บท
ตั้งค่า

17 | เรียกร้องความสนใจ

กมลเนตรหัวพับหัวอ่อนเมื่อขึ้นมานั่งในรถได้ความอ่อนเพลียบวกกับฤทธิ์สุราทำให้เจ้าหล่อนต้องปรับเบาะและล้มตัวลงนอน ไม่มีการสนทนาใดๆ ทั้งสิ้นกับผู้ชายมาดแมนแฮนซั่มอย่างสิงห์ราชเลยสักคำ

“คออ่อนแล้วยังจะกินอีก”เสียงแผ่วเบาพูดออกมาเมื่อเห็นหญิงสาวหลับอุตุโดยที่เพิ่งขึ้นมาในรถแท้ๆ ทั้งนี้รถก็ยังไม่เคลื่อนตัวออกพ้นหน้าบ้านเลย แต่ดูเจ้าหล่อนสิหลับอย่างกับเด็กสิงห์ราชเมียงมองใบหน้างดงามที่หันมาทางเขาอย่างพินิจพิจารณา

ใบหน้าหล่อคมโน้มเข้าไปใกล้สังเกตใบหน้าเรียวที่ปราศจากริ้วรอยต่างๆ ขาวเนียนใสตามวัยแรกแย้มกลิ่นหอมอ่อนๆ เย้ายวนจนต้องก้มลงกดจมูกโด่งเข้ากับพวงแก้มใสที่ขึ้นสีแดงระเรื่อโดยที่สาวน้อยไม่รู้ว่ากำลังถูกขโมยหอมแก้ม

“หืม!!!”ร่างเล็กผลิกหนีสิ่งที่ก่อกวนการนอนของเธอโดยไม่รู้ว่ามันคืออะไร ความเย็นของเครื่องปรับอากาศในรถ ทำให้เจ้าตัวเคลิ้มหลับอย่างไม่รู้ตัว แต่เธอฝันว่าสิงห์ราชกำลังจ้องมองและกำลังจุมพิตแสนหวานอยู่เท่านั้น

มันเป็นฝันที่ชั่งไม่อยากจะตื่นจูบอันอ่อนโยนที่เธอไม่เคยได้รับมันมาก่อนมีแต่ความดิบเถื่อน โหด ห่าม รุนแรงเท่านั้นที่หญิงสาวได้รับ แต่เธอกลับไม่ทราบได้ว่านี่ไม่ใช่ความฝันสิงห์ราชกำลังพรหมจูบใบหน้างามอย่างหลงใหล

“ทำไมนะยัยหนู ยิ่งได้ใกล้หัวใจฉันมันยิ่งสั่น”สิงห์ราชพยามยามที่จะไม่สนใจหรือเก็บเอาไปคิด แต่ทุกครั้งที่ได้ใกล้หัวใจดวงแกร่งยิ่งสั่นเหมือนดั่งได้ยาหมอดีฉีดเข้าเส้นเลือด ใจแข็งดั่งหินผากลับกำลังถูกทำลายลงทีละนิดโดยที่เจ้าตัวเองไม่รู้ว่ามันจะมลายหายไปเมื่อใด

รถกระบะสีขาวจอดอยู่เนินเชิงเขาที่มองลงไปจะเห็นคนงานนับร้อยกำลังเด็ดใบชากันอย่างขะมักเขม้น ต้นชาที่ถูกเก็บก่อนจะแปรสำเร็จรูปโดยการหมักใบชาสดมาผึ่งแดด 20-30 นาที ทำให้อุณหภูมิของใบชานั้นสูงขึ้นจนเกิดกลิ่นหอมแล้วจึงนำไปผึ่งในร่มที่อีกครั้ง พร้อมกระตุ้นให้ยอดชาตื่นตัว เร่งการหมัก แล้วจังนำยอดชาที่หมักนั้นมาทำให้แห้ง ใส่แพ็ค บรรจุภัณฑ์และออกสู่ตลาด

“น้ำมนต์ตื่นได้แล้ว!”น้ำเสียงเข้มกระซิบที่ข้างหูบางกลิ่นหอมประจำตัวตีปั่นป่วนในโสตประสาทเขาไปหมด ก่อนจะงับเข้าด้วยความหมั่นเขี้ยวอย่างอดใจไว้ไม่อยู่

“อืม! จักกะจี้”

เสียงกระเง้ากระงอดดังจากลำคอเล็ก ไหล่บางหยักขึ้นเพื่อปัดความรำคาญก่อนจะรู้สึกเหมือนมีอะไรเปียกชื้นในหูบาง เปลือกตาสวยปรือขึ้นมองด้านข้างลำตัวของตนและต้องตกใจเมื่อคนที่กำลังเย้าแหย่หูของเธอนั้นคือสิงห์ราช

“กรี๊ด! พี่สิงห์ทำอะไรคะ”

“ทำอะไรฉันไม่ได้ทำ”

ตื่นง่ายจังว่ะ!!!!

“ก็มนต์เห็นอยู่อ่ะ!”กมลเนตรเอียงหน้าสวยมองอย่างเค้นหาคำตอบแต่ดูพ่อประคุณตีหน้ามึน เบื่อคนปากแข็งทำก็บอกว่าทำสิจะเถียงทำไม จะเล่นแบบนี้ใช่ไหมได้น้ำมนต์คนสวยจัดให้

“อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนี้นะ”

เขาเค้นเสียงดุใส่ก็ดูเจ้าหล่อนทำสิสายตาหวานเชื่อมรอยยิ้มบางผุดขึ้นอย่างเชิญชวน แบบนี้มันยิ้มหวานตาอ่อยชัดๆ

“ยังไงค่ะแบบนี้นะหรอ”ตีหน้าซื่อสื่อความนัยให้คนตรงหน้าอย่างปั่นประสาทสิงห์ราช จนชายหนุ่มต้องเปิดประตูออกจากรถไปเพราะถ้าเป็นนี้อีกเสี้ยววินาทีมีหวังจับเจ้าหล่อนระเริงรักในรถจนไม่เป็นอันทำงานกันพอดี

ปัง!!!!

“อุ๊บ! สิงห์ไม่สู้อิอิ”

เสียงปิดประตูรถดังลั่นกมลเนตรมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินจากไปไกล เธอหัวเราะคิกคักให้กับความสำเร็จของตัวเองอย่างผู้มีชัยแต่ถ้ายั่วแบบนี้ไปนานๆ มีหวังร่างกายเปราะบางคงรับไว้ไม่ไหวแน่ๆ

หญิงสาวลงจากรถเดินตามร่างสูงไปอย่างรวดเร็วเธอต้องเรียนรู้การเก็บใบชาและเมื่อเข้าประชิดตัวสิงห์ราช ที่กำลังคุยกับผู้หญิงวัยกลางคนงานที่สะพายตะกร้าเก็บชาด้านหลังบ่งบอกว่าคนเก็บชานั้นเอง

“แม่ญิ๋งเปิ้นเป๋นคนงานใหม่ชื่อน้ำมนต์ฝากต้วยเน๋อ”

สิงห์ราชแนะนำหญิงสาวข้างกายให้บัวตองคนงานที่มีความรู้เกี่ยวกับการเก็บชาและน่าไว้ใจที่สุดสำหรับเขาให้ได้รู้จัก สายตาคมเสมองสาวน้อยข้างๆ ที่ทำหน้าเปื้อนยิ้มอ่อนหวานไม่พูดไม่จาอะไร

“เจ้า! ป้อเลี้ยง คุณน้ำมนต์งามปะล่ำปะเหลืองามแต้ๆ”

บัวตองเอ่ยชมจากใจจริงเมื่อเห็นหญิงสาวที่มากับเจ้านายตน คนนี้สวยๆ มากตัวเล็กผิวขาวราวน้ำนมและใบหน้ายิ้มหวานละไมจนคนมองต้องเผลอยิ้มตามไปด้วย พลันสายตาเจ้ากรรมดันไปสะดุดกับรอยแดงจ้ำตามลำคอหงอย่างไม่ได้ตั้งใจไม่ต้องบอกก็รู้สวยแบบนี้เสร็จสิงห์นักรักชัวร์

“อืม! ฮู้กลางกับเปิ้นเน๋อฟังคำเมืองบ่ฮู้งามแต่ง่าว”

ทำไมทุกคนต้องมองเจ้าหล่อนสายตาแบบนี้ด้วยมันทำให้เขาหงุดหงิดยังไงไม่รู้ ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงเขาก็ไม่ชอบให้ใครชื่นชมความสวยของเธอทั้งนั้นจึงชอบพูดจาทำร้ายจิตใจคนตัวเล็ก

“ไม่ต้องมาว่าคะ พูดไม่เป็นแต่ฟังรู้เรื่อง”

กมลเนตรพูดอย่างแง่งอนเขาคิดว่าเธอโง่ขนาดนั้นเลยหรอรู้จักน้ำมนต์น้อยไป ถึงจะพูดภาษาฝรั่ง อังกฤษ แต่ไม่เคยลืมบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองหรอกเธออาจจะติดหรูไปหน่อยแต่ภาษาคำเมืองของแต่ละภาครู้ไว้

ชิบ! ฟังรู้เรื่องด้วย

“เอ่อ! เอาเป๋นว่าบัวตองจะดูแลอย่างดีเจ้า”สาววัยกลางเอ่ยแทรกเมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มไม่ดี จึงเสียมารยาทตัดบทสนทนาทั้งหมด โดยที่พ่อเลี้ยงสิงห์และสาวน้อยคนนี้ต่างเมินหน้าใส่กัน ลิ้นกับฟันเธอเข้าใจแต่พอนานๆ ไปเดี๋ยวก็ห่วงใยใคร่ครวญหากันร่ำไป

“ไปค่ะมนต์พร้อมแล้ว อยู่กับคนไม่มีหัวใจอึดอัด”ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังสะบัดก้นงามงอนให้คนตัวโตและจากไปโดยที่สิงห์ราชไม่ทันได้เอ่ยเอือนคัดค้านอะไร

“ว่าฉันไม่มีหัวใจงั้นหรอ”คนถูกว่าถึงกับเข่นเคี้ยวเขี้ยวฟันคาดโทษร่างบางที่เดินจากไปโดยมีบัวตองเดินตามไปด้วย หัวใจดวงแกร่งเต้นระส่ำเดือดพล่านอย่างบอกไม่ถูกอยากจับคนพูดมากมาตีก้นเสียให้แดง

-11.30-

แดดยามสายบวกกับอากาศที่หนาวเหน็บทำให้หมอกขึ้นตามเชิงเขาสวยงามดั่งธรรมชาติรังสวรรค์ขึ้นมา กมลเนตรที่เดินเก็บใบชาใส่ตะกร้าที่สองอย่างไม่บ่นสักคำจะให้ยังไงล่ะอยากได้ใจสิงห์ต้องอดทน

“แม่เลี้ยงเอ่ยคุณน้ำมนต์ไปกินข้าวเถอะเจ้า”

บัวตองที่ยืนอยู่เคียงคนตัวเล็กเอ่ยชวนและพลั้งเผลอเรียกหญิงสาวอย่างลืมตัว เมื่อดูนาฬิการาคาถูกที่ข้อมือตัวเองเวลานี้เป็นเวลาพักแล้วและพอบ่ายเธอต้องขนชาไปตากแดดอีก

“ได้เวลาพักแล้วหรอ”กมลเนตรถามพร้อมกับเก็บใบชาไปเรื่อยๆ

“เจ้า! คุณน้ำมนต์ได้ห่อข้าวมาไหม”คำพูดของบัวตองทำให้หญิงสาวหยุดชะงัก จริงสิแล้วเธอจะกินข้าวที่ไหน เมื่อวานเข้าไปในตัวเมืองกับสิงห์ราชแต่วันนี้หายไปไหนตั้งแต่เช้ามาปล่อยทิ้งแล้วก็หนีไป

ชิ! ใช่สิมนต์ไม่สำคัญนิ

“คือ...มนต์ไม่ได้เอามาค่ะ”

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวบัวตองให้ลูกชายเอามาให้ไปกันเถอะเจ้า”รอยยิ้มจากปากบางฉีกขึ้นให้ป้าบัวตอง อย่างน้อยก็มีคนมีน้ำใจอยู่บ้างไม่ใจจืดใจดำเหมือนใครบางคนที่เธอคิดถึงแต่เขาตลอดเวลาหรอก

สิงห์ราชที่กำลังมองทางข้างหน้าอย่างใจจดใจจ่อเท้าก็เหยียบคันเร่งเกือบจมอยู่กับพื้นรถ ชายหนุ่มเข้าไปในตัวเมืองสั่งกับข้าวร้านคำเมืองมาให้กมลเนตรเพราะว่าคนงานในไร่ของเขาจะห่อข้าวกันมากินเองแต่หญิงสาวกลับไม่มีอะไรติดตัวมาเลยนอกจากโทรศัพท์

สิบนาทีหลังจากเข้ามาในตัวไร่เดชาบดินทร์อาณาจักรคุ้มสิงห์ราชแล้วก็ตรงเข้ามาไร่ชาอู่หลงทันที มือหนาปลดสายเบลล์ออกเอื้อมหยิบปิ่นโตที่อยู่เบาะหลังและเปิดประตูลงจากรถสายตาสาดส่องหาร่างบางแต่กลับไม่พบ

“อยู่ไหนวะยัยหนู!”ชายหนุ่มบ่นพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะมองหาคนตัวเล็กอีกครั้งและออร่าความขาวที่คุ้นเคยก็ปรากฏในระยะสองเมตร นั่งอยู่ใต้ร่มไม้กับคนงานสามสี่คนและมีแต่ผู้ชายทั้งหมด

“เวรเอ้ย!”ร่างสูงย่างสุมก้าวฉับอย่างมุ่งมั่นในใจประทุไปด้วยแรงหึงหวง เดี๋ยวเถอะแม่ตัวดีเมื่อวานไม่เข็ดใช่ไหมวันนี้พ่อจะจับกระแทกให้แหก แต่เมื่อเกือบเข้าใกล้ร่างบางเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“อ้าวป้อเลี้ยงมาแต้ใด๋เจ้า”บัวตองที่เพิ่งเดินไปเอาน้ำมาให้กมลเนตรเอ่ยถาม เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินอย่างเร่งรีบในมือถือปิ่นโตลายน่ารักมา

“ปิ่นโตคุณน้ำมนต์ใช่ก่อ”

“ปล่อยให้ยัยนั้นอยู่กับผู้ชายได้ไง”เขาไม่ตอบคำถามแต่กลับยิงคำถามใส่สาววัยกลางด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับเอาเสียเลยตอนนี้ จนบัวตองไม่อยากตอบเพราะสายตาของสิงห์ราชที่มองมา

“บัวตองฉันถาม!”

“คือคุณมนต์อยากกิ๋นข้าวขนาด เปิ้นเลยบอกไอ้ดินไปเอาข้าวมาฮื้อคุณมนต์แล้วน้ำมันเหมิ๋ดเปิ้นเล้ยปิ๊กเอา”

“.....”เมื่อได้ยินคำตอบของบัวตองเขาถึงกับโล่งใจอย่างน้อยก็ไม่ได้ทิ้งยัยหนูของเขาไปไหน สิงห์ราชจึงลดแรงโทสะลงก้าวเท้าเดินเข้าประชิดตัวคนตัวเล็กที่นั่งหันข้างอย่างมั่นคง สายตาคนงานผู้ชายเมื่อเห็นเขาถึงกับเงียบไม่ปริปากพูดอะไรทั้งที่เมื่อกี้เห็นคุยหัวเราะคิกคักกันเสียงดัง

“อ้าว! พี่สิงห์”เมื่อทุกคนเงียบและมองเป็นตาเดียวกันนั้นทำให้เธอมองหาสาเหตุสุดท้ายไม่ใช่ใครที่ไหนพี่สิงห์ราชคนที่เธอรักหมดใจนี่เอง

“มาทำอะไรแล้วนั้นปิ่นโตใครคะ”

“เอ่อ...ฉันบังเอิญผ่านมาเลยเอาข้าวมาให้”พ่อคนปากแข็งถึงกับอึกอักไม่เป็นตัวของตัวเอง ก่อนจะบอกออกไปเอามาให้น่ะจริงแต่บังเอิญผ่านมาไม่ใช่เลยสักนิดเขาตั้งใจจะมา

“นี่ก็กำลังกินอร่อยนิ คงไม่ต้องการมันหรอกใช่ไหมฉันไปล่ะ”

ปึง!

“อุ้ย! ซุ่มซ่ามจัง”เมื่อเห็นชายหนุ่มพูดเชิงตัดพ้อคนสวยถึงกับใจอ่อนมือเล็กพลางสะดกข้าวที่อยู่ในจานจนหกลงพื้นหญ้าเขียวขจีด้วยความตั้งใจ เมื่อเห็นสิงห์ราชหมุนตัวกลับหลังและเตรียมจะไปจากตรงนี้

หึ! ร้ายนะยัยหนูเก็ทบี้

ชายหนุ่มคิดอย่างกระหนิมในใจเสแสร้งไม่มีใครเกินเลยจริงๆ แต่เขาก็ยังพยายามไม่หันกลับไป อย่าเสียรู้ผู้หญิงร้อยมารยาอย่างกมลเนตรเด็ดขาด

“ดะ...เดี๋ยวสิคะ”เมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างกำลังจะจากไปจึงเรียกแต่ชายหนุ่มไม่ได้หันกลับมามองเธอแม้แต่น้อย

“บัวตองบอกน้ำมนต์ด้วยว่ากินข้าวเสร็จให้ไปล้างคอกหมู อ๊ะ! ฝากเอาข้าวไปให้เธอหน่อย”เรียกร้องความสนใจจากเขาหรอ บอกเลยว่ายากแต่ถ้าอยู่กันสองคนแล้วทำตัวน่ารักน่าใคร่ให้สนใจค่อยว่าไปอย่าง

“เจ้า! ป้อเลี้ยง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel