6
เช้าวันถัดมาหยางหนิงไม่คิดว่านางจะทำเรื่องขายหน้าในห้องตำราของท่านตา นางรีบสาวเท้ากลับไปห้องตัวเอง
จินเยว่ยิ้มอย่างสาแก่ใจ หากไม่ใช่เพราะสองแฝดเขาจะไม่ยอมเปลืองตัวไปกับนางเป็นอันขาด
ภายในห้องครัวยามนี้ จินเยว่ทำอาหารให้สองแฝดโดยการทำไก่ขอทานให้สองกิน มีกินในคอก เขาจับมันมาถอนขนออกให้หมด ยัดเครื่องเทศเข้าไป โดยมีส่วนผสมของแปะก๊วยด้วย จากนั้นนำใบบัวมาห่อหลาย ๆ ชั้น จากนั้นนำดินเหนียวมาที่ใบหัวที่ห่อ นำไปใส่เต่าเผาถ่านหลังเรือน
สองแฝดพลันลืมตาขึ้นมาได้กลิ่นไก่ขอทานที่บิดาทำ ทั้งสองสวมรองเท้าผ้าขาด ๆ มุ่งหน้าไปห้องครัว
"ท่านพ่อ"
"พวกเจ้ามาแล้ว กินข้าวเถอะ" ทั้งสองมองไก่ขอทาน ที่ส่งกลิ่นหอมของเครื่องเทศในตัวไก่ จินเยว่แบ่งครึ่งให้สองแฝด อีกครึ่งหนึ่งให้หยางหนิง
ก่อนจะไปส่งข้าวให้หยางหนิง เขาบอกสองแฝดให้ค่อยกินประเดี๋ยวจะสำลักเอาได้
หยางหนิงเพิ่งได้สติส่างเมา นางทบทวนเรื่องเมื่อคืน นางเมาอยากหนัก อีกทั้งอยากได้เงินจากจินเยว่ด้วย แต่เขาไม่ให้ กระนั้นนางจึงเผลอทำไม่ดีลงไป เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ นางอุตส่าห์จะรักษาตัวเองไว้ให้บุรุษในเมืองหลวงหยางอัน แต่ทว่าก็ได้เสียกับเจ้าคนป่วยครั้งแรก
"กินข้าว" จินเยว่เดินเข้ามาพร้อมกับอาหาร ที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วห้องของหยางหนิง เขาวางไว้ที่โต๊ะกลม หยางหนิงนั่งตั่งยาว นางไม่ลุกไปที่โต๊ะกลม
"เมื่อคืน เจ้าช่างกล้าเสียจริง" จินเยว่เอ่ยอย่างไม่อาย
หยางหนิงคิดในใจ เจ้าขี้โรคกล้าต่อว่านางเชียวรึ
"หุบปาก แล้วไสหัวไป" หยางหนิงไม่ชอบเอาเสียเลย แม้นางจะได้เสียกับจินเยว่ แต่นางก็ไม่ยอมแพ้ที่จะหาสามีอย่างคหบดีที่ร่ำรวย หรือขุนนางระดับสูงหรอก จินเยว่นับเป็นตัวอันใด แม้แรงจะฆ่าไก่ยังไม่มีเลย
หึ !!!
"ข้าไม่อยากจะมานักหรอก กลัวคนหิวตาย" จินเยว่รีบสาวเท้าออกไปอย่างฉับไว
คล้อยหลังจินเยว่ หยางหนิงไม่รอช้าที่จะหยิบไก่ขอทานขึ้นมากลิ่น เนื้อนุ่มรสชาติกลมกล่อมด้วยเครื่องเทศสมุนไพร เจ้าคนขี้โรคนับว่าทำอาหารใช้ได้
ยามบ่ายของวันนั้นจินเยว่ยังคงออกไปหาของป่ามาขายให้ผู้เฒ่าจี้ซาน เขาได้หินหลินจือมาเยอะมาก ผู้เฒ่าจี้ซานให้ราคาค่างวดอย่างงาม จินเยว่พลันพอใจยิ่งนัก
ในตอนจะกลับเขาซื้อขนมน้ำตาลปั้นให้เจ้าแฝดด้วย นาน ๆ กินทีคงไม่เป็นไรกระมัง ในระหว่างทาง ชายหนุ่มเจอหานนี่
หานนี่คือสตรีในหมู่บ้านสกุลต้า ที่แอบชอบจินเยว่มานานแล้ว ตั้งแต่จินเยว่แต่งงานกับหยางหนิง หานนี่เสียใจไม่น้อย ไม่เข้าใจจริง ๆ หมอเทวดาหยางเทียนไปเสาะหาบุรุษผู้นี้มาจากไหน ทำทีเป็นช่วยชีวิตแล้วให้แต่งงานกับหลานสาวตัวเอง
มันใช้ได้ที่ไหนกัน มัดมือชกกันชัด ๆ อาศัยโอกาสที่จินเยว่จำอะไรไม่ได้ ให้แต่งงานกับหญิงร้ายอย่างหยางหนิง
"จินเยว่" หานนี่เดินตามเขา ชายหนุ่มหยุดเดินแล้วหันมองนาง
"แม่นางหานนี่ มีอันใดรึ" หานนี่รีบยิ้มหวานให้เขา
"ข้าฝากผิงกั๋วไปให้สองแฝดหน่อยเจ้าค่ะ" ชายหนุ่มมองผลไม้ในตะกร้า ถ้าปฏิเสธน้ำใจของนาง คนให้จะเสียน้ำใจได้ กระนั้นจึงเลือกที่จะรับน้ำใจนางไว้ โดยไม่คิดอันใด
"ขอบคุณแม่นางหานนี่"
ชายหนุ่มรีบสาวเท้ากลับเรือนทันที หานนี่พลันยืนยิ้มอย่างมีความสุข หากนางแต่งเป็นภรรยาจินเยว่อีกคนคงจะดีไม่น้อย
วันพรุ่งเห็นทีนางจะต้องไปหาหยางหนิงที่เรือนเสียแล้ว ในใจยังหวาดกลัวหยางหนิง แต่พอหวนคิดถึงหน้าจินเยว่ นางหายกลัวเลยทันที
"ท่านพ่อ" ทันทีที่สองแฝดเห็นบิดาสาวเท้าเข้ามาในห้อง ทั้งสองรีบเดินไปหาทันที
"พ่อซื้อน้ำตาลปั้นมาให้พวกเจ้า" มีผิงกั๋วที่เขาไม่ได้ให้สองแฝด เด็กทั้งสองกินน้ำตาลปั้นอย่างอร่อย ช่วงเย็นเขาทำข้าวต้มให้สองแฝดรับประทาน อีกทั้งไม่ลืมนำไปให้หยางหนิงที่นอนขึ้นอืดทั้งวัน ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหัวแล้วเดินออกมา
หลังจากกล่อมเจ้าสองแฝดนอนแล้ว จินเยว่ไม่ลืมที่จะมาห้องตำรา เพื่ออ่านทบทวนตำราราชวงศ์หยางอัน ในห้องนี้มีตำราเกี่ยวกับราชวงศ์เยอะมาก ไม่คิดว่าหมอเทวดาหยางเทียนจะเก็บสะสมมากขนาดนี้
อีกทั้งตำราวิชาแพทย์ก็เยอะเช่นกัน จินเยว่คิดว่า แม้เขาจะขี้โรคให้คนด่าทอ แต่ทว่าเขาต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ในเมื่อหยางหนิงไม่สืบทอดวิชาแพทย์หยางเทียน เขานี่ล่ะจะสืบวิชาแพทย์ต่อเอง เพื่อวันข้างหน้า
ค่ำคืนนั้นหลังจากที่จินเยว่ อ่านตำราราชวงศ์แคว้นหยางอัน เขาอ่านตำราแพทย์พิษเริ่มจากตำราพิษในยุทธภพก่อนอันดับแรก
เช้าของวันถัดมาหยางหนิงพลันตื่นขึ้นมา ได้ยินคนมาตะโกนที่หน้าเรือน
นางจำได้ว่า เป็นหานนี่สตรีเรื้อคาเรือนอายุยี่สิบปีแล้วไม่ยอมออกเรือนเสียที เหตุใดจึงมาตะโกนหน้าเรือนคนอื่นอย่างไร้มารยาทเช่นนี้
หยางหนิงสาวเท้าไปที่หน้าเรือน พบว่าหานนี่กำลังยืนคุยกับหานนี่
"นี่พวกเจ้าทำอันใดกัน" หยางหนิงมองทั้งสองคน จินเยว่กำลังจะปฏิเสธบัวหิมะที่หานนี่นำมาให้