ตอนที่ 5 รักร้าย..ใจร้าว
ชญานันท์ยืนอยู่หน้ากระจกเพื่อตรวจสอบความพร้อมกับตนเอง เธอเลือกที่จะใส่กางเกงยีนกับเสื้อเชิ้ตเข้ารูปเพราะมันทำให้เธอเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วดี เมื่อคืนหลังอาหารมื้อเย็น ชีคกาเลนบอกว่าจะพาพวกเธอเข้าไปในเมืองเพื่อเที่ยวชมตลาด เขาบอกว่ามีการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าต่างๆมากมายทั้งของกินและของใช้
เมื่อเห็นว่าตัวเองแต่งตัวเรียบร้อยดีแล้ว ก็เดินกลับไปที่เตียงอีกครั้งก่อนจะคว้ากล้องคู่ใจขึ้นมาสะพาย
“เผื่อได้ภาพสวยๆ จะได้เอาไปใส่รวมไว้ในคอลัมน์บทสัมภาษณ์” หญิงสาวบอกกับตัวเองแล้วเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดมันออก แต่แล้วเท้าที่กำลังจะก้าวเดินออกไปก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมีร่างบางของหญิงสาวในชุดยาวกรอมเท้าสีขาว ผ่าด้านข้างทั้งสองข้างและด้านในมีกางเกงขายาวผ้าบางสวมเอาไว้ มายืนขวางหน้าเธออยู่ ดวงตากลมโตมองเธออย่างไม่พอใจ ชญานันท์คลี่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ผู้หญิงคนนี้สวยมาก ใบหน้าเรียว จมูกโด่ง ผมยาวตรงถึงกลางหลัง ถ้าหญิงสาวคนนี้จะยิ้มสักนิดใบหน้าหวานคงหน้ามองยิ่งกว่านี้
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ชญานันท์ถามออกไปเป็นภาษาอังกฤษ เธอไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะฟังหรือพูดได้บ้างหรือเปล่า แต่สิ่งที่หญิงสาวได้รับกลับมาก็คือการเงียบ
“ถ้าไม่มีอะไร ฉันขอทางหน่อยนะคะ จะรีบไป” หญิงสาวยังยิ้มให้อีกฝ่าย แล้วเลิกคิ้วมอง แต่อีกฝ่ายก็ยังยืนนิ่ง ทำให้ชญานันท์คิดว่าเธอคงฟังภาษาอังกฤษไม่ออก หญิงสาวจึงเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงออกมาแล้วปิดประตูห้องก่อนจะเดินจากไป แต่พอหญิงสาวก้าวไปได้เพียง 1 ก้าว เสียงทางด้านหลังก็ดังขึ้น
“เดี๋ยวก่อน” ภาษาอังกฤษที่พูดออกมาฟังราวกับเจ้าของภาษา ชญานันท์จึงหันมามองด้วยแววตาสงสัย ก็เมื่อครู่เธอถามเป็นภาษาอังกฤษแท้ๆแต่หญิงสาวตรงหน้าก็ไม่ตอบสักคำ มันยังไงกันแน่เนี่ย หรือว่าเธอคนนี้ต้องการจะมาหาเรื่องเธอ แล้วเธอคนนี้เป็นใคร? คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน
“อย่าได้คิดยุ่งกับนายท่านของฉันเป็นอันขาด” ซาฮาเดินเข้ามายืนจ้องหน้าหญิงสาวต่างถิ่นนิ่ง
“นายท่าน...นายท่านของเธอ ใครกัน” ชญานันท์ยิ่งงงเป็น 2 เท่า นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันอีก ผู้หญิงคนนี้มาประกาศอะไรกับเธอ งงจริงๆ
“อย่าทำเป็นดัดจริตไม่รู้เรื่อง ฉันมองแววตาเธอก็รู้แล้ว” ซาฮามองตาขวางด้วยความโกรธ
ใบหน้าของชญานันท์บึ้งตึงขึ้นทันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายกล่าวหาแบบนั้นและเธอคิดว่านายท่านของหญิงสาวผู้นี้ก็น่าจะเป็นคนเดียวกันกับเจ้าของบ้านหลังนี้แน่ๆ
“เธอเป็นใครไม่ทราบ แล้วก็ไม่รู้ว่าเธอจะมาประกาศความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผู้ชายแบบเนี่ยกับฉันทำไม ฉันไม่สนใจผู้ชายที่นี่หรอกนะ รวมทั้งนายท่านของเธอด้วย ฉันมาทำงานพอเสร็จแล้วฉันก็จะกลับ แล้วที่เธอมายืนขวางหน้าฉันแล้วต่อว่าฉันอยู่เนี่ย ถ้านายท่านเธอรู้ก็คงไม่พอใจอย่างแน่นอน” หญิงสาวยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมกับยักคิ้วให้อีกฝ่าย
ซาฮามองหน้าหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน แต่พอเธอจะอ้าปากพูดก็ต้องมีอันนิ่งเงียบไปเพราะว่าร่างสูงที่เดินตรงเข้ามา
“มีอะไรซาฮา” เสียงที่แสดงถึงความเป็นใหญ่ดังขึ้นเบื้องหลังของชญานันท์ หญิงสาวจึงหันมามองเพราะไม่เข้าใจภาษาถิ่นที่เขาพูด
“ปะ...เปล่าค่ะนายท่าน ฉันแค่จะขึ้นมาดูว่าคุณเขาต้องการอะไรอีกหรือเปล่า” ซาฮาบอกแล้วถอยหลังก้มหน้าออกมา 2 ก้าว
“แล้วคุณเตรียมพร้อมหรือยัง” กาเลนหันมาหาชญานันท์ วันนี้เธอสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มสวมกางเกงยีนกับเสื้อยืดสีดำและสวมทับด้วยเสื้อยีนสีเดียวกัน ทำให้ร่างสูงของเขาดูสง่ามากขึ้น
“พร้อมแล้วค่ะ แล้วเพื่อนๆของฉันล่ะคะเสร็จกันหรือยัง” เธอถามเขาเสียงเรียบ
“พร้อมแล้ว และก็ไปแล้วด้วย”
“อะไรนะ!” หญิงสาวอุทานเสียงสูง อีกฝ่ายทำหน้าเบ้แล้วเอามือเขี่ยที่หูของตนเอง
“เบาๆก็ได้ เดี๋ยวหูผมก็แตกพอดี”
“แตกได้ก็ดี แล้วทำไมพวกนั้นไม่รอฉันด้วยล่ะ? แล้วคุณมายืนทำอะไรที่นี่? เพื่อนของฉันไปกับใคร?” เธอถามออกมาเป็นชุด
กาเลนหันไปมองซาฮาที่ยืนนิ่งอยู่ก่อนจะบอกออกมา “ไปได้แล้วซาฮา หมดธุระของเธอแล้ว”
“ค่ะ นายท่าน” ซาฮากัดฟันแน่นก่อนจะหมุนตัวเดินออกมา
ชญานันท์หันไปมองหญิงสาวแล้วหันกลับมามองชายหนุ่มตรงหน้าตาเขียว มือทั้งสองข้างกอดอกอย่างรอคำตอบ
“ว่าไงค่ะ มันเรื่องอะไรกัน เพื่อนของฉันถึงไปก่อนได้ นี่ก็ยังไม่ถึงเวลาที่นัดกันไว้เลย”
“ผมเห็นพวกเขาตื่นเต้นกันมากที่จะได้เห็นตลาดคูลฮาร์นก็เลยให้ไปก่อน แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก
ฮิสมากับโซฮันดูแลพวกเขาอยู่แล้ว เพื่อนของคุณจะปลอดภัย และที่ผมยังไม่ไปก็เพราะรอคุณอยู่ ถ้าคุณเสร็จแล้วเราก็ไปกันได้แล้ว” เขาบอกพร้อมกับหันหลังก้าวเดิน
“ใครบอกว่าฉันจะไป”
กาเลนหยุดเดินทันทีแล้วหันมามองหน้าหญิงสาว ก่อนจะเดินย้อนกลับมา มุมปากของเขาเผยอยิ้มขึ้น
“ผมนี่ไงที่บอก” เขาย้อนแบบกวนๆ
“คุณบอก คุณก็ไปเองสิ ฉันไม่ได้บอกว่าจะไปกับคุณ ในเมื่อเพื่อนของฉันไปแล้ว ฉันก็ไม่ไป” ชญานันท์บอกแล้วเชิดหน้าขึ้นก่อนจะหมุนตัวเดินไปที่ประตูห้อง
“นั้นคุณจะไปไหน?” คิ้วหนาเริ่มขมวด
“ก็กลับเข้าห้องไปนอนต่อ แค่นี้ไม่น่าจะโง่เลยนะคะ” หญิงสาวบอกแล้วเปิดประตูออก แต่ก็ยังไม่ทันจะก้าวเข้าห้อง แขนเรียวก็ถูกยึดเอาไว้ด้วยมือหนาของเขา
ชญานันท์สะบัดแขนออกแล้วถอยกรูดไปอีกทาง มองเขาไม่วางตาและตั้งท่าจะเอาตัวรอดทันที ถ้าอีกฝ่ายทำอะไรที่ไม่ดีต่อตัวเธอ
“คุณจะทำอะไร?” แววตาเอาเรื่องของหญิงสาวทำให้อารมณ์ของกาเลนดีขึ้นมาได้อย่างประหลาด
“เปล่า หรือคุณคิดว่าผมจะทำอะไรคุณ” เขาตอบอย่างคนอารมณ์ดี แล้วพูดต่อ “ไม่ต้องกลัวหรอก ผมไม่ใช่พวกโจรบ้ากามในทะเลทรายที่เห็นผู้หญิงไม่ได้ ผมแค่ต้องการจะหยุดคุณ”
“หยุดทำไม ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ไปแล้ว” เธอมองเขาด้วยสีหน้าเครียดขึ้น
“แต่ผมว่าคุณจะต้องไป หรือถ้าไม่ไปคุณกับผมก็ต้องอยู่ที่นี่กันสองคน คุณเลือกเอาว่าจะเลือกแบบไหน” กาเลนมองจ้องหญิงสาวเขม็ง ชญานันท์ร้อนไปทั้งหน้า ภาพตอนบ่ายเมื่อวานผุดขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าสวยก้มหน้าลงนิดหนึ่งอย่างใช่ความคิดก่อนจะตัดสินใจออกมา
“ไปก็ได้” หญิงสาวกระแทกเสียงตอบก่อนจะเดินกระแทกเท้านำหน้าชายหนุ่มไป การที่ไปอยู่กลางที่ชุมชนอาจจะดีกว่าที่จะต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้ตามลำพังกับเขาก็ได้ เมื่อบ่ายวานเขาก็ประกาศศึกกับเธอออกมาแล้วนี่นา ยังไงเธอก็ต้องอยู่ห่างๆจากผู้ชายอย่างเขาเอาไว้ก่อนเป็นดีที่สุด กาเลนมองตามแผ่นหลังบางไปก่อนจะยิ้มที่มุมปากแล้วเดินตามหญิงสาวไป
ชญานันท์นั่งหันหน้าออกมามองข้างทางอย่างไม่ยอมหันสนใจผู้ที่นั่งมาด้วยและทำหน้าที่เป็นคนขับ แม้ว่าเขาจะชวนเธอคุยเป็นระยะๆก็ตาม
“คุณชอบถ่ายรูปเหรอ” กาเลนหันมามองเธอแวบหนึ่งแล้วหันไปมองข้างหน้าตามเดิม
“เป็นหน้าที่มากกว่า ฉันชอบทำหน้าที่ถ่ายภาพ ไม่ถนัดพวกเนื้อหา น่าเบื่อ” ชญานันท์ตอบอย่างไม่ยอมหันมามองหน้าเขา
หญิงสาวหันขวับมามองเขาทันที ก่อนจะค้อนให้วงใหญ่ แล้วพูดกระแทกเสียงใส่อย่างประชด “ฉันยังไม่มีแฟนย่ะ พวกผู้ชายน่ารำคาญจะตายไป”
กาเลนลอบอมยิ้มอย่างพอใจในคำตอบของหญิงสาว เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะดีใจไปทำไม
“คุณรู้จักผู้ชายดีทุกคนเลยหรือไงถึงได้บอกว่าผู้ชายน่ารำคาญ” สายตาของเขามองตรงไปที่ถนนเบื้องหน้า
“ก็ไม่ แต่ฉันก็ไม่อยากรู้จักให้ลึกซึ้ง” เธอตอบแบบไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะคิดยังไง แต่ที่รู้ๆก็คือเวลาเธออยู่ใกล้เขานานๆแล้วหัวใจมันรู้สึกวูบวาบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอจึงเริ่มอึกอัดกับสายตาและคำพูดของเขา อยากจะให้ถึงจุดหมายเร็วๆเสียจริงๆ
“ผิดกับผมนะ ถ้าผมสนใจอะไรแล้ว ผมก็จะศึกษาให้ลึกซึ้งและไขว่คว้ามันเอามาเก็บเอาไว้ให้ได้ ยิ่งยากผมยิ่งชอบ”
“คงเป็นคติของพวกคนรวยอย่างคุณซินะ ที่ต้องการอะไรแล้วก็ต้องได้” เธอบอกเหมือนจะเยาะๆ
“ผมเรียกมันว่าการท้าทายมากกว่า” กาเลนตอบแล้วยิ้มให้หญิงสาว ชญานันท์รีบเบนหน้าหนีกับรอยยิ้มที่ได้รับ ‘จะยิ้มทำไมแบบนั้น’ หญิงสาวลอบคิดในใจ
“ใกล้ถึงหรือยัง?” เธอไม่อยากอยู่กับเขานานไปกว่านี้แล้ว
“ใกล้แล้วล่ะ แต่ผมอยากพาคุณไปที่ๆหนึ่งก่อน ผมเชื่อว่าคุณจะต้องชอบและอาจจะได้ภาพสวยๆติดมาด้วยก็ได้”
“แต่ฉัน..” หญิงสาวทำท่าจะค้าน แต่อีกฝ่ายก็รีบพูดขัดขึ้น
“ห้ามปฏิเสธเพราะผมเป็นคนขับ แล้วถ้าคุณจะโดดจากรถลงไปเหมือนกับในหนังก็ตามใจ เสียโฉมก็ห้ามมาโทษกัน” กาเลนบอกอย่างไม่สนใจแล้วเพิ่มความเร็วของรถขึ้นอีก
“จะบ้าหรือไง เบาๆก็ได้ เร็วเกินไปแล้ว” เธอบอกอย่างกลัวๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมลดความเร็วลง หญิงสาวจึงได้แต่นั่งนิ่งแล้วภาวนาในใจ จนกระทั่งรถวิ่งออกมานอกเมืองแล้วมาชะลอความเร็วลงตรงหลังกำแพงหินสูงใหญ่ที่มีประตูเหล็กบานใหญ่ปิดเอาไว้ พร้อมกับมีทหารสองนายยืนเฝ้าประตูอยู่
“ที่นี่ที่ไหน แล้วคุณพาฉันมาที่นี่ทำไม?” คำถามของหญิงสาวไร้ซึ่งคำตอบ กาเลนไม่พูดอะไรได้แต่ขับเคลื่อนรถเข้าไปใกล้ๆ ชญานันท์สังเกตเห็นว่าทหารทั้งสองโค้งให้เขาแล้วรีบไปเปิดประตูให้เขาเคลื่อนรถเข้าไปด้านใน และเมื่อรถเคลื่อนผ่านประตูเหล็กเข้ามา หญิงสาวก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง พันธุ์ไม้ขนาดใหญ่ที่ยืนต้นสูง แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมไปทั่วทำให้อากาศด้านในร่มรื่นและเย็นชื่นใจ ดอกไม้หลากหลายสีปลูกเรียงรายอยู่ท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียว และพอผ่านดงดอกไม้มาก็มีบ้านตึกหลังเล็กๆสีงาช้างตั้งเรียงกันอยู่ 3 หลัง ด้านหลังของบ้านเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่มีต้นไม้เตี้ยๆปลูกเอาไว้โดยรอบ สลับกับไม้ดอกสีสดสวย ดูแล้วเหมือนกับภาพวาดที่เธอซื้อเอามาติดไว้ที่ข้างฝาพนังห้องเสียจริงๆ
กาเลนหันมามองหญิงสาวก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา เขาอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมถึงอยากพาเธอมาที่นี่นัก
“คุณชอบหรือเปล่า?” ชายหนุ่มถามขึ้นขณะนำรถมาจอดลงที่หน้าบ้านหลังสุดท้าย
“ก็..ก็สวยดี” ชญานันท์หันมาตอบเหมือนกับแค่นๆตอบ ก่อนจะหันกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง แล้วก้าวลงไปยืนดูอย่างชื่นชอบ เธอรีบสาวเท้าเดินตรงไปยังทะเลสาบที่อยู่ด้านหลังบ้านทันที กาเลนก้าวตามลงมา เดินเอามือล้วงกระเป๋าตามหลังหญิงสาวไป
“คุณเป็นเจ้าของที่นี่หรือ ดูท่าทางทหารพวกนั้นจะเคารพคุณมาก” เธอถามพร้อมกับยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพวิวสวยๆเอาไว้อย่างสนใจ
“ก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าผมพาคุณเข้ามาได้ก็แล้วกัน” กาเลนเดินขึ้นมายืนเคียงข้างกับหญิงสาว
“ฮึ ฮึ ใหญ่โตไม่ใช่เล่นเลยนะ” ชญานันท์หัวเราะในลำคอ
“เชื่อไหมล่ะว่าผมสั่งฆ่าคุณได้ โดยที่ผมไม่มีความผิด”
หญิงสาวละสายตามาจากเลนส์กล้องแล้วหันมามองหน้าชายหนุ่มอย่างประเมินค่า ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น
“ในประเทศนี้ ประเทศของคุณคุณย่อมทำได้อยู่แล้ว แต่อย่าลืมนะว่าประเทศฉันก็ไม่ยอมวางมือแน่ ถ้าคนของเขาหายไปไม่ว่าจะหายไปจากที่ไหนก็ตาม”
“ฮึ ฮึ ฮึ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอก่อนจะหมุนตัวเตรียมจะเดินกลับ
“คุณจะกลับแล้วเหรอ” ชญานันท์หันมาถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะเดินไป
“ผมจะเข้าไปหาเครื่องดื่มให้คุณดื่มแก้กระหาย เชิญคุณถ่ายภาพได้ตามสบายที่นี่ไม่มีความลับอะไร”
“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มให้เขาอย่างลืมตัวแล้วหันกลับไปสนใจกับวิวสวยๆตรงหน้าต่อ