มันช่าง(ห)ลงเอย

76.0K · จบแล้ว
เขมปัณณ์
58
บท
2.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ผมแอบแซ่บกับผู้ชายหน้าหวานใส่เสื้อช็อปต่างสถาบันและมีรอยสักมังกร! เรื่องเชี่ยเนี่ยควรจบแค่นั้นถ้าหากเขาไม่คิดตามกดผมทุกเวลาและสถานที่ ไอ้ฉิบหาย เกิดเป็นเสือทั้งทีใครจะยอมให้กระต่ายหื่นจ้องผสมพันธุ์ “อืม ปืนใหญ่เรียนช่างเหรอ” ดวงตาเขาเป็นประกายวาบขึ้น ได้ยินคำถามนั้น ผมก็รีบตอบ กลัวลงเอยจะมองว่าผมเป็นนักเลงหรือขาใหญ่ “อือฮึ เด็กช่างไม่ได้เถื่อนทุกคนนะ โดยเฉพาะผม แล้วก็โคตรจริงใจสัดๆ !” เขาอมยิ้มและเอ่ยว่า “ผมรู้ เพราะเรียนช่างเหมือนกัน แต่เป็นภาคเสาร์ – อาทิตย์” เป็นตอนนั้นที่ผมชะงักค้าง ก่อนที่หางตาจะหันไปเห็นเสื้อ ช็อปของลงเอย เชี่ย... เชี่ยสุดๆ เสื้อตัวนั้น มันเป็นของสถาบัน B ที่เมื่อสองเดือนก่อนผมไปเปรี้ยวตีนใส่ชุดใหญ่ และหวิดเกือบซวยต้องขึ้นโรงพัก!

นิยายYaoiนิยายรักนิยายปัจจุบันรักหวานๆโรงแรม/มหาลัยนักศึกษา

1

แนะนำตัวละคร

ปืนใหญ่ เตโช สลักฤดีกร เด็กช่างก่อสร้างหัวหน้าแก๊งในซอยโลกีย์ปันสุข

ลงเอย อาเหวิน หรือ เลิศพันธุ์ เธียรธาราทอง เจ้าของบริษัทแบล็ควูด

แดนไกล เด็กช่างยนต์ เขาเปรียบเสมือนตัวแทนเตโช รักเพื่อน ชอบความท้าทาย

อเนก เด็กช่างสถาปัตยกรรม หนุ่มติ๋ม ชอบทำเรื่องเปิ่นๆ

เจริญพร เด็กช่างศิลป์ผมยาว ถือเป็นช้างเผือกในแก๊ง ชอบเรื่องธรรมะ

ฉันทัช (ไฉ่ไฉ) หลานชายของเลิศพันธุ์ หน้าสวย หุ่นลีน นิสัยห้าว และดุดัน

เฮียสอง หนุ่มวัยสามสิบเศษเปิดซุ้มขายเครื่องดื่มในซอยโลกีย์ปันสุข ฉายาผัวกะเทย

แม่ตุ้ง (ตาทิพย์) มารดาเตโช เจ้าของหอพักนักศึกษาชาย รักลูกมาก

*************

ปืนใหญ่ ก็ใหญ่สมตัวนะ

ปืนใหญ่เล่าเรื่อง

อันที่จริง วันนี้มันไม่ได้มีเรื่องอะไรพิเศษ กระนั้นผมก็แต่งตัวหล่อจัด ฉีดน้ำหอมฟุ้งไปซึ่งเป็นเรื่องปกติ และผมกำลังโหยของหวานสัดๆ เลยตั้งใจแว้นออกไปซื้อโกโก้เย็นสูตรเข้มข้นที่มีบราวนีหนึบหนับวางด้านบน จากนั้นก็ราดด้วยซอสช็อกโกแลตกับอัลมอนด์บด ทั้งหมดมีอยู่ที่ร้านเฮียสอง ฝ่ายนั้นคือหนุ่มใต้หน้าคม ผิวสีอบเชย เขาแมนหัวจรดตีน ใบหน้าขรึมๆ ประดับด้วยหนวดเครา และเร้าใจคนทั้งซอยโลกีย์ปันสุข ซุ้มขายน้ำเขาอยู่ห่างจากหอพักเจ้ตุ้งแช่ที่ผมรับหน้าที่ดูแลราวๆ ห้าร้อยเมตร ซุ้มแห่งนี้ไม่มีชื่อร้าน คนเรียกติดปากว่า ร้านเฮียสองผัวกะเทย!

เมื่อไปถึงร้านเฮียสอง ผมก็ยืนเก๊กหล่ออวดให้ชาวบ้านดูผมทุกมุม เป็นตอนนั้นแหละที่ตัวผมต้องแข็งค้างอยู่เกือบหกสิบวินาที เมื่อเห็นคนตัวขาวจัด ปากแดงสดกับดวงตาคมกริบสีดำขลับ อีกฝ่ายถีบรถจักรยานของผู้หญิงสีชมพูแปร๋นมีกริ่งเสียงดังกรุ๋งกริ๋ง จอดรถเรียบร้อยก็เดินมาที่ร้านเฮียสองพร้อมตะกร้าใบใหญ่ ในนั้นมีกล่องเค้ก บราวนี รวมถึงอะไรอีกหลายอย่างซึ่งผมไม่รู้จักชื่อแต่โคตรชอบกิน เชี่ยละ ขนมว่าหน้าตาดีสุดตีน แต่คนถือมานั้นทำน้ำลายผมแทบจะไหลท่วมพื้นแถวนั้น

กลิ่นขนมลอยมาเตะจมูกผม แต่คงเบาบางกว่ากลิ่นฟีโรโมนของเขา หอมมากและฟินสุดๆ คนแบบนี้แหละที่ผมอยากยัดเยียดความเป็นผัวให้เขา!

แน่นอนเขาไม่ได้ทักผม แต่ยิ้มหวานให้เฮียสอง คนอะไร แค่ยิ้มโลกก็สั่นสะเทือนระดับ 9 ริกเตอร์!

จากนั้น ผมก็กลายเป็นหมาโง่ๆ ที่มองเขาตาค้าง

เชี่ย น่ารักเป็นบ้า มีเขี้ยวเล็กๆ ด้วย

เมื่อเขาจากไปแล้ว ผมก็ดึงสติตนกลับ ก่อนเอ่ยถามเฮียสองด้วยหัวใจที่เต้นรัวแรง

“โอ้ เฮียใครอะ สเปกปืนเลย อยากฉีดน้ำใส่ฉิบหาย!!”

ตอนนั้นท่าทางผมเพ้อเหมือนคนเมา ทำไงได้ตอนนี้หัวใจผมลอยไปอยู่กับเขาแล้ว

“เอ มันใช่หน้าที่มึงต้องสนใจไหม รีบไปเรียนได้แล้ว เดี๋ยวก็สาย” ที่เฮียสองดุขนาดนั้น เพราะเขาได้รับการไหว้วานจากแม่ ให้คอยสอดส่องสายตาดูผม และเฮียสองเป็นเด็กในแก๊งแม่ เห็นหน้าหนวด ตาคม แอบดุขนาดนี้ ทว่าเวลาทำบุญ เฮียสองเนี่ยทุ่มสุดตัว ทั้งยังชอบนุ่งขาวห่มขาวในวันพระด้วย

“โห ระดับผม เรียนทำไมให้ยุ่งยาก เป็นเสือนอนกินก็สบายไปทั้งชาติแล้ว” ผมหมายถึงการดูแลกิจการหอพักของแม่นั่นแหละ

“เออ ไอ้กล้วยหอม ไอ้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ถ้าอย่างนั้นก็อยู่หอเฉยๆ ไปเถอะ อย่าไปแย่งที่นั่งคนอื่นในโรงเรียนเลย”

เฮียสองเริ่มพูดไม่เข้าหูผมซะแล้ว แต่ผมไม่ถือหรอก ยังไงเฮียสองก็เป็นคนรู้จักของแม่ ซุ้มขายน้ำเนี่ยก็เช่าที่แม่ มันทำเงินเข้ากระเป๋าผมไม่น้อย ทำไมต้องหาทางตัดรายได้ตัวเองด้วย

“แล้วตัวหอมๆ ตะกี้ เขาเป็นใคร?” ผมยังไม่วายถามเซ้าซี้เฮียสอง

“มึงหมายถึง คนส่งขนมนิ”

ผมทำตาเยิ้ม เหมือนตอนนี้คนตัวขาวๆ ยังปรากฏอยู่หน้าร้านเฮียสอง

“อื้ม... น่ารัก ตัวงี้ขาววิงก์ ปากแดง ตาสีดำเหมือนมีน้ำกลิ้งอยู่ข้างใน”

เฮียสองหรี่ตามองผม หรี่มองแล้วก็ทำท่าขนลุก

“กูว่ามึงกลับไปใส่แว่นดีไหม ตะกี้ผู้ชายนะเว้ย ไม่ใช่น้องสาวให้มึงจิ๊จ๊ะหลอกเอากล้วยดำๆ ไปจิ้มจิ๊มิเขา!”

เมื่อถูกเฮียสองเอ่ยดักคอ ผมก็ดึงสติตนกลับคืนทันควัน ฉิบหายละ ความจะแตกไหม คนตัวขาวผิวอมชมพูเมื่อครู่ เขามีสามขาเหมือนผมนี่นา และผมไม่ควรหื่นใส่ผู้ชายโต้งๆ ให้คนอื่นเอาไปนินทา

“เอ่อ... ก็เห็นแปลกหน้ามาแถวนี้ ผมต้องถามสิ เกิดเป็นมิจฉาชีพ มิซวยเหรอ และในฐานะพลเมืองที่ดีเราต้องป้องกันไว้ก่อน ซอยโลกีย์ปันสุขจะได้ร่มเย็นเป็นสุข” ผมพูดเพ้อไปเรื่อยเปื่อย

เฮียสองส่ายหน้าระอา ก่อนเอ่ยว่า

“ฮ่าๆ ๆ กูว่า ที่ควรระวังให้มากก็คือมึงกับเดอะแก๊งไหมวะ วันๆ ไม่เล่นดนตรีเสียงดัง ก็เตะบอลไปถูกหน้าต่างชาวบ้านเขาให้น่ารำคาญ ที่เชี่ยสุดคือเมาหัวทิ่มอยู่หน้าปากซอย!”

“เอ่อ... วัยรุ่นน่ะเฮีย เลือดลมมันสูบฉีดเยอะ” ผมเอ่ยจบก็มองไปที่ขนมของคนน่ารักที่เพิ่งมาส่ง และเห็นชื่อร้านที่ติดเอาไว้

“ร้านขนมลงเอย”

ชื่อร้านน่ารัก คนขายก็น่าเอาเสาเข็มไปลงใส่ ผมมองขนมแล้วก็หยิบๆ ขึ้นมาสามสี่ถุง

“จ่ายสดนะเว้ยไอ้ปืนฉีดน้ำ ห้ามเซ็นเด็ดขาด...”

เฮียสองดักคอผมทันที มันทำให้ผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่เขา เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย ผมจึงไม่รอช้า ใจนั้นต้องหาเจ้าของร้านขนมหวานสุดน่ารักให้ได้อย่างเร็วไว