[3] แผนทำโทษ
ตอนที่3 แผนทำโทษ
กลิ่นเครื่องแกงหอมฟุ้งลอยมาแตะจมูกโด่งรั้นของคุณหนูพิณพิกา จากนั้นเด็กหญิงจึงเดินตามเข้าไปในครัวหมายจะไปช่วยพี่เลี้ยงสาวจัดเตรียมอาหารเช้า เป็นเรื่องปกติในทุกๆวัน คุณหนูพิณพิกาถูกสอนมาเป็นอย่างดีทำได้ทุกอย่างตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบและนั่นทำให้คนเป็นพ่อภาคภูมิใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
“ทำอะไรอยู่คะห๊อมหอม?”เด็กหญิงเดินเข้ามาประกบจันทร์ตราและเอ่ยถามด้วยหน้าตาแจ่มใส เช้าวันนี้คุณหนูพิณพิกาอยู่ในชุดนักเรียนขาวสะอาดจันทร์ตราเห็นอย่างนั้นจึงเอ่ยห้ามปรามไม่ให้ช่วยหล่อน
“หยุดเลยนะคะคุณหนู ไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารกับคุณท่านเลยค่ะ เดี๋ยวน้ำแกงกระเด็นใส่ชุดนักเรียนคุณหนูจะวุ่นเอานะคะ”จันทร์ตราหันไปยิ้มให้เล็กน้อย จากนั้นก็ตักแกงส้มกลิ่นหอมฉุยใส่ชามเพื่อพร้อมเสริฟ
“โอเคค่ะ หนูจะไม่ดื้อแล้วก็ได้ ไปดีกว่าพี่จันทร์ชอบดุ”เด็กสาวยิ้มเก้ออย่างน่ารักแล้วก็วิ่งแจ้นออกไปนั่งรอบิดาที่โต๊ะอาหารอย่างรวดเร็ว
จากนั้นอาหารก็ถูกจัดวางขึ้นโต๊ะไปอย่างน่ารับประทาน เป็นเวลาเหมาะเจาะกับที่ประมุขของบ้านย่างกายเดินลงมาพอดี ใบหน้าลูกครึ่งหล่อคมคายราวกับนายแบบนิตยสาร นัยต์ตาสีน้ำตาลเป็นประกาย ปากหยักได้รูปชวนน่าหลงใหล ถึงแม้ชื่อแซ่จะไทยเต็มร้อยเนื่องจากเขาเกิดและเติบโตที่นี่
รังสิมันต์ตัวคนเดียวมาตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่ม เหลือเพียงธุรกิจเหมืองแร่และบ่อพลอยที่เป็นมรดกของบิดามารดา พวกท่านประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิต ทิ้งให้รังสิมันต์อยู่บนโลกใบนี้เพียงลำพัง
ในช่วงแรกเขาแทบบ้าแต่ก็ผ่านมันมาได้ ก่อนจะมามีครอบครัวในวัย27ปี ภรรยาของเขาก็ยังจะทิ้งเขาไปด้วยโรคร้าย
ร่างหนาส่งยิ้มให้คนเป็นลูกพร้อมกับยีผมที่ศรีษะเล็กเบาๆเป็นการปรอบใจตนเอง เขาเหลือเพียงลูกสาวคนเดียวในชีวิตเท่านั้น
“อรุณสวัสดิ์ครับตัวแสบ”รังสิมันต์นั่งลงตรงหัวโต๊ะหยิบช้อนและซ้อมขึ้นมาอย่างเร็วไวด้วยความหิวโหย
“คุณพ่อหิวหรือยังคะ?”เด็กสาวเอ่ยถามไปอย่างแสนซื่อ แต่ทำเอาคนเป็นพ่อต้องหยุดชะงักเพราะจะบอกได้อย่างไรว่าเสียพลังงานไปเยอะ ดวงตาคมเลือบมองร่างระหงของต้นเหตุที่ทำให้เขาหมดแรงไปเมื่อคืน หล่อนเองก็หลบสายตาไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
“พ่อรีบไปทำงานหน่ะ หนูเองก็ควรจะรีบทานได้แล้วเดี๋ยวจะไปเรียนสายเอาได้นะครับ”รังสิมันต์แก้ตัวน้ำขุ่นๆแต่ก็ถือว่าแนบเนียนเพราะลูกสาวก็คงจะเชื่ออย่างแน่นอน
“คุณพ่อนี่ชอบพูดเหมือนพี่จันทร์จังเลยนะคะ?”เด็กหญิงแสดงใบหน้าครุ่นคิดไปตามประสา
“เหมือนยังไงครับตัวเเสบ หื้ม?”
“ก็เหมือนจะไม่ดุแต่ฟังไปฟังมาแล้วดุหน่ะค่ะ”
“...”ถ้อยคำต่อยหอยของเด็กหญิงทำให้จันทร์ตราที่ยืนฟังอยู่ถึงกับต้องลอบยิ้ม
“ใครกล้าดุลูกพ่อกัน เดี๋ยวพ่อจะจัดการให้”รังสิมันต์พูดทีเล่นทีจริง แต่กลับทำให้คนที่ยืนอยู่รู้สึกเสียวสันหลังวาบกับคำพูดของเขา
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะห้ามดุพี่จันทร์น่ะ หนูแค่พูดเล่นเฉยๆค่ะ”เด็กหญิงกล่าวอย่างร้อนรนเพราะไม่ได้ตั้งใจจะให้บิดาเข้าใจผิดแบบนี้
“หึ!”แววตาอัมหิตจ้องมองไปยังสาวใช้ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ถึงยังไงเขาก็จะทำโทษจันทร์ตราให้หนักกว่าเดิมอยู่แล้ว เมื่อคืนยอมรับเลยว่าสลบคาอกนิ่มๆไปอย่างราบคาบ แต่เจ้าหล่อนนี่สิยังคงมีฤทธิ์เดชตื่นแต่เช้าได้เหมือนเคย ราวกับว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยอย่างนั้นแหล่ะ
หลังจากที่สองพ่อลูกต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ ช่วงบ่ายอ่อนๆจันทร์ตราก็ออกไปจ่ายตลาดเพื่อทำอาหารไว้รอเจ้านายของตน จันทร์ตราเลือกซื้อวัตถุดิบและรู้ใจบุคคลทั้งสองได้ดีกว่าใคร หน้าที่นี้จึงตกเป็นของเจ้าหล่อน หล่อนเป็นแม่ครัวใหญ่ที่อายุยังน้อยไปโดยปริยาย เหล่าแม่บ้านต่างก็ยินยอมในรสมือของจันทร์ตราไปอย่างไม่มีข้อกังขา
หลังจากที่ได้ของสดครบเรียบร้อยแล้ว ร่างสวยจึงปั่นจักรยานกลับมายังบ้านรังสิมันต์ ชีวิตประจำวันของจันทร์ตราวันๆก็มีอยู่เพียงเท่านี้ ทำงานบ้านตลอดทั้งวันและก็ต้องไปทำหน้าที่ในตอนกลางคืนอีก
ตอนแรกที่รู้สึกว่าตนเองนั้นใจง่ายไร้คุณค่าแต่ความรู้สึกแบบนั้นมันได้หายไปจากใจของหล่อนแล้ว จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อไม่มีใครกลับไปแก้ไขอดีตได้ ถึงแก้ไขได้หล่อนก็ยังคงยอมรังสิมันต์อีกตามเดิม แต่แค่ไม่อาจเอื้อมหรือคิดไกลไปกว่านี้ได้นั่นเอง