บทย่อ
เธอยอมจดทะเบียนสมรสกับเขาเพื่อเหตุผลบางอย่าง ทั้งๆ ที่ทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ..แต่พอถึงวันรับน้อง น้ำหนาวก็ได้รู้ว่า รุ่นพี่ที่เป็นประธานรับน้องก็คือคนที่เพิ่งจะเป็นสามีในนามของเธอนั่นเอง..
บทที่ 1 รชต
ชายหนุ่มที่ถูกครอบครัวเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี แต่ส่วนมากคนที่ดูแลเขาแบบไม่ให้ขาดตกบกพร่องและตามใจทุกอย่างก็คือคุณย่า
ถ้าวันไหนไม่พอใจที่ถูกพ่อกับแม่ตำหนิ เขาก็จะแอบไปหมกตัวอยู่กับย่าอัญชัญ
"มีอะไรอีกล่ะ"
"พ่อกับแม่น่ะสิครับ ไม่ยอมให้ซื้อรถ"
"มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ใช่ไหม ย่าก็ไม่อนุญาตให้ซื้อ"
"ทำไมล่ะครับคุณย่า"
"มันอันตรายรู้ไหม ดูข่าวออกกันทุกวี่ทุกวันเรื่องอุบัติเหตุกับรถมอเตอร์ไซค์เนี่ย"
"ผมสัญญาว่าจะไม่ขับเร็ว" ชายหนุ่มชูนิ้วขึ้นมา 3 นิ้ว แต่นิ้วมืออีกข้างเขาใช้มันไขว้กันแอบซ่อนไว้ด้านหลัง
"รชตย่าก็แก่มากแล้ว จะอยู่กับเราได้นานเท่าไร เชื่อย่าหน่อยนะลูก"
พอไม่ได้ของที่ต้องการรชตก็ไม่ยอมคุยแม้กระทั่งกับคุณย่า เขาออกจากบ้านเพื่อไปดื่มกับพวกเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน
กลุ่มเพื่อนของเขามีบิ๊กไบค์คันใหญ่กันทุกคน ยกเว้นรชตคนเดียวที่ขับรถเก๋ง
"ค่ำมืดขนาดนี้แล้วทำไมลูกถึงยังไม่กลับ" คฑาถามภรรยาเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วไม่เห็นลูกชายคนโต
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันโทรไปแกก็ไม่รับสาย"
"ชักจะเอาใหญ่แล้ว" ผู้เป็นพ่อคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง ในเมื่อครอบครัวเอาไม่อยู่ ก็ต้องหาใครสักคนที่สามารถเอาลูกชายของเขาให้อยู่หมัดได้
หลายวันต่อมา..
"พี่ก็ไม่เห็นใครแล้ว นอกจากหนูน้ำหนาว"
"ใช่ลูกสาวของผู้จัดการอิฐไหมครับ"
"ใช่แล้วจ้า ตอนนี้อิฐไม่ได้เป็นผู้จัดการแล้ว เขาเป็นผู้บริหาร" กัลยาให้อิฐไปรับผิดชอบโรงแรมโปรเจคนั้นที่ต่างจังหวัด ก็เลยแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารระดับสูงที่นั่น หรือจะเรียกว่าโรงแรมในเครือก็ได้
"ลองให้เด็กสองคนเขามาเจอกันดูไหมครับพี่" คฑาคิดว่ามันก็ไม่เสียหายอะไร
"ได้สิ..ตอนนี้หนูน้ำหนาวก็อยู่กรุงเทพฯนี่แหละ เรียนอยู่มหาลัยเดียวกันกับตารชตหรือเปล่าพี่ไม่แน่ใจ"
น้ำหนาวเอ็นทรานซ์ติดมหาวิทยาลัยดังในกรุงเทพฯ เธอก็เลยขอพ่อกับแม่มาพักที่หอพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย
ที่จริงกัลยาจะให้น้ำหนาวมาพักที่บ้านด้วย เพราะตอนนี้กัลยาสร้างบ้านขึ้นมาอีกหลังในพื้นที่เดียวกันกับบ้านของแม่ เพื่อที่จะให้สามีอยู่แบบสบายใจ แต่ก็ไม่อยากไปอยู่ไกลครอบครัว
"เอาตามนั้นเลยครับพี่"
เย็นวันต่อมา.. ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
"คุณป้าคะ" น้ำหนาวได้รับโทรศัพท์จากกัลยา ชวนมาทานข้าวเธอก็เลยออกมา
"หนูหนาวนั่งสิลูก"
กัลยาก็พยายามมองหาหลานชาย ว่าจะโผล่มาตอนไหน
"หนาวขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้เข้าไปหาที่บ้าน" น้ำหนาวและกัลยาสนิทสนมกันพอสมควร เมื่อไรที่กัลยาไปดูงานที่ต่างจังหวัด น้ำหนาวก็เป็นไกด์พาเที่ยว
"ป้าชวนไปค้างที่บ้านด้วยก็ไม่ไป"
"ไม่เอาหรอกค่ะเกรงใจ"
กัลยาก็เลยขอถ่ายภาพคู่กับน้ำหนาว แล้วส่งไลน์ไปให้อิฐและน้ำใจได้เห็น เพื่อคลายความเป็นห่วงลูกสาวลงบ้าง
"หนาวขอตัวเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะคะ" พอน้ำหนาวเดินคลาดสายตาไป กัลยาก็มองเห็นหลานชายเดินเข้ามาพอดี
"รชตทางนี้ลูก"
"คุณป้าบอกว่ามีข่าวดี ผมรีบมาเลยนะครับเนี่ย" รชตไม่ได้ขอแค่พ่อแม่และคุณย่า เขายังขอกับป้ากัลยาเรื่องมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ไม่ว่าใครเป็นคนอนุญาต เขาก็สามารถที่จะซื้อมันมาขับได้ แต่ต้องให้พวกท่านคนใดคนหนึ่งอนุญาตก่อน
"เรายังไม่ล้มเลิกเรื่องรถอีกเหรอ"
"คุณป้าไม่ได้เรียกผมมาด้วยเรื่องนี้เหรอครับ" รชตเริ่มทำหน้ามุ่ย
ทันใดนั้นหญิงสาวที่ไปเข้าห้องน้ำก็ได้เดินออกมา
"??"
"???" ทั้งสองมองสบตาเครื่องหมายคำถามก็ได้ผุดขึ้นพร้อมกัน
"หนาวนั่งลงก่อนสิลูก"
"ค่ะ"
"คนนี้รชตส่วนคนนี้หนูหนาว รู้จักกันไว้สิลูก"
"คุณป้าอย่าบอกนะว่าที่นัดผมมาวันนี้ จะให้ผมมารู้จักกับ?." รชตลุกขึ้นทันทีที่พูดจบ
"รชตนั่งลงเดี๋ยวนี้!" แต่ก็ดูเหมือนหลานชายจะไม่ฟัง เขายังคงก้าวเดินไปที่ประตูทางเข้า "ก็ได้..ถ้าจะกลับก็กลับไปเลย ป้าว่าจะคุยเรื่องมอเตอร์ไซค์..เปลี่ยนใจไม่คุยแล้ว"
ขณะที่กำลังก้าวเดินอยู่ถึงกับหยุด แล้วค่อยๆ หันกลับมา
"คุณป้าพูดจริงนะครับ" เขารีบกลับลำมานั่งลงที่เดิม
"จริงสิ..แต่ป้ามีข้อแม้"