ข้อเสนอรักเมียตีทะเบียน บทที่4.ดวงใจของแม่
ปากจิ้มลิ้มกัดกุ้งทอดตัวโตจนภูมิแอบส่ายหน้า ของทอดของมันทำให้มิลินน้ำหนักเกิน แถมถูกตามใจจนน้ำหนักขึ้นพรวดๆ ตอนเด็กก็คงน่ารักแต่หากโตขึ้นเกรงว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทุกวันจะกลายเป็นปัญหา
“หล่อนกำลังคิดเหมือนฉันใช่ไหมภูมิ” มิลินชอบที่บุตรสาวอ้วนท้วนสมบูรณ์ แต่ทุกวันนี้น้ำหนักมิลินพุ่งพรวดๆ
“แกงานยุ่ง เดี๋ยวฉันพายัยหนูไปออกกำลังกายเอง” ภูมิกระซิบตอบ
“ไม่ค่ะ มิลินเหนื่อย” แต่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือ
การออกกำลังกายเป็นเรื่องอยากสำหรับคนน้ำหนักเกิน ไม่ใช่เพราะขี้เกียจ แต่การกินกับการรีดน้ำหนักมันเป็นสิ่งตรงกันข้าม น้ำหนักขึ้นทีละกิโล’ แต่เวลารีดไขมันส่วนเกินออก้ำหนักกลับลงทีละขีดจนคนตั้งใจรู้สึกท้อ
“แม่จ๋าพาหนูไปว่ายน้ำ สนใจไหมจ๊ะ”
กิจกรรมสนุกๆ และเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ทำให้เหนื่อยเกินไป แต่เธอจะหาเวลาได้ไหมนั้น ต้องเก็บไปคิดเป็นการบ้าน ตอนนี้คงต้องหาทางกล่อมบุตรสาวให้ได้เสียก่อน
“สนค่ะ” แค่มิลินรับปาก ปัญหาล่วงหน้าก็น่าจะมีทางแก้
“พออิ่มแล้วเราไปซื้อชุดว่ายน้ำสวยๆ กันดีกว่าเนอะ”
“ดีค่า” ภูมิอมยิ้ม มิลินว่าง่ายและเชื่อฟังมิลาแค่คนเดียว เด็กหญิงหัวดื้อคนนี้ยอมลงให้มิลา ถึงจะไม่ชอบใจแต่หากมารดาเป็นคนกล่อม เด็กหญิงตรงหน้าไปเคยปฏิเสธสักครั้ง
“ภูมิ...กับหมอนั่นยังคบกันอยู่ไหม?”
เพราะออกแรงที่โรงเรียนจนเหนื่อย แถมยังอิ่มจนพุงเกือบแตกพอเจอแอร์เย็นๆ เข้าหน่อยมิลินก็ตาปรือและในที่สุดก็หลับ
“อืม...”
“อืมคืออะไร หรือว่ามีปัญหา” ภูมิเป็นผู้ชายเก็บกด เขาเก็บทุกสิ่งไว้ในใจจนมิลาเป็นห่วง
“นิดหน่อย เรื่องเดิมนั่นแหละ”
ภูมิคบกับอเนกมาเกือบสามปี ความรักระหว่างเพศเดียวกันที่สังคมยังยอมรับไม่ได้เต็มร้อยคือปัญหาใหญ่สำหรับภูมิ อเนกอยากเปิดเผยความสัมพันธ์นั่น แต่ภูมิยังไม่พร้อม เขาเกรงใจบิดา มารดาและบรรดาญาติสนิท บดิทรจะมามัวหมองเพราะรสนิยมแปลกแยกของเขา ผู้หลักผู้ใหญ่ในตระกูลคงชักตาตั้ง หากรู้ว่าทายาทคนสุดท้ายของบดินทร มีความรักแตกต่างจากปกติ
“เห้อ...ปัญหาโลกแตก”
ตราบใดที่คนในบดินทรยังยอมรับไม่ได้ ภูมิก็คงไม่มีทางปริปาก
“ถ้าเนกเขาจะเลิกกับฉัน ฉันก็คงต้องยอม” ภูมิพูดเสียงอ่อย
ปัญหาเรื้อรังที่มองไม่เห็นทางออก ใกล้จะถึงจุดแตกหักทุกที
“ว่างๆ ฉันจะคุยกับเนกให้ หมอนั่นแค่รักแกน่ะภูมิ ฉันเข้าใจเนกนะ”
มิลาพยายามประนีประนอม อเนกแค่อยากแนะนำตัวในฐานะ ‘คนรู้ใจ’ ไม่ใช่เพื่อนเหมือนทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับคนในครอบครัวภูมิ
“ฉันก็ได้แต่หวังให้เนกเข้าใจ”
“แกก็ต้องเข้าใจเนกด้วยภูมิ เนกรักแกมาก และเนกก็ไม่ได้อยากแอบซ่อนอยู่แบบนี้ด้วย”
ภูมิถอนใจแรงๆ เขายังไม่รู้อนาคตเลย ไม่มีความกล้าพอที่จะเปิดเผยเรื่องสำคัญนี่ให้บิดา มารดารับรู้ด้วย
“คนเรามีชีวิตบนโลกนี้ไม่ถึงพันวันนะแก อยากทำอะไรก็ทำเถอะ เพราะถ้ามันสายไป มันแก้ไขอะไรไม่ได้เลยนะ”
ชุดว่ายน้ำสีเหลืองจ๋อยบนร่างอวบอ้วนของเด็กหญิงผิวขาวปานสำลี ห่วงยางเป็ดสีเดียวกันกับชุดลอยตุ๊บป่องๆ อยู่กลางสระ ไม่มีคนสนใจเด็กน้อยคนนั้นสักคน มืออวบอ้วนพยายามยึดห่วงยางไว้สุดความสามารถ แต่ความลื่นของพลาสติกผสมกับมือเปียกๆ นั่นคงจับไว้ไม่อยู่ มิลินค่อยๆ ลื่นจวนจะหลุดออกจากห่วงยาง โชคดีที่มีผู้หวังดีเห็นทันเวลา
ผู้ชายตัวใหญ่กระโจนลงไปรั้งมิลินไว้ทัน
เด็กหญิงเงยหน้ามองตาปริบๆ แต่กลับไม่ร้องจ้าเหมือนเด็กคนอื่น
ดวงตาดำขลับจ้องคนแปลกหน้าตาไม่กะพริบ
“มากับใคร ทำไมอยู่คนเดียว” ภาษาไทยเพี้ยนๆ แต่ก็พอฟังออก
“มากับปะป๋าค่ะ” มิลินตอบ ยกมือเกาะบ่าคนตัวใหญ่เพราะกลัวตก เด็กหญิงแน่ใจว่าอ้อมแขนนี้ปลอดภัยสำหรับตนเอง
“ปะป๋าที่ว่าอยู่ไหนล่ะ” เอเดนถามเสียงขุ่น
ผู้ปกครองเด็กเล็กขนาดนี้ปล่อยปละละเลยจนเด็กเกือบจมน้ำ ไม่อยากคิดต่อ หากเขาลงมาดึงไว้ไม่ทันเด็กน้อยคนนี้จะตื่นตกใจขนาดไหน