บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 ท่านพ่อลามกแอบดูท่านแม่อาบน้ำ

บ่าวรับใช้หน้าห้องหอรีบยอบกายทำความเคารพ เมื่อเห็นประมุขของจวนกำลังย่างกรายมาทางนี้ พวกนางมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ หลังจากหวางฮูหยินคลอดบุตรสาว หวางโหวก็ไม่เคยมาปรากฏตัวที่ห้องหออีกเลย 

"คุณหนูเหมยเอ๋อร์อยู่ที่ใด" เสียงแหบห้าวถามหลี่ซิน

"คุณหนูเหมยเอ๋อร์เล่นน้ำอยู่ในห้องอาบน้ำกับ..." 

ไม่ต้องรอให้นางกล่าวจบ มือหนาก็ผลักประตูเปิดออก พลางก้าวดุ่มๆเข้าไปข้างในทันที

สายตาคมกวาดมองไปรอบห้อง เมื่อไม่เห็นคนที่ตนชิงชังก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาบางๆ ในหูได้ยินเสียงหัวเราะของบุตรสาวแว่วมาจากในห้องอาบน้ำ จึงรีบร้อนเดินไปยังจุดหมายทันที

แอ๊ด! 

บานประตูถูกผลักให้เปิดออก หวางอี้เฉิงก้าวเข้าไปด้านใน เอ่ยปากขานชื่อของบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"เหมยเอ๋อร์ของพ่อ เล่นน้ำสนุก..." กล่าวได้เพียงครึ่งประโยคก็หยุดชะงักทันทีเมื่อเห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่าของใครบางคนที่ยืนอยู่ในอ่างน้ำ

ขณะกำลังเล่นกับบุตรสาว จางเหมียวเมียวได้ยินเสียงคนผู้หนึ่งดังมาจากทางด้านหลัง จึงหมุนกายหันไปมอง ดวงตาดุจเหยี่ยวของหวางอี้เฉิงหลุบต่ำลง จากใบหน้าเลื่อนไปถึงลำคอระหงส์ ก่อนจะไปหยุดอยู่ทรวงอกอวบอูม ที่มียอดถันงามสีชมพูระเรื่อชูชันประดับอยู่ 

ในยามปกติ จางเหมียวเมียวกับหวางอี้เหมยเปลือยกายอาบน้ำด้วยกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว หวางอี้เหมยยังเด็ก นางจึงไม่รู้สึกอับอาย แต่เมื่อเห็นบุคคลที่สามโผล่มาเช่นนี้จึงรู้สึกตกใจอย่างมาก 

"กรี๊ดดดดดดด ไอ้โรคจิต ไอ้คนลามก!" จางเหมียวเมียวเปล่งเสียงกรีดร้องดังลั่น ก่อนจะคุกเข่านั่งลงไปน้ำ หวังให้สายธารช่วยปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าของตนเอาไว้

"ขะ ข้าไม่ได้ตั้งใจ" มือหนารีบยกมือขึ้นมาปิดหน้า พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน

"ลามก ท่านพ่อลามก" หวางอี้เหมยรีบว่ายมาเกาะขอบอ่าง มองผู้เป็นพ่อด้วยขบขัน

"ออกไปเลยนะ ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!" จางเหมียวใช้มือกวักน้ำใส่เขา เมื่อหวางอี้เหมยเห็นเช่นนั้นนางก็ทำบ้าง พลางส่งเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยความชอบใจ เพราะคิดว่าท่านพ่อกับท่านแม่กำลังหยอกล้อกัน หยดน้ำกระเด็นขึ้นมาจากอ่าง เปื้อนร่างสูงที่ยืนอยู่จนเปียกปอนไปทั่วตัว หวางอี้เฉิงจึงจำใจต้องก้าวเดินออกมาจากห้องโดยไม่วายดึงบานประตูปิดลงเช่นเดิม 

หลี่ซินมองโหนกแก้มสูงของหวางอี้เฉิงและสภาพที่ไม่ต่างไปจากลูกหมาตกน้ำด้วยความขบขัน ทว่าไม่กล้าเปล่งเสียงอันใดออกมา จึงรีบก้มหน้าลง เพราะกลัวโดนผู้เป็นนายลงโทษ

หวางอี้เฉิงเห็นท่าทางของหลี่ซินก็รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก ภาพซาลาเปาลูกโตทั้งสองก้อนยังคงติดตาของเขามาจนถึงตอนนี้ ส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลาร้อนผ่าวขึ้นกว่าเดิม จึงรีบก้าวเดินดุ่มๆออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

"ท่านย่า อ้าม" มือเล็กประคองช้อนตักหมูตุ๋นโสมน้ำแดงใส่ปากผู้เป็นย่าที่กำลังแย้มยิ้มรับด้วยความเต็มใจ

"อืม อาหารที่เหมยเอ๋อร์ป้อนย่าอร่อยมากจริงๆ" ฟ่านถิงกล่าวพลางใช้มือลูบศีรษะของหลานสาวด้วยความเอ็นดู ทุกๆเช้าจางเหมียวเมียวจะพาบุตรสาวมาคารวะนางตามธรรมเนียม จากเดิมที่ความสัมพันธ์ย่าหลานห่างเหิน เริ่มกลายเป็นสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว 

"ท่านแม่ให้ข้าดูแลเหมยเอ๋อร์เองเถอะเจ้าค่ะ" จางเหมียวเมียวกล่าวอย่างเกรงใจ เมื่อเห็นย่าหลานผลัดกันป้อนกันไปป้อนกันมาได้สักพักใหญ่แล้ว

ฟ่านถิงหันมาสบตากับลูกสะใภ้ สายตาของนางบ่งบอกถึงความใสซื่อจริงใจ แตกต่างจากแววตาแข็งกร้าวเมื่อก่อนราวฟ้ากับเหว

"ไม่เป็นไร วันนี้แม่กินข้าวได้เยอะกว่าทุกวันเพราะมีเหมยเอ๋อร์เป็นคนป้อน เจ้าเองก็รีบกินเถอะ" 

"แต่ฮูหยินผู้เฒ่าเคยสั่งให้ทุกคนห้ามเข้าใกล้คุณหนูเหมยเอ๋อร์ไม่ใช่หรือเจ้าคะ" กวนถงบ่าวรับใช้อาวุโสคนสนิทกระซิบเตือน แต่กระนั้นเสียงของนางก็ดังพอที่จะทำให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามอย่างจางเหมียวเมียวได้ยิน

"เอ๊ะ! กวนถงเจ้านี่มันยังไงกัน! ข้าอยากป้อนข้าวหลานสาวแท้ๆของตัวเองไม่ได้เชียวหรือ" ฟ่านถิงหันไปตวัดสายตามองกวนถงอย่างไม่พอใจ 

"ดะ ได้เจ้าค่ะ" กวนถงรีบปิดปากเงียบ ไม่เอ่ยรั้งสิ่งใดอีก ดูท่าเจ้านายของนางคงจะลืมไปหมดแล้วว่าเคยระแวงลูกสะใภ้ผู้นี้มากแค่ไหน

จางเหมียวเมียวมองกวนถงสลับกับฮูหยินผู้เฒ่าพลางกะพริบตาปริบๆ สงสัยว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะหลงรักในความน่ารักน่าชังของเจ้าก้อนแป้งเสียแล้วกระมัง

"เจ้ากลับห้องไปก่อนเถิด เดี๋ยวแม่จะให้สาวใช้ตามไปส่งเหมยเอ๋อร์ทีหลัง" เพราะอยากเล่นกับหลานสาวนานๆจึงเอ่ยปากไล่ลูกสะใภ้กลับห้องหอ

จางเหมียวเมียวเองก็เห็นว่าควรปล่อยให้ย่าหลานได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันตามลำพังบ้าง

"เจ้าค่ะ เช่นนั้นลูกสะใภ้ขอตัวก่อนนะเจ้าคะ" จางเหมียวเมียวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ยอบกายคารวะแม่สามี ก่อนจะหันไปเอ่ยกับบุตรสาว

"เหมยเอ๋อร์ต้องเป็นเด็กดี ไม่ดื้อกับท่านย่านะลูก"

"เจ้าค่ะ" หวางอี้เหมยรับคำ ก่อนจะหันไปหยอกล้อกับผู้เป็นย่าอย่างสนุกสนานต่อ จางเหมียวเมียวเห็นท่าทางมีความสุขของบุตรสาวก็วางใจ จึงก้าวออกจากห้อง

"เหมยเอ๋อร์ แม่ของเจ้าดีกับเจ้ามากหรือไม่" คล้อยหลังจากลูกสะใภ้จากไปแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าจึงลองเลียบๆเคียงๆถามหลานสาว

"ดีเจ้าค่ะ ท่านแม่เล่นกับข้าทุกวัน ป้อนข้าวข้าทุกมื้อ นอนกอดข้าทุกคืน" 

"งั้นหรือ..." ฟ่านถิงพึมพำเสียงเบานึกแปลกใจอยู่มาก ได้แต่หวังภาวนาว่าอย่าให้ลูกสะใภ้ผู้นี้ดีแตกในภายหลังก็แล้วกัน

"เมื่อวานท่านพ่อลามก แอบดูท่านแม่อาบน้ำ" จู่ๆ หวางอี้เหมยก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานได้ จึงเล่าให้ผู้เป็นย่าฟังด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว

"หืม!? เหมยเอ๋อร์ของย่าพูดจริงหรือ" 

"เจ้าค่ะ ข้ากับท่านแม่เลยสาดน้ำไล่จนท่านพ่อตัวเปียกไปทั้งตัวเลยเจ้าค่ะ" กล่าวจบก็ส่งเสียงหัวเราะสดใส

คิ้วเรียวของฮูหยินผู้เฒ่ายกขึ้น ก่อนจะหันไปสบตากับกวนถง คนทั้งสองรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย หวางอี้เฉิงไม่เคยย่างกรายไปห้องหอ เมื่อวานลมอะไรหอบเขาไปที่นั่นกันหนอ น่าแปลกใจจริงๆ... 

จางเหมียวเมียวกลับมาถึงห้องหอ เพราะไม่ต้องดูแลหวางอี้เหมยจึงไม่มีอะไรทำ เลยนำบัญชีของจวนสกุลหวางมาตรวจสอบ ขณะที่สายตากำลังไล่อ่านอยู่นั้น แลเห็นความผิดปกติบางอย่างจึงวางหนังสือไม้ไผ่ในมือลง

"หลี่ซิน ไปตามพ่อบ้านฉีมาพบข้า" 

"เจ้าค่ะ" หลี่ซินตอบรับตามคำสั่ง เดินออกไปไม่ถึงหนึ่งเค่อ (15 นาที) ก็เดินกลับมาโดยมีพ่อบ้านฉีตามมาอย่างติดๆ

"พ่อบ้านฉี ในแต่ละวันมีการจัดสรรเงินแบ่งไปที่โรงครัวอย่างไรบ้างหรือ" 

"เงินที่ส่งไปยังโรงครัวจะถูกส่งให้ทุกเดือนเพื่อนำไปจับจ่ายเป็นค่าอาหารขอรับ" พ่อบ้านฉีตอบ พลางนึกแปลกใจ หวางฮูหยินสงสัยเรื่องใดกัน

"ในสมุดบัญชีบันทึกไว้ว่าทุกเดือนเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงทองจะถูกส่งไปยังโรงครัว ทว่าข้าลองอ่านจากที่แม่ครัวบันทึกรายการจับจ่ายสินค้าเอาไว้ ข้าพบว่ามีเงินจำนวนหนึ่งขาดหายไป"

วาจาของจางเหมียวเมียวทำให้พ่อบ้านฉีเบิกตากว้าง ยื่นมือออกไปรับหนังสือไม้ไผ่จากนางมาอ่าน และก็เป็นดั่งที่หวางฮูหยินกล่าว เงินจำนวนยี่สิบตำลึงทองขาดหายไปจริงๆ

"เป็นบ่าวที่สะเพร่า ขาดความรอบคอบไม่ตรวจสอบให้ดี หวางฮูหยินสั่งลงโทษบ่าวเถิดขอรับ"

เดิมทีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีของจวน หวางฮูหยินจะเป็นคนจัดการ แต่จางเหมียวเมียวคนเดิมหาได้สนใจไม่ หน้าที่นี้จึงตกมาเป็นของเขาแทน แต่เพราะงานที่มีมากจนล้นมือ เขาจึงได้แต่ไล่สายตาอ่านอย่างผ่านๆ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา จึงวางใจไม่ได้ตรวจสอบให้ดี

"ช่างเถิด หากเรื่องนี้จะหาคนผิดก็คงไม่พ้นเป็นข้าเสียมากกว่า" 

พ่อบ้านฉีอ้าปากค้าง เงยหน้าขึ้นมองเจ้านายสาวอย่างตกตะลึง นอกจากหวางฮูหยินจะไม่โวยวายด่าทอทุบตีแล้ว นางยังมีท่าทีสงบนิ่งและดูใจเย็นอยู่มากทีเดียว

"พ่อบ้านฉี ใครเป็นคนดูแลจัดการเงินของโรงครัว" 

"นางคือหัวหน้าคนครัว นามว่าเซี่ยจิ้งขอรับ" 

"พาข้าไปพบนาง" จางเหมียวเมียวกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด คว้าสมุดบัญชีมาถือเอาไว้ เดินตามพ่อบ้านฉีไปที่โรงครัว

เห็นทีว่าจวนสกุลหวางจะต้องได้รับการจัดระเบียบใหม่เสียแล้ว! 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel