ร้ายกว่าหลินหลินก็หยางหยางนี่แหล่ะ3
เวลาผ่านไปจนค่ำคืนแห่งราตรีของเมืองหลวงมาเยือนอยู่เป็นนาน
เมื่อหลินหลินกลับมาถึงคอนโดเธอจึงรีบเข้าไปอาบน้ำเพื่อจะได้รีบมามาร์กหน้า เพราะว่าวันนี้ทั้งวันเธอต้องแต่งหน้าเช็ดหน้าอยู่หลายรอบจึงต้องรีบบำรุงโดยเร็ว
หลินหลินทำการมาร์กหน้าเอาไว้โดยไม่สนใจสายตาคมดุของใครบางคนที่กำลังนั่งตัวโตอยู่ตรงโซฟา
สงสัยจะโมโหหิว! หลินหลินคิดในใจขณะหรี่ตามอง หยางหยางของเธอที่นั่งงามสง่าอย่างผู้สูงศักดิ์เหนือคำบรรยายอยู่ตรงโซฟา
"รอแป๊บนะ" หลินหลินเอ่ยออกไปทางหยางหยางก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าพูดผิด
"ข้าหมายถึง รอสักครู่เจ้าค่ะ" เธอพูดใหม่อีกครั้งขณะดึงแผ่นมาร์กหน้าออก ก่อนจะเดินเข้าไปทางห้องครัว
เธอเองก็หิวเหมือนกันจึงคิดว่าหยางหยางก็คงหิวด้วย
ชายหนุ่มเจ้าของชื่อหยางหยางที่หลินหลินถือวิสาสะเรียกอยู่ตลอดเวลาเพียงปรายสายตาคมเฉี่ยวมองตามหลังร่างระหงของหญิงสาวที่กำลังเดินเข้าไปทำอะไรบางอย่างในครัว
นอกจากจะเป็นปีศาจราคะแล้วยังเป็นปีศาจราตรีอีกด้วย!
ชายหนุ่มคิดในใจขณะมองกลับไปทางนาฬิกาที่หลินหลินเคยบอกวิธีดูเวลาเอาไว้ก่อนหน้า
เข็มสั้นของนาฬิกาตอนนี้ชี้อยู่ระหว่างเลขสิบเอ็ดเกือบถึงเลขสิบสอง
ถ้าเป็นเวลาของยามค่ำคืนในยุคสมัยของเขามันคือเวลายามจื่อนั่นเอง
ใยกลับบ้านเอาป่านนี้
หลี่หงจินหยางถามนางอยู่ในใจ
เวลาผ่านไปอีกซักพัก...
เพียงไม่นานข้าวต้มพร้อมเสิร์ฟก็ส่งกลิ่นหอมฉุยออกมาจากในห้องครัวตามด้วยเสียงใสๆของหลินหลินเอ่ยเรียก
"หยางหยาง มาๆ กินข้าวต้มกัน" เธอต้องเอาใจใส่หยาง หยางของเธอเอาไว้ให้มากๆ เพราะเธอมักจะสร้างศัตรูเอาไว้ไม่เว้นแต่ละวัน
วันนี้มีเพิ่มอีกสองคน
แถมวันนี้เธอรู้สึกเหมือนมีคนสะกดรอยตามเธอตอนอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าอีกด้วย
ดังนั้นแล้วเธอต้องมีบอดี้การ์ด!
บอดี้การ์ดสุดเท่ห์ที่ไม่ต้องเสียเงินค่าจ้างในราคาที่แพงหูฉี่แต่อย่างใด หึหึ!
หลี่หงจินหยางได้ยินคำเรียกขานจากสตรีนางนี้ เขาจึงพาร่างสูงโปร่งงามสง่าของเขาเดินเข้ามาในห้องครัวด้วยมาดเรียบนิ่งน่ายำเกรงพร้อมสายตาคมเข้มน่าหวาดหวั่นดั่งเช่นปกติ
หลินหลินเพียงปรายตามองตามเขาอย่างหมายมาดต้องการอะไรบางอย่าง
ชายหนุ่มยอมกินข้าวต้มแต่โดยดี เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เขาพอจะกินได้คล่องคอ
ยามนี้เขาคิดถึงบรรดาบ่าวไพร่ประจำโรงครัวในวังของเขาเสียจริง
หลินหลินยังคงเหม่อมองหลี่หงจินหยางที่กำลังกินข้าวต้มอยู่ที่โต๊ะฝั่งตรงกันข้ามกับเธอด้วยสายตาคาดหวังจนชายหนุ่มรู้สึกได้
"เจ้ามีอะไร" ชายหนุ่มถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งหน้าตาเย็นชา
"เปล๊า" หลินหลินเสียงสูงแก้ตัวหน้าตาย
แม้คำพูดของหลินหลินนั้นหลี่หงจินหยางจะไม่เข้าใจความหมาย แต่น้ำเสียงที่ดีดสูงขึ้นปานนั้นทำเอาชายหนุ่มเข้าใจความนัยได้ไม่ยาก เขาจึงเอ่ยเสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจ "ว่ามา"
ทั้งสีหน้าและแววตาอีกทั้งน้ำเสียงอย่างนั้นของหยาง หยางทำเอาหลินหลินถึงกับชะงักงันเล็กน้อย
เขาไม่เหมือนใครเลยจริงๆ หลินหลินคิด
"คือว่า" หญิงสาวเริ่มเข้าเรื่องอย่างอ้อมโลก "ในชีวิตของคนเรานั้นนะ ต้องเจอกับอะไรหลายๆอย่าง คนหลายๆแบบเยอะแยะมากมาย ไว้ใจใครไม่ได้ ถ้าเราไม่ทำเขา เขาก็ทำเรา ท่านว่าจริงหรือไม่"
หลี่หงจินหยางเพียงรับฟังนิ่งๆขณะสนใจเพียงข้าวต้มในถ้วย พลางเอ่ยเสียงราบเรียบ "ถ้าเราไม่ฆ่าเขา เขาก็ฆ่าเรา"
"หือ!" หลินหลินอุทาน ฆ่าเลยรึ!
"เจ้าอยากให้ข้า ไปฆ่าใคร"
"หา!"
ชายหนุ่มถามขึ้นด้วยสีหน้าบ่งบอกได้ว่า การฆ่าเป็นเรื่องธรรมดา
หลินหลินถึงกับนิ่งงันกระพริบตาปริบๆ
ชายหนุ่มหญิงสาวเพียงนั่งจ้องหน้ากันและกันนิ่งๆโดยมีเพียงโต๊ะเล็กๆกั้นกลาง
ฝ่ายหนึ่งจ้องหน้าหญิงสาวด้วยแววตาคมเฉี่ยวฉายแววดุดันพร้อมเชือดนิ่มๆด้วยมาดสุขุมนุ่มลึกดูดีมีชาติตระกูล
ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยดวงตากลมโตเม้มริมฝีปากเพียงนิด ก่อนคลี่ยิ้มสดใสแฝงความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจอย่างไม่ปิดบัง
ร้ายกว่าหลินหลินก็หยางหยางนี่แหล่ะ!
เดี๋ยวพรุ่งนี้จัดเลย....
หลินหลินคิดในใจอย่างปลื้มปริ่มไม่เปลี่ยนแปลง