5 เลขาแนน
เธอใช้มารยาหญิง เหนี่ยวรั้งให้ธามเอาไว้กับตัวเองให้นานที่สุด เท่านั้นยังไม่พอแอบดึงคอเสื้อร่นต่ำลงมาเพื่อที่จะโชว์ความนูนของหน้าอกให้หนุ่มใหญ่ใจเต้นแรง ซึ่งก็เข้าทางฝ่ายชายจ้องตาแทบไม่กะพริบ
ทั้งที่บอกกับตัวเองว่า อย่าออกนอกลู่นอกทาง จงรักซื่อสัตย์ต่อภรรยาของตัวเองเพียงคนเดียว ครั้นเจอเล่ห์ของไก่แก่แม่ปลาช่อนก็ลืมคนที่บ้านไปชั่วคราว
“สรัล ใส่ร้ายอะไรผมล่ะ”
“ไม่มี๊ นอกจากชมว่าหล่อ เท่ ดูดี ใครเห็นก็ต้องมองเหลียวหลัง ที่สำคัญไม่แก่เลย แนนเดาอายุจริงไม่ถูกด้วยซ้ำ”
“ชื่อแนนหรือครับ ยินดีที่ได้รู้จัก อ้าว สรัลออกมาพอดี สวัสดีเพื่อน”
ธามตรงเข้าไปโอบกอดสรัลที่เดินยิ้มร่าออกมาจากห้องทำงาน ก่อนจะปรายตามองแนนเลขาคนใหม่ที่ยังคงแอ๊บหน้าเด็ก ราวกับสาวรุ่นไร้เดียงสา เขารู้ทันทีว่าเธอกำลังจ้องจับเหยื่อรายใหม่ โดยไม่รู้ว่าธามไม่เคยจริงจังกับใคร
สรัลสงสารกลัวลูกน้องจะผิดหวัง แต่ไม่อาจที่จะห้ามได้ ในเมื่อเธอดิ้นรนที่จะวิ่งเข้าหากองไฟอันร้อนแรงด้วยตัวเอง
“สวัสดี ลมอะไร หอบแกมาจนถึงที่นี่”
“อาจจะเป็นกลิ่นหอม ๆ ของใครบางคนก็ได้มั้ง”
“เฮ้ย ! พูดกับเรา ทำไมมองไปที่แนนล่ะ มานี่เลย มีเรื่องจะคุยด้วย แนนขอน้ำส้มเย็น ๆ สองแก้ว ด่วนเลยนะ”
“ได้เลยค่ะ บอส”
เสียงหวาน ๆ จากลูกน้องสาวขานรับทันใจ สรัลดึงมือเพื่อนผลุบหายเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัว เหลือแต่เพียงแนนที่ยังคงยิ้มกริ่มขณะเทน้ำส้มในขวดชนิดมีเกล็ดลงไปในแก้วใสทรงสูง เพื่อนร่วมงานเห็นต่างพากันแบะปาก
รู้ถึงนิสัยของแนนเป็นอย่างดีว่าชอบให้ท่าผู้ชายรวย ๆ สุดท้ายก็พบกับความผิดหวังเพราะไม่มีใครจริงจัง ด้วยนิสัยขอมากเกินไป
“แนน วันนี้รู้สึกกระดี๊กระด๊าเชียวนะ”
“ย่ะ อารมณ์ดีเป็นพิเศษ”
“สงสัยเจอของถูกใจ”
“ใช่ ถูกใจมากกกกกกก”
“โอ้ ลากเสียงยาวขนาดนี้ สงสัยไม่พลาดที่จะเซ่นด้วยเนื้อ นมไข่”
เพื่อนสาวคนสนิทแกล้งสัพยอกไปอย่างนั้นเอง แทนที่แนนจะโกรธกลับหัวเราะคิกคักชอบใจเป็นการใหญ่ หันมาส่ายหน้าอกขนาดมหึมาให้ดู ผู้ชายที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ตื่นตะลึง อ้าปากค้าง ไม่คิดว่าเธอจะกล้า
“เรื่องนั้นยังไม่รู้ คงต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ”
“แหม คนอย่างเธอมีเวลาตัดสินใจด้วยเหรอ เจอถูกใจก็พุ่งชน”
“ปากเสีย ฉันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกน่า ถ้าไม่คุ้มฉันก็คงไม่กล้าที่จะเสี่ยงให้เปลืองตัวเปล่า ๆ นี่ พวกหล่อน ฉันไม่มีเวลาแล้วจะต้องไปรับใช้เจ้านายกับเพื่อน”
“ขอให้สุขโขสโมสรเถอะย่ะ อย่านอยด์กลับมาก็แล้วกัน”
เสียงเพื่อนตบท้ายให้ได้คิด แต่ไม่อาจทำให้สาวม่ายเจ้าเสน่ห์ใส่ใจแต่อย่างใด ยังคงแกะผลไม้จากถาดโฟมเรียงใส่จานเมลามีนสีขาวอย่างสวยงาม เธอจะนำไปเสิร์ฟให้กับสรัลกับเพื่อนนักธุรกิจที่หล่อและดูดี
ขณะเดียวกันภายในห้องทำงานที่เย็นฉ่ำเพราะเครื่องปรับอากาศ สรัลเอนร่างลงกับเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ สายตาคมกริบยังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าธาม ซึ่งยังคงยิ้มกริ่มเมื่อนึกถึงแนนสาวออฟฟิศสุดเซ็กซี่
สรัลเดาใจเพื่อนถูกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จึงหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วตบมือลงบนหลังมือเขาเป็นการเรียกสติให้กลับคืนมาซึ่งก็ได้ผลธามสะดุ้ง หันมามอง ดวงตาเต็มไปด้วยคำถาม
“มีอะไรหรือ เพื่อน”
“เราน่าจะถามนายมากกว่า ทำไมถึงเหม่ออย่างนั้น”
“เอ่อ คือว่าเราคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”
“หนึ่งในนั้นมียายแนน ลูกน้องของเรารวมอยู่ด้วยหรือเปล่า”
“ทำไมต้องเกี่ยวกับเขาด้วยเล่า ไม่มีหรอกน่า”
ธามบอกปัดทันที แต่ดวงตาฉาบฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมา สรัลจับจุดถูกว่าเพื่อนกำลังให้ความสนใจต่อลูกน้องของตนเอง เขาได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมาช้า ๆ เวทนาต่อความไวไฟของคนทั้งคู่ ธามเปรียบเหมือนน้ำมันออกเทนสูง ส่วนแนนคือไฟอันร้อนแรง เมื่อใดที่เจอกันจะต้องลุกไหม้ทันที
ด้วยเสน่ห์แพรวพราว มารยามากล้น กลัวว่าธามจะพลาดท่า ลุ่มหลงจนถึงขั้นลืมลูกกับภรรยา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขาสงสารดารินทร์ผู้แสนดีจะต้องเสียใจต่อความมักง่ายของสามี
“ให้จริงอย่างที่พูดเถอะวะ ขอบอกก่อนนะว่า แนนไม่ธรรมดา ถ้าถูกใจล่ะก็ แม่คุณทุ่มสุดตัว ถ้าหากว่านายเผลอเพียงครั้งเดียว อาจจะลืมไม่ลง”
“นี่ นี่ สรัล นายพูดอย่างนี้ออกมา เท่ากับเป็นการสารภาพว่าเคยหยิบชิ้นปลามันกินแล้วใช่ไหมวะ”
“บ้าน่า คนอย่างเรา ไม่เคยที่จะทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดหรอกวะ อย่ามองเราอย่างนั้นสิ”