวกับตระกูลแม็กพร้อมกับผู้เป็นแม่
“ฮ่าๆ นึกว่าเรื่องอะไร นายจะซีเรียสเศร้าไปทำไม น้องลิลลี่ก็สวยออก แถมน่ารักอีก นายได้น้องเขามาเป็นคู่หมั้นถือว่าเป็นบุญของนายแล้วเอเดน” แอติโร่รู้ว่าเพื่อนไม่ชอบให้ชมลิลลี่ต่อหน้า เขาจึงเอ่ยชม เพื่ออยากแกล้งคนขี้เก๊ก ให้รู้ซะบ้างว่าตัวเองมีของดีแล้วยังจะวิ่งไปหาเศษหาเลยจากที่อื่นอีก เอ๊ะ! จะว่าไปแล้วเขากับเพื่อนก็ไม่ต่างกัน ในเมื่อทุกวันเขายังเที่ยวราตรี หิ้วหญิงกลับคอนโดด้วยทุกคืน เพราะเซ็กส์จะสามารถทำให้เขาหายเครียดและลืมเรื่องคาใจทุกอย่างได้ดี เขากับเพื่อนจึงชอบเที่ยวราตรีหิ้วหญิงติดมือไปต่อที่คอนโดของตนทุกคืน
“นายชมขนาดนี้ ไปขอแม่ยัยลิลลี่เน่ามาแต่งงานเลยสิ ส่วนเมก้าฉันขอ อึ๋มน่าฟัดเป็นบ้าเลยน้องเมก้าอ่ะ” เอเดนดูออกว่าภายใต้ใบหน้าเย็นชาไร้หัวใจของแอติโร่นั้นไม่ได้เป็นอย่างที่หน้ากากเขาได้สร้างขึ้น และก็รู้อีกว่าเพื่อนรักเริ่มมีใจให้น้องเมก้าขึ้นมาบ้างแล้ว ถ้าไม่มีใจจะยอมให้น้องเมก้ามาหาที่โรงแรม มาป่วนได้แบบนี้ทุกวันเหรอ หึหึอย่างว่าแหละไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่
“เฮ้อ! เกี่ยวอะไรกับยัยเว่อร์เมก้านั้น อย่าพูดถึงยัยนี่ได้ไหม พูดถึงแล้วหงุดหงิดทุกที” ไม่รู้เพื่อนเขาจะพูดถึงเมก้าขึ้นมาทำไม จะพูดให้เขาคิดถึงเจ้าหล่อนทำไม แค่นี้ก็อยากเห็นแต่หน้าเจ้าหล่อนทุกวันอยู่แล้ว “นายพูดเรื่องของนายดีกว่าเอเดน นายมาหาฉันเพราะเรื่องของนายมิใช่รึ ไม่ใช่มาพูดเรื่องฉัน” แอติโร่เปลี่ยนเรื่องทันที เมื่อเห็นว่าตัวเองแพ้ทางเพื่อน
“ก็ได้ไม่พูดถึงเรื่องนายกับน้องเมก้าคนสวยของฉันแล้ว ฉันมานี้ก็เพราะอยากจะมาชวนนายไปดื่มกันที่คอนโดฉันคืนนี้ โดยชวนสาวๆ มาจัดเต็มสักสาม สี่ คนนายว่าดีไหม แต่หลังจากฉันไปทานข้าวกับแม่มาก่อนนะ สองทุ่มเจอกันเพื่อน” เอเดนกับแอติโร่ไม่ได้พักที่บ้านกับครอบครัว เพราะพวกเขาเป็นพวกชอบเที่ยว อีกอย่างคอนโดของพวกเขาก็ใกล้กับที่ทำงาน จึงเลือกพักคอนโดแทนบ้าน แต่จะกลับไปพักผ่อนที่บ้านทุกวันหยุดของแต่ละอาทิตย์ทุกครั้ง เพื่อให้คนทางบ้านหายคิดถึง
“จัดไป๊! ว่าแต่ทำไมนายไม่โทรมาบอกฉัน จะแบกหน้ามาถึงโรงแรมฉันทำไม อีกอย่างบริษัทนายก็อยู่ห่างจากโรงแรมฉันมากเลยนะเพื่อน” แอติโร่งงว่าทำไมเพื่อนถึงไม่โทรมานัดเรื่องแค่นี้เอง ไม่ถึงกับต้องมาเองเลย อีกอย่างเขารู้ว่าช่วงนี้บริษัทส่งออกรถเฟอร์รารี่ของเพื่อนกำลังยุ่ง ซึ่งช่วงนี้กิจการของเพื่อนกำลังไปได้ดีทีเดียว เขาจึงไม่อยากให้เพื่อนเสียเวลางานเพื่อมาหาเขา
“ฉันอยากมา ฉันเบื่อๆ วันนี้เลยอยากเกเรงานสักวัน งั้นฉันกลับบ้านไปแต่งตัวหล่อๆ ให้ยัยลิลลี่เน่าตะลึงก่อนนะเพื่อน อย่าลืมล่ะคืนนี้” เอเดนเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้น พอเอ่ยจบก็เดินออกจากห้องไป โดยที่เจ้าของห้องยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรสักคำ
“ให้มันได้แบบนี้สิเพื่อน” แอติโร่บ่นตามหลังเพื่อน พอเพื่อนไปแล้วเขาก็หันไปเคลียร์งานให้เสร็จคืนนี้เขาจะได้ดื่มให้มันเมาไม่รู้เรื่องไปเลย เพราะพรุ่งนี้วันเสาร์เขาหยุดงาน เขาจึงไม่ได้ออกไปไหน เลยกะจะดื่มกินให้เมาที่คอนโดเพื่อนเลยคืนนี้