การตัดสินใจของนีเฟิส2
ว่าแล้วก็รวบร่างบางที่ยืนเคียงข้างก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากของอามูเนสต่อหน้าคนนับพัน
วินาทีนั้นเอง อามูเนสเหมือนจะรู้สึกได้ถึงความปีติ ขององค์ฟาโรห์ที่แผ่นซ่านมายังตัวของเธอ อื้ออึงอีกครั้งด้วยเสียงแซ่ซ้องไม่ขาดสาย อามูเนสหันตัวเดินกลับไปภายใน ฟาโรห์ผู้ยิ่งใหญ่โบกไม้โบกมือก่อนจะ เดินตามเข้ามาข้างใน
“พระองค์ข่มเหงน้ำใจ กันเกินไป”
“เจ้าในฐานะเชลยไม่มีสิทธิ์จะมาตั้งข้อแม้”
“พระองค์ถึงจะได้ร่างกายของข้า แต่ใช่ว่าจะได้ใจของข้าอามูเนส”
“ข้าไม่สนใจว่าใจของเจ้าจะอยู่ที่ใด ขอเพียงร่างที่งดงามของเจ้ายังอยู่กับข้า”
กลืนน้ำลายลงคอยากเย็น ใจหายกับคำพูดที่พูดออกไป
ร่างอ้อนแอ้นที่พันผ้าบางเบาที่อกอวบเผยเอวกิ่วกับเนินอกสล้าง คิ้วตมเข้มริมฝีปากแต้มสีชาดสีน้ำตาลเข้ม แววตายั่วยวน
“ข้า นีเพิส มาถึงแล้ว” ใบหน้าเข้มเลิกคิ้วสูงทำท่าแปลกใจ
“การเดินทางราบรื่นดีไหม” ยิ้มหวานหยดย้อยแทนคำตอบ
“อามูเนส เจ้าสบายดีใช่ไหม”
แววตาโศกสลด ของอามูเนสไม่ทันที่ใครได้สังเกตเห็นจะมีเพียงโฮรัสกับสายตาที่เฉียบคมเท่านั้นที่สัมผัสได้
“ท่านพี่ เหตุใดต้อง ยอมเดินทางมาในเมื่อ”
“พี่ไม่อาจปฏิเสธความรุ่งเรืองของอียิปต์ และไม่อาจปฏิเสธองค์ฟาโรห์ได้” แววตาเชิญชวนชม้ายชายตาไปยังโฮรัส
“ข้าและ อามูเนส เรามีเรื่องต้องคุยกัน ขอเวลาเราทั้งคู่สักพัก”
โฮรัสยักไหล่ก่อนจะผายมือเป็นการเชื้อเชิญ แล้วก็เดินจากไป
“ท่านพี่ เหตุใดท่านทำอย่างนี้ ในเมื่อข้ายอมที่จะเปลี่ยนตัวเชลยแล้ว”
คำถามเดิมที่ถามเมื่อครู่ อามูเนส คาดว่าคำตอบคงจะไม่ใช่คำเดิม แต่เธอคาดการณ์ผิด
“น้องพี่อามูเนส เจ้าเห็นแล้วใช่ไหมว่าที่นี่รุ่งเรืองจนถึงขีดสุด ขาดอยู่เพียงราชินี และคนข้างกายฟาโรห์เท่านั้นเจ้าไม่รู้หรือว่าแกล้งไม่รู้ว่าเราควร จะเปลี่ยนความคิดเดิมๆของเราเรื่องอียิปต์ได้แล้ว”
“แล้วท่านพี่ทำไมไม่ตอบตกลง เมื่อก่อนหน้านั้น ทำไมท่านปฏิเสธเล่า”
“เป็นพี่เองที่ไม่ไตร่ตรองให้ดี เจ้าเห็นรูปโฉมขององค์ฟาโรห์ไหม อามูเนส ในแผ่นดินนี้หาใครเทียบเคียง รูปลักษณ์ที่งามดุจเทพร่างกายล่ำสัน จน จนข้าอดที่จะหลงใหลเสียไม่ได้”แววตาชวนฝัน
นีเพิสไม่อาจบอกความจริงกับน้องสาวต่างมารดา ว่าการเปลี่ยนตัวเชลยเป็นความ จงใจของโฮรัสที่ระบุมาว่าต้องเป็นอามูเนสเท่านั้นหากพูดแบบนั้นอามูเนสนางจะรุ้สึกเช่นไร
อามูเนสสับสนมึนงง คิดไปเองว่านีเพิสต้องจำใจเหมือนเธอที่ต้องยอมสยบแก่อำนาจของโฮรัส
“เป็นการดีมิใช่หรือที่เราสองพี่น้องจะได้ใช้ชีวิตในดินแดนแห่งนี้ภายใต้การครอบครองของบุรุษผู้องอาจหล่อเหลาเข้มแข็งและมั่งคั่ง”
“โฮรัสเห็นแก่ตัว ใจคอโหดเหี้ยม ท่านไม่กลัวว่าสักวัน สักวันเมื่อเขาเบื่อเราทั้งสอง”
“เราเป็นเพียงอิสตรี เขาคงไม่ฆ่าแกงเราหรอกอามูเนส”
“ท่านคิดว่าเขาเหฌนเราเป้นดั่งอิสตรีที่ต้องอ่อนโยนด้วยเช่นนั้นหรือ”
นี่เฟิสยิ้มส่ายหน้าไปมาบ่งบอกว่าไม่เชื่อคำพูดของอามูเนส และบอกเป้นัยๆว่าอามูเนสคิดไปเอง
“นี่แนะอามูเนส เคสบุรุษหนุ่มที่มีเจ้าในใจ ฝากข้ามาบอกเจ้าว่าเขายินยอมแลกด้วยทุกอย่างเพื่ออิสรภาพของเจ้าอามูเนส”ดวงตาคมเข้มจ้องมองสีนห้าท่าทางของอามูเนสว่านางจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกัน
อามูเนสนั่นเล่าใจหายวาบกับคำบอกเล่า รู้สึกห่อเหี่ยวอย่างที่สุดจะมีอีกกี่คนที่ต้อง ทนทุกข์เพื่อเธอ รวมทั้งมารดาของเธอที่รอฟังข่าวคราวของลูกสาวคนเดียวอย่างใจจดใจจ่อทั้งที่บ้านเมืองระส่ำระสายขาดผู้นำ เพราะฮามาดิพ่อของเธอถูกจับตัวเป็นเชลยในสนามรบแทนการใช้มีดคมกริบปาดคอให้สิ้นลมตามแบบของอียิปต์
แต่กลับ เพิ่มปัญหายุ่งยากเมื่อมี การเสนอให้มีการเปลี่ยนตัวเชลย ใบหน้าของอามูเนสยิ่งเศร้าหมองผิดกับนีเพิสที่แววตาตื่นเต้นดีใจกับสิ่งที่ได้พบได้เจอ นัน เดินเข้ามาก่อนจะเอ่ยปาก
“องค์ฟาโรห์เชิญ ท่านทั้งคู่เพื่อแนะนำแก่เหล่าขุนนางและราชวงศ์”