ขอโทษ(2)
ขนาดที่สถานการณ์กำลังตึงเครียด เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น พนักงานสาวเห็นว่าเจ้านายยังไม่เข้าบริษัททั้งที่อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัดแล้วจึงได้รีบโทรมาตาม
“คุณเนตรคะ อีกครึ่งชั่วโมงลูกค้ากำลังจะเข้ามานะคะ”
เนตรทรายมองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าและเดินออกไปทันทีโดยไม่แม้แต่จะหันมามองจิรัสย์
คุณหมอถอนหายใจยาว เขาสวมกางเกงเพียงตัวเดียวขณะที่ด้านบนเปลือยเปล่า มองภาพตัวเองที่สะท้อนในกระจก ร่องรอยเมื่อคืนยังคงฝากอยู่บนร่างกายของเขา
เนตรทรายแต่งตัวไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ เธอสวมกางเกงขาสั้นของชายหนุ่มและเสื้อเชิ้ตตัวโคร่ง หญิงสาวพยายามดึงคอเสื้อเพื่อปิดร่องรอยแดง ก่อนที่เธอนั้นจะบอกแท็กซี่และตรงไปยังบริษัท โชคดีที่ภายในห้องทำงานนั้นมีเสื้อผ้าสำรองอยู่ เธอจึงได้รีบเปลี่ยนจากเสื้อเชิ้ตตัวโคร่ง เป็นเดรสตัวยาวสีกรม
“ทำไมวันนี้คุณถึงได้แต่งตัวแปลกๆ”
เลขาสาวเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าวันนี้เจ้านายนั้นแต่งตัวไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ เนตรทรายชะงักเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยกับอีกฝ่าย
“พอดีเมื่อคืนฉันไปเที่ยวต่อกับเพื่อน เราคงจะเมามากก็เลยทำเสื้อผ้าสกปรก”
หญิงสาวตอบด้วยคำโกหก โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ได้สงสัยอะไร หลังจากที่พูดคุยเตรียมเอกสารชั่วครู่ลูกค้าก็เดินทางมาถึง เนตรทรายรู้สึกเคร่งเครียดเพราะลูกค้าคนนี้นั้นค่อนข้างจู้จี้จุกจิกและเรื่องมาก แม้เธอจะออกแบบสถานที่ให้หลายต่อหลายครั้งแต่ก็ยังไม่พอใจเสียที เนตรทรายเคยถึงขั้นยกเลิกสัญญาและคืนเงินแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับทั้งยังขู่ว่าจะฟ้องบริษัทและพนักงาน ทำให้เธอนั้นต้องจำใจทำงานให้อย่างเลี่ยงไม่ได้
“สวัสดีค่ะ”
หญิงสาวยกมือไหว้ก่อนเชิญอีกฝ่ายนั่งลงที่โซฟา หญิงวัยกลางคนใช้ผ้าเช็ดตามโต๊ะและที่นั่งก่อนจะหย่อนกายนั่งลงอย่างช้าๆ เธอเป็นคนสะอาดและค่อนข้างที่จะไว้ตัว ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆนั้นรู้สึกอึดอัดกับการกระทำของเธอ ไม่เว้นแม้แต่เนตรทราย เธอไม่อยากร่วมงานกับผู้หญิงคนนี้แต่พอเงื่อนไขในสัญญาที่เธอนั้นไม่ทันได้อ่านทำให้ต้องจำใจร่วมงานจนกว่าจะเสร็จสิ้น
เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้วเธอก็จะหลุดพ้นจากความน่าอึดอัดนี้ หญิงสาวภาวนาขอให้อีกฝ่ายนั้นเลือกแบบได้เสียที
“ต้องขอโทษด้วยที่มารบกวน ฉันไปดูหน้างานมาแล้วแต่ไม่ค่อยชอบแบบเท่าไหร่ จะเป็นอะไรไหมถ้าฉันอยากจะให้คุณรื้อและทำใหม่ทั้งหมด”
เนตรทรายชะงักเล็กน้อย สถานที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้วหากจะรื้อก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน และหากจะต้องจัดเตรียมใหม่ก็ต้องใช้เวลาอีกราวๆ2 วันเช่นกัน หญิงสาวพยายามอธิบายถึงระยะเวลาที่อาจจะถูกยืดออกไปให้ลูกค้าฟังแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายนั้นจะไม่สนใจข้อจำกัดของเวลา ยังคงดื้อดึงและบังคับให้เนตรทรายนั้นทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการให้ได้
“ทำอย่างนั้นไม่ได้ค่ะคุณลูกค้า การเตรียมงานต้องใช้ระยะเวลา อีกอย่างงบประมาณที่คุณลูกค้ากำหนดมาก็ไม่มากพอที่จะให้ทางบริษัทเจียดออกไปจ้างคนนอกได้”
หญิงสาวพยายามอธิบายเหตุผลแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายนั้นจะไม่พอใจ
“ฉันเป็นลูกค้าถ้าฉันต้องการให้คุณแก้งาน คุณก็ต้องแก้ให้ฉันสิ”
“แต่ที่ลูกค้าให้ทำคือเปลี่ยนทั้งหมดนะคะไม่ใช่คือการแก้ ทางบริษัทเปลี่ยนให้ได้ค่ะแต่เรามีระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้แล้ว ในเมื่อลูกค้ารอไม่ได้ทางบริษัทก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ”
เนตรทรายชักจะหมดความอดทน ความจริงเธอหมดความอดทนมานานแล้วด้วยซ้ำเพียงแต่อีกฝ่ายนั้นใช้สัญญาเพื่อบีบบังคับ เธอถึงต้องทนทำงานต่อไป
หญิงสาวเจอลูกค้ามาหลากหลายรูปแบบแต่ก็ไม่เคยเจอใครที่เรื่องมากขนาดนี้มาก่อน เธอพยายามสงบสติอารมณ์เพราะยังรู้สึกหัวเสียจากเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืน
“ไม่รู้แหละ ถ้าฉันไม่ได้ตามที่ต้องการ ฉันจะฟ้องบริษัทคุณ”
“ถ้าอย่างนั้นค่อยไปไกล่เกลี่ยที่ศาลก็ได้ค่ะ ดิฉันคิดว่าน่าจะเสียเวลาน้อยกว่าการทำงานให้ลูกค้านะคะ”
ในที่สุดความอดทนของหญิงสาวก็หมดลงอย่างสมบูรณ์แบบ เธอเชิญหญิงวัยกลางคนให้ออกจากออฟฟิศ ก่อนจะเรียกพนักงานมาประชุม
“ติดต่อทีมกฎหมายด้วยให้เตรียมดำเนินการเรื่องที่เกิดขึ้น พี่ไม่รู้ว่าทางลูกค้าจะว่ายังไง เดี๋ยวไว้ค่อยคิดกันอีกที”
ตราบใดที่หมายศาลยังมาไม่ถึงหญิงสาวก็ ไม่อยากคิดอะไร เธอเดินหน้าทำงานของลูกค้าคนอื่นต่อ แม้จะเจออุปสรรคบ้างแต่ถึงอย่างนั้นเนตรทรายก็ไม่ได้กังวลใจอะไร
เธอไม่ได้ทำอะไรผิด แม้จะเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาให้แล้วแต่ลูกค้าก็ไม่รับเอง ฉะนั้นไม่ใช่ความผิดของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว หญิงสาวพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาอกเอาใจอีกฝ่าย แต่ในเมื่อไม่เคยพอใจก็คงจะร่วมงานด้วยกันยาก
ตลอดทั้งวันเนตรทรายยุ่งอยู่กับการทำงาน เนื่องจากเจอปัญหาใหญ่เกี่ยวกับการทุจริตภายในบริษัท หญิงสาวจึงต้องเรียกแผนกที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน กว่าจะเสร็จสิ้นเวลาก็เย็นมากแล้ว
เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่าจิรัสย์นั้นโทรเข้ามาหลายสายทั้งยังส่งข้อความเข้ามามากมายเนตรทรายเลือกที่จะลบทิ้งทุกอย่างเธอไม่อยากติดต่อกับชายหนุ่ม ไม่อยากได้ยินเสียงและไม่อยากพบหน้าเขา
ถึงจะโกรธคุณหมอจิรัสย์มากแค่ไหน เธอก็โกรธตัวเองไม่แพ้กันที่ไม่รู้จักระวังตัว หากวันนั้นเธอไม่รับแก้วเครื่องดื่มจากคนอื่นก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่หากจิรัสย์หักห้ามใจตัวเองได้และไม่ฉวยโอกาส ระหว่างเธอกับเขาก็คงไม่เป็นแบบนี้
“ไม่ทำงานหรือไงโทรอยู่ได้”
หญิงสาวพึมพำเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มนั้นโทรเข้ามาหลายสิบสาย เธอตัดสินใจกดปิดเครื่องก่อนจะหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋า