ตอนที่5 เปิดเผยท่าที
ตอนที่5 เปิดเผยท่าที
ภายในห้องเรียนที่แอร์เย็นเฉียบกับบรรยากาศรอบตัวที่ดูอึมครึม เทมป์ที่เป็นคนช่างพูดวันนี้กลับนั่งนิ่งไม่เหมือนก่อนหน้าที่คุยไม่หยุดตั้งแต่มาถึง
“เรย์กูขอเปลี่ยนที่นั่งกับมึงหน่อย กูมีเรื่องจะคุยกับไอ้โซน” เทมป์หันไปบอกเรย์เสียงเบาไม่โวยวายเหมือนทุกครั้ง
“ในห้องเรียนเสือกอยากคุยอะไรตอนนี้ ตอนเข้ามาทำไมไม่นั่งข้างมันตั้งแต่แรก” เรย์ตอบกลับเสียงเย็นยะเยือกจนเทมป์ไม่กล้าต่อปากต่อคำเอาแต่นั่งเรียนเงียบ ๆ จนจบคลาส
“ฉันไปเข้าห้องน้ำนะเธอไปหรือเปล่าริน” ไนร่าหันมาถามวารินก่อนจะปลีกตัวเดินแยกไปอีกทาง
“ไม่น่ะเดี๋ยวรอด้านล่างตึกนะ”
“พวกกูขอไปเข้าห้องน้ำก่อนมึงกับรินลงไปรอพวกกูที่เดิมเลย อาหารกลางวันกูสั่งพิซซ่ากับไก่ทอดมาแล้ว วันนี้ขี้เกียจออกไปทานข้างนอก โรงอาหารคนก็เยอะฉิบหาย” เทมป์พูดขึ้นก่อนจะเดินกอดคอโซนแยกตัวออกไปอีกคน เหลือเพียงเรย์และวารินกันแค่สองคน
“เมื่อเช้าฉันทำอะไรให้นายไม่พอใจหรือเปล่า ฉันขอโทษนะ” วารินเอ่ยขอโทษเพราะไม่สบายใจที่เธออาจจะเป็นต้นเหตุทำให้ทุกคนอึดอัดแบบนี้
“ถ้าไม่รู้ว่าทำอะไรผิดจะขอโทษทำไม ขอโทษส่ง ๆ มันดูไม่ค่อยจริงใจเท่าไหร่นะ” เรย์ว่าสวนกลับทันที วารินได้ยินถึงกลับหน้าเสีย
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้นายไม่พอใจ ถ้าเป็นเรื่องที่ฉันว่านายเมื่อเช้านั่นเป็นเพราะนายมาว่าฉันก่อน แต่ถึงยังไงฉันก็ขอโทษแล้วกัน เลิกทำหน้าแบบนี้สักทีฉันอึดอัด”
“อึดอัดก็ไม่ต้องมอง หน้าฉันไม่ใช่ตัวหนังสือหรือรุ่นพี่ของเธอ” คำพูดกระแทกแดกดันของคนที่พึ่งรู้จักกันได้เพียงสองวันสร้างความอึดอัดใจให้วารินไม่น้อย
“ชักจะไปกันใหญ่แล้วเรย์ ตกลงเราจะเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม” วารินถามกลับสีหน้าเหนื่อยอ่อน ยอมรับว่าเธอทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดแบบนี้
“ก็ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนตั้งแต่แรก” เรย์พูดจบจังหวะที่ประตูลิฟต์เปิดออกเท้ายาวเดินดุ่ม ๆ ออกไปทันที วารินเดินตามหลังมาและนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามชายหนุ่มเงียบ ๆ
“เมื่อกี้ไรเดอร์โทรมาว่ากำลังเอาอาหารมาส่ง กูลืมสั่งน้ำมาด้วยเดี๋ยวกูกับไอ้โซนเดินไปซื้อน้ำที่โรงอาหาร” เทมป์เดินเข้ามาบอก และถ้าสังเกตดี ๆ จะรับรู้ถึงความไม่ปกติของเพื่อนทั้งสอง
“เดี๋ยวฉันไปช่วยถือ” วารินรีบเสนอตัวโดยเร็วเพื่อเอาตัวเองออกจากตรงนี้ จะแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม
“ไม่เป็นไรฉันถือสองคนกับไอ้โซนได้ แดดมันแรงเธอไม่ต้องเดินตากแดดไปหรอก” แต่ความหวังต้องพังทลายลงทันทีเมื่อโดนความหวังดีของเพื่อนตอบกลับมา
ใบหน้าเรียวเล็กแสดงอาการผิดหวังเล็กน้อย บรรยากาศกลับเข้าสู่โหมดอึมครึมอีกครั้ง วารินไม่รู้จะทำตัวยังไงจึงเอาแต่นั่งเงียบ จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นก็ไม่รู้จะดูอะไรเพราะเธอเป็นคนไม่เล่นโซเชียล
“ยัยไนร่าไปเข้าห้องน้ำถึงไหนป่านนี้ยังไม่มาอีก” เสียงเล็กบ่นพึมพำกับตัวเองสลับกับถอนหายใจ
ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นทางเดินมุ่งตรงมาทิศทางที่ทั้งสองนั่งอยู่
“ขอโทษนะคะชื่อเรย์ใช่ไหมคะ เราชอบนายขอไลน์ได้ไหมคะ” หญิงสาวหุ่นนางแบบใส่ชุดนักศึกษารัดรูปมุ่งตรงมายังชายหนุ่ม
“ส่งโทรศัพท์มา” มือหนายื่นไปรับโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดมากดอะไรสักอย่างก่อนจะส่งคืนให้ หากวารินเป็นคนช่างสังเกตหรือสนใจคนรอบข้างบ้างจะเห็นสายตาคมชำเลืองมองเธอเป็นระยะ ต่างจากหญิงสาวรูปร่างสวยเด่นที่เรย์ไม่แม้แต่จะมองหน้า
“ขอบคุณนะคะ ไว้จะทักไปนะคะ”
“เลขบัญชีที่ฉันขอเมื่อเช้าต้องใช้เวลาหานานขนาดนั้นเลยหรือไง ไม่ส่งมาให้สักที” เป็นเรย์ที่ทนนิ่งต่อไปไม่ไหวเอ่ยพูดขึ้นก่อน
“ไม่ต้องหรอกฉันบอกนายแล้วนี่ว่าเดี๋ยวจะทำให้ตอบแทนที่นายไปส่งฉันเมื่อวาน รายงานแค่ไม่กี่หน้าไม่ได้ยุ่งยากอะไร” วารินตอบกลับแต่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มมากนัก
“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำวาริน”
“เรย์ถ้านายไม่ชอบฉัน ฉันออกจากกลุ่มก็ได้นะ ฉันไม่อยากทำให้ทุกคนอึดอัด” วารินทนต่อไปไม่ไหวจึงตัดสินใจพูดออกมาตรง ๆ
“อย่าคิดเองเออเอง ถ้าฉันไม่ชอบฉันจะเสียเวลามาคุยกับเธอทำไม”
“แต่นายบอกฉันว่านายไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันตั้งแรกนี่”
“ก็หมายความว่าตามนั้น เข้าใจยากตรงไหน”
“นายจะเอายังไงกันแน่เรย์ ฉันงงไปหมดแล้ว”
บรื๊น..เอี๊ยด
“อาหารที่สั่งมาส่งแล้วครับ” ไรเดอร์มาส่งอาหารพอดี
“เฮ้อ!” วารินถอนหายใจเสียงดัง สุดท้ายเธอก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากชายหนุ่ม
“กำลังหิวพอดี ฉันนี่โชคดีจริง ๆ หิวปุ๊บอาหารก็มาส่งปั๊บ” ไนร่าเดินเข้ามาหลังจากหายไปเข้าห้องน้ำเกือบครึ่งชั่วโมง
“เธอหายไปไหนมาไนร่า ฉันนึกว่าเธอตกส้วมตายแล้ว” น้ำเสียงประชดประชันถามออกไปทันที แต่ไม่จริงจังนัก
“ฉันก็ไปเข้าห้องน้ำไง แต่บังเอิญว่าตอนออกจากห้องน้ำฉันเผลอเดินไปชนหนุ่มตาน้ำข้าวเลยหยุดขอโทษเขานานไปหน่อย ต้องตรวจดูว่าเขาบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ไนร่าตอบกลับน้ำเสียงไม่ยี่หระ ราวกับว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นเป็นเรื่องปกติ
“แค่เดินชนจะบาดเจ็บอะไรหนักหนา เธอนี่มันจริง ๆ เลย” วารินได้แต่ส่ายหัว
“พรหมลิขิตส่งหนุ่มหล่อมาให้ฉันแล้ว จะปล่อยหลุดมือไปง่าย ๆ ได้ไงล่ะ งื้อ ชีสยืด ๆ ยังร้อนอยู่เลย” เสียงแหลมตอบกลับพร้อมกินพิซซ่าไปด้วยอย่างคนอารมณ์ดี
“น้ำมาแล้วครับ คนต่อคิวยาวฉิบหายกูนึกว่าจะได้กินตอนห้าโมงเย็น” ใบหน้าหล่อเหลาที่มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นตรงหน้าผากเพราะเดินฝ่าแดดร้อนจัดมาจากโรงอาหาร
“นี่ทิชชู เช็ดเหงื่อหน่อย” ห่อกระดาษทิชชูห่อเล็กแบบพกพายื่นไปให้เทมป์และโซน
“ขอบใจนะริน”
ความสนิทสนมภายในกลุ่มเพิ่มขึ้นไวมาก เพราะทุกคนให้ความจริงใจซึ่งกันและกัน ความแตกต่างจากสังคมและการเลี้ยงดูไม่ได้เป็นอุปสรรคกับมิตรภาพของพวกเขา มีเพียงเรย์และวารินเท่านั้นที่บางครั้งยังมีเส้นบาง ๆ อะไรบางอย่างกั้นความสัมพันธ์อยู่
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปกับชีวิตในรั้วมหาลัย การเรียนเริ่มเข้าที่วารินจึงเริ่มหางานพิเศษทำเพิ่มจากที่รับติวออนไลน์ที่ทำอยู่แล้ว เพราะรายรับกับรายจ่ายเริ่มไม่สอดคล้องกัน เด็กเสิร์ฟร้านคาเฟ่เป็นอีกหนึ่งงานที่วารินสนใจเพราะสามารถเลือกเวลาทำงานได้
เช้าวันเสาร์ที่สดใสของหลายคนที่จะได้พักผ่อนหลังจากเรียนหรือทำงานมาทั้งสัปดาห์ แต่สำหรับหญิงสาวกลับเป็นวันที่เธอต้องออกไปดิ้นรนหางานทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง
ติ๊ง ต่อง
“พักใจคาเฟ่สวัสดีค่ะ” เสียงพนักงานกล่าวต้อนรับราวเครื่องบันทึกเสียงอัตโนมัติ
“ลูกค้ารับอะไรดีคะ”
“เอ่อ..คือฉันเห็นป้ายหน้าร้านบอกรับสมัครพนักงานเสิร์ฟ เลยจะมาสมัครน่ะค่ะ”
“อ้อ..มาสมัครงานเหรอคะ รอสักครู่นะเราเดินไปแจ้งเจ้าของร้านให้” หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตรเดินหายไปทางด้านหลังร้าน ไม่นานก็เดินกลับมา
“เธอนั่งรอตรงโต๊ะนั้นก่อนนะ จะกินอะไรเดี๋ยวเราทำให้”
“ไม่เป็นไรเรานั่งรอเฉย ๆ ก็ได้”
“ไม่เป็นไร พี่เก้าบอกว่าให้ทำเครื่องดื่มกับขนมให้เธอทานรอไปก่อน พี่เขาเช็กสต๊อกยังไม่เสร็จน่าจะอีกประมาณยี่สิบนาทีน่ะ ตกลงจะกินอะไร อะโวคาโดนมสดปั่นไหม”
“ได้จ้า ฉันขอไม่หวานนะ”
“ขอบคุณนะ เจ้าของร้านใจดีจังเธอก็ด้วย” วารินรู้สึกอบอุ่นตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้าน ยิ่งตอนนี้เธอยิ่งรู้สึกอบอุ่นที่เจอเพื่อนมนุษย์ที่ใจดีมีเมตตาแบบนี้
“นี่จ้ะ”
“ขอบคุณนะ”
“ยินดีจ้ะ ฉันจะได้มีเพื่อนแล้วทำงานคนเดียวมาตั้งนาน สงสารพี่เก้าทั้งเรียนหนักไหนจะรีบมาช่วยงานฉันที่ร้านอีก”
“ทำไมไม่มีคนมาสมัครเลยล่ะ ทั้งที่ร้านก็อยู่ใกล้มหาลัยขนาดนี้”
“มหาลัยนี้มีแต่ลูกคนรวยมาเรียนกันทั้งนั้น จะมีใครมาทำงานงก ๆ เหมือนเรากันล่ะ”
“ก็จริงนะ”
“ขอโทษนะครับ รอพี่นานไหม” หนุ่มหล่อสวมเสื้อยืดสีขาวมีผ้ากันเปื้อนสีดำผูกอยู่ที่เอวเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มมีเสน่ห์
“สวัสดีค่ะ” วารินยกมือไหว้หนุ่มหล่อที่อายุมากกว่าอย่างมีมารยาท
“ชื่ออะไรครับ สนใจอยากมาทำงานที่ร้านพี่ใช่ไหมครับ” เสียงทุ้มนุ่มอบอุ่นถามกลับ ทุกการเคลื่อนไหวของริมฝีปากดูมีเสน่ห์และอบอุ่นจนวารินตกอยู่ในภวังค์
“น้องครับ”
“คะ..เอ่อหนูชื่อวารินค่ะ เรียกรินเฉยๆ ก็ได้ค่ะ”
“ทำอะไรเป็นบ้างครับ ชงเครื่องดื่มเป็นไหม”
“ชงเป็นค่ะ หนูเคยทำงานที่ร้านคาเฟ่ตอนอยู่เชียงใหม่”
“เป็นคนเชียงใหม่เหรอครับ บ้านพี่ก็อยู่เชียงใหม่”
“ค่ะ”
“เจอคนบ้านเดียวกัน รินสะดวกเริ่มงานวันไหนครับ”
“เริ่มงานได้เลยค่ะ แล้วแต่พี่เก้าเลยว่าจะให้เริ่มวันไหน”
“ถ้างั้นเริ่มวันนี้เลย วันเสาร์ลูกค้าเยอะ อ้อ..ส่งตารางเรียนให้พี่ด้วยนะพี่จะได้จัดตารางทำงานให้เราถูก เรียนด้วยใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“ถ้างั้นก็เริ่มงานเลยครับ ส่วนงานที่ต้องทำก็เหมือนคาเฟ่ทั่วไป พี่ขอแอดไลน์หน่อยครับมีอะไรจะได้ติดต่อกันสะดวกขึ้น ค่าเหนื่อยพี่ให้เป็นรายชั่วโมงนะครับ มีอะไรจะถามเพิ่มเติมไหมครับ”
“ไม่มีค่ะ ขอบคุณพี่เก้ามากนะคะที่รับรินเข้าทำงาน”
“ยินดีครับ ขอให้สนุกกับการทำงานครับ พี่ขอเข้าไปอบเค้กเพิ่มก่อน หน้าร้านใกล้จะหมดแล้ว”