ตอนที่ 04 ผิดสัญญา
เวลาผ่านล่วงเลยไปมาจนกระทั่งถึงวันเกิดของไต้ฝุ่น
ตะวันลูกชายคนเดียวของทั้งสองได้จัดการซื้อเค้กมาไว้เซอร์ไพรส์ให้กับผู้เป็นแม่ ขณะนี้กำลังยืนรอพ่อของตัวเองกลับมาจากที่ทำงาน เด็กน้อยชะเง้อมองแล้วมองเล่าที่หน้าประตูรั้วบ้าน จนกระทั่งฟ้าเริ่มมืดก็ยังไม่มีวี่แววของเจคอปเลย
"ยืนรอพ่ออยู่หรอลูก?"
"ครับแม่"
"พ่อคงจะทำงานอยู่ แม่ว่ากลับไปรอด้านในดีกว่า มืดแล้วเดี๋ยวยุงกัดเป็นตุ่มเอา"
"ตะวันขอยืมโทรศัพท์แม่หน่อยสิครับ"
"อ่า ได้ครับ" ไต้ฝุ่นหยิบโทรศัพท์มือถือของตนแล้วยื่นให้กับลูกชาย "งั้นแม่ไปข้างในนะ"
"ครับ"
ตะวันกดโทรออกไปยังเบอร์ของผู้เป็นพ่อ แต่ก็ไม่มีถ้าทีว่าปลายสายจะรับโทรศัพท์มือถือเลย โทรครั้งแล้วครั้งเล่าจนสายตัด เป็นสิบกว่าสายได้ ทำเอาตะวันหน้าตาเศร้าลงไปเรื่อยๆ กลัวว่าวันนี้พ่อจะผิดสัญญากัน เพราะได้นัดกับพ่อเอาไว้แล้วว่าจะเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับแม่ด้วยกัน ผ่านพ้นเที่ยงคืนนี้ไปก็ไม่ใช่วันเกิดแล้ว
เวลาผ่านไป
"ตะวันลูกมืดแล้วนะเข้าบ้านเถอะ"
"แม่ครับ ผมขอยืนรออีกนิดนะครับ"
"เดี๋ยวยุงกัดเอานะ"
"ครั้งก่อนพ่อสัญญากับเราเอาไว้แล้วว่าพ่อจะกลับมากินข้าวกับเราทุกวัน"
"แม่ว่าพ่อคงมีงานนะก็เลยกลับผิดเวลา แล้วที่ไม่รับโทรศัพท์ก็อาจจะประชุมอยู่"
"...." เด็กน้อยทำหน้าเศร้า เพราะไม่ได้รอให้ผู้เป็นพ่อกลับมากินข้าวด้วยกันอย่างเดียว แต่วันนี้มันเป็นวันสำคัญของไต้ฝุ่นและทั้งสองก็ได้สัญญากันเอาไว้แล้วด้วย
"กลับไปนั่งรอข้างในนะ"
"ครับ" ตะวันเดินคอตกกลับเข้าไปด้านในตามคำสั่งของผู้เป็นแม่แต่โดยดี ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาไม่พูดไม่จากับใคร
สองชั่วโมงผ่านไป
"แม่ครับ ทำไมพ่อยังไม่กลับมาอีก?"
"...." ไต้ฝุ่นก็ไม่รู้จะหาคำตอบไหนมาบอกกับลูกแล้วเหมือนกัน เพราะตัวเองก็หาข้ออ้างมาแก้ต่างให้กับเจคอปหลายเรื่องหลายครั้งแล้ว จนลูกชายแทบจะไม่เชื่อแล้วว่ามันเป็นความจริง
"พ่อจะกลับมาจริงๆไหมครับ?"
"กลับมาสิลูก" ไต้ฝุ่นตอบ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ลูกชาย ยกมือขึ้นลูบผมของตะวันเบาๆ เพื่อปลอบประโลมให้ลูกชายรู้สึกดีขึ้น
หมับ!
"แม่ครับ ทำไมช่วงนี้พ่อผิดนัดกับเราบ่อยจัง"
"ไม่เป็นอะไรนะลูก พ่อเขาคงมีงานเยอะ บางทีอาจจะไม่ได้จับโทรศัพท์เลยก็ได้"
"แต่เมื่อก่อนพ่อไม่เคยเป็นแบบนี้นะครับ"
"...." ไม่ใช่แค่ตะวันที่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงไปของผู้เป็นพ่อ ไต้ฝุ่นเองก็รับรู้ถึงอะไรหลายๆ อย่างที่แปลกไปจากตัวของสามีเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากพยายามปลอบใจตัวเองว่าเขาคงทำงานหนักทำงานเหนื่อย และต้องเป็นหลักให้กับลูกชายจึงไม่สามารถทำตัวอ่อนแอเป็นตัวอย่างได้
"เราลองโทรหาพ่ออีกครั้งได้ไหมครับ"
"ได้สิครับ"
ตะวันหยิบโทรศัพท์ของผู้เป็นแม่แล้วเดินออกไปโทรที่หน้าบ้าน
ติ๊ด~
( ว่าไงฝุ่น )
"พ่อครับนี่ตะวันเอง"
( อ้าว มีอะไรหรือเปล่าลูก )
"พ่อลืมหรือเปล่าครับ ว่าวันนี้เราสัญญาอะไรกันไว้"
( บ้าจริง พ่อลืมไปสนิทเลยลูก ตะวันกับแม่... )
"พ่อคงมาไม่ได้อีกสินะครับ"
( พ่อขอโทษจริงๆนะ )
"วันนี้เป็นวันเกิดแม่นะครับ แล้วพ่อก็สัญญากับตะวันเอาไว้แล้วด้วย"
( พ่อขอโทษจริงๆครับ )
"พ่อกลับมาไม่ได้หรอครับ พ้นวันนี้ไปก็ไม่ใช่วันเกิดแม่แล้วนะครับ ตะวันอยากให้เราอยู่ด้วยกัน"
( พ่อกลับไม่ได้จริงๆเนี่ยสิ มีเรื่องหลายอย่างต้องทำเลย )
"...." ตะวันยืนนิ่งสีหน้าเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ พอได้ยินคำพูดยืนยันว่าไม่สามารถมาได้ในคืนนี้มันรู้สึกจุกยังไงก็ไม่รู้
มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาตัวเองที่หยดลงมาเพราะกลัวว่าผู้เป็นแม่จะเดินมาเห็น
"พ่อไม่ต้องมาก็ได้ครับ ผมถือเค้กให้แม่เป่าคนเดียวก็ได้ ทำงานของพ่อไปเถอะครับ สวัสดีครับ"
( เอ่อ...ดะ เดี๋ยว.. )
ตู๊ดๆๆๆ
ตะวันกดวางสายถึงแม้จะรู้ว่ามันเป็นนิสัยที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ที่กดตัดสายทิ้งแบบนี้
"พ่อก็เป็นแบบนี้ตลอด พ่อผิดสัญญากับตะวันตลอด ถ้าพ่อทำตามสัญญาไม่ได้พ่อจะมาสัญญากับตะวันทำไม" เด็กน้อยพูดพร่ำพร้อมกับปาดน้ำตาของตัวเองออกเรื่อยๆ ตะวันเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคำสัญญามาก อะไรก็แล้วแต่ถ้าให้คำสัญญาเอาไว้แล้วก็ต้องทำตามคำสัญญานั้น และจะรู้สึกเสียใจมากที่สุดกับคนที่ไม่รักษาสัญญาหรือผิดสัญญาอยู่บ่อยๆ เหมือนกับเรื่องที่ต้องเจออยู่ในตอนนี้
"ตะวันครับข้างนอกอากาศเย็นนะ กลับเข้ามาในบ้านเถอะ"
"ครับแม่"
"พ่อว่ายังไงบ้างลูก"
"พ่อบอกว่ายังกลับไม่ได้ครับ"
"พ่อคงทำงานหนักอยู่น่ะ ไปกินข้าวกับแม่เถอะนะ"
"ครับ"
ตกดึก
พรึบ!~
"อ๊ะ! อะไรกันเนี่ย ไฟดับหรือไง แต่ข้างนอกก็ไม่ดับนี่ดับเฉพาะในบ้าน หรือว่าหม้อไฟเสีย?" ไต้ฝุ่นยืนบ่นพึมพำเมื่อจู่ๆ ไฟในบ้านก็ดับลงทั้งหมด ทำให้เจ้าตัวต้องงมเดินเอาเพราะมองไม่เห็นทาง แต่ก็น่าแปลกที่ไฟข้างนอกมันไม่ได้ดับเหมือนในตัวบ้าน
ขณะเดียวกันนั้น....
ตะวันเดินออกมาจากความมืดพร้อมกับเค้กก้อนโต ปากก็พร่ำร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดให้กับผู้เป็นแม่จนกระทั่งจบเพลง
"อธิษฐานสิครับแม่"
"โถ่ลูก" ไต้ฝุ่นยิ้มก่อนจะหลับตาอธิษฐานแล้วเป่าเค้กในมือของลูกชาย
หลังจากนั้นไฟในบ้านก็ถูกเปิดขึ้น ตะวันทำทุกอย่างโดยมีแม่บ้านคอยช่วยเหลือเพราะถ้าทำคนเดียวคงทำไม่ได้แน่ๆ
"สุขสันต์วันเกิดครับ เมื่อกี้แม่อธิษฐานอะไรหรอครับ"
"ก็อธิษฐานขอให้ลูกชายแม่แข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วย แล้วก็ขอให้เรียนเก่งๆ ขอให้เป็นเด็กดีของแม่แบบนี้ตลอดไป"
"ครับแม่"
"แบบนี้น่ะหรอเราถึงได้รบเร้าให้พ่อกลับมา"
"ครับ"
"ไม่เป็นอะไรนะ แค่ตะวันซื้อเค้กมาให้แม่แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว"
"เราไปกินเค้กกันนะครับแม่"
"ครับผม"
อีกไม่เท่าไหร่ก็จะพ้นคืนวันเกิดของไต้ฝุ่นแล้ว ถึงอย่างนั้นตะวันก็ยังรอคอยให้ผู้เป็นพ่อกลับมาเซอร์ไพรส์วันเกิดทันเวลา ถึงจะกลับมาไม่ทันตอนเป่าเค้กก็ไม่เป็นไร แต่ก็ยังไร้วี่แววที่เจคอปจะกลับมาเลย
"คืนนี้ตะวันขอไปนอนกับแม่นะครับ"
"ได้สิครับ"
พรุ่งนี้ตรงกับวันหยุดพอดีตะวันก็เลยไม่ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียน และคืนนี้ก็อยากอยู่กับผู้เป็นแม่อยากนอนอยากได้รับอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่น
เวลาต่อมา
"อืม..." ไต้ฝุ่นสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกหนักอึ้งตรงช่วงเอวของตนเองเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างกดทับอยู่ พอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นเจคอปที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ "คุณเจ..."
"ฉันทำให้ฝุ่นตื่นหรือเปล่า?"
"เปล่าครับ คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"
"กลับมาดึกแล้วล่ะเห็นกำลังนอนหลับกันอยู่ก็เลยไม่อยากกวน"
"...."
"วันนี้วันหยุดนอนต่ออีกสักหน่อยเถอะ ฉันอยากกอดฝุ่นแบบนี้นานๆ"
"ครับ" ไต้ฝุ่นตอบรับเสียงแผ่ว แม้จะรู้สึกทะแม่งๆ กับคำพูดของเจคอป แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปอีกเพราะกลัวว่าจะทำให้ลูกที่นอนอยู่ข้างๆ ตื่น
"ขอโทษนะที่มาไม่ทันวันเกิดของฝุ่น"
"ไม่เป็นอะไรครับ ก็คุณทำงานนี่นา"
"...."
"อย่าคิดมากเลยครับ"
"ฉันรู้ว่าฝุ่นเข้าใจ แต่อีกคนต้องโกรธฉันมากแน่ๆ"
"...." ไต้ฝุ่นมองไปที่ลูกชายที่กำลังนอนหลับใหลอยู่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตะวันไม่โกรธที่เจคอปผิดสัญญา ไต้ฝุ่นเลี้ยงลูกมาเองกับมือรู้จักนิสัยใจคอของลูกชายเป็นอย่างดี และเมื่อคืนเจคอปก็ทำให้ตะวันผิดหวังมากจริงๆ
"ของขวัญวันเกิดฉันซื้อมาให้แล้วนะ เอาไว้ตื่นกันแล้วฉันจะเอาให้"
"ครับ"
ไต้ฝุ่นกับเจคอปนอนหลับต่อจนกระทั่งรู้สึกตัวตื่นเพราะมีแรงขยับจากข้างๆ
"จะไปไหนลูก?" ไต้ฝุ่นถามลูกชาย
"จะกลับห้องครับ"
"อ๋อ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวแม่ตามลงไปนะ"
"ครับ" เด็กชายตัวน้อยพยักหน้าตอบรับคำพูดของผู้เป็นแม่ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ผ่านไปไม่นาน
"ตะวันครับพ่อซื้อ..."
"...." ตะวันเดินผ่านเจคอปไปราวกับว่ามองไม่เห็นว่าเขายืนอยู่ตรงนั้น ทำเหมือนกับเขาเป็นธาตุอากาศที่มีอยู่แต่ก็มองไม่เห็น เขารู้ดีว่าการกระทำเมื่อคืนทำให้ลูกชายโกรธเอามากๆ ครั้งนี้ดูเหมือนจะหนักกว่าครั้งไหนๆ เพราะว่าตะวันไม่แม้แต่จะมองหน้าผู้เป็นพ่อเลยสักนิด
"ลงไปกินข้าวกันดีกว่าครับแม่"
"ครับ"
"ตะวัน..."
"...."
"คุยกับพ่อหน่อยไหม?"
"ไม่ล่ะครับตะวันหิวข้าว"
"...." ครั้งนี้ไต้ฝุ่นก็ช่วยอะไรได้ไม่มากจริงๆ เพราะต่อให้จะช่วยพูดแต่ก็คงไม่ทำให้ลูกชายหายโกรธได้ คงต้องให้เจคอปเข้าไปเคลียร์เอาเอง เพราะเขาเป็นคนที่ผิดสัญญา ไม่รักษาสัญญาจนทำให้ลูกชายโกรธแบบนี้
เวลาผ่านไป
"ตะวันครับ"
"...." ตะวันได้ยินเสียงเรียกของผู้เป็นพ่อแต่ไม่ได้ตอบรับอะไร ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว
"พ่อขอโทษ"
"...."
"พ่อขอโทษจริงๆ นะตะวัน"
"มีคำไหนแก้ตัวได้ดีมากกว่าคำขอโทษอีกหรือเปล่าครับ?" คำพูดคำจาดูเป็นผู้หลักผู้ใหญ่จนเจคอปทั้งอึ้งทั้งตกใจ เด็กอายุเพียง 7 ขวบเองแต่กลับพูดจาราวกับผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะแล้ว
"ไม่มีครับ"
"...."
"เมื่อคืนพ่อ..."
"ผมรู้ครับ เมื่อคืนพ่อทำงาน ทำแต่งานอย่างเดียว ให้ความสำคัญกับงานสนใจงาน จนลืมคำสัญญา ลืมวันเกิดของแม่..." ประโยคสุดท้ายตะวันพูดเสียงเศร้า เพราะเมื่อคืนต่อให้จะเป่าเค้กไปแล้วก็ยังมีความหวังและรอให้ผู้เป็นพ่อกลับมา อย่างน้อยก็ได้ให้ของขวัญและบอกสุขสันต์วันเกิดก่อนที่มันจะเลยเที่ยงคืนไป แต่ความหวังมันก็ริบหรี่จนดับมอดไปเลย
"ที่จริงพ่อไม่ได้ลืมนะแต่พ่อมาไม่ได้จริงๆ"
"ถ้าสมมติว่าผมหรือแม่กำลังป่วยหนัก พ่อก็คงจะให้ความสำคัญกับงานมากกว่าสินะครับ"
"ไม่เอาสิตะวัน ไม่พูดแบบนี้นะ"
"...."
"ตะวันโกรธพ่อจริงๆ หรอลูก?"
"ผมโกรธคนที่ผิดสัญญาครับ มีคนเคยบอกกับผมว่าเป็นลูกผู้ชายก็ต้องรักษาสัญญา ไม่ว่าจะสัญญาอะไรไว้แล้วก็ตาม"
"...." เจคอปรู้ดีว่านี่เป็นคำพูดของตัวเอง เขามักจะบอกกับลูกชายอยู่ตลอดว่าเป็นลูกผู้ชายต้องรู้จักรักษาสัญญารักษาเวลา แต่ที่เขาทำคือการกระทำที่ย้อนแย้งกับคำสั่งสอนที่เขามักจะสอนลูกเป็นประจำทั้งนั้นเลย
ไม่ว่าจะผิดสัญญา กลับบ้านดึก หรือแม้กระทั่งลืมวันสำคัญ ให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นมากกว่าครอบครัว
"ตะวันอยู่กับแม่ได้ครับพ่อทำงานไปเถอะ"
"ตะวันลูก..."
"...."
"คุณเจ..." ไต้ฝุ่นเดินเข้ามาขัดจังหวะพอดี ก่อนจะพาเจคอปเดินออกไป "ช่วงนี้แกกำลังอยู่ในช่วงน้อยใจน่ะ คุณก็ให้เวลาแกหน่อยก็แล้วกัน คุณก็น่าจะรู้จักนิสัยของลูกดี"
"ฉันผิดเองแหละฝุ่น ฉันมันเป็นคนไม่เอาไหนซะเลย ผิดสัญญาครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้ลูกโกรธหนักแบบนี้"
"ที่จริงตะวันไม่ได้โกรธคุณหรอกครับก็แค่น้อยใจที่คุณผิดสัญญา"
"...."
"ให้เวลาแกหน่อยนะครับ เรื่องมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานเอง"
"อื้ม..."
เวลาผ่านไป
เจคอปพยายามเข้าหาลูกชายพยายามพูดปลอบประโลม และง้อด้วยวิธีการต่างๆ แต่ดูเหมือนครั้งนี้จะโดนโกรธหนักเข้าจริงๆ
ไต้ฝุ่นไม่เคยเห็นลูกชายเป็นแบบนี้เลยสักครั้งแม้จะโกรธก็จะโกรธไม่นานแป๊บเดียวก็หาย
"ฉันจะทำยังไงดีฝุ่น"
"บอกแล้วไงครับว่าต้องให้เวลาอย่างเดียว ตอนนี้ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันครับ ผมไม่เคยเห็นตะวันเป็นแบบนี้มาก่อนเลย"
"...." สีหน้าของเจคอปหนักใจมาก แต่ก็ไม่ได้โทษว่าเป็นความผิดของใคร ทุกอย่างมันเป็นความผิดของเขาเอง ถ้าไม่ผิดสัญญาตั้งแต่แรกตะวันก็คงไม่เป็นแบบนี้ และวันที่เขาผิดสัญญาก็เป็นวันเกิดของไต้ฝุ่นด้วยเป็นวันสำคัญมากๆ ที่ตะวันอยากให้ทุกคนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
"ทำไมคุณถึงได้ผิดสัญญากับแกบ่อยๆ ล่ะครับ คุณก็น่าจะรู้ แกไม่ค่อยชอบเรื่องแบบนี้เท่าไร"
"ช่วงนี้งานของฉันมัน...ค่อนข้างยุ่งยากน่ะ ก็เลยต้องอยู่จัดการให้เรียบร้อย"
"ผมเข้าใจคุณนะครับแล้วก็เห็นใจลูกด้วยถ้าคุณไม่สามารถมาได้หรือไม่ว่างจริงๆ คุณก็ไม่ควรสัญญากับแกตั้งแต่แรกนะครับ ตะวันเป็นเด็กแบบไหนคุณก็น่าจะรู้"
"ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะกระทันหันแบบนี้" เจคอปพูดด้วยความหนักใจ เพราะงานที่ทำอยู่มันพันกันจนยุ่งเหยิงไปหมดเขาเองจึงแยกแยะเวลางานกับเวลาส่วนตัวไม่ถูกเลย
"ยังไงคุณก็ต้องรอเวลาครับ ค่อยๆ ปรับตัวค่อยๆ พยายามพูดให้ตะวันรู้เรื่อง ตะวันไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยากครับแค่ต้องให้เวลา"
"อื้ม ฉันจะพยายามนะ"
เวลาต่อมา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ใครครับ?"
"แม่เองครับ" ไต้ฝุ่นตอบรับก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป เห็นลูกชายกำลังนั่งวาดรูปอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือของตัวเอง
ทุกครั้งที่มีความสุขหรือทุกครั้งที่มีอารมณ์หลายๆ อย่างตะวันมักจะมานั่งวาดรูปและให้รูปที่วาดสื่อถึงความรู้สึกที่กำลังเผชิญอยู่ เช่นเดียวกับตอนนี้ ตะวันวาดรูปท้องทะเลสีฟ้าคราม มองผิวเผินก็ดูเหมือนจะสวยงามดี แต่มันกลับให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างเคว้งคว้างเหมือนกับว่ายืนอยู่ตรงที่นั้นเพียงคนเดียว สีฟ้าในรูปบ่งบอกถึงความเยือกเย็น
"ตะวันกำลังวาดรูปอยู่ครับ"
"วาดรูปซะเศร้าเชียว ยังไม่หายโกรธพ่ออีกหรอครับ?"
"ตะวันไม่ได้โกรธครับ"
"แล้วทำไมถึง...ไม่ยอมคุยกับพ่อล่ะ"
"ไม่รู้สิครับแค่ไม่อยากคุยเฉยๆ ไม่อยากคุยกับคนที่ผิดสัญญา"
"แม่เข้าใจนะ แต่ถ้าเราเอาแต่โกรธพ่อแบบนี้พ่อเขาก็จะไม่สบายใจแล้วไม่มีสมาธิทำงาน"
"ยังไงพ่อก็มีสมาธิอยู่แล้วครับ ขนาดรู้ว่าเป็นวันเกิดแม่พ่อยังทำงานต่อได้เลย"
"...."
"ตอนนี้ตะวันยังไม่อยากคุยกับพ่อครับ"
"แล้วพรุ่งนี้จะให้ใครไปส่งโรงเรียนลูก พ่อเขาบอกว่าจะเป็นคนไปส่งตะวันเองนะ"
"ไม่ครับ ตะวันจะไปรถรับส่ง" ที่ผ่านมาตะวันมักจะรบเร้าให้ผู้เป็นพ่อไปส่งที่โรงเรียนตลอด เพราะไม่อยากนั่งรถรับส่งไป แต่ครั้งนี้กลับไม่อยากให้ผู้เป็นพ่อไปส่ง ไต้ฝุ่นเองก็รู้ดีว่าตะวันกำลังโกรธมากๆ ใครๆ อาจจะมองว่าตะวันเป็นเด็กอาจจะยังไม่มีความรู้สึกอะไร แต่ไต้ฝุ่นรู้จักลูกชายของตัวเองดี แกเป็นเด็กที่มีความรู้สึกเหมือนกับผู้ใหญ่คนนึงเลย
"ไม่อยากไปกับพ่อหรอครับ พ่อจะไปส่งแล้วตอนเย็นก็จะรับไปที่บริษัทด้วย เลิกงานแล้วค่อยกลับพร้อมกับพ่อ"
"ไม่ครับ ผมไม่อยากไป"
"...."
ในเมื่อตะวันพูดย้ำออกมาแบบนั้นไต้ฝุ่นเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากปล่อยไป หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ลูกชายนั่งวาดรูปอยู่ในห้องเพียงคนเดียว
___________
เช้าวันต่อมา
"ตะวันครับ.."
"ตะวันจะนั่งรถรับส่งไปเองครับพ่อไม่ต้องไปส่ง ตอนเย็นตะวันก็จะกลับพร้อมกับรถรับส่งเอง พ่อทำงานของพ่อเถอะครับ สวัสดีครับพ่อ"
"...."
เจคอปยังไม่ทันได้อ้าปากพูดอะไรออกมาเลย ตะวันก็เดินออกไปยืนรอรถรับส่งที่หน้ารั้วบ้านแล้ว ไม่นานรถรับส่งก็มาจอดรอแล้วเจ้าตัวก็ขึ้นไป
"ฝุ่น...ทำไมตะวันถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?"
"เมื่อวานแกบอกกับผมแล้วครับ บอกว่าต่อไปนี้จะไปรถรับส่งเอง"
"ลูกคงไม่หายโกรธฉันแล้วจริงๆ สินะ" เจคอปน้ำตาปริ่ม เมื่อรู้ว่าลูกชายโกรธแล้วไม่ว่าเขาจะพยายามทำแบบไหนก็ไม่สามารถทำให้ตะวันหายโกรธได้เลย
"ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมบอกแล้วไงครับว่าเราต้องให้เวลาแก ตะวันรักคุณนะครับ"
"ฉันเข้าใจแล้ว"
"ระหว่างนี้ผมก็จะช่วยพูดกับแกให้นะครับ แต่มันอาจจะใช้เวลานานกว่าครั้งก่อนๆ เพราะคุณดันผิดสัญญากับวันเกิดของผมนี่สิ"
"นั่นสินะ ฉันเองก็รู้แท้ๆว่าตะวันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากแค่ไหน"
"ไม่เป็นอะไรนะครับเดี๋ยวมันก็ผ่านไป"
"ถ้าอย่างนั้นฉันไปทำงานก่อนนะ แล้วจะรีบกลับมาฉันจะไม่ผิดเวลาไม่ผิดสัญญาอีก"
"ครับ ขับรถดีๆ นะครับ"
"อื้ม ไปล่ะ"