บท
ตั้งค่า

7| ผัวอำ

คุณตัวเล็กสะดุ้งเฮือก พยายามต่อต้านกับสิ่งที่มองไม่เห็นที่กำลังครอบงำเธอเอาไว้ไม่ให้ขยับกาย ไม่ให้ส่งเสียง ในใจตะโกนเรียกชื่อสามีซ้ำๆ หวังว่าเขาจะได้ยินและมาช่วยให้เธอหลุดพ้นจากความทรมานนี้

“ชะเอม”

เฮือก!

“พี่ขุน ฮึก ใครไม่รู้เข้ามาในห้องนอนเรา ฮึก”

“ใจเย็นๆ ไม่เห็นมีใครเลย”

“เอมไม่ให้พี่ไปไหนแล้วนะเอมกลัว ฮึก ฮื่อ เอมกลัว” ชะเอมกอดเขาแน่นทันที่เห็นหน้า สะอึกสะอื้นร้องไห้จนเขาต้องกอดปลอบลูบหลังอยู่พักใหญ่ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกลับเข้าห้องมาก็เห็นคนตัวเล็กดิ้นไปมาอยู่เป็นเตียงท่าทางทรมานจนต้องเรียกเสียงดัง

“ดีขึ้นหรือยัง เป็นอะไรไหนเล่าให้ฟังซิ”

“มีผีอยู่ในห้องค่ะ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแล้วมองไปตรงประตูอย่างหวาดระแวง

“เชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ”

“เอมไม่รู้แต่เอมคิดว่าไม่ใช่คนแน่นอน” แอร์ในห้องเย็นฉ่ำแต่ใบหน้าหวานเปียกชุ่มเต็มไปด้วยเหงื่อ “พี่ขุนไม่เชื่อเอมเหรอคะ เอมไม่ได้โกหกนะ มีผีจริงๆ” เขาเชื่อเธอแต่แค่ไม่อยากพูดซ้ำให้คนตัวเล็กรู้สึกกลัวไปมากกว่านี้

“มีก็มี”

“แล้วจะทำยังไงคะ ต้องไปทำบุญกรวดน้ำให้เขาหรือเปล่า” เพราะเป็นสาวเมืองกรุงไม่เคยพบเจอเรื่องลึกลับแบบนี้มาก่อนชะเอมรู้สึกเสียขวัญและหวาดกลัวอย่างมาก มากเสียจนไม่อยากห่างสามีไปไหนไกลเลย

“มันไม่ได้ต้องการบุญ แต่มันทำตามคำสั่ง”

“คำสั่ง?”

“ใช่ มีคนสั่งพวกมันมา” ยิ่งเขาพูดก็ยิ่งทำให้เธอขนลุก เคยดูแต่ในหนังในละครไม่คิดว่าชีวิตจริงจะมีคนทำแบบนี้อยู่

“เพื่ออะไรคะ”

“เพื่อมาหลอกคนขวัญอ่อนอย่างเธอไง”

“เอมกลัวจริงๆ นะคะ เอมไม่เคยเจอผีมาก่อนพอเห็นก็รู้เลยว่าคือผี เขาจะมาอีกมั้ยคะ”

“มา”

“จริงเหรอคะ แล้วเอมต้องทำยังไงคะถึงจะไม่ถูกหลอกอีก” เธอกลายเป็นเด็กไปแล้ว ซุกตัวอยู่ใกล้เขาไม่ยอมห่าง ซักถามหาคำตอบจากเรื่องที่เกิดขึ้นจนหาคำตอบให้ไม่ทัน ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้เข้าใจยังไงดีเพราะมันซับซ้อนและมีรายละเอียดเยอะมากอธิบายเป็นเดือนก็คงไม่จบ

“ง่ายๆ อยู่ใกล้ฉัน”

“อยู่ใกล้พี่ขุนเนี่ยนะคะ”

“แล้วตอนนี้เป็นไง หายกลัวมั้ย ซุกจนจะสิงเข้ามาในตัวฉันอยู่แล้ว” เธอเงยหน้ามองและไม่ปฏิเสธว่ารู้สึกแบบนั้น

“พี่ขุนรังเกียจเอมหรือเปล่าคะ”

“ถ้ากลัว ยอมให้อยู่ใกล้หนึ่งคืนก็ได้” ร่างสูงปล่อยตัวสบายยอมให้ภรรยาอิงซบกอดก่ายได้ตามใจชอบ

“พี่ขุนง่วงหรือยังคะ”

“ยัง มีเรื่องต้องคิด ถ้าง่วงก็นอนก่อนเลย”

“พี่ขุนไม่ไปไหนแล้วใช่มั้ยคะ”

“อืม”

“ถ้าเอมกอดพี่ขุนแบบนี้ทั้งคืน พี่ขุนจะอึดอัดมั้ยคะ” เสียงหวานถามเพราะกลัวเขาบ่นอึดอัด ทุกวันนี้ก็คงเบื่อหน้าเธอจะแย่แล้ว

“ก็บอกว่าจะยอมหนึ่งคืนไง”

“ถ้างั้นก็ ขอกอดแบบนี้นะคะ”

“กลัวโดนผีอำขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ผีอำ”

“ใช่ ที่เธอโดนเมื่อกี้เขาเรียกว่าผีอำ” คนตัวเล็กเบียดตัวเองเข้าไปใกล้สามีมากกว่าเดิม

“ไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้วได้มั้ยคะ เอมกลัว”

“เบียดใกล้แบบนี้ระวังจะโดนผัวอำนะ”

“พี่ขุน”

“ทำหน้าตกใจยิ่งกว่าโดนผีอำอีก ไม่ต้องกลัว ฉันไม่แกล้งเธอหรอก นอนได้แล้ว”

“อย่าไปไหนนะคะ” ลำแขนเล็กโอบรอบสามีที่นอนอยู่ใกล้ๆ เพราะความกลัวจึงรีบ ใบหน้าซุกกับต้นแขนราวกับเด็กน้อยวัยสามขวบ ไม่นานหลังจากหลับตาลงชะเอมก็หลับลึก เหลือเพียงผู้เป็นสามีที่เอาแต่นอนมองหน้าภรรยาตอนหลับและนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

ไม่เคยมีสัมเวสีตัวไหนเข้ามาในเรือนของเขาได้ ชะเอมไม่โกหกเขาแน่ ตัวสั่นร้องไห้หนักแทบเสียสติขนาดนั้น นับวันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากนี้ไปคงต้องจำกัดบริเวณไม่ให้เธอออกไปไหนไกลเพราะเขาไม่รู้แน่ว่าใครเป็นคนทำและปล่อยของสกปรกแบบนี้ออกมา

“จะทำกูก็มาลงที่กู อย่ามายุ่งกับเมียกูไอ้พวกเวร” พูดจบก็ประคองศีรษะเล็กมาหนุนแขนและโอบรั้งภรรยาเข้ามาใกล้กับอกกว้างแสนปลอดภัย

ความรักที่เคยมีให้ไม่เคยลดน้อยลงไปเลย ที่แสดงออกไปก็แค่อยากให้เธอเข้มแข็งและทำเพื่อตัวเองบ้างอย่าเห็นคนอื่นสำคัญมากจนลืมนึกถึงความรู้สึกของตัวเอง

เช้าวันต่อมา

ชะเอมตื่นเช้าตามปกติ ตื่นมาก็ไม่เห็นสามีที่นอนกอดทั้งคืนอยู่ข้างๆ แล้ว เธอรีบลุกเก็บที่นอนและปิดเครื่องปรับอากาศ ทำความสะอาดห้องนิดหน่อยและรีบจัดการตัวเองลงไปข้างล่างช่วยป้านวลในครัว

“สวัสดีตอนเช้าค่ะป้านวล”

“เมื่อคืนหลับสบายมั้ยคะแม่เลี้ยง” เมื่อได้ยินคำถาม หญิงสาวก็หุบยิ้มทันที

“สบายค่ะ” ไม่อยากเล่าเรื่องที่เจอให้ป้านวลฟังเพราะกลัวจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่

“ข้าวต้มค่ะ ยกไปให้พ่อเลี้ยงได้เลยป้าทำเสร็จแล้ว”

“เอมตื่นสายใช่มั้ยคะ”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยค่ะ พ่อเลี้ยงดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษด้วยวันนี้ ไม่โดนดุหรอกค่ะ ถ้าจะโดนก็คงให้ป้าขึ้นไปปลุกแม่เลี้ยงนานแล้ว”

“เอมยกไปเลยนะคะ”

“ค่ะ” ชะเอมไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นถึงรู้สึกว่าเงียบหูแปลกๆ ปกติจะต้องถูกเขาจิกกัดเรื่องไม่เป็นเรื่องตั้งแต่เริ่มวันใหม่ แต่วันนี้แปลก เหมือนที่ป้านวลว่าจริงๆ

“ข้าวต้มค่ะ”

“หายกลัวหรือยัง” เธอกลอกตาไปมาแล้วพยักหน้าช้าๆ

“อยากไปดูไร่ชามั้ย”

“อยากไปค่ะ เอมอยากไป”

“ป้านวลช่วยหาชุดคนงานสำหรับเข้าไร่ให้แม่เลี้ยงใส่ด้วยครับ”

“ได้เลยค่ะ” คนตัวเล็กดี๊ด๊าเมื่อจะได้ออกไปข้างนอก ไม่ต้องทนอุดอู้อยู่ในบ้านอีกต่อไป

“ขอบคุณนะคะที่พาเอมไปด้วย”

“อย่าวุ่นวาย เข้าใจมั้ย”

“เอมจะเชื่อฟังพี่ขุนค่ะ จะไม่วุ่นวาย สัญญา” เธอยกนิ้วก้อยขึ้นมา ยืนยันว่าจะทำให้ได้ตามสัญญาและที่พูดไว้

“อย่าบ่นร้อนก็แล้วกัน”

“ไม่บ่นค่ะ”

ไร่ชา

เป็นอีกหนึ่งวันที่อากาศดี แสงแดดสดใสมีลมพัดโชยเป็นระยะทำให้ไม่รู้สึกอบอ้าวทำงานสบายแต่สำหรับชะเอมคนงานใหม่ที่เพิ่งมีโอกาสลงสนามจริงนั้นยังปรับตัวไม่ทัน แต่เธอก็ไม่ได้ปริปากบ่นร้อนให้สามีได้ยินเพราะตกลงกันก่อนออกมาแล้วว่าจะอดทนไม่งอแงทำตัวเป็นภาระ

“ไม่ไหวกลับบ้านได้นะ”

“เอมไหวค่ะ” หน้าซีดแบบนั้นแล้วยังอวดดี ผู้เป็นสามีส่ายหน้าแล้วดึงแขนเธอให้เดินตามมาที่ใต้ร่มไม้ใหญ่

“อยู่ตรงนี้ เดี๋ยวก็เป็นลมเป็นแล้งไปอีก”

“เอมยังไหวค่ะ”

“จะอยู่ตรงนี้หรือจะกลับบ้าน” เสียงเข้มยื่นข้อเสนอ หากไม่ทำแบบนี้เธอก็ยังรั้นยืนตากแดดอยู่แบบนั้น “พามาแล้วก็อย่าดื้อสิ อยู่ตรงนี้แหละ”

“พี่ขุนเป็นห่วงเอมใช่มั้ยคะ”

“ฉันมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ” ถึงแม้จะไม่ได้รับคำตอบที่อยากได้ยินแต่การกระทำของเขาก็ทำให้เธอยิ้มกว้างได้ไม่น้อยเลย

“เอมรู้ค่ะว่าพี่ขุนเป็นห่วง เอมรออยู่ตรงนี้นะคะ”

เขาไม่ได้พูดต่อรีบหันหลังให้เธอแล้วเดินกลับไปที่หน้างานทันที พื้นที่ไร่ชากำลังขยายกว้างออกมาเพราะความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น ชะเอมมองหาที่นั่งเพื่อพักผ่อนรอสามีเลิกงาน ตรงนี้นอกจากจะร่มรื่นแล้วอากาศยังเย็นสบายต่างจากหน้างานหลายเท่า

“มาอยู่ใหม่เหรอ”

“อุ๊ย” ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงทักทายจากบุคคลปริศนาที่อยู่ๆ ก็โผล่มาจากทางด้านหลัง

“ฉันชื่อจำปา เธอชื่ออะไรเหรอ” หญิงสาวมาใหม่เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับฉีกยิ้มกว้างและแนะนำตัว

“ฉันชื่อชะเอม เธอเป็นคนงานที่นี่เหรอ” เมียเจ้าของไร่แนะนำตัวอย่างไม่ถือตัว

“ใช่ ฉันเป็นคนงานที่นี่”

“มานั่งด้วยกันสิ”

“ฉันต้องไปแล้ว ฉันมีอะไรจะให้เธอด้วยนะ” ชะเอมขมวดคิ้วเมื่อจำปายื่นบางอย่างมาให้

“อะไรเหรอ”

“ยื่นมือมา รับไว้สิ” ชะเอมยื่นมือไปรับแล้วก้มมองของในมือ

“กรี๊ดดดดด” ตุ๊กตาดินเผาในมือถูกโยนลงพื้นดิน หัวใจเต้นแรงแทบหลุดออกมาจากอกพยายามกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อมองหาหญิงสาวคนนั้นอีกครั้งแต่ก็ไม่พบ ชั่ววินาทีเท่านั้นผู้หญิงที่ชื่อจำปาก็หายวับอย่างกับหายตัวได้

“เป็นอะไร”

“พี่ขุน มีคนเอาตุ๊กตาเปื้อนเลือดมาให้เอมค่ะ” เป็นอีกครั้งที่คนตัวเล็กโผเข้ากอดเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข

“ใคร” เสียงเข้มถามย้ำพร้อมกวาดสายตาไปโดยรอบ

“เธอชื่อจำปาค่ะ เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตาสะสวยเธอบอกอีกด้วยว่าเป็นคนงานที่นี่”

“อีจำปาเพิ่งเผาไปเมื่อวานนะครับพ่อเลี้ยง” ทิวลูกน้องมือขวาที่วิ่งตามหลังพ่อเลี้ยงมาติดๆ พอได้ยินแม่เลี้ยงพูดถึงจำปาก็ขนลุกซู่

“อะไรนะคะ”

“เธอคุยกับผีแล้วยังรับของจากผีมาอีกด้วยเหรอ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel