ตอนที่ : 02 ไล่ตะเพิด
บ้านต่างจังหวัด
ภัทรตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำประจำอยู่เพื่อกลับบ้านของตัวเองที่ต่างจังหวัด เพื่อที่จะกลับไปปรึกษาเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้กับครอบครัว เพราะคิดว่าครอบครัวคงจะช่วยหาทางออกได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อีกอย่างการที่ได้กลับไปอยู่บ้านของตัวเองมันคงจะไม่เป็นที่ซุบซิบนินทามากกว่าการได้อยู่ในเมืองกรุง
กริ๊ง~
กริ๊ง~
กริ๊ง~
แอ๊ด....
"อ้าวภัทร"
"สวัสดีครับพี่ภา"
"อื้มๆ ปกติไม่ได้กลับบ้านเวลานี้นี่นามีอะไรหรือเปล่า"
"เกิดเรื่องที่ทำงานนิดหน่อยครับ พ่อกับแม่อยู่บ้านหรือเปล่า"
"แม่อยู่บ้านส่วนพ่อออกไปบ้านเพื่อนเย็นๆ ก็คงจะกลับ เข้ามาในบ้านก่อนสิ"
"ครับ"
ภัทรมีพี่สาวหนึ่งคน และพี่ชายคนโตอีกหนึ่งคน พี่สาวชื่อว่าภาเป็นคนกลาง ส่วนพี่ชายคนโตนั้นชื่อว่ภี เป็นสามพี่น้องที่เกิดในระยะเวลาใกล้ๆกัน จะเรียกว่าหัวปีท้ายปีก็ได้ แต่นิสัยของทั้งสามพี่น้องกลับต่างกันมาก พี่ชายเป็นลูกชายคนโตมักจะถูกพ่อตามใจอยู่เสมอ และบุคลิกก็เป็นผู้ชายแข็งๆ กร้าวๆ มันเลยยิ่งทำให้ผู้เป็นพ่อชอบเข้าไปใหญ่ต่างจากภัทรที่ค่อนข้างอ่อนแอ ทว่ากลับขยันขันแข็งในการทำงานตั้งใจเรียน จนกลายเป็นเสาหลักของบ้านเลยก็ว่าได้
"แม่! ไอ้ภัทรมา"
สิ้นสุดเสียงตะโกนของพี่สาวคนกลาง ผู้เป็นแม่ที่กำลังวุ่นอยู่ในครัวก็รีบวิ่งออกมาในทันที
"เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงกลับมาล่ะ นี่มันเวลาทำงานไม่ใช่หรอ?"
"เกิดเรื่องที่ทำงานนิดหน่อยครับ แล้วก็มีเรื่องจะมาบอกกับพ่อและแม่ด้วย"
"แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง แม่ทำกับข้าวเสร็จพอดี"
"ยังครับ"
"ถ้างั้นก็มาในครัว"
"ครับ"
ภัทรเดินตามผู้เป็นแม่เข้าไปในครัว ก่อนจะหาข้าวมานั่งกินตามประสาคนหิว
"พ่อเรายังไม่กลับมาตอนนี้หรอก กว่าจะกลับก็คงจะมืดๆโน่นแหละ"
"แม่ครับ"
"อะไร?"
"ตอนที่แม่มีลูกแม่รู้สึกยังไงครับ"
"ก็ดีใจน่ะสิ"
"แล้วแม่เลี้ยงลูกมาลำบากหรือเปล่าครับ"
"ก็ไม่ถึงกับลำบาก พอมีพอกิน ทำไมถามแบบนี้ทำไมล่ะไปทำใครเขาท้องหรือไง"
"เปล่าครับ น้ำหน้าอย่างผมทำใครท้องไม่ได้หรอก" ภัทรพูดติดตลก ทั้งที่สถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้มันไม่ดีเท่าไหร่เลย ภัทรคงไม่มีน้ำยาไปทำใครเขาท้องได้ แต่สถานะของตัวเองในตอนนี้กำลังจะได้เป็นแม่คนแล้ว
"แม่! พ่ออยู่บ้านหรือเปล่า! โอ๊ยเกะกะขวางทางฉิบหาย!" เสียงตะโกนอยู่ทางหน้าบ้าน พร้อมกับเสียงโครมครามราวกับคนเดินชนของหล่นตกระเนระนาด ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะรีบเดินออกไป ภัทรไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรกับเสียงนี้ เพราะมันเป็นเสียงของพี่ชายซึ่งน่าจะเมามาและคงจะมาตามหาพ่อเพื่อขอเงินไปซื้อเหล้ากิน
ตึก!
"พี่ภา จะกินข้าวหรอ?" ภัทรตกใจเมื่อจู่ๆ พี่สาวก็พรวดพราดเข้ามา
"หลบก่อนไอ้ภีมันมาขอตังค์"
"ทำไมล่ะ?"
"หลบก่อนเถอะ ไอ้นี่ประสาทมันเริ่มเสียละชอบโวยวายทำลายข้าวของคนอื่น"
ภัทรยังกินข้าวได้ไม่ทันอิ่มก็ถูกพี่สาวคนกลางลากออกไปที่หลังบ้าน เพราะประตูห้องครัวสามารถเปิดไปทางหลังบ้านได้ ก่อนจะพาภัทรนั่งหลบอยู่ที่สวนหลังบ้านซึ่งมีต้นไม้อยู่มากมาย
"พี่ภีทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะครับ?"
"มันแดกเหล้าจนซึมเข้ากระแสเลือดไปแล้วล่ะ ไม่รู้ห่าเหวอะไรแล้ว"
"...."
"เงินนายน่ะ เก็บไว้ให้ดีๆ นะระวังมันลักขโมยไป"
"ทำไมพี่ภีเป็นหนักขนาดนั้นเลยล่ะพี่ภา"
"เฮ้อ ถ้ารู้ว่าแกจะกลับมา ฉันคงไม่ให้แกกลับมาหรอก เดี๋ยวอีกไม่นานฉันก็จะหนีแล้วล่ะรำคาญไอ้ภีมัน ว่ามันก็ไม่ได้พ่อก็เข้าข้าง ฉันเนี่ยสงสารแต่แม่เป็นขี้ข้าทำให้มันทุกอย่าง!"
"...."
ต่างเป็นที่โจษจันกันดีอยู่แล้วว่า พ่อบ้านนี้รักลูกคนโตมากกว่าลูกอีก 2 คน ภาก็ยังไม่ค่อยเท่าไร ส่วนภัทรแทบจะไม่ได้รับความสนใจจากผู้เป็นพ่อเลย เนื่องจากเป็นลูกคนเล็กและค่อนข้างอ่อนแอ เวลาจะออกไปไหนทำอะไรผู้เป็นพ่อก็เลยไม่คัดค้านอะไร อยากจะไปไหนก็ไปอยากจะทำอะไรก็ทำไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว
ผ่านไปสักพัก
"มันคงไปแล้วล่ะเสียงเงียบไปแล้ว"
"รีบไปดูแม่กันเถอะพี่ภา"
"เออๆ ไปกัน"
สองพี่น้องพากันวิ่งกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง ก่อนจะพบเข้ากับผู้เป็นแม่กำลังนั่งเก็บกวาดของที่หล่นแตกกระจายระเนระนาดอยู่เต็มบ้าน แต่กลับไม่เห็นพี่ชายคนโตแล้ว
"ไอ้ภีล่ะแม่"
"มันไปแล้วล่ะ"
"ไอ้นี่สันดานเสียไม่เลิกจริงๆนะ"
"อย่าไปพูดให้พ่อแกได้ยินล่ะเดี๋ยวก็โดนด่าเอาอีก"
"ก็มันจริงนี่ ดูสิดูสิ่งที่มันทำสิแม่ พ่อก็เอาแต่เข้าข้างมัน ไม่รู้หรือไงว่ามันทำตัวสันดานเสียยังไงบ้าง คนในหมู่บ้านเขาเอือมระอากันไปหมดแล้วนะแม่!"
"แล้วจะทำยังไงได้ล่ะ คนเป็นแม่มันทิ้งลูกไม่ได้หรอกนะ"
"...." คำพูดของผู้เป็นแม่ทำให้ภัทรชะงักไปเลย เพราะมีบางอย่างที่กำลังอัดอั้นอยู่ในอกของภัทร พร้อมกับคำที่วนเวียนอยู่ในหัวว่าจะเอายังไงต่อไปดี จนมาได้ยินคำคำนี้ของผู้เป็นแม่ เลยทำให้ภัทรเริ่มสงสารเด็กที่กำลังจะเกิดมา
เวลาผ่านไป
"แม่มึงเอ้ย ข้ากลับมาแล้วเอาน้ำเย็นๆ มาให้หน่อย"
เสียงตะโกนของผู้เป็นพ่อดังขึ้นมา ก่อนที่ภัทรจะถือขันน้ำที่มีน้ำโอ่งเย็นๆ ข้างในมาให้กับผู้เป็นพ่อ เพราะแม่กำลังวุ่นอยู่กับการซักผ้าก็เลยไม่มีเวลายกมาให้
"น้ำครับพ่อ"
"อ้าว แล้วนี่มึงกลับมาทำไม?"
"เอ่อ...เดี๋ยวก็กลับไปทำงานต่อแล้วครับแค่กลับมาพักเฉยๆ"
"เออ รีบๆ ไปก็แล้วกันรกหูรกตา!"
ภัทรถึงกับหน้าถอดสีไปเลยเมื่อได้ยินคำคำนี้จากผู้เป็นพ่อ ทั้งๆที่มันก็น่าจะเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่ภัทรก็ยังไม่เคยชินกับการกระทำแบบนี้ของผู้เป็นพ่อเลย
ผ่านไปไม่นาน
"เอ้อนี่ภัทร เห็นบอกว่ารอพ่อกลับมาแล้วมีเรื่องอะไรจะบอกหรอ?"
ขณะที่กำลังนั่งกินข้าวตอนเย็นด้วยกันผู้เป็นแม่ก็พูดขัดขึ้นเพื่อกลบความเงียบงันนี้
"เอ่อครับ...คือผมมีเรื่องจะบอก"
"ก็ว่ามาสิ ลีลาทำไมอยู่ได้"
"ผมท้องครับ"
"...."
ทุกอย่างนิ่งเงียบไป ราวกับเวลาหยุดอยู่กับที่ ทุกคนนิ่งไม่มีใครพูดอะไร
"ผมท้องครับ"
"มึงว่าไงนะ!?" เสียงของผู้เป็นพ่อตวาดดังขึ้นพร้อมกับทุบโต๊ะกินข้าวอย่างแรงจนทำให้ถ้วยกับข้าวและจานใส่กับข้าวได้รับแรงกระแทกจนหกกระเด็นกระดอนไปหมด
"ผมแค่อยากจะมาขอคำปรึกษา ผมมีแค่ครอบครัว ผมไม่รู้จะทำยังไงต่อไปแล้วครับ"
"มึงเนี่ยนะท้อง?"
"คะ ครับ"
ภัทรตอบรับเสียงตะกุกตะกักก่อนจะค่อยๆ หยิบซองที่เป็นใบรับรองจากแพทย์ว่าตัวเองนั้นกำลังท้องจริงๆ ยื่นให้กับผู้เป็นพ่อ
ขวับ!
ทว่ากลับถูกผู้เป็นพ่อขยำกระดาษใบนั้นทิ้งแล้วปาใส่หน้าของภัทร ต่อหน้าทุกคนที่กำลังนั่งร่วมวงกินข้าวด้วยกันอยู่
"มึงนี่มันประหลาดจริงๆนะ เกิดมาอ่อนแอยังไม่พอ แถมมึงยังท้องได้อีก มึงไปเลยนะออกไปจากบ้านของกูเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าใครต่อใครรู้ว่ามึงท้องกูคงได้อายชาวบ้านชาวช่องไปทั้งจังหวัด มึงออกไปเลยนะ แล้วถ้าใครถามว่ามึงเป็นลูกใครก็อย่าไปบอกว่ามึงเป็นลูกกู ต่อไปนี้มึงไม่ใช่ลูกของกู กูไม่ได้มีลูกเป็นตัวประหลาดอย่างมึง"
"พะ พ่อครับ ฮึก...ผมไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้นะ ผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง...ฮึก"
"แค่มึงไปนอนอ้าขาให้เขาเอา มันก็ผิดวิปริตแล้ว ไอ้ลูกเวร!"
"ฮึก..."
"มึงไปเลยนะ ไป!!"
เสียงตวาดดังลั่นทำเอาภัทรถึงกับสะดุ้งตัวสั่นไปหมด เพราะผู้เป็นพ่อค่อนข้างเป็นคนเสียงดุอยู่แล้ว เวลาดุหรือตวาดใส่ใครก็มักจะน่ากลัวเป็นพิเศษ
"ถ้าใครช่วยมันนะ ออกจากบ้านกูไปได้เลย!"
ทั้งแม่และพี่สาวไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเลยเพราะต่างคนต่างก็กลัวพ่อด้วยกันทั้งนั้น
"ฮึก...พ่อครับ"
"มึงอย่ามาเรียกกูว่าพ่อ กูไม่ใช่พ่อของมึง!"
"แม่...พี่ภา"
ภัทรหันหน้าไปหาผู้เป็นแม่ และที่น่าเจ็บใจคือผู้เป็นแม่ที่เป็นที่พึ่งเดียวในตอนนี้กลับหลบสายตาและไม่ให้ความช่วยเหลืออะไรเลย และตอนนี้ภัทรก็รู้ได้แล้วว่าทั้งครอบครัวไม่มีใครต้องการตัวเองอีกแล้ว
ภัทรจำใจต้องคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าเดินออกมาจากบ้านเกิดของตัวเองท่ามกลางความมืดมิดในยามค่ำคืน พาตัวเองเดินไปยังในเมืองทั้งๆที่มันควรจะนั่งรถไปแต่ในตอนนี้ไม่มีแม้แต่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านมาเลย
ขณะกำลังเดินไปเรื่อยๆ ภัทรก็เอามือปาดน้ำตาของตัวเองไปด้วยเพราะน้ำตาเจ้ากรรมก็ดันไหลออกมาไม่ยอมหยุด ทั้งเสียใจเจ็บใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ภัทรไม่มีครอบครัวให้กลับอีกแล้ว เหลือแต่จะต้องเดินหน้าต่อ แต่จะเดินหน้าต่อไปได้ยังไงงานที่ทำอยู่ก็ลาออกไปแล้ว และกำลังท้องอยู่แบบนี้ใครไหนจะรับเข้าทำงาน
"ฮึกฮื่อ...ใจร้ายกันจัง ที่ผ่านมายังใจร้ายกันไม่พออีกหรอ ฮื่ออ..."
ภัทรพร่ำพูดกับตัวเองในขณะที่กำลังเดินฝ่าความมืดไป รอบตัวเงียบสงัดไม่มีเสียงผู้คนมีเพียงเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของภัทรที่กำลังพาตัวเองไปยังในเมืองกลับไปยังเมืองกรุงที่ตัวเองเคยอยู่
สามชั่วโมงผ่านไป
เพราะในตัวบ้านห่างไกลจากในเมืองอยู่หลายกิโล ระยะเวลาในการเดินทางก็เลยจะค่อนข้างนานมากเป็นพิเศษ ภัทรใช้เวลาสามชั่วโมงกว่าๆ เดินมาได้เกือบค่อนทางแล้ว
"ฮึกฮื่อ..." จนถึงตอนนี้ภัทรยังไม่หยุดร้องไห้ เพราะนึกเจ็บใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดมหันต์ขนาดนั้น แต่ทุกคนกลับทำเหมือนกับว่าภัทรฆ่าใครตายมา
อีกใจนึงก็นึกอิจฉาพี่ชายคนโตของตัวเอง ทั้งๆ ที่เรียนก็เรียนไม่จบงานการไม่มีทำ วันๆ ก็เอาแต่แบมือขอเงินพ่อแม่ใช้ แต่ผู้เป็นพ่อกลับให้ความรักความใส่ใจมากกว่าลูกคนอื่นโดยเฉพาะตัวเอง
"ผมทำอะไรผิดฮึก...ผมทำอะไรผิดฮื่อ..."
ร่างเล็กเดินฝ่าความมืดไปเรื่อยๆ โดยมีแสงจันทร์นำทางจนกระทั่งมาถึงในตัวเมือง แต่ตอนนี้ก็ไม่มีรถที่จะพาขึ้นไปยังสถานีขนส่งได้ ต้องรอให้เช้าอีกทีถึงจะไปได้ คืนนี้ก็คงต้องหาที่นอนแถวนี้ก่อน แต่ภัทรก็คงไม่สามารถข่มตาตัวเองให้นอนหลับลงได้ และภัทรก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้หรือเปล่า ทุกอย่างมันรวดเร็วราวกับฝันไป เป็นไปได้ภัทรก็อยากให้เรื่องนี้เป็นแค่ความฝันของตัวเอง อยากตื่นขึ้นมาแล้วได้กลับไปใช้ชีวิตปกติ ไม่ใช่ผู้ชายที่กำลังอุ้มท้องอยู่ในตอนนี้