2
ปืนใหญ่ ก็ใหญ่สมตัวนะ ส่วนที่ 2
ปืนใหญ่ เล่าเรื่อง
(ต่อจากความเดิม)
ยามนั้นอะดรีนาลินผมโคตรจะพลุ่งพล่าน กระทั่งเกือบขับพ้นซอยโลกีย์ปันสุข สายตาอันคมกริบก็เห็นร้านขนาดสองคูหาที่เพิ่งเปิดใหม่ มีป้ายติดไว้ชนิดที่หากไม่เพ่งมองให้ดีก็คงไม่เห็น ที่บริเวณนี้เจ้าของเป็นผู้ดีเก่า ปกติไม่ค่อยเปิดให้ใครเช่า เพราะอยู่ใกล้กับโรงเรียนเด็กเล็กและห้องสมุดชุมชน ด้านหลังมีลานออกกำลังกายของคนทุกวัยกับสระบัวหลวง
“เชี่ย... ใช่แล้ว นี่ไง ร้านนี้”
ผมมองด้วยความสนใจ หลายวันแล้วไม่ได้ผ่านมาทางนี้ จึงไม่เห็นว่ามีคนมาเช่าอาคารพาณิชย์ และเปิดร้านขนมโคตรน่ารัก
เมื่อผมหาที่จอดรถมอเตอร์ไซค์แล้วก็รีบก้าวเร็วๆ ไปที่ร้านขนมแห่งนั้น กลิ่นสีที่เพิ่งทาเสร็จใหม่ลอยเข้าจมูก แต่กลิ่นที่ทำให้ผมใจสั่นรัวๆ ก็คือคนที่ก้าวออกมาจากหลังร้าน ผมต้องประหลาดใจ เมื่อครู่เขาเพิ่งไปส่งขนมร้านเฮียสอง สวมผ้ากันเปื้อนและมีหมวกด้วย ทำไมตอนนี้แปลงกายใส่เสื้อกล้าม อวดต้นแขนมีกล้ามเนื้อ แล้วผิวก็ขาว ไม่รู้จะขาวไปไหน แถมเวลาเขาออกแรงมันแต้มสีชมพูทั้งใบหน้า ลำคอ แล้วก็แผงหน้าอก!
ตอนนี้ผมเห็นเขาเต็มสองตา ดูเหมือนจะสูงกว่าผม อาจสักห้าถึงสิบเซนติเมตร อีกอย่างหน้าหวานเหมือนขนม จิ้มลิ้มฉิบหาย แต่ไม่ได้ดูนุ่มนิ่ม ติดจะแมน สเปกเลยละ ผู้ชายแบบนี้ผมอยากขยี้ให้แหลก!
เมื่อผมเดินไปอยู่ตรงหน้าร้าน เขาก็มองด้วยใบหน้าอมยิ้ม
“ขนมหมดแล้วครับ” เสียงเขาสูงๆ ต่ำๆ ฟังเพลินทีเดียว
“เอ่อ พอดีๆ อยากถามว่า มีจัดส่งแบบ พวกวันเกิดหรืองานจัดเลี้ยงไหม” ผมถามอีกฝ่าย เป็นตอนนั้นที่เขายิ้ม เชี่ย... ยิ้มเก่งมาก คนอะไร ยิ้มทั้งปากทั้งดวงตา เขี้ยวเล็กๆ นั่น แม่งเอ๊ย ขาวจั๊วะ!
“ร้านเพิ่งมาเปิดใหม่ รับออเดอร์เยอะๆ ยังไม่ได้มาก แต่ถ้าลูกค้าสนใจให้เรารับใช้ก็ยินดี ร้านเราทำตัวอย่างให้ชิมก่อนได้ แล้วอยากรับขนมแบบไหนเป็นพิเศษ”
ผมไม่ทันได้ตอบเขาหรอก มัวแต่มองหน้าขาวๆ ปากแดง กับแก้มพองๆ ของคนตรงหน้า
“สนใจขนมอะไรเป็นพิเศษไหม...” เขาถามย้ำ ดวงตาสีดำเป็นประกายวิบวับดูเจ้าชู้นิดๆ แต่ผมไม่สนใจ เพราะผมปราบมาหมดแล้ว ยิ่งน่ารัก ผมยิ่งจะรวบหัวรวบหางให้หมดในคำเดียว!
“ปืนใหญ่... ผมปืนใหญ่” ผมบอกชื่อตัวเองออกไปอย่างคนตื่นสนาม แม่งขายหน้าฉิบหาย และเขายิ้มกว้าง ท่าทีเขินอยู่หน่อยๆ ด้วยชื่อผม มันแจ้งชัดอยู่ในตัว คงไม่ต้องอธิบายเพิ่มนะว่าอะไรที่มันใหญ่หรือบิ๊กไซซ์!
“ยินดีที่ได้รู้จัก ว่าแต่สนใจขนมแบบไหนนะครับ”
ผมมองใบหน้าเขา ก่อนโพล่งออกไปอย่างหน้าด้านๆ ว่า “แบบคุณน่ะ น่ากิน ขาวๆ แน่นๆ เข้าปากปุ๊บละลายทันที”
พ่อค้าร้านขนมทำตาโตดูเหมือนตกใจคำพูดผม และผมใช้โอกาสนั้นถามเขา
“คือ คุณชื่ออะไรนะครับ” ผมไม่วายทอดสะพานอีกหน
“ลงเอย เรียกเอยก็ได้” เขาตอบและชี้ไปยังป้ายร้าน
“เอ่อ เอย... ปืนอยากเลี้ยงเพื่อนๆ สักหน่อย มีขนมที่ขาวๆ นุ่มๆ ให้ผมได้ลองกินสักสองสามอย่างไหม เอาแบบที่ไม่ต้องพิเศษมาก แต่อร่อยจนกินแล้วคิดถึงคนทำทั้งวันทั้งคืนเลย”
ลงเอยหัวเราะน้อยๆ เสียงเขาแม่งโคตรละมุน จากนั้นเขาก็ขยับเข้ามาหาผมอีกนิด กลิ่นฟีโรโมนของเขาลอยเข้าจมูกผม ที่หอมอยู่แล้วยิ่งชัดขึ้น จนสิ่งที่อยู่กลางลำตัวผมมันอยู่ไม่เป็นสุข เริ่มเกรี้ยวกราด และอีกไม่นานคงชี้หน้าเขาเป็นแน่
“ถ้ากินแล้วต้องอร่อยขนาดนั้น คิดว่าคงต้องเป็น... ผมแล้วมั้ง” ลงเอยเอ่ย และเขาคงไม่รู้ว่ากำลังท้าทายผมอยู่
โลกเหมือนจะหยุดหมุนในตอนนั้น นี่เราโคตรจะเข้ากันได้ดี มองตาปุ๊บก็ปิ๊งเลย เชี่ยสิบเต็มสิบ ไม่ต้องเสียเวลาคุยให้มาก วันนี้นัดดีลได้เลย!