ตอนที่ 1 ลูบคมมังกร 3
***
การจะไปเยี่ยมคนเจ็บก็ต้องมีของติดไม้ติดมือไปด้วยสักหน่อย พยับเมฆสั่งช่อดอกไม้ช่อใหญ่และลงทุนหอบมาให้ฑีฆชาติถึงที่บ้าน ตอนขับรถมาเขาระมัดระวังเป็นอย่างดีเพราะกลัวว่าช่อดอกไม้จะบุบสลาย เดี๋ยวคนรับจะไม่ชอบใจเอาได้
รถคันสวยจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ พยับเมฆมองเงาสะท้อนของตนเองผ่านกระจกมองหลังภายในรถ ทรงผมเซตทรงอย่างเรียบร้อย สูทสีดำที่ใส่อยู่ทำให้การมาเจรจาในครั้งนี้ดูเป็นทางการไม่น้อย แต่คิดจะทำการใหญ่มันก็ต้องลงทุนแบบนี้แหละ ไม่ใช่เอะอะบุกไปถึงถิ่นและยิงปืนใส่กันเปรี้ยงปร้าง
ไร้อารยธรรมสุดๆ หากเขาเป็นฑีฆชาติก็คงจะไม่อยากญาติดีด้วย
“มาหาใครครับ”
พยับเมฆถอดแว่นกันแดดสีชาออก หลังจากลงมาจากรถและกดกริ่งอยู่สักครู่ก็มีคนมาเปิดประตู พอเห็นหน้าเขา ภัทรก็นิ่งไปครู่หนึ่ง
“คุณเมฆ”
“เจ้านายของนายเป็นยังไงบ้าง โคม่าไปหรือยัง” พยับเมฆถามกึ่งกวนประสาท ภัทรหัวเราะเบาๆ ขณะที่เปิดประตูให้เขา
“ลองไปพูดแบบนี้ต่อหน้านายดูสิครับ เผลอๆ คนที่โคม่าจะเป็นคุณซะเอง”
“คิดว่าเขาจะกล้าทำได้ลงคอเหรอ” เจ้าของช่อดอกกุหลาบสีขาวไหวไหล่เล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้ามาในบ้านอย่างคุ้นเคย ภัทรบอกว่าฑีฆชาติอยู่ในห้องทำงาน พยับเมฆเลยเดินมาที่หน้าห้องทำงานของอีกฝ่ายและเคาะประตูห้องนำไปก่อนตามมารยาท
ก๊อก ก๊อก.
“ใคร” เสียงห้วนๆ ถามกลับมา ดูท่าเจ้าของบ้านจะไม่พร้อมรับแขกสักเท่าไหร่ แต่ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว พยับเมฆคงจะไม่ยอมกลับไปง่ายๆ
“พยับเมฆครับ”
หลังจากที่พยับเมฆบอกชื่อตนเองออกไปก็เกิดความเงียบขึ้นพักใหญ่ ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าจากข้างในห้อง ไม่นานดีประตูห้องทำงานก็เปิดออก ฑีฆชาติยืนอยู่ตรงหน้าในสภาพใส่กางเกงขายาวตัวเดียว ท่อนบนเปลือยเปล่าและมีผ้าพันแผลที่ไม่ค่อยเรียบร้อยนักปิดแผลบริเวณไหล่เอาไว้
พยับเมฆคงจะมาขัดจังหวะตอนที่อีกฝ่ายกำลังจะทำแผลพอดี
“เมื่อวานส่งลูกน้องมา วันนี้ส่งเมียมา ไอ้เหี้ยอาเธอร์นี่มันยังไงกันวะ” ฑีฆชาติพูดด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิด พยับเมฆขมวดคิ้วกับคำพูดของอีกฝ่าย เจอหน้ากันก็พูดไม่เข้าหูใส่กันเลย
“พูดบ้าอะไร ผมก็เป็นลูกน้องของนายเหมือนคนอื่นๆ นั่นแหละ”
“หึ น่าเชื่อจริงๆ ขึ้นเตียงกับมันมากี่รอบแล้วล่ะ” คนตรงหน้าของพยับเมฆหัวเราะเสียงขึ้นจมูก จงใจยั่วโมโหกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะแบบนี้ไงถึงมีแต่คนเกลียด เพราะพูดอะไรออกมาแต่ละคำไม่คิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน พยับเมฆชักจะอยากเอาช่อดอกไม้ในมือฟาดหน้าเข้าให้สักทีแล้ว