ตอนที่ 03 เปลี่ยนไป
3 ปีผ่านไป
"ตั้งใจเรียนนะครับคนเก่ง" ไต้ฝุ่นย่อตัวนั่งลงเพื่อพูดคุยกับลูกชายวัยเจ็ดขวบ วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก และเป็นวันที่ตะวันจะได้เข้าเรียนชั้นประถม เจ้าตัวดูตื่นเต้นมาก เพราะได้เข้าเรียนโรงเรียนใหม่ และวันนี้เจคอปก็จะเป็นคนขับรถไปส่งเองด้วย
"ครับแม่ แม่เองก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะครับ แล้วตะวันจะรีบกลับมา"
"ครับผม" ไต้ฝุ่นลูบหัวลูกชายด้วยความเอ็นดู ก่อนที่จะเดินจูงมือออกไปพร้อมกับผู้เป็นพ่อ
บนรถ
"พ่อครับ จะถึงวันเกิดแม่แล้วเราซื้ออะไรเป็นของขวัญวันเกิดให้แม่ดี" เด็กชายน้อยหันไปถามด้วยความตื่นเต้น ทันทีที่นึกขึ้นมาได้ว่าอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันครบรอบวันเกิดของผู้เป็นแม่แล้ว การกระทำท่าทีของตะวันทำเอาเจคอปอดยิ้มออกมาไม่ได้
"แล้วแต่ตะวันเลยสิ อยากได้อะไรก็ซื้อให้แม่เลย ส่วนเรื่องเงินเดี๋ยวพ่อช่วย"
"ครับ แล้วพ่อซื้อของอะไรให้เป็นของขวัญวันเกิดแม่ครับ?"
"ความลับน่ะลูก"
"โห่ บอกหน่อยไม่ได้หรอครับ"
"ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ครับ"
"...." เด็กน้อยทำหน้าบึ้งตึงใส่ เจคอปยกมือไปขยี้ผมของลูกชายจนรุงรังพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ไปด้วย
"ไม่ใช่ว่าไม่อยากบอก ตอนนี้พ่อกำลังคิดอยู่น่ะ ยังไม่มั่นใจเลยว่าจะซื้ออะไรให้กับแม่ของลูกดี"
"ผมซื้อเค้กให้แม่ดีกว่า"
"โอเคครับ"
"...."
"เอ้อตะวัันครับ ตอนเย็นพ่อไม่แน่ใจว่าจะมีเวลาว่างมารับหรือเปล่า พอดีว่าพ่อมีประชุม ถ้าเลิกเรียนแล้วยังไม่เห็นพ่อมารอรับหนูกลับรถรับส่งได้เลยนะลูก"
"ครับพ่อ"
ยิ่งกิจการที่เจคอปทำอยู่มันกำลังไปได้สวย งานของเขามันก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น และเพราะแบบนี้มันเลยทำให้ไต้ฝุ่นกับลูกอยู่สุขสบาย แต่ก็แลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยและแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนหรือเวลาให้กับภรรยากับลูกเลย
เวลาต่อมา
บรืน~
รถรับส่งที่ตะวันนั่งกลับมาหลังเลิกเรียนจอดนิ่งที่หน้าบ้าน ก่อนที่เจ้าตัวจะลงมาจากรถเดินกลับเข้ามาในบ้านทำให้ไต้ฝุ่นที่กำลังนั่งรออยู่แปลกใจ ปกติต้องกลับพร้อมกับเจคอปนี่นา แต่ทำไมถึงกลับมาคนเดียวได้แบบนี้
"ตะวัน"
"สวัสดีครับแม่"
"ครับผม ทำไมถึงนั่งรถรับส่งกลับมาได้ล่ะลูกพ่อไปไหน"
"พ่อบอกว่ามีประชุมช่วงเย็นครับ ถ้าพ่อไม่มาจอดรถรอรับก็ให้กลับบ้านพร้อมกับรถรับส่งได้เลยครับไม่ต้องรอ"
"พ่อบอกแบบนั้นหรอลูก?"
"ครับ" เด็กน้อยพยักหน้าไปพร้อมกับคำพูด
"งั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งทำการบ้านก่อนนะลูกจะได้มีเวลาเล่นเยอะๆ"
"ครับ"
ไต้ฝุ่นยืนมองลูกชายเดินเข้าไปในบ้าน เขาแค่แปลกใจว่าทำไมตะวันถึงกลับมากับรถรับส่งของโรงเรียนได้ ในเมื่อเจคอปเป็นคนบอกกับตนแท้ๆ ว่าจะเป็นคนรับลูกกลับในตอนเย็นเอง และก็ไม่เห็นบอกก่อนด้วยว่าวันนี้จะมีประชุม ปกติเขาจะบอกทุกอย่างบอกรายละเอียดว่าการทำงานจะมีอะไรบ้างในแต่ละวันไม่ว่าจะเป็นการประชุมหรือการออกไปพบลูกค้างานเลี้ยงงานสัมมนาต่างๆ
แต่เพราะเขาคงเหนื่อยเลยลืมบอกเรื่องนี้กับไต้ฝุ่น เขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะที่ผ่านมาเจคอปปกติทำตัวดีมาโดยตลอดไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ทำอะไรอยู่ลูก?"
"กำลังทำการบ้านครับ"
"ไปโรงเรียนวันแรกเป็นยังไงบ้างครับ?"
"ก็ดีครับได้เพื่อนใหม่ด้วย"
"แม่ดีใจนะที่ตะวันชอบ"
"ครับ แม่ครับ.."
"ครับผม"
"พรุ่งนี้แม่ไปส่งตะวันที่โรงเรียนหน่อยได้ไหมครับ"
"อ้าว ตะวันไม่ไปกับพ่อหรอ?"
"ตะวันอยากให้แม่ไปส่งมากกว่าครับ"
"ได้สิครับ"
"ช่วงนี้พ่อทำงานหนัก ตะวันไม่อยากกวนพ่อครับ"
"ไม่เป็นอะไรนะครับ ตะวันต้องเข้าใจพ่อเพราะพ่อหาเงินคนเดียว พ่อต้องทำงาน ตะวันจะได้มีเงินเรียนสูงๆ ตะวันอยากไปเรียนต่างประเทศไม่ใช่หรอครับ"
"ใช่ครับ"
เด็กน้อยวางแผนอนาคตของตัวเองเอาไว้ ว่าอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ อยากพูดได้หลายภาษา อยากเก่งหลายๆ เรื่อง อยากช่วยงานพ่ออยากดูแลแม่ มันเป็นความฝันของเด็กอย่างตะวันที่โตขึ้นอยากทำแบบนี้
"วันนี้พ่อจะกลับดึกหรือเปล่าครับ"
"ไม่รู้เหมือนกันสิ แม่โทรไปถามแล้วแต่พ่อไม่รับสาย คงจะประชุมอยู่จริงๆ แหละ"
"พ่อจะกลับมาทันเวลากินข้าวพร้อมกับเราหรือเปล่าครับ" เพราะเคยกินข้าวอยู่กับพ่อแม่พร้อมหน้าพร้อมตามันเคยชินกับการกระทำแบบนี้ไปแล้ว และถ้าขาดพ่อหรือแม่เป็นคนนึงก็คงจะรู้สึกแปลกๆ ไป ตามประสาตามความรู้สึกของเด็กน้อยอย่างตะวันก็ยังอยากให้พ่อกับแม่มานั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยกันเช้าเย็นทุกๆ วันเสมอ
"เดี๋ยวพ่อก็คงกลับมาเองครับ เราไม่โทรไปจิกพ่อกันดีกว่านะเดี๋ยวพ่อจะไม่สบายใจเอา"
"ครับ"
ไต้ฝุ่นเดินเล่นไปรอบๆ ห้องนอนของลูกชายจัดระเบียบข้าวของที่วางไม่ค่อยเป็นระเบียบสักเท่าไหร่นักเข้าที่เดิม ถึงแม้จะแยกห้องนอนกันแล้ว การกระทำของตะวันดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ในสายตาของไต้ฝุ่นตะวันก็ยังเป็นเด็กอยู่เหมือนเดิม
เวลาผ่านไป
18:45น.
"แม่ครับพ่อจะไม่กลับมาจริงๆ หรอครับ" ตะวันนั่งรอผู้เป็นพ่อกลับมาจากทำงาน เพื่อที่จะรอกินข้าวพร้อมกันในตอนเย็น รออยู่เกือบชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววของผู้เป็นพ่อกลับมาเลย
"กลับมาสิลูกเดี๋ยวพ่อก็กลับมา" ไต้ฝุ่นพูดปลอบใจลูกชายที่กำลังนั่งรอ ทั้งๆ ที่บอกให้กินข้าวก่อนแต่ตะวันก็ไม่ยอม บอกว่าจะรอกินข้าวพร้อมกับผู้เป็นพ่อ
"คุณหนูคะ ตอนนี้คุณพ่อน่าจะทำงานอยู่ คุณหนูกินข้าวก่อนดีกว่านะคะเดี๋ยวคุณพ่อก็คงจะกลับมา" ป้าแม่บ้านช่วยพูดอีกแรง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผลอะไรเลย
ตะวันมั่นคงกับคำพูดของตัวเองบอกว่ารอก็คือจะรอ เจคอปไม่เคยแปลกไปแบบนี้เลย โทรไปเขาก็ไม่รับสาย เพราะถ้ายอมรับสายเขาก็คงจะช่วยพูดกับตะวันได้บ้าง แกจะได้ไม่ต้องมานั่งรออยู่แบบนี้
"ตะวันลูก"
"ถ้าพ่อไม่กลับมาผมก็ไม่กินหรอกครับแม่ ผมขึ้นไปนอนก่อนนะครับ" เด็กน้อยพูดเสียงเศร้าก่อนจะวางช้อนลง แล้วลุกขึ้นเดินออกไปทันที
"ทำยังไงดีคะคุณฝุ่น"
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ คุณเจไปไหนปกติเขาไม่เคยหายไปแบบนี้" ไต้ฝุ่นพูดด้วยความหนักใจ เพราะเขาติดต่อไม่ได้เลยทำให้ตะวันน้อยใจแบบนี้
"คุณฝุ่นลองโทรอีกสักครั้งได้ไหมคะ"
"ครับ"
ไต้ฝุ่นทำตามคำแนะนำของแม่บ้าน เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออกไปหาผู้เป็นสามีอีกครั้ง
( ครับ ว่าไง )
"คุณอยู่ที่ไหนครับเนี่ย"
( กำลังกลับแล้ว ขอโทษนะพอดีดื่มเพลินไปหน่อยน่ะ )
"...."
( มีอะไรหรือเปล่า )
"ตะวันแกไม่ยอมกินข้าวครับ น้อยใจที่คุณไม่ยอมกลับมา ตอนนี้หนีขึ้นห้องไปแล้ว"
( อ่าว เดี๋ยวฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย )
เจคอปกดวางสายไปทันที ไต้ฝุ่นถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก มองหน้าแม่บ้านที่กำลังรอคำตอบอยู่
"คุณเจรับแล้วครับกำลังกลับมา"
"เฮ้อ โล่งอกไปทีนะคะ ว่าแต่คุณเจคอปหายไปไหนมากัน คุณหนูรอจนงอนไปแล้ว"
"เห็นบอกว่าไปดื่มกับเพื่อนครับ ผมขอตัวขึ้นไปหาตะวันก่อนนะครับ"
"ค่ะ เดี๋ยวป้าจะให้แม่บ้านเอากับข้าวไปอุ่นให้ก่อนนะคะจะได้กินร้อนๆกัน"
"ครับ ฝากทีนะครับป้า"
ไต้ฝุ่นรีบขึ้นไปด้านบน เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของลูกชายที่ตอนนี้กำลังนอนหมกตัวอยู่บนเตียงของตัวเอง ใช้ผ้าคลุมตัวเองเอาไว้ไม่ยอมออกมาเลย
"ตะวันครับ"
"...."
"แม่โทรบอกพ่อให้แล้วนะครับ พ่อรับสายแล้วตอนนี้กำลังกลับมา"
"...."
"อย่าทำแบบนี้เลยนะครับตะวัน แม่เข้าใจความรู้สึกของตะวันนะ ไหนตะวันบอกว่าตะวันเข้าใจพ่อไง พ่อต้องทำงานหาเงินมาให้ตะวันนะ"
"...."
ไม่ว่าจะพยายามพูดมากเท่าไร ตะวันก็ไม่ยอมโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มเลย เจ้าตัวนอนนิ่งไม่มีการตอบรับ
หมับ!
ฝ่ามือของใครบางคนจับที่หัวไหล่ของไต้ฝุ่นจากทางด้านหลังทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งตกใจเป็นอย่างมาก แต่พอหันกลับไปเห็นว่าเป็นเจคอปก็ดีใจขึ้นมาทันที
"คุณเจ..."
"เดี๋ยวฉันคุยให้เอง" เจคอปพูดกระซิบเบาๆ ก่อนที่ไต้ฝุ่นจะหลีกทางให้
"ตะวันลูก"
"พ่อ!" ทันทีที่ได้เห็นหน้าผู้เป็นพ่อ ตะวันก็ยิ้มออกมาทันที เจ้าตัวโผกอดด้วยความดีใจก่อนที่เจคอปจะกอดตอบลูกชายพร้อมกับลูบศีรษะเบาๆ ด้วยความรู้สึกผิด
"พ่อขอโทษนะลูก"
"พ่อไปไหนมาครับ ไม่เห็นบอกก่อนเลยว่าจะกลับดึก"
"พ่อลืมดูเวลาน่ะ พ่อขอโทษนะ พ่อสัญญาเหตุการณ์แบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีก"
"...." ตะวันพยักหน้าตอบรับคำพูดของคนเป็นพ่อ
"งั้นลงไปกินข้าวกันนะลูก คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีก แม่เป็นห่วงรู้ไหม อย่าทำให้แม่ต้องไม่สบายใจสิลูก" เจคอปหันมองไต้ฝุ่นที่ยืนมองอยู่ใกล้ๆ เพราะเขารู้ดีว่าไต้ฝุ่นไม่สบายใจมากๆ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และทุกอย่างมันเป็นความผิดของเขาเองที่ไม่ยอมดูเวลาจนกลับผิดเวลาแบบนี้
"ตะวันขอโทษครับแม่"
"ไม่เป็นอะไรครับ หิวหรือเปล่าครับ"
"หิวครับ"
"งั้นเราลงไปกินข้าวกันนะครับ" เจคอปพูด
"ครับผม"
หลังจากนั้นทั้งสามก็ลงไปพร้อมกัน ขณะที่กำลังเดินด้วยกันเจคอปก็ถือโอกาสโอบเอวภรรยาที่กำลังเดินไปแล้วโน้มหน้าหอมซอกคอทำเอาไต้ฝุ่นตกใจมากเพราะนี่มันต่อหน้าลูก
"คุณเจ!!"
"หอมจังนะ"
"...." ไต้ฝุ่นเขินจนหน้าแดงหูแดงไปหมด ถึงมันจะเป็นเรื่องปกติที่ทั้งสองจะแสดงความรักต่อกันแบบนี้ แต่ก็ไม่เคยทำต่อหน้าคนอื่นหรือต่อหน้าลูกแบบนี้
เวลาผ่านไป
แกร้ก
"ลูกหลับแล้วหรอครับ?"
"หลับแล้วล่ะ" เจคอปตอบเสียงหวาน ก่อนที่จะเดินตรงมาหาไต้ฝุ่นที่กำลังอ่านหนังสืออยู่
หมับ!
"คุณเจ อะไรครับ?"
"อ่านทำไมอยู่ได้ เรียนจบตั้งนานละ"
"ก็มันไม่รู้จะทำอะไรนี่ครับ"
"งั้นเรามาทำแบบนั้นกันดีกว่านะ"
"อ๊ะ คุณเจ..."
ไต้ฝุ่นถูกแรงจากคนตัวโตผลักให้นอนกับเตียง เซ็กซ์สวาทที่ต่างคนต่างโหยหาก็เริ่มต้นขึ้น
สองชั่วโมงต่อมา
"จะไม่ถามหน่อยหรอว่าฉันหายไปไหนมา" เจคอปถามคนในอ้อมกอด ไต้ฝุ่นเอนหลังพิงกับหน้าอกของเขาโดยที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้ากันทั้งคู่ ต่างคนต่างเปลือยเปล่าเพราะเพิ่งจะจบเรื่องอย่างว่าไป
"ก็คุณบอกว่าไปงานเลี้ยง"
"ขอโทษนะที่ไม่บอกก่อนล่วงหน้า แถมยังกลับผิดเวลาอีก"
"ผมน่ะไม่คิดมากหรอกครับ แต่คนที่คิดมากคือตะวันต่างหาก"
"นั่นสิ ขี้น้อยใจเหมือนใครกันนะ"
"เหมือนคุณไง" ไต้ฝุ่นรีบตอบกลับไปทันที
"เหมือนเราแหละ เพราะตะวันก็เป็นลูกของเราสองคน"
"...." ไต้ฝุ่นยิ้มอยู่ภายใต้อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเจคอป มันดี มันมีความสุขจนอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้เลย
"ขอโทษจริงๆ นะ"
"ทำไมเอาแต่ขอโทษผมล่ะครับ"
"ก็ฉันรู้สึกผิดจริงๆ นี่นา"
"...." ถึงจะเปลี่ยนไปบางเรื่อง แต่บางเรื่องเขาก็ยังเหมือนเดิม โดยเฉพาะเวลาที่ทำอะไรผิด หรือผิดสัญญากับไต้ฝุ่นและลูก เขามักจะเอาแต่ขอโทษซ้ำๆ ทั้งๆ ที่ไต้ฝุ่นก็ไม่ได้โกรธอะไร แต่เขาก็จะเอาแต่ขอโทษอย่างเดียวจริงๆ
"ไปอาบน้ำด้วยกันไหม?"
"ไม่เอา เดี๋ยวก็ไม่ได้อาบน้ำอย่างเดียวอีก" เพราะไต้ฝุ่นรู้ทัน ทุกครั้งที่เกิดเรื่องบนเตียงขึ้น มันจะเกิดขึ้นอีกหลายๆ ครั้งในวันเดียวหรือในคืนเดียว บางครั้งก็ทำเอาไต้ฝุ่นตื่นผิดเวลาไปเลย
"ยังกินยาคุมอยู่หรือเปล่า?"
"กินครับ"
"อยากมีลูกไหม?"
"ไม่รู้สิครับ มีแค่ตะวันคนเดียวก็พอแล้วนะผมว่า..."
"นั่นสิ มีแค่น้องตะวันก็คงพอ..." เจคอปพูดเสียงแผ่ว น้ำเสียงค่อนข้างเศร้าทำให้ไต้ฝุ่นแหงนหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัยเพราะเสียงของเจคอปแปลกไปจริงๆ
หรือว่าเขามีเรื่องไม่สบายใจอะไรอยู่ หรือว่าอยากมีลูกอีก
"คุณอยากมีหรอครับ?"
"เปล่าๆ ถ้าฝุ่นไม่อยากมี ฉันก็ไม่ว่า ฉันเคารพการตัดสินใจของฝุ่นนะ"
"ขอบคุณครับ"
ไม่ใช่ไม่ยินดีกับการมีลูก แต่ในความรู้สึกของตนเองคือ มีแค่คนเดียวก็พอแล้ว ไม่ได้อยากมีเยอะๆ เหมือนกับใคร และถ้ามีลูกอีกเจคอปก็ต้องมาสนใจตรงนี้มากกว่าอีก ไต้ฝุ่นรู้ดีว่าเจคอปให้ความสำคัญกับงานมากแค่ไหน
เวลาผ่านไป
"ดึกแล้วคุณไม่นอนหรอครับ" ทั้งๆ ที่กลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ และเสร็จกิจบนเตียงไปอีกหลายรอบทว่าเจคอปยังไม่หลับตานอนลงเลย
"ยังไม่ง่วงน่ะ"
"มีเรื่องให้คิดหรอครับ?" เพราะถ้าเหมือนทุกวันเจคอปคงจะหลับไปแล้ว ไม่มานอนถ่างตาคิดอะไรอยู่แบบนี้หรอก
"นิดหน่อยน่ะ"
"เรื่องงานของคุณ ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ก็มาบอกผมนะครับ ไม่อยากอยู่เฉยๆ ผมอยากช่วยงานคุณ"
"อยู่แบบนี้น่ะดีแล้ว จะทำให้เหนื่อยทำไม บอกแล้วไงว่าฉันจะดูแลฝุ่นเอง"
"แต่ผม..."
"อยากกลับไปเปิดร้านเบเกอรี่ไหม?"
"หืม..."
ก่อนหน้านั้นที่ไต้ฝุ่นเปิดร้านเบเกอรี่กับเพื่อนอีกคน แต่แล้วก็ต้องปิดลงเพราะเพื่อนประสบปัญหาส่วนตัว ไต้ฝุ่นเองก็เลยต้องปิดร้านอย่างถาวรจนกระทั่งตอนนี้ เพราะถ้าจะเปิดใหม่ก็ต้องมีลูกจ้างคอยช่วยงานในร้าน เจคอปไม่ยอมให้ไต้ฝุ่นทำงานอยู่คนเดียวแน่ๆ เพราะรู้ว่าร่างกายของไต้ฝุ่นมันไม่ได้แข็งแรง
"ฉันเจอคนรู้จักอยู่คนนึง เขากำลังหางานทำอยู่น่ะ"
"จะให้เขามาช่วยงานผมหรอครับ?"
"ใช่ ฝุ่นคงทำคนเดียวไม่ไหวหรอก อีกอย่างถ้าต้องให้ฝุ่นเปิดร้านคนเดียวฉันเองก็คงไม่ยอมแน่ๆ"
"ครับ ยังไงก็ได้ครับผมไม่อยากอยู่เฉยๆ"
"...." เจคอปยิ้มตอบรับ ก่อนที่เขาจะรั้งไต้ฝุ่นให้นอนลงบนอ้อมกอดของเขา
เวลาต่อมา
คลิก~ ( เสียงข้อความ )
ไต้ฝุ่นหันไปมองโทรศัพท์มือถือของเจคอปที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานขณะที่เขากำลังไปอาบน้ำอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นไต้ฝุ่นก็ไม่อาจเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเขาได้เพราะนั่นอาจจะเป็นเรื่องงานสำคัญของเขาจึงปล่อยไป
ผ่านไปสักพัก
แกร้ก~
เจคอปเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพร่างกายที่เปียกชุ่มเส้นผมยังมีน้ำไหลหยดลงมาอยู่เลย
"คุณเจครับ โทรศัพท์คุณมีข้อความเข้ามาครับ มีหลายข้อความเลยแต่ผมไม่ได้เปิดอ่าน"
"อ๋อ ขอบใจมากนะคงจะเป็นข้อความจากเลขาน่ะ"
"คุณไม่ดูก่อนหรอครับเผื่อว่ามีงานสำคัญ วันนี้คุณไม่ได้ไปทำงานนี่"
"ฉันอยากพักอยู่บ้านน่ะ ไม่อยากสนใจอะไร"
"...." ต่อให้พูดอะไรไปเจคอปก็ดื้อรั้นอยู่เหมือนเดิม เจ้าตัวเดินไปนั่งที่หน้ากระจก ให้ไต้ฝุ่นมาเช็ดผมเป่าผมที่เปียกชุ่มให้กับตัวเอง ขณะเดียวกันเขาก็รั้งเอวเล็กของไต้ฝุ่นมากอดเอาไว้แน่น
คลิก~ ( ข้อความใหม่ )
คลิก~
คลิก~
ข้อความดังขึ้นมาอีกหลายๆ ข้อความ ทำให้เจคอปต้องเดินไปหยิบโทรศัพท์แล้วเปิดอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามา ทันใดนั้นเองสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปตื่นตระหนกทันทีราวกับว่าข้อความนั้นมันมีเรื่องน่าตกใจ
"มีอะไรหรือเปล่าครับ?"
"ตอนเย็นฝุ่นไปรับลูกคนเดียวก่อนนะ ฉันมีเรื่องด่วนต้องไปทำ" ว่าแล้วเจคอปก็หันไปหยิบเสื้อคลุมที่แขวนไว้ แล้วเดินออกจากห้องไปทันที ด้วยท่าทีที่ร้อนรนทำเอาไต้ฝุ่นอดสงสัยไม่ได้ว่ามีเรื่องอะไรทำให้เขาถึงได้ดูตื่นตระหนกขนาดนั้น
แสดงว่าเรื่องนั้นต้องสำคัญมากๆ หรือไม่ก็ต้องเป็นเรื่องด่วนมากๆ จนเขาต้องรีบออกไปแบบนั้น