บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 02 พ่อของลูก

สามปีต่อมา 

ไต้ฝุ่นคอยดูแลลูกอยู่ที่บ้านเพราะเจคอปไม่ให้ออกไปทำงาน เขาทำหน้าที่สามีและพ่อของลูกได้เป็นอย่างดี ไม่ขาดตกบกพร่องตรงไหนเลยสักนิด แสนดีจนไต้ฝุ่นรักหมดใจ เขาเป็นพ่อของลูกที่ไต้ฝุ่นรักมากๆ และทั้งชีวิตของไต้ฝุ่นก็เหลือเพียงเขากับลูกแล้วจริงๆ 

และจนถึงตอนนี้โรคที่ไต้ฝุ่นเป็นอยู่ก็ถูกรักษาจนหายดี แต่ก็ต้องกินยาควบคู่ไปตลอดเพื่อไม่ให้อาการมันกำเริบขึ้นมา และเจคอปก็ยังไม่กล้าที่จะมีลูกคนที่สอง กลัวว่าจะเกิดอันตรายทั้งไต้ฝุ่นและลูกที่จะเกิดมา จนบางทีก็คิดไปว่ามีแค่ลูกชายคนเดียวก็น่าจะพอแล้ว 

ทุกๆ อย่างเติบโตขึ้น เช่นเดียวกับความรักของทั้งสอง ที่เติบโตเหมือนกับต้นไม้ตอนนี้กำลังออกดอกบานสะพรั่งส่่งกลิ่นหอมโชยออกมา บ่งบอกว่าตอนนี้ครอบครัวที่ทั้งสองสร้างขึ้นมันมีความสุขมากแค่ไหน 

ทุกๆ อย่างมันสมบูรณ์หมดแล้ว มีสามี มีภรรยา และก็มีลูกน้อยที่น่ารัก 

บ้านเจคอป 

บรืน~

"พ่อ! พ่อ! เย้ พ่อกลับมาแล้ว" ลูกชายวัยสามขวบเศษกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเมื่อได้ยินเสียงรถของผู้เป็นพ่อเเล่นดังเข้ามาจอดในบ้าน เจ้าตัวจำเสียงรถของผู้เป็นพ่อได้เป็นอย่างดี และในทุกๆ วันจะรอคอยเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือเจคอปกลับมาจากทำงาน 

"อ่า ตัวเล็กของพ่ออยู่ไหนเอ่ย มาให้กอดหน่อยซิ" 

"อยู่นี่!" 

"อ้าว อยู่ตรงนี้นี่เอง" 

เจคอปย่อตัวนั่งลงให้อยู่ในระดับเดียวกันกับลูกชายตัวน้อย เขาทำงานกลับมาเหนื่อยๆ พอได้เห็นรอยยิ้มของลูก ได้เห็นหน้าลูก อาการเหนื่อยล้าจากการทำงานก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยจริงๆ 

"ตะวันครับ พ่อกลับมาเหนื่อยๆ ให้พ่อไปอาบน้ำก่อนโอเคไหม"

"โอเคครับ" เด็กน้อยพยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย 

ตะวันลูกชายคนเดียวของทั้งสองตอนนี้พูดได้หลายคำแล้ว บางคำก็ชัดเจน บางคำก็ไม่ชัดเจน พูดรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างตามประสาเด็กในวัยนี้ 

"เหนื่อยหรือเปล่าฝุ่น?" และก็ไม่ลืมที่จะถามไถ่ไต้ฝุ่น ถึงแม้จะเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านดูเหมือนจะไม่เหนื่อยอะไร แต่เอาจริงๆ แล้วเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านเนี่ยแหละเหนื่อยกว่าออกไปทำงานตั้งหลายเท่า เจคอปสัมผัสกับความเหนื่อยในช่วงที่ไต้ฝุ่นกำลังพักฟื้นได้เป็นอย่างดี 

"ก็เหนื่อยอยู่เหมือนกันครับ แต่คงเหนื่อยน้อยกว่าคุณ ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะครับ จะได้สบายตัว"

"โอเค เดี๋ยวฉันจะรีบลงมานะ"

"ครับ" 

เวลาผ่านไป 

หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว เจคอปก็ลงมาเล่นอยู่กับลูกชายที่ด้านล่างเหมือนอย่างเคย โดยมีไต้ฝุ่นคอยนั่งมองอยู่ไม่ห่างเช่นกัน 

"วันนี้กินยาครบหรือเปล่าฝุ่น?" 

"ครบครับ" 

"ฉันห่วงจังเลยอ่ะ กลัวว่าจะลืมกินยา"

"ไม่ลืมหรอกครับ คุณเล่นโทรหาผมเช้ากลางวันแบบนั้น ผมไม่ลืมได้หรอก" 

"ฉันกลัวว่าเราจะกลับมาเป็นอีกน่ะ อยากให้เราหายดีไง"

"ผมรู้ครับ แต่ก็อย่าห่วงคนอื่นจนลืมเป็นห่วงตัวเองล่ะครับ"

"แน่นอน ฉันไม่เป็นอะไรไปง่ายๆ หรอก ฉันจะอยู่กับฝุ่นอยู่กับลูกไปให้นานๆ เลย" 

"...." ไต้ฝุ่นยิ้มตอบรับคำพูดแสนหวานของสามี ก่อนจะลุกเดินไปนั่งลงข้างๆ จับมือของเจคอปแล้วบีบเบาๆ 

"มีอะไรหรอ?" 

"ผมอยากช่วยคุณทำงานจังครับ" 

"ไม่ต้องหรอก ฝุ่นอยู่บ้านคอยดูแลน้องตะวันก็พอแล้ว อีกหน่อยลูกก็จะไปเรียนแล้วนะ"

"ครับ แต่ผมหมายถึงตอนที่น้องตะวันไปเรียน" 

"ฉันบอกแล้วไง ว่าจะดูแลฝุ่นกับลูกเอง" มือหนาลูบสัมผัสเส้นผมของคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน 

เพราะไต้ฝุ่นป่วยและเขากลัวว่ามันจะกำเริบขึ้นมาอีก เจคอปเลยไม่เห็นด้วยเท่าไหร่หากไต้ฝุ่นจะออกไปทำงาน 

เขาเป็นผู้ชายที่แสนดีมากจริงๆ ทั้งอ่อนโยนอบอุ่น เป็นผู้ชายที่ครบเครื่องไม่มีที่ติเลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ของสามีที่ต้องทำงานนอกบ้านหรือหน้าที่พ่อ เขาเองก็ทำได้อย่างไม่ต้องกังวลใจอะไรเลย 

แม้ตอนนั้นจะไม่ได้คิดอะไร และตอนนั้นก็ยังกลัวกับการตัดสินใจแบบนี้ แต่ตอนนี้ไต้ฝุ่นมั่นใจแล้วว่าตัวเองนั้นตัดสินใจไม่ผิดที่ได้รักกับผู้ชายคนนี้ 

ความรักที่ไม่ได้รักกันตั้งแต่แรกเริ่ม ทุกอย่างมันค่อยๆ เป็นไป ขยับความสัมพันธ์ตั้งแต่ศูนย์ไปจนถึงร้อย ความรักที่เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ที่แทบจะไม่เรียกว่าความรักได้เลยจนตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักแล้ว 

"เอาไว้เสร็จงานยุ่งๆ ที่บริษัทแล้วฉันจะพาฝุ่นกับน้องตะวันไปเที่ยวด้วยกันนะ อยู่แต่บ้านคงเบื่อน่าดูเลย" 

"ไม่หรอกครับ มีน้องตะวันอยู่ด้วยก็ไม่เหงาแล้วครับ" 

"มานี่มา" 

"...." ไต้ฝุ่นขยับตัวเข้าไปใกล้สามีอีก ก่อนที่จะถูกเขาสวมกอดแน่น โดยที่แขนอีกข้างก็สวมกอดลูกชายตัวน้อยที่กำลังนั่งเล่นหุ่นยนต์อยู่ "ผมรักคุณจังเลยครับ" 

"ฉันก็รักฝุ่นนะ" 

"...." ไต้ฝุ่นยิ้มมีความสุขอยู่ภายใต้อ้อมกอดของเจคอป ตอนนี้ทุกอย่างมันดีมากๆ จนไต้ฝุ่นไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ขอแค่ได้รักได้อยู่กับผู้ชายคนนี้ไปตลอดชีวิตแค่นี้ก็พอใจแล้ว 

_________________

บริษัทเจคอป 

"สวัสดีค่ะคุณเจคอป" 

"ครับ" 

ชายหนุ่มเดินเข้าไปในบริษัทของตนเอง เขาคือผู้บริหารสูงสุดของบริษัท ต่อหน้าทุกคนเขาคือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ใครๆ ต่างก็ให้ความเคารพ และใครต่อใครต่างก็อยากจะร่วมทำงานด้วย และด้วยความหล่อเหลาของใบหน้า ทำให้มีผู้หญิงมาสนใจไม่น้อยเลย แต่ก็ไม่มีใครรู้ ว่าเบื้องหลังนั้นเขามีครอบครัวมีลูกอยู่แล้ว เจคอปไม่เคยสนใจใคร ทุกวันต่อหน้าคนอื่นๆ เขามักจะพูดเพียงเรื่องงานและสนใจแค่งานอย่างเดียวเท่านั้น 

และไม่เคยคิดที่จะมีคนอื่นเลยแม้แต่น้อย 

*งานเลี้ยงผู้บริหาร*

"แฮ่ม ขออนุญาตนะคะ"

"ครับ" 

"ฉันชื่อเวรี คุณน่าจะชื่อคุณเจคอป ฉันเองก็ได้ยินชื่อเสียงของคุณมาก็มาก วันนี้เพิ่งได้เจอตัวจริง คุณดูดีมากเลยนะคะสมกับที่เขาร่ำลือกันจริงๆ"

"ขอบคุณมากนะครับ" เจคอปก้มหัวเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มตอบรับตามมารยาท 

"ธุรกิจของคุณกำลังไปได้สวยเลยนะคะ จะว่าอะไรไหมถ้าหากฉันอยากจะพูดคุยกับคุณเรื่องธุรกิจ...แบบส่วนตัว" 

"ได้ครับแต่คงไม่ใช่วันนี้ ยังไงผมจะให้เลขาของผมนัดคุณให้อีกทีนะครับ" 

"ค่ะ ได้ค่ะ" 

"...." เจคอปไม่ใช่คนถือตัวก็จริง แต่เพราะเขามีงานหลายอย่างที่ต้องทำ หากจะต้องคุยเรื่องงานก็ต้องนัดกับทางเลขาเพื่อจัดตารางเวลาทำงานของเขาใหม่ ถึงจะเป็นถึงผู้บริหารแต่เขาก็ยังทำงานตามเวลาเหมือนกับพนักงานทั่วไป 

"คุณดื่มหรือเปล่าคะ?"

"นิดหน่อยครับ" 

"ถ้าอย่างนั้น..."

"ต้องขอโทษจริงๆ นะครับ ผมไม่สะดวกออกไปดื่มกับใคร ถ้าหากจะคุยกับผมจริงๆ ขอให้เป็นเรื่องงานอย่างเดียวนะครับ"

"แหม คุณก็ปฏิเสธฉันซะจนฉันรู้สึกอายเลยนะคะ ก็แค่อยากทำความรู้จักกับคุณก็เท่านั้น"

"เราทำความรู้จักกันได้ครับ ในฐานะนักธุรกิจ" 

"ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นพวกเร่งอุดมการณ์ของตัวเอง เพิ่งจะรู้วันนี้นี่แหละค่ะ"

"ครับ" 

เพราะเจคอปเป็นคนหน้าตาดี เวลาได้รับเชิญไปงานเลี้ยงหรืองานที่ไหนก็มักจะมีสาวๆ คอยแวะเวียนมาชนแก้วด้วยตลอด แต่เขาเป็นคนจำพวกเคร่งอุดมการณ์อย่างที่ผู้หญิงคนนั้นพูดจริงๆ คนส่วนมากที่เข้าหาก็เลยจะเป็นคนที่ทำงานกับเขาซะส่วนใหญ่มากกว่า 

เขาจะไม่พูดคุยนอกลู่นอกทางที่ไม่เกี่ยวกับงานกับคนอื่น 

"คุณเจคอปครับ รบกวนเชิญทางนี้หน่อยครับ"

"ครับ" 

เจคอปเดินเข้าไปยังกลุ่มนักธุรกิจที่อายุมากกว่าเขา จากนั้นก็ทักทายกันพูดคุยกัน จนกระทั่งเจคอปยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เขารู้ว่านี่เป็นเวลาที่จะต้องกลับแล้ว เพราะบอกกับไต้ฝุ่นเอาไว้ว่าเขาจะกลับเวลานี้หรืออาจจะเลทเวลาไปเล็กน้อยเพราะต้องขับรถ ถ้าหากเขากลับผิดเวลาอาจจะทำให้ไต้ฝุ่นเป็นห่วงได้และไต้ฝุ่นก็จะนั่งรอไม่ยอมหลับยอมนอน 

บรืน~

"คุณเจ..." 

"คิดไว้อยู่แล้วเชียวว่าต้องมานั่งรอ" เจคอปมองคนตัวเล็กแล้วยิ้ม เมื่อจอดรถแล้วเดินเข้ามาในบ้าน ก็เจอเข้ากับไต้ฝุ่นที่กำลังนั่งรออยู่ 

"ดื่มมาหรือเปล่าครับเนี่ย" 

"นิดหน่อยน่ะ" 

"ถ้าดื่มมาก็ไม่ควรขับรถนะครับมันอันตราย โทรมาบอกผมก็ได้แล้วหาโรงแรมพักแถวนั้น" ไม่ว่าจะดื่มมามากหรือดื่มน้อยไต้ฝุ่นก็ไม่อยากให้เจคอปขับรถมาเอง กลัวว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุกลางทาง กลัวว่าเขาจะกลับไม่ถึงบ้าน 

"ถ้าฉันไม่กลับฝุ่นจะนอนหลับหรือไง เผลอๆ ได้นั่งรอฉันแบบนี้ทั้งคืน" เจคอปที่รู้นิสัยของไต้ฝุ่นเป็นอย่างดีก็โต้กลับไปเลยทันทีอีกทั้งยังหัวเราะอีกต่างหาก 

"ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ" 

"...."

"มาครับ เดี๋ยวผมช่วยนะ" ไต้ฝุ่นเดินไปช่วยถือเสื้อสูทของเขาเพื่อให้เจคอปปลดกระดุมเสื้อลงให้หายอึดอัด 

"น้องตะวันหลับไปนานแล้วหรอ?" 

"หลับไปได้สักพักแล้วครับ" 

"แกถามหาฉันหรือเปล่า?"

"ก็ถามหาอยู่ครับ แต่พอบอกว่าคุณเจไปทำงาน แกก็ไม่ได้ถามอีก นั่งเล่นจนหลับไปเลยครับ" 

"ช่วงนี้ถูกเชิญไปงานเลี้ยงบ่อยๆ นะ จะปฏิเสธก็กระไรอยู่เขาอุตส่าห์เชิญมา ฉันเองก็เลยไม่อยากให้เสียเครดิตของบริษัท" ไม่รู้ว่าเป็นเพราะธุรกิจกำลังไปได้สวยหรือเปล่าถึงได้ถูกบริษัทอื่นเชิญไปงานเลี้ยงบ่อยๆ แบบนี้ ซึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยอยากไปสักเท่าไร เนื่องจากต้องไปพบปะผู้คนหมู่มาก เขาไม่ชอบความวุ่นวาย และอยากกลับมาอยู่กับลูกที่บ้านมากกว่า 

"ไม่เป็นอะไรหรอกครับอย่าคิดมาก น้องตะวันแกก็ถามหาตามประสาเด็กนั่นแหละครับ" 

"ขึ้นไปข้างบนกันเถอะฉันอยากอาบน้ำแล้ว" 

"ครับ" 

ไต้ฝุ่นจัดการเสื้อผ้าของเจคอประหว่างที่เขาไปอาบน้ำอยู่ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าของเขาทำให้ไต้ฝุ่นอดที่จะยกขึ้นมาสูดดมไม่ได้ 

ได้กลิ่นแล้วมันรู้สึกดีจริงๆ 

เช้าวันต่อมา 

"อืม..." คนตัวเล็กขยับดิ้นไปมา ก่อนที่จะลืมตาขึ้นแล้วได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้นอนอยู่บนหมอนแต่นอนอยู่บนแขนของคนข้างๆ แทน ถึงว่าหลับสบายตลอดคืนเลยที่แท้ก็ได้นอนอยู่บนแขนของเจคอปนี่เอง "คุณเจ...ไม่ไปทำงานหรอครับ?" 

"ไม่หรอก วันนี้อยากอยู่บ้านน่ะ" 

"อือ ผมนอนทับแขนคุณ เมื่อยหรือเปล่าครับ?"

"ไม่หรอก นอนมาเถอะ" 

"ผมจะไปดูน้องตะวันสักหน่อย ตอนนี้แกน่าจะตื่นแล้ว" ลูกชายไม่ใช่เด็กนอนตื่นสายไม่ใช่เด็กขี้เซา แค่แสงแดดรำไรสาดส่องเข้าไปในห้องก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้ว และมันอาจจะเป็นเวลาที่แกตื่นเป็นประจำเลยด้วย 

"ตื่นนานแล้ว ป้าแกพาลงไปเล่นข้างล่างแล้ว" 

"อ้าว ทำไมไม่ปลุกผมล่ะครับ" 

"ก็เห็นยังนอนหลับสบายอยู่ฉันก็เลยไม่อยากปลุก" 

"...." 

"หลับสบายหรือเปล่าได้นอนอยู่บนแขนของฉันทั้งคืนเลย" 

"สบายมากเลยครับ ว่าแต่ผมไปนอนอยู่บนแขนของคุณเจตั้งแต่ตอนไหน" ไต้ฝุ่นถาม เพราะจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองนอนอยู่บนหมอน และก็ไม่รู้ว่าดิ้นไปอีท่าไหนถึงได้ไปนอนอยู่บนแขนของเจคอปได้ 

"ดึกๆ น่ะ สงสัยจะหนาวละมั้งก็เลยดิ้นควานหาผ้าห่ม แล้วก็ขยับมานอนซุกอยู่ในอกของฉัน" 

"แหะๆ สงสัยคงเป็นแบบนั้นแน่ๆเลยครับ" ไต้ฝุ่นเกาหัวของตัวเองแก้เขิน เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอากาศหนาวสักเท่าไร และก็เป็นคนที่ติดผ้าห่มเอามากๆ เมื่อคืนอากาศคงจะเย็นมากจริงๆ ถึงได้ซุกเข้าไปอยู่ในอกของเจคอปได้ 

"ไม่นอนต่อหรอ?"

"ไม่ล่ะครับ เดี๋ยวมันจะติดเป็นนิสัย ถ้าคุณอยากนอนต่อก็ตามสบาย เดี๋ยวผมจะลงไปดูน้องตะวันครับ" 

"ไม่ดีกว่า ฉันลงไปหาน้องตะวันด้วยดีกว่า เมื่อวานไม่ได้กลับมาเล่นกับแกคิดถึงแย่เลย" เจคอปพูด เพราะหลังเลิกงานจะต้องได้กลับมานั่งเล่นอยู่กับลูกชาย และเป็นคนพาลูกชายเข้านอนเอง แต่วันไหนที่เขาจะต้องไปงานเลี้ยงจะไม่ได้กลับมาเล่นอยู่กับลูกชายและก็จะไม่ได้พาลูกชายเข้านอน ความรู้สึกของเขามันเหมือนขาดอะไรไปบางอย่างถ้าไม่ได้ทำหน้าที่นั้น และมันก็ติดมาตั้งแต่แรกที่เขาได้เริ่มดูแลลูกชายแล้ว 

เวลาผ่านไป 

"พ่อพ่อ" 

"ครับผม" 

"ต่อให้หน่อย" 

"อ่า ได้เลยครับลูกชาย" เจคอปรับหุ่นยนต์ตัวโปรดของลูกชายไป จากนั้นก็ประกอบส่วนที่หลุดออกให้เข้าที่ตามเดิม หุ่นยนต์ตัวนี้เป็นตัวแรกที่เขาได้ซื้อให้กับลูกชายในวัยขวบเศษจนถึงตอนนี้ แกยังคงรักษาและถนอมของเล่นเป็นอย่างดี และก็ชอบเล่นหุ่นยนต์ตัวนี้มาก ถึงแม้จะเป็นเด็กแต่ก็ไม่ใช่คนที่เล่นรุนแรงแบบไม่รักษาของ 

"คุณเจครับ" 

"หืม ว่าไง?" 

"ตอนที่น้องตะวันไปโรงเรียนแล้ว ผมคิดว่าผมจะเปิดร้านขนมร้านขายกาแฟเล็กๆ หุ้นส่วนกับเพื่อน ไม่อยากอยู่ว่างๆ เลยครับ ทำแบบนั้นงานก็ไม่หนักด้วย"

"แล้วจะไปเปิดตรงไหนล่ะ?" 

"ตอนนี้เพื่อนของผมกำลังดูที่ดูทางอยู่ครับ ผมมาถามคุณเผื่อเอาไว้ก่อน"

"ตามใจสิ แต่ฉันก็ยังขอสั่งห้ามไม่ให้เราทำงานหนักนะ" 

"แค่ขายขนมขายกาแฟอยู่ในร้านมันไม่ใช่งานหนักอะไรหรอกครับ" 

"ดีแล้ว ถ้าโรคนั้นมันกำเริบขึ้นมาอีกอาจจะทำให้ลำบากได้" 

"ครับ" 

ก่อนหน้าที่จะได้มาอยู่ตรงนี้ไต้ฝุ่นเองก็เป็นคนที่ชอบทำงานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ชอบปล่อยให้ตัวเองอยู่ว่างๆ เพราะมักจะคิดอะไรฟุ้งซ่านไปเรื่อย 

"ถ้าจะทำจริงๆ ฉันจะช่วยออกค่าซื้อของ แล้วก็ค่าจิปาถะที่ต้องใช้ในร้านรวมถึงค่าเช่าร้านด้วย หลังจากนั้นก็ไปบริหารกันเอาเอง" 

"แต่ความจริง...คุณเจไม่ต้องให้ก็ได้นี่ครับ" 

"แล้วฝุ่นมีเงินหรือไง?"

"ก็พอมีบ้างครับ คุณเองก็โอนเข้าบัญชีให้ผมทุกเดือน ผมเอาเงินตรงนั้นมาใช้ก็ได้" ไต้ฝุ่นก็เพิ่งจะมารู้หลังจากที่ลูกชายคลอดออกมาแล้วเหมือนกันว่าเจคอปได้เปิดบัญชีเอาไว้ให้ และเขาก็โอนเงินเข้ามาให้ทุกเดือน จนตอนนี้บัญชีนั้นมีเงินเก็บอยู่ 7 หลักแล้ว โดยที่ไต้ฝุ่นไม่รู้มาก่อนเลย 

"ไม่ต้องหรอก เงินนั้นเก็บเอาไว้แบบนั้นแหละ ถ้าเปิดร้านแล้วขาดเหลือตรงไหนก็มาบอกฉันได้"

"ครับ ขอบคุณมากนะครับ" 

"หิวหรือยังครับ เมื่อเช้าผมไปช่วยป้าแกทำขนมเอาไว้อยู่ ช่วงนี้ก็ฝึกทำเอาไว้ อยากลองคิดสูตรเองครับ จะได้ลองทำขนมแปลกๆ ใหม่ๆ ขายดู" 

"ดูเราจะชอบเหลือเกินนะพวกทำขนมเนี่ย" 

"ชอบสิครับ แม่ผมก็ชอบทำขนมขายเหมือนกัน" 

"งั้นก็ไปเอามาสิ เดี๋ยวฉันจะลองชิมให้" 

"ครับ ได้ครับ" 

ไต้ฝุ่นรีบลุกขึ้นเดินไปยังห้องครัวทันที ก่อนที่จะเดินออกมาพร้อมกับขนมที่เพิ่งจะหัดทำไปเมื่อเช้า โดยมีเจคอปเป็นลูกค้าคนแรกที่ได้ชิมขนมฝีมือของตัวเอง 

"ปะ เป็นยังไงบ้างครับ?" ไต้ฝุ่นเอ่ยถาม

"อืม...เนื้อขนมเนียนละเอียดแล้วนะ แต่ต้องปรับเรื่องส่วนประกอบสักหน่อย มันหวานไป ต้องลดความหวานลงอีกนิด" 

"แค่นี้หรอครับ?"

"ใช่ ขนมหวานน่ะไม่จำเป็นต้องทำหวานขนาดนั้นก็ได้"

"ครับ ถ้างั้นคุณอยากกินต่อเลย เดี๋ยวจะเลี่ยนเอา"

"ฝุ่นอุตส่าห์ทำให้ฉันกินทั้งทีฉันก็ต้องกินให้หมดสิ" 

"แต่เดี๋ยวคุณจะเป็นเบาหวานเอานะครับเนี่ย"

"หึหึ กินแค่ไม่เท่าไรไม่ทำให้เป็นเบาหวานได้หรอกคิดมากนะ"

"...." 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel